วุ่นชะมัดหลงรักยัยนักเทนนิส - นิยาย วุ่นชะมัดหลงรักยัยนักเทนนิส : Dek-D.com - Writer
×

    วุ่นชะมัดหลงรักยัยนักเทนนิส

    ก็ถ้าใครคิดว่าผู้ชายเข้าใจยากล่ะก็ลองมาอ่านนี่แล้วจะรู้ว่าบางครั้งผู้หญิงก็เข้าใจยากเช่นกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    262

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    262

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  13 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 ม.ค. 50 / 23:36 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เสียงดังปังๆจากลูกวอลเล่ย์ที่โดนตบอัดผนังช่างดังเหลือหลายเมื่อมีผมเพียงคนเดียวที่มาฝึกซ้อม ณ สถานที่แห่งนี้  แม้จะเป็นเพียงแค่ลานกว้างๆแต่ก็ยังอุตส่าห์มีผนังอยู่อีกด้านช่วยให้ผมสามารถตบอัดได้  รู้สึกเหงานิดหน่อยแหละเพราะเพิ่งจะปิดเทอมแถมตัวผมยังเป็นเด็กประจำที่มักจะมีผู้คนมารายล้อม(ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นผู้ชายทั้งหมดก็เหอะนะ)เลยรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นอันมาก  ไอ้น้องชายตัวดีของผมมันก็ดันขี้เกียจซะงั้นน่ะ  ไม่นึกแปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้โดนโค้ชด่าเอ๊า...ด่าเอา

                    ผมเดินถอยหลังโดยกะระยะให้เสิร์ฟแล้วติดผนังพอดี  แล้วก็..........ปัง! ลูกวอลเล่ย์พุ่งอย่างแรงไปกระทบกับผนังด้วยวิถีอันงดงามแต่เมื่อโดนผนังแล้วกลับกระดอนออกไปยังสนามฟุตบอลที่อยู่เตี้ยกว่าข้างๆ  ก็นะ  ใครจะสนล่ะในเมื่อผลที่ออกมานั้นสวยงะ....

                    โอ๊ย! เสียงอุทานด้วยความตกใจปนไปด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น  ผมรีบวิ่งไปยังต้นเสียงที่นั่งหันหลังให้กุมหัวป้อยๆด้วยความรู้สึกผิด

                    ขอโทษครับ  ขอโทษจริงๆเป็นอะไรมากไหมครับผมละล่ำละลักถามด้วยความตกใจเพราะรู้อยู่หรอกว่าแรงที่ผมใส่นั้นมีมากขนาดไหน

                    เจ็บน่ะเซ่ถามได้  แล้วนายนึกหรอว่าขอโทษแล้วจะหาย ถ้ามันหายตำรวจก็ไม่ต้องมีแล้ว

                    เธอลุกขึ้นมาต่อว่าผมด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดสุดๆซึ่งผมก็ได้แต่ยืนอึ้ง  ผู้หญิงสมัยนี้ไม่มีสามัญสำนึกแห่งความเป็นกุลสตรีเลยหรือไงนะถึงได้มีกิริยาไม่น่ารักต่อคนแปลกหน้าขนาดนี้  ผมมั่นใจฮะว่า 9 ใน 10 ของผู้ชายต้องไม่นิยมชมชอบผู้หญิงประเภทนี้เป็นแม่ของลูกแน่นอนและเผอิญว่าผมก็เป็น 1 ใน 9 ซะด้วย

                    อะไรกันก็ขอโทษแล้วไงยังจะต้องการอะไรอีกล่ะ

    น้ำเสียงของผมเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดอย่างเห็นได้ชัดเพราะไม่มีวันซะล่ะที่จะยอมให้ใครมาว่าเอาง่ายๆ  ในเมื่อขอโทษแล้วไม่หายก็ต้องดับเครื่องชนล่ะครับ

                    ก็แล้วไม่เห็นคนหรือไงถึงได้ซัดซะเต็มแรงขนาดนี้

                    ก็เพราะไม่เห็นยังไงล่ะ  น้องอยู่ที่ต่ำพี่อยู่ที่สูงถึงจะมีตาหลังก็ไม่มีวันเห็นหรอกผมยอมอ่อนให้นิดหน่อย(มั้ง)เพราะเห็นว่าเธอยังเป็นเด็ก  ยังๆผมก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่นะฮะ

