คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความฝันหรือความจริง
ณ โรงเรียนนาดาวบางกอก
มัธยมศึกษาปีที่ 5/1
เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น นักเรียนพร้อมใจกันลุกขึ้นเก็บของใส่กระเป๋านักเรียนและค่อยๆ ทยอยเดินออกจากห้อง
ดุจดาว ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ขยับไปไหน เธอมัวแต่นั่งครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อเช้านี้
“พี่ดาว ออยมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ”
เด็กใหม่รุ่นน้องม.4/1 เอ่ยทักเธอก่อน สาวร่างเล็กเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นคำถามให้อีกฝ่ายต้องรีบพูดต่อ
“คือว่า พี่ดาวเชื่อเรื่องอดีตชาติไหมคะ”
เด็กใหม่พูดอย่างกล้าๆกลัวๆ ดุจดาวเองก็ไม่คิดว่าจะเจอคำถามประหลาดอะไรขนาดนี้ สงสัยจะจีบเธอล่ะสินะ คนมันเสน่ห์แรงก็ยังงี้แหล่ะ มีคนหามุกใหม่ๆมาจีบอยู่เรื่อยๆ พอคิดได้ดังนั้น ร่างเล็กจึงเอื้อมมือไปตบบ่าอีกฝ่ายพร้อมกับพูดว่า
“น้องคะ อันนี้คือ มุกใหม่? พี่ว่าไม่เวิกนะ พูดเลย” ดาวยิ้มๆ พร้อมตบไหล่ๆเบา
“เอาเป็นว่า ถ้าน้องอยากได้ไลน์พี่ ก็ขอตรงๆง่ายกว่านะคะ”
“ออย พูดเรื่องจริงค่ะพี่” อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย ยังคงยืนกรานด้วยหน้าตาจริงจังเหมือนเดิม
“โอเคๆ งั้นพี่ตอบเลยละกันนะว่าไม่เชื่อค่ะ ถามแค่นี้ใช่มั้ย พี่ไปนะ” พอดุจดาวพูดจบ อยู่ๆก็มีลมพัดมาอย่างแรง ฝุ่นที่ปลิวมาทำให้เธอต้องหลับตาไปชั่วขณะนึง แต่เมื่อพอลืมตาขึ้นมา เธอต้องตกใจเพราะเด็กเมื่อกี้นี้กลับหายตัวไปแล้ว
“อ้าว ไปไหนละ เร็วชะมัด”
“ดาว แกจะกลับบ้านมั้ยวันนี้” แอลเพื่อนในกลุ่มของเธอถามขึ้น เธอรอร่างเล็กมาได้สักพักนึงแล้ว โดยที่อีกฝ่ายยังไม่มีทีท่าจะขยับตัวลุกขึ้น ทำให้เธอต้องโพล่งถามออกไป แต่นั่นกลับทำให้คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัว
“เป็นอะไรวะดาว คิดอะไรอยู่เนี่ย” แอลถามด้วยความสงสัย
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ” ดุจดาวกลบเกลื่อน รีบกลับของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋านักเรียนอย่างรวดเร็ว
รู้สึกแปลก...
ทำไมอยู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา... แล้วทำไมถึงรู้สึกหัวใจมัน...
ข้องใจชะมัดเลย...
“แอล แกรู้จักเด็กใหม่ม.4 มั้ยอ่ะ” อยู่ๆ ดุจดาวโพล่งถามออกไป
“ฉันจะไปรู้จักได้ไงแก ฮั่นแน่ แอบไปปิ้งเด็กหนุ่มที่ไหนมาเนี่ย”
“เปล่าๆ แกไปกะฉันหน่อยดิ นะๆๆๆๆ”
ดุจดาวปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ทำให้แอลเกิดความกระจ่างเท่าไหร่นัก ถ้าเธออยากรู้เธอต้องไปกับดุจดาวเท่านั้นสินะ
“เออๆ ฉันไปกับแกก็ได้”
มัธยมศึกษาปีที่ 4/1
“เด๋วนะดาว แกเดินหาใครอยู่เนี่ย เดินจะครบทุกห้องแล้วนะ” แอลผู้ซึ่งเริ่มเหนื่อย เริ่มงอแง
“ห้องสุดท้ายแล้วน่ะ แก”
ดุจดาวหันกลับไปตอบอย่างขอไปที พอเจอเด็กในห้องที่เพิ่งเดินออกมา เธอก็เข้าไปถามทันที
“น้องคะ รู้จักคนชื่อออยมั้ย”
คนถูกถามชะงักทำหน้างงๆ นิดนึงพร้อมกับชี้ไปที่เด็กผู้หญิงคนนึงที่นั่งอยู่ในห้อง
“ขอบใจนะ” ร่างเล็กกล่าวขอบคุณและก้าวเข้าไปในห้องทันทีโดยมีแอลตามเข้าไปติดๆ
“ออย พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” ดุจดาวพูดด้วยน้ำเสียงไม่มีความเป็นมิตรเลยซักนิด
ทุกคนในชั้นหันมามองเป็นตาเดียวกัน ต่างซุบซิบสงสัยว่ารุ่นพี่คนสวยนี้มาได้ไง มาทำไม มีเรื่องอะไรกัน แอลเมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงสะกิดดุจดาว “ดาว ฉันว่าไปคุยกันที่อื่นเหอะว่ะ”
“พี่มีอะไรกับเพื่อนหนูเหรอคะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง
“ปัง ไม่มีอะไรหรอก เด๋วเราไปคุยกับพี่เค้าแปบนึงนะ” ออยลุกขึ้นสบตากับดุจดาว พยักเพยิดให้ออกไปคุยกันข้างนอก
“เด๋วฉันกลับมาอธิบายนะแก” ออยหันไปบอกเพื่อนรักของเธอก่อนที่จะเดินนำหน้าดุจดาวและแอลออกไป
“อ่ะ นี่ค่ะ” ออยยื่นบ้างสิ่งให้กับร่างเล็กที่มองสิ่งนั้นอย่างงงๆ
สร้อยคอที่ถักร้อยด้วยเชือกอย่างสวยงาม มีร็อคเก็ตเล็กๆ ที่แกะสลักไว้ที่ด้านหลังด้วยคำว่า “ดารา”
ดุจดาวพินิจดูร็อคเก็ตด้วยความงุนงง ความรู้สึกแปลกตอนที่รับมันมา ทำให้เธอต้องถามด้วยความข้องใจ
“แล้วนี่คืออะไร”
“ถ้าถึงเวลาพี่จะรู้มันเองแหล่ะ ออยไปนะ” พอพูดจบ ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นที่ด้านหลังของดุจดาวและแอล ทำให้ทั้งสองต้องหันกลับไปดู แต่ก็พบว่าไม่มีอะไร และเมื่อหันกลับมาอีกครั้ง ออยก็ได้หายไปแล้ว
“อ่าว อะไรวะแก ไวชะมัดเลยเด็กนี่” แอลชะเง้อมองหาแต่ก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า
อีกแล้ว....
