คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : :: Beautiful Blues - "She's Still Here, Isn't She?"
18
She's Still Here, Isn't She?
วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างดีขึ้นนับตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านของโจเอล ฉันใช้เวลาตลอดทั้งเช้านั่งคุยกับเอลิอัส เขาเล่าให้ฟังถึงความจริงทั้งหมด เขาเคยอยู่ในบ้านหลังนั้นในฐานะทายาท เอลิอัสเล่าว่าด็อกเตอร์วีเบอร์ลันเสียสติ เขาเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องใต้ดินเพื่อค้นหาความจริงต่างๆ เกี่ยวกับการหาทางหนีออกจากเมลเวย์
"ตอนแรกเราอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ มีลุงกับป้าและลูกพี่ลูกน้องของฉันอีกสองคน พวกเขาสนใจที่จะเป็นหนูทดลองก็เลยตกลงว่าจะหนีเข้าไปในป่าต้องห้ามโดยใช้วิธีที่พ่อบอก ไม่สิ พวกเราทุกคนต่างหาก แต่แม่เป็นคนเดียวที่ไม่อยากเผชิญกับความเสี่ยงนั้นก็เลยพาฉันหนีเข้าไปอาศัยอยู่ในเมือง ไม่นานนักพ่อก็มอบตัวกับโปลิเชียน ฉันกับแม่ก็เลยเดาว่าคนอื่นๆ น่าจะทำตามที่พ่อบอก พวกเขาหายตัวไปในป่าต้องห้าม อาจจะตายแล้วก็เป็นได้ แต่นั่นก็ยังคงเป็นคำถามและเป็นเหตุผลที่ฉันอยากกลับไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อตามหาความจริง"
"งั้นก็แสดงว่านายเองก็ไม่รู้ว่าลุงกับป้าแล้วก็ลูกพี่ลูกน้องของนายหายตัวไปไหนสินะ"
"ใช่ ไม่มีคำตอบ วันพิธีสังเวยจำเลยของพ่อ แม่ไม่อนุญาตให้ฉันออกจากบ้านด้วยซ้ำ แม่เกรงว่าจะมีใครสงสัยเรื่องนี้ เพราะนับตั้งแต่หนีออกจากบ้านเข้ามาอยู่ในเมือง ฉันก็ไม่มีโอกาสได้เจอหรือพูดคุยกับพ่ออีก"
"แล้วแม่นายทำใจกับเรื่องนี้ยังไง"
"แม่ร้องไห้อยู่หลายวัน แต่ข้อดีของมันคือยิ่งทำให้ฉันเข้มแข็งมากขึ้น"
ตอนนั้นเองที่ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปที่นัยน์ตาคู่นั้นซึ่งกำลังรื้นไปด้วยน้ำตา...
ปุๆ
"ฉันเข้าใจ...การสูญเสีย"
ฉันว่าพลางยื่นมือไปตบบ่าเขาเป็นการให้กำลังใจ เอลิอัสใช้มืออีกข้างวางทับมือของฉัน นี่สินะการสูญเสีย เขาสูญเสียพ่อไปแบบเดียวกับที่ฉันสูญเสียพ่อแม่
"มีบางสิ่งที่ฉันแปลกใจและอยากขอถามนายหน่อย"
"อะไร"
ฉันหยิบบันทึกของพ่อเขาขึ้นมาพลางเปิดไปยังหน้าหนึ่ง
"หน้านี้บอกวิธีการเอาตัวรอดในป่าต้องห้ามเอาไว้"
เอลิอัสย่นคิ้วพลางเงยหน้ามองมาที่ฉัน
"ทำไมเหรอ อย่าบอกนะว่า..."
"ใช่ นี่แหละคือสิ่งที่พ่อกับแม่ฉันเคยพร่ำบอกก่อนจากไป นายรู้! นายเคยอ่านมัน นายรู้วิธีการเอาตัวรอดในป่าต้องห้ามมาโดยตลอดแต่นายแค่กลัวที่จะ..."
