คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สิงห์ : คนห่าอะไร ชื่อวันเผด็จวะ
“หาคนอื่นเหอะ กูไม่สะดวกจริง ๆ ว่ะ” อีกฝ่ายพูดแบบนั้นแล้วก็เดินจากไปกับกลุ่มเพื่อนของเขา
นับตั้งแต่วันที่อาจารย์ดาให้กระดาษสามแผ่นนั้นกับผมมาก็สามวันเข้าไปแล้ว และจนถึงตอนนี้ แม้รอยขีดฆ่าในรายชื่อนั่นจะเพิ่มมากขึ้นจนเกือบจะไม่เหลือที่ว่าง แต่ผมก็ยังหาคนไปอาศัยอยู่ด้วยไม่ได้ มันน่าอนาถใจแท้ ๆ
แต่ให้พูดก็พูดเถอะ ไอ้การที่คนอื่นเขาจะปฏิเสธคำขอแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จริงมันก็เป็นเรื่องปรกติที่คนเขาจะทำกันอยู่แล้วด้วยซ้ำไป คนไม่รู้จักกัน ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า แถมยังแทบไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนไปขออยู่ด้วยฟรี ๆ แบบไม่มีกำหนดอย่างนี้ เป็นใคร ใครก็คิดว่า ‘บ้าหรือเปล่า ไม่เอาด้วยหรอก’
ผมยืนอยู่กลางโถงทางเดินที่จอแจเหมือนตลาดนัดหน้าชั้นเรียน ห้องเรียนนับสิบ ๆ ห้องเรียงรายอยู่ทางขวามือเรื่อยไปตลอดความยาว จุดสิ้นสุดของมันไกลลิบจนดูเหมือนไม่มีตัวตน...ผมถอนหายใจยาวออกมาพรางขีดฆ่าชื่อไอ้บ้าคนเมื่อกี้ด้วยปากกาสีแดงและพยายามหาชื่อคนที่ยังไม่ได้ฆ่าทิ้ง (พูดแบบนี้แล้วรู้สึกสะใจอย่างไรไม่รู้นะ)
“เฮ้ย เป็นไงมั่งวะ” เสียงใส ๆ ของผู้หญิงดังมาพร้อมกับแรงกระแทกเบา ๆ ที่แผ่นหลัง ไม่ต้องหันไปผมก็รู้ว่าเป็นไอ้ยา หรือชื่อเต็ม ๆ ว่าพิริยา เราเรียนอยู่ห้องเดียวกัน และเธอก็เป็นเพื่อนผู้หญิงไม่กี่คนของผม สาเหตุหนึ่งที่เป็นแบบนั้นก็คงเพราะเวลาอยู่กับมัน ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าอยู่กับผู้หญิงซักเท่าไร
“เป็นไงละ แห้วแดกตามระเบียบอะดิ” ผมว่าพรางยื่นกระดาษสามแผ่นนั้นให้อีกฝ่ายดู “แดงเถือกไปทั้งหน้าและ ยังไม่มีใครให้ไปอยู่ด้วยเลย”
“มึงก็ทำหน้าหวาน ๆ ทำลิ้นห้อย ๆ สิ เขาจะได้สงสาร”
“เหรอออออ” ผมว่าพรางยีหัวอีกฝ่ายเล่น
“ซวยไปเลยนะ” เสียงอีกเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น ผมรีบหันไปทางด้านซ้ายจึงเห็นแนนยื่นอยู่ เธอกำลังชะโงกตัวข้ามผมไปดูกระดาษในมือไอ้ยา แนนหรือพรชนก เป็นเพื่อนของยาที่เรียนคนละห้อง แต่ทั้งสองคนสนิททั้ง ๆ ที่ต่างกันอย่างกับดาวพลูโตกับพระอาทิตย์ ไอ้ยาห้าวแถมยังขี้โมโหเหมือนผู้ชายวัยกลางคน แต่แนนกลับสวยและหวานอย่างกับหลุดออกมาจากฝันของผู้ชายทุกคนบนโลกนี้...และตอนนี้...กลิ่นผมหอม ๆ ของเธอก็โชยมาเตะจมูกผมจน...เดี๋ยวนะ!!!!!
