ข้อมูลเบื้องต้น
ประวัติศาสตร์การค้นพบ
ยูเอฟโอ จานบินลึกลับ
การค้นพบยูเอฟโอ หรือวัตถุประหลาดที่บินได้นั้น มีรายงานมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีพระเจ้ารัธมอสที่ 3 (1500-1450 ปีก่อนค.ศ.) รายงานว่าวันหนึ่งในฤดูหนาวได้มีลูกไฟรูปวงแหวนลอยอยู่ในท้องฟ้า วัตถุลูกไฟดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ทำให้ท้องฟ้าทั่วบริเวณสว่างจ้าขึ้นมาในทันที ทหารต่างเตรียมพร้อมป้องกันองค์ฟาโรห์ แต่ลูกไฟดังกล่าวก็หายไปดูเหมือนจะเป็นครั้งแรก ที่วัตถุประหลาดบินได้มาเยี่ยมโลกของเรา
นักสอนศาสนาในคัมภีร์ไบเบิลรายงานว่า ได้พบกลุ่มเมฆแดงฉาน ล้อมรอบด้วยพายุหมุนที่แม่น้ำชีบา (อิรัก)
ทันใดนั้น ก็ปรากฏวัตถุรูปวงล้อซ้อนกันหลายชั้น ภายในมีลักษณะคล้ายดวงตาจำนวนมหาศาล...
หลังจากนั้น ก็ปรากฏร่างของสัตว์ชนิดหนึ่งมีสีคล้ายกันกับถ่านหินที่กำลังลุกติดไฟ...
เมื่อลับตาสัตว์ประหลาด เสียงปานคลื่นน้ำมหึมาก็ดังขึ้นเป็นเรื่องน่าคิดว่า สิ่งที่นักสอนศาสนาประสบอาจเป็นวัตถุประหลาดบินได้ที่มนุษย์ได้เห็น
พวกมายาส์ ฮาดาโบราณ มีตำนานเกี่ยวกับยานยักษ์ลำหนึ่ง...
เมื่อยานเปิดออก มีสัตว์รูปร่างประหลาดออกมาถึงสี่ตัว...
ตำนานดังกล่าวได้บันทึกเอาไว้ด้วยว่า สัตว์รูปร่างประหลาดนี้ไม่ได้ใช้อากาศหายใจเหมือนมนุษย์
บันทึกของพวกโรมันโบราณเขียนไว้ว่า...ในปี 216 ก่อน ค.ศ. ได้มียานประหลาดพุ่งทะยานผ่านฟากฟ้าของอิตาลี่ ยานนี้มีลักษณะเป็นแผ่นกลม
ปี 99 ก่อน ค.ศ. มี ลูกไฟ ตกลงมาจากท้องฟ้าทางเหนือของกรุงโรม แล้วก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ
อีกลูกหนึ่งตกเมื่อ 90 ปีก่อน ค.ศ. ทางเหนือของกรุงโรมเช่นกัน ลูกนี้มีเปลวไฟสีทอง และเมื่อตกถึงพื้นมันยัง หมุน อีกด้วย
เรื่องเกี่ยวกับวัตถุบินได้หายเงียบไป จนกระทั่ง ค.ศ. 393 จึงมีผู้พบเห็นวัตถุทรงกลมลูกหนึ่งในท้องฟ้าตามด้วยลูกไฟเป็นขบวนยาว
เดือนกรกฎาคม ปี 1686... ประชาชนชาวเมืองลีบซิกของเยอรมันต่างแตกตื่นเมื่อพบยานประหลาดบนท้องฟ้า พร้อมทั้งปล่อยยานเล็กเหมือนลูกไฟออกมาด้วย
วัตถุประหลาดที่บินได้เริ่มพัฒนาเพิ่มขึ้น ในปี 1756 ที่สวีเดน วัตถุดังกล่าวมีลำแสงพุ่งออกมาอย่างน่ากลัว...
วัตถุประหลาดที่บินได้อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย ดังเช่น ในลอสแองเจลีส ปี 1800 ยานลึกลับแผดเสียงดังลั่นเหนือท้องฟ้า...
แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเมื่อมันผ่านมาทำให้ทั่วบริเวณนั้นไหวยวบใบไม้ร่วงและแห้งตายไปในที่สุด
ในปี 1894 ในอเมริกาตะวันออกมีผู้พบเห็น แสงประหลาดเป็นรูปวงล้อ หมุนผ่านไปในท้องฟ้าและอีก 10 ปี ต่อมาก็มีผู้พบเห็นทางทะเลจีน อ่าวเปอร์เซีย และทางเหนือของแปซิฟิกด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น