"ฉันไม่ได้กลัว"
"..."
"ฉันแค่ไม่อยากทิ้งให้แม่อยู่คนเดียว แล้วนี่ก็เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ถ้าเกิดฉันหนีออกไปแล้วโปลิเชียนรู้เรื่องนี้เข้า ฉันไม่อยากมีจุดจบเหมือนคนอื่นๆ ฉันไม่อยากเสี่ยง"
"นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว"
"โอเค ฉันอาจจะหนีออกไปสักวันหนึ่ง แต่ตอนนี้ฉันยังหาเหตุผลที่จะทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันยังมีแม่ที่จะต้องคอยดูแล"
คราวนี้ฉันไม่พูดอะไรต่อนอกจากครุ่นคิดกับตัวเองว่าทำไมด็อกเตอร์วีเบอร์ลันถึงรู้วิธีการเอาตัวรอดในป่าต้องห้ามได้ เอ๊ะ...หรือว่า...
"หรือว่าบางทีพ่อแม่ฉันแล้วก็พ่อของนายอาจจะ..."
"..."
"ยังไม่ตาย..."
"หืม? เธอว่าไงนะ..."
"นายเห็นข้อความบนตัวพิกซี่มั้ย..."
"เอ๋..."
"นั่นเป็นข้อความจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ทุกคนคิดว่าเธอตายไปแล้ว"
"ในพิธีสังเวยจำเลยน่ะเหรอ"
"ใช่"
"นั่นหมายความว่า..."
"บางทีคนที่เข้าไปในหอคอยนั่นอาจจะยัง..."
แอดดด...
ตอนนั้นเองที่มีใครสักคนเปิดประตูบ้านออก ฉันรีบชักมือที่กุมแขนเอลิอัสอยู่กลับอย่างไม่ทันตั้งตัว ผู้มาเยือนที่ว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่กลับเป็นโจเอลและเอเลน่าที่กลับมาพร้อมกันนั่นเอง
"อ้าว เอลิอัส ทานอะไรมารึยังเอ่ย"
ฉันกับเอลิอัสรีบโผเข้าไปช่วยเอเลน่าถือของ ฉันเงยหน้ามองโจเอลที่ถือของจำนวนหนึ่งตามหลังมา เขามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเอลิอัสกับฉันนั่งคุยกันอยู่ หวังว่าเขาจะไม่เห็นภาพเมื่อตะกี๊นะ แต่เอ๊...ถึงเห็นแล้วยังไงล่ะ ฉันกับโจเอลก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี่
"ขอโทษด้วยครับที่เข้ามาในบ้านโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไม่ต้องคิดมาก ดีซะอีก หลายวันมานี้แคลตาคงเบื่อจะแย่ คุยแต่กับฉันจะไปสนุกอะไรล่ะจริงมั้ย"
เหมือนเอเลน่าเองก็รู้ถึงความเบื่อหน่ายของฉัน -.,-;
"ไม่จริงสักหน่อย สองสามวันมานี้หนูได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารได้เยอะเลย สนุกออก น่าเบื่อตรงไหนกัน"
"ผมหิวชะมัด แม่ครับ...ช่วยทำอะไรให้ทานหน่อยน้า..."
โจเอลเดินเข้ามารับของในมือฉันไปหลังจากเขาวางของของตัวเองเสร็จสรรพ ฉันได้แต่ส่งให้เขาแบบขอไปที แหงล่ะ หมอนี่ไม่ยอมให้ฉันแตะต้องอะไรสักอย่าง แม้แต่ฉันทำท่าจะหยิบไม้กวาดก็ยังไม่ยอม เรื่องยกของนี่ลืมไปได้เลย เฮ้อ ฉันชักจะกลัวว่าเอเลน่าจะมองว่านี่เป็นเรื่องไม่ดีจัง
"ได้สิ เอลิอัสอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ"
"เอ่อ..."