“ไม่หรอกครับ” ผมรีบเก็บแผ่นกระดาษนั่น “ลำบากนิดหน่อย แต่ก็ต้องพยายามกันต่อไป”
“สู้ ๆ นะ” แนนว่าพรางยิ้มหวาน โอ้....อย่าพึงนะวิญญาณจ๋า อย่าเพิ่งออกจากร่างของฉันไป
“นี่...” เสียงไอ้ยาดังมาฉุดให้วิญญาณของผมค้างเติ่งอยู่บนนั้น “ถ้าไม่มีที่ไป ก็มานอนบ้านฉันก็ได้นะ นอนห้องพี่ฉันก็ได้”
“แกจะบ้าเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก ถ้าแกเกิดท้องขึ้นมาฉันก็ต้องรับผิดชอบนะสิ”
“ฮืม” ยาร้องในลำคอก่อนกระโดดตบหัวผมเต็มแรง “ไอ้ควายป่า คนอุตส่าห์หวังดี”
“อีทอมบ้า เจ็บนะเว้ย”
“สมน้ำหน้า” ยัยนั้นว่าพรางดึงเอากระดาษรายชื่อกลับไปดู “ไหนดูดิ เหลืออีกกี่คน สองสามคนเองนิหว่า”
“อ้าว มีชื่อวันเผด็จอยู่ด้วยนิ” เสียงแนนร้องขึ้น “เขาไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ”
“ใครเหรอครับแนน” ผมรีบเข้าร่วมวง
“วันเผด็จไง ที่อยู่ห้องหนึ่งน่ะ” พอเห็นทั้งผมและไอ้ยาทำปากหวอตาค้างเธอก็หัวเราะและรีบเล่าต่อ “ที่ใส่แว่นกลอบดำ ๆ อันใหญ่ ๆ เชย ๆ ไง” เธอว่าพรางทำท่าทาง น่ารักจัง “...เห็นเขาลือกันว่าเป็นลูกเจ้าของบริษัทส่งออกหรือนำเข้าเครื่องสำอางอะไรนี่แหละ”
“จริงเหรอ ท่าทางน่าจะรวยนะ” ไอ้ยาพูดพรางถูกมือไปมา เกลียดยายนี้ก็ตอนได้ยินเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นี่แหละ อย่างกับพวกต้มตุ๋นอย่างไงอย่างนั้นเลย
“อือ แถมยังได้โคว์ตาร์นักเรียนเรียนดีด้วย รู้หรือเปล่าว่าเขาสอบได้คะแนนสูงที่สุดเลยนะ ตอนสอบชิงโคว์ตาร์”
“อ่าว ไหนว่ารวย ทำไมต้องสอบชิงโคว์ตาร์ด้วยละ” ไอ้ยาว่า
“ไม่รู้เหมือนกันสิ” แนนว่าพรางเอียงคอน้อย ๆ น่ารักจังเลย
“นี่ ไอ้สิงห์ เลิกมองแนนได้แล้ว ท่าจะบ้านะแกเนี่ย มองซะน้ำลายย้อยไปถึงโรงอาหารแล้วมั้ง ไปเลย ฉันว่าแกรีบไปหาไอ้วันเผด็จอะไรนี่จะดีกว่านะ”
“อ่าว ทำไมล่ะ คนอื่นก็เหลือตั้งหลายคน”
“นี่ แกไม่ได้ยินเหรอ ไอ้นี่มันรวยนะ มันไม่คิดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หรอก ดีไม่ดีมันอาจจะอยู่คอนโดหรู ๆ ก็ได้ ถ้าแกพูดดี ๆ เขาอาจจะให้แกไปอาศัยซุกหัวนอนด้วยก็ได้นะ”
“จริงเหรอวะ...จริงเหรอครับแนน”
เธอคนนั้นยิ้มเป็นเชิงเห็นด้วย “แต่ว่า...”
“งั้นผมไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันครับคุณแนน”
จากนนั้นผมก็รีบวิ่งตรงดิ่งไปที่ห้องม.หกทับหนึ่ง เสียงกลิ่งเลิกเรียนดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ผู้คนเริ่มออกมาจากห้องเรียนเพื่อเดินทางกลับบ้าน ผมถามใครสักคนว่าคนไหนชื่อวันเผด็จ อีกฝ่ายมองผมก่อนจะว่า “อ๋อ มึงที่โดนไล่ออกจากหอใช่มั้ย...ไอ้ใบ้ มีคนมาหามึงอ่ะ” เขาตะโกนเข้าไปในห้องก่อนจะพยักเพยินหน้าไปที่โต๊ะด้านหลังสุดติดหน้าต่าง “นั่นไง ไอ้วันเผด็จ แต่คุยยากหน่อยนะ มันไม่ค่อยพูด”
ความคิดเห็น