    ก็นั่นแหละ  วันหลังก็หัดระวังบ้างสิ  ว่าแต่นายเป็นใครน่ะฉันไม่เห็นจะรู้จักพูดจบยัยเด็กนั่นก็ก้าวเข้ามาใกล้ทำเอาหัวใจผมร่วงไปตกอยู่ที่ตาตุ่ม

    วงหน้าสีแทนรูปไข่ที่กำลังขึ้นสีแดงนิดๆที่ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะความเหนื่อยหรือแรงโกรธกันแน่ อีกทั้งยังปากนิดจมูกหน่อยแถมด้วยตาโตๆนั่นอีก  แม้จะไม่สวยเท่าผู้หญิงคนอื่นๆที่ผมรู้จักมาแต่มันก็กลับมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาดเล่นเอาผมปั่นป่วน

    แต่ความสูงของเธอนี่คงจะเป็นปัญหาต่อการหาแฟนไม่มากก็น้อยแหละครับ  ส่วนสูง 188 ของผมแทบหมดความหมายเมื่อยืนอยู่ใกล้เธอซึ่งกะโดยคร่าวๆแล้ว 170 เป็นอย่างต่ำ  เพราะอย่างนี้มั้งเธอเลยอวดดีกับผู้ชายแปลกหน้าอย่างผมโดยไม่เกรงกลัว

    ฉันมาพักที่บ้านพักที่นี่

    ง้านเรอะ  ถึงว่านายถึงได้ไม่รู้จักฉันเธอพูดอย่างผู้เหนือกว่าแล้วก้าวถอยหลังออกไป  ทำเอาผมแอบโล่งใจเงียบๆแต่ก็แก้หน้าด้วยการเลิกคิ้วซ้ายขึ้นมาแล้วเอียงคอท้าทาย

    แล้วเธอเป็นใครกันล่ะ

    อยู่ที่นี่นานไปเดี๋ยวนายก็จะรู้เองนั่นแหละ  เรื่องวันนี้ฉันจะจบเพียงเท่านี้ละกันฉันไม่อยากถือสาเอาความเธอพูดกระแทกกระทั้นในประโยคสุดท้ายแล้วเดินไปยังมอเตอร์ไซค์ที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วแต่ก่อนจะไปก็ยังมิวายส่งสายตาอาฆาตมาทางผม

    ร้ายจริงๆนังหนู

    นี่ถ้าอยู่ที่โรงเรียนผมคงไม่แคล้วต้องโดนต่อยหรือหนักสุดก็จับกดน้ำ(เอ่อ -_-a )ไปแล้วโทษฐานที่ก้าวร้าวต่อรุ่นพี่ ว่าแต่เธอเป็นใครกันนะ  จากกิริยามารยาทแล้วเธอคงเป็นลูกสุดท้องหรือไม่ก็เป็นลูกคนเดียวที่ได้รับการตามใจสารพัด

    คิดไปคิดมาก็หนักใจ  รู้สึกสงสารว่าที่สามีของเธอนิดหน่อยเพราะหากใครได้ไปแล้วคงโดนด่าไม่เว้นแต่ละวัน  อย่างนี้มั้งที่เขาเรียกว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม  แต่เอาเถอะยังไงคนๆนั้นก็คงไม่ใช่ผมเพราะฉะนั้นก็อย่าเก็บเรื่องของยัยนั่นมาให้หนักสมองเลยฮะ

    ผมเดินไปเก็บลูกวอลเล่ย์แล้วตรงเข้าไปอัดเข้ากำแพงนั้นอีกรอบโดยคราวนี้ผมก็ใส่แรงช้างสารเช่นเคยเพราะรู้แน่แล้วว่าไม่มีมนุษย์ผู้ใดอยู่บริเวณนี้แน่นอน

                    เอาล่ะคงจะกำลังงงๆอยู่สิท่า  ก็ขอเท้าความให้ฟังละกัน  ครอบครัวผม 4 คนซึ่งแต่เดิมเป็นคนกรุงเทพโดยแท้ตกลงใจจะสร้างบ้านพักหลังหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีเพราะป๊าผมอยากจะขยายกิจการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมทั้งมวลโดยสินค้าใหม่คือน้ำตาลจึงต้องลงมาติดต่อควบคุมด้วยตนเอง  พวกเราทั้ง 3 คนจึงลงมาพักที่นี่เป็นปฐมฤกษ์โดยป๊าจะตามมาทีหลังครับ

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น