"ใช่ เดี๋ยวฉันจะทำอะไรอร่อยๆ ให้ชิมด้วย"
ฉันเสนอ ทุกคนคงแปลกใจในความร่าเริงขึ้นของฉัน
"อืม...ได้ครับ"
"ดีมากจ้ะ"
เอเลน่าเองก็ดูมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้แขกทานด้วย เราสองคนปล่อยให้สองหนุ่มนั่งพูดคุยกันที่โต๊ะอาหาร บอกตามตรงว่าฉันรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง มันเหมือนจะเป็นลาง ไม่สิ...ไม่ถึงกับเป็นลางหรอก แต่มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกหรือต้องการจะสื่อถึงบางสิ่ง มันมาจากสายตาของโจเอลที่มองมายังฉันราวกับคนต้องการจับสังเกตอะไรบางอย่าง
เขาทำแบบนี้ไม่ได้นะ...ในเมื่อเราคุยและตกลงกันแล้วว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก
....เพราะถ้าเป็นแบบนั้น
ฉันก็คงไม่เหลือเหตุผลที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปน่ะสิ
สองชั่วโมงต่อมา
"อร่อยมากเลย เธอเก่งขึ้นเยอะเลยแคล"
โจเอลพูดพลางเอามือลูบหน้าท้องตัวเอง บอกตามตรงว่าฉันเกลียดสายตาและรอยยิ้มของเอเลน่าทุกครั้งที่โจเอลชมนู่นชมนี่ฉัน แหงล่ะ อะไรๆ ก็แคลตาๆ หมด นี่คือสิ่งที่ฉันเดาว่าเอเลน่าก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน
"ก็ได้แม่ของนายนั่นล่ะ"
"ไม่ต้องชมแม่หรอก แม่ก็แค่คอยชี้ๆ"
"ว่าแต่เอลิอัส นายว่าอาหารมื้อนี้เป็นไง"
ฉันหันไปมองเอลิอัสบ้าง เขาดูสงบเสงี่ยมเวลาทานอาหารเหลือเกิน
"อืม ซุปมะเขือเทศกลมกล่อมดีนะ แต่จานนี้เผ็ดไปหน่อย"
"นายไม่ชอบทานเผ็ดเหรอ"
"ฉันทานเผ็ดไม่ค่อยเก่งน่ะ"
"อ้าว แล้วทำไมไม่บอก"
"ไม่เป็นไรๆ แต่มันก็อร่อยดีนะ"
เขาว่าพลางใช้ช้อนตักขึ้นมาชิมอีกนิด แล้วก็เผลอส่งเสียงซี้ดออกมาก่อนจะสำลัก
“แค่กๆ~”
"นั่นไง เอ้า รีบดื่มน้ำเข้าไปเร็วเข้า"
"แค่กๆ"
"นายนี่นะ...ไม่เห็นต้องฝืนเลยตาบ้าเอ๊ย"
"แค่กๆๆ~ T,.,T"
ฉันอดขำไม่ได้ หมอนี่ก็ชอบทำตัวตลกตลอดเวลา บอกว่าไม่กินเผ็ด แต่พอทำเผ็ดให้ก็กลัวคนอื่นเสียใจถึงขั้นลองชิมให้ดูต่อหน้า แล้วดูสิเนี่ยเป็นไง ไอแค่กๆ ใหญ่เลย
"แสบคอจัง...แค่ก~"
"ดื่มน้ำเข้าไปอีก"
"ขอบคุณนะ TOT"
"ฮ่ะๆๆ"
ฉันหัวเราะร่าอย่างมีความสุข โจเอลยังคงมองมาที่ฉันไม่หยุด ฉันเองก็แกล้งทำเป็นว่าไม่ได้มีท่าทีแคลงใจอะไร
"อ่า เดี๋ยวผมช่วยล้างนะครับ"
เอลิอัสลุกขึ้นยืนทำท่าจะเก็บจานให้หลังจากพบว่าทุกคนทานเสร็จแล้ว
"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันล้างเอง"
ฉันขัดขึ้นพลางลุกยืนเก็บจาน
"เธอทำ เดี๋ยวฉันล้าง เป็นธรรมเนียมน่า"
"แต่นายเป็นแขกนี่นา"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย"
"วางเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"อย่าซนสิแคลตา"
"ม่ายยย~"
"เอามาเถอะนะ"
"ม่ายยยยยย!"
เคร้ง~!
( O_O) (O_O )
ฉันกับเอลิอัสมองหน้ากันตอนที่จู่ๆ โจเอลก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับแย่งจานในมือของฉันและเอลิอัสรวมถึงเก็บจานที่เหลือไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง
"เดี๋ยวฉันล้างเอง"
เขาว่าทิ้งท้ายพลางหอบจานทั้งหมดไปที่อ่าง เราสามคนรวมถึงเอเลน่าต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกงุนงง อะไรของเขานะ ทำไมครั้งนี้ดูแปลกๆ เขาไม่พอใจที่ฉันเล่นกับเอลิอัสอย่างนั้นเหรอ เขามีสิทธิ์ทำแบบนี้รึไง
"เดี๋ยวฉันช่วย"
เอลิอัสทำท่าจะเดินเข้าไปช่วย
"ไม่ต้อง"
กึก...
"อยู่ตรงนั้นแหละ แคลตาคงมีอะไรอยากคุยกับนายเยอะเลย"
ฉันย่นคิ้วด้วยความสงสัยปนแปลกใจ อะไรของเขานะ ทำไมต้องแสดงทีท่าหงุดหงิดขนาดนั้นด้วย ให้ตายเหอะ
"เอ่อ...งั้นผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ"
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการสร้างความกดดันให้เอลิอัสโดยแท้
"อ๋อ ที่นายบอกว่าต้องกลับไปช่วยแม่ใช่มั้ย"
ฉันแสร้งทำเป็นฝ่ายสนับสนุนไปด้วย แหงล่ะ ขืนให้เขาอยู่ต่อก็คงจะไม่สะดวกใจเท่าไหร่ แต่จริงๆ อีกสักพักโจเอลก็ต้องกลับไปทำงานต่อแล้วนี่นา หรือว่าฉันไม่จำเป็นที่จะต้องแคร์ดี
อา...ไม่รู้ฉันทำตัวเป็นคนบ้านนี้ตั้งแต่ตอนไหน
อย่าลืมสิ เธอเป็นแค่ผู้อาศัยเท่านั้นนะแคลตา
"ใช่ๆ"
"อืม งั้นไว้ค่อยคุยกันใหม่"
"โอเค ไว้เจอกันนะ"
"ขอบคุณมากสำหรับ..."
ฉันทำท่าจะพูดว่าเหล้ามาร์ติน่าออกไป แต่เกรงว่าคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ โชคดีที่แอบเอาไปเก็บในกระเป๋าย่ามในห้องนอนก่อนที่โจเอลกับเอเลน่าจะกลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"สำหรับ...การมาอยู่เป็นเพื่อนเช้านี้"
"อื้ม"
"วันหลังพาเจ้าไคออสมาด้วยนะ..."
"...?"
"ฉันหมายถึงเอเวียนน่ะ ฮ่ะๆ"
"ได้เลย ^_^"
เคร้ง~
ตอนนั้นเองที่ฉันได้ยินเสียงจานกระทบกันแรงมาก
"ฉันกลับก่อนล่ะ"
"บาย"
"บาย"
พอเดินไปส่งเอลิอัสที่หน้าประตูเรียบร้อย ฉันก็เดินกลับมาที่โต๊ะ เอเลน่ากำลังจิบชาตบท้ายหลังอาหาร เธอเลิกคิ้วก่อนจะส่งยิ้มให้เล็กน้อย ส่วนฉันก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ทางที่ดีน่าจะไปให้พ้นๆ จากตรงนี้ก่อนดีกว่า
"หนูขอตัวไปอาบน้ำให้พิกซี่ก่อนนะคะ"
"ตามสบายเลยจ้ะ"
"พิกซี่~"
"แว้กกก~"
แล้วฉันก็หนีออกมาจากตรงนั้นได้สำเร็จ...
[Joel]
เป็นครั้งแรกที่ผมกลับมาบ้านแล้วเจอความรู้สึกแบบนี้ ภาพแรกที่เปิดประตูเข้าบ้านไป คำถามแรกคือทำไมหมอนั่นถึงมาอยู่กับแคลตาได้ พวกเขาคุยเล่นกัน สายตาที่แคลตามองเอลิอัส...สายตาที่เอลิอัสมองแคลตา สายตาที่ทั้งคู่มองให้กัน...
เคร้ง~
นับตั้งแต่แคลตายอมมาอยู่ที่บ้าน เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันสนิทเหมือนเดิมสักเท่าไหร่ แคลตาเริ่มกลายเป็นพวกถามคำตอบคำ เวลาผมกลับบ้านมาเธอก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง ไม่ก็วุ่นอยู่กับการให้แม่ผมสอนทำอาหาร ทั้งๆ ที่ผมพยายามใช้เวลาว่างในการกลับบ้านมาเพื่อจะได้เจอเธอ
หรือว่านี่อาจจะเป็นการทำให้เธอรู้สึกเบื่อ...
แต่จะให้พาเธอออกไปไหนมาไหนตอนนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด ช่วงนี้โปลิเชียนเริ่มทำตัวแปลกๆ พวกชาวบ้านก็เช่นกัน มีข่าวลือว่าแคลตายังอยู่ในเมืองเนื่องจากมีข่าวเรื่องขโมย
ช่างงี่เง่าเป็นบ้า
ถ้าจะให้ผมปฏิเสธอะไรแทนก็คงดูไม่เหมาะ
"ผมไปทำงานก่อนนะ"
"เดินทางดีๆ จ้ะ"
ผมบอกแม่ก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายตั้งท่าเตรียมว่าจะออกจากบ้าน ลังเลใจอยู่นานมากว่าจะเดินไปล่ำลาแคลตาสักหน่อยจะเป็นการดีหรือไม่ แต่คิดอีกที...ไม่ดีกว่า =_=
"โจเอล"
หากทว่าทันทีที่ผมคว้ารองเท้าบูตตั้งท่าจะใส่ แม่กลับเรียกชื่อผมไว้
"ครับ"
"แม่รู้นะว่าในหัวลูกคิดอะไรอยู่"
"ฮะ...อะไรเหรอครับ"
ผมได้แต่มองแม่ที่เพิ่งถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ
"ผู้หญิงเขาถ้าชอบก็คือชอบนะ"
"หมายความว่าไงเหรอครับ"
ผมถามพลางนั่งลงกับพื้นเพื่อใส่รองเท้า
"สิ่งที่ลูกทำเมื่อสักครู่น่ะ ไม่ได้หมายความว่าลูกจะเรียกร้องความสนใจจากคนที่ลูกชอบได้หรอกนะ ลูกต้องหัดแข็งใจแล้วก็เผื่อใจไว้บ้าง ถ้าลูกยังอยากจะมีความสุขแบบนี้ ลูกก็ควรจะรักษามันไว้ดีๆ"
"แม่ไม่เข้าใจหรอกครับ"
"ทำไมแม่จะไม่เข้าใจล่ะ"
"ผม..."
"โจเอล"
"..."