เมื่อเช้าก็แบบนี้...
เฮ้ย น่ากลัวไปป่ะวะ....
ดุจดาวกลืนน้ำลายรู้สึกใจคอไม่คอดี พร้อมกับก้มมองดูร็อคเก็ตที่เพิ่งได้รับมา
“ไหน แกลองแกะดูดิ ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน” ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แอลยุให้เพื่อนแกะออกดู
ดุจดาวพยายามแกะ ทุกทิศทาง ทั้งลองเลื่อนขยับดู ลองทุกวิธีที่คิดได้ แต่ก็เปิดไม่ออก
“สงสัย จะพังแล้วว่ะ ช่างเหอะแก กลับบ้านกันเถอะ”
แม้จะมีความไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ดุจดาวก็ไม่อยากเอาเรื่องนี้มาทำให้ตัวเธอเองกระวนกระวายใจจนเกินไป
เมื่อกลับมาถึงบ้าน อาจจะด้วยความเหนื่อยล้าจากการเรียนหรืออย่างใดไม่ทราบ เมื่อทานข้าวและอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ดุจดาวกลับผล็อยหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน
“ดารา”
เสียงเรียกใครบางคนที่แผ่วเบา ค่อยๆดังขึ้น
“ดารา”
เสียงที่เบาแต่กังวานก้องในหู ทำให้ดุจดาวต้องหันรีหันขวาง เพื่อหาต้นเสียง
“ใครน่ะ ฉันถามว่าใคร”
“อย่านะ นางเป็นคนรักของข้า อย่าทำนางเลย”
อีกเสียง เสียงที่คุ้นเค้ยดังขึ้นมาอีกทาง ดุจดาวถึงกับขมวดคิ้ว เสียงใครทำไมเสียงช่างเหมือนกับ...
“ฮือๆๆๆ อย่าฆ่านาง อย่าฆ่านาง ได้โปรด อย่า”
เสียงตะโกนสุดท้าย ทำให้ดุจดาวต้องสะดุ้งตื่นพร้อมกับหายใจหอบ
อะไรกัน...
ทำไม...
ก๊อกๆๆๆๆ
“ดาว เป็นอะไรไปลูก”
เสียงเคาะประตูจากด้านนอก ทำให้ดุจดาวต้องลุกขึ้นรีบไปประตู
“มีอะไรคะแม่”
“ดาว ลูกเป็นอะไร” พอดาวเปิดประตู ผู้เป็นแม่รีบจับเนื้อตัวของดุจดาวพร้อมกับกอดร่างเล็กไว้เหมือนกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
“แม่คะ หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะแม่”
“แต่ลูกตะโกนเสียงดังมากนะลูก”
ผู้เป็นแม่คลายอ้อมกอดและลูบหน้าลูกสาวอย่างแผ่วเบา
“ดาวฝันร้ายเหรอลูก”
“ฝัน??” ดุจดาวทำหน้างงๆ จะว่าไป เธอรู้สึกแสบๆคออยู่เหมือนกันแฮะ งั้นเสียงที่ตะโกนเมื่อกี้ก็เสียงเธอน่ะสิ
“สงสัยหนูจะฝันจริงๆค่ะแม่ ขอโทษนะคะ ทำให้ตื่นเลย แฮะๆ”
“นั่นไง แม่ก็ตกใจ ทีหลังก่อนนอน สวดมนต์ด้วยสิลูก แม่บอกกี่ครั้งแล้ว” ผู้เป็นแม่ พอรู้ว่าลูกตัวเองไม่เป็นอะไรก็ชื้นใจ
“ค่ะแม่ เด๋วหนูจะสวดมนต์แล้วค่ะ แม่ไปนอนนะๆๆ” ดุจดาวรับคำ พร้อมกับส่งเสียงอ้อนนิดๆ ให้ผู้เป็นแม่ต้องส่ายหน้ายิ้มขำๆ เดินกลับออกไป
เมื่อแม่เธอกลับห้องไปแล้ว สีหน้าของร่างเล็กก็เปลี่ยนไป เธอขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากพลางครุ่นคิดว่า ความฝันเมื่อกี้นี้ ทำไมมันถึงได้....เหมือนจริงขนาดนี้กันนะ
ความคิดเห็น