"ถ้าลูกยังอยากให้เธออยู่ที่นี่ ลูกก็ไม่ควรทำให้เธอลำบากใจที่จะอยู่"
"แม่คิดว่าทุกวันนี้แคลตาฝืนใจอย่างนั้นเหรอครับ"
ผมพูดเป็นเชิงกระซิบเพราะกลัวว่าเธอจะได้ยิน
"มันเกือบจะเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะถ้าเกิดลูกยังทำอย่างนั้นอีก ผู้หญิงไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอกนะ"
"แบบนี้นี่ยังไงเหรอครับ"
"ทำตัวหวงเกินใช่เหตุไง"
ตอนนั้นเองที่แม่พูดประโยคหนึ่งออกมา ประโยคนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเดือนขึ้นมาปุดๆ หัวใจเหมือนถูกใครสักคนบีบให้เละไปเสียบัดนั้น มือสองข้างกำแน่นด้วยอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ
"แม่คิดอย่างนั้นจริงเหรอ"
"ให้เวลาเธอหน่อยนะ การรักใครสักคนโดยให้เขารักเราตอบน่ะมันไม่ง่ายอย่างที่ลูกคิดหรอก"
"แม่พูดเหมือนผมดูใหม่เกินไปสำหรับการรักใครสักคน"
ตึง!
ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนจะทำท่าผลักประตูออกจากบ้านไป
ผ่าง! o_O
"อ้าวโจเอล!"
หากทว่าทันทีที่เปิดประตูออกมา ผมก็ดันเจอกับใครคนหนึ่ง คนที่ผมไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมาเจอกันที่นี่ ทำไมจู่ๆ...หมอนี่ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าบ้านของผมได้ เขาค่อยๆ ลดระดับมือที่กำลังจะเคาะประตูลงหลังจากเห็นผมเปิดประตูออกมาพอดี
"มีอะไรเหรอโรเนล"
ผมเรียกสติตัวเองและค่อยๆ สงบสติอารมณ์ให้แผ่วเบาลงอย่างช้าๆ รีบปิดประตูบ้านก่อนจะเดินกอดคอโรเนลออกมาจากตรงนั้น
"เปล่า ฉันแค่แปลกใจว่านายหายไปไหน พอดีฉันมีเรื่องด่วนนิดหน่อย"
"เรื่องด่วน? ไม่เห็นต้องมาหาฉันถึงที่บ้านเลยนี่นา"
"ทำไมล่ะ ฉันแค่อยากจะมาทักทายแม่ของนาย..."
"แม่หลับอยู่น่ะ"
"อ้าวเหรอ..."
"อาฮะ"
"สงสัยฉันหูฝาด ฉันได้ยินเสียงนายคุยกับใครในบ้าน นึกว่าแม่นายซะอีก"
ชิท! ไม่น่าโกหกมันเลย -_-
"สงสัยจากบ้านอื่นรึเปล่า"
"คงงั้น"
โรเนลยักไหล่ ผมรีบลากมันออกมาจากหมู่บ้านโดยเร็ว เดาว่าหมอนี่คงจะรู้สึกแปลกใจในท่าที่ของผมไม่น้อย เพราะปกติผมจะให้เขาเข้าไปหาอะไรดื่มในบ้านก่อน เนื่องจากนี่ก็ยังไม่ถึงเวลาเข้างานด้วยซ้ำ จะอ้างว่าต้องรีบไปมันก็ไม่ใช่ แต่ช่างเถอะ จะให้โรเนลเข้าไปในกระท่อมตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเกิดเขาเห็นแคลตาขึ้นมาล่ะ ใช่ว่าหมอนี่จะจำแคลตาไม่ได้สักหน่อย เขาเคยเห็นหน้ายัยนั่นมาแล้วด้วยเหอะ
"ว่าแต่เรื่องด่วนที่ว่าของนายคืออะไร"
ผมแสร้งทำเป็นเปลี่ยนเรื่องทันที
"อ้อ พอดีฉันได้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับยัยหัวขโมยขี้เมา"
"หืม?"
"มีชาวบ้านของหายอีกแล้ว"
"อันนี้ฉันพอได้ยินมาแว่วๆ"
"นั่นแหละ"
"ว่าแต่จะหายได้ไง ยัยนั่นไม่ได้หนีเข้าไปในป่าต้องห้ามไปแล้วหรอกเหรอ"
ผมแกล้งทำเป็นไขสือ เงี่ยหูฟังโรเนลพูดต่อ
"ใครจะรู้ล่ะ ทุกครั้งที่ยัยนั่นแอบลักลอบเข้ามาก็ไม่มีใครรู้สักหน่อย"
"อาจจะเป็นคนในเมืองขโมยกันเองก็ได้"
"หืม...นายคิดอย่างนั้นเหรอ"
โรเนลหยุดเดินครู่หนึ่ง ผมหันไปมองก่อนจะแกล้งทำเป็นยักไหล่ล้อเลียน
"ใช่ว่าในเมืองเราจะไม่มีคนไม่ดีสักหน่อย"
"แต่ฉันมีแผน"
"แผน?"
"เราต้องกำจัดยัยหัวขโมยขี้เมาให้โดยเร็วที่สุด"
เหอะ! แค่คิดก็บ้าแล้ว!
"ส่งตัวเข้าพิธีสังเวยจำเลยน่ะเหรอ"
"ใช่ ถ้าเรากำจัดยัยนั่นได้สำเร็จ เราก็จะไม่ต้องมาคอยพะวงหรือโยนความผิดให้ใครอีกต่อไปแล้ว นายก็รู้ว่าเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองยามเมื่อจับมือใครดมไม่ได้ เราก็ต้องโทษไปที่ยัยหัวขโมยขี้เมาอย่างเดียว ทีนี้ล่ะ...เมลเวย์ก็จะกลับมาสงบสุขเหมือนเดิมสักที"
เหอะ อยากจะขำชะมัดยาด! TOT
"ทางที่ดีจับตัวยัยนั่นให้ได้ก่อนเถอะ"
"ไม่ยากหรอก ตอนนี้เรามีเบาะแสอะไรบางอย่าง"
"เบาะแส?"
"ใช่"
"เบาะแสอะไร"
บอกตามตรงว่าตอนนี้หัวใจผมเต้นตึกตัก ได้แต่หวังว่าพวกเขาไม่ได้สงสัยอะไรที่สามารถสาวไปถึงความจริง...
"นายจำไอ้เด็กที่มาแจ้งความที่สถานีเราเมื่อวันก่อนได้รึเปล่า"
"ใครกัน"
"พ่อค้าขายเครื่องประดับไง"
"เอ๋..."
"เจ้านี่ทำตัวน่าสงสัย"
"สงสัย? น่าสงสัยยังไง"
พวกเขาคงกำลังหมายถึงไอ้... 'เอลิอัส'
"ก็หลังจากวันนั้นที่หมอนั่นช่วยเราเปิดโปงยัยหัวขโมยขี้เมาที่แอบปลอมตัวอยู่ในชุดโปลิเชียน คืนต่อมาเขาก็เป็นคนแจ้งความเราอีกรอบว่าพบเห็นยัยนั่นที่งานเทศกาลประจำปี..."
"นายหมายความว่า..."
"ฉันว่าไอ้เด็กพ่อค้านั่นน่าจะมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะหลังจากที่เราเจอตัวเจ้าเด็กนั่นที่บ้านร้างนอกเมืองพร้อมกับม้าตัวเดียวที่ยัยหัวขี้เมาขโมยไป ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวไปหมด บางทีนี่อาจจะเป็นแผนการ เจ้าเด็กนั่นอาจจะเป็นคนช่วยเหลือ..."
"ไม่มีทาง!"
ผมนึกภาพตามจนถึงขั้นเผลอหลุดปากออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"หืม? นายพูดว่าไงนะ"
"อ๊ะ...อ๋อ! ปละ...เปล่าน่ะ ฉันหมายถึงนี่ไม่น่าจะเป็นไปได้"
ใช่ พวกเขากำลังสังเกตไอ้พ่อค้านั่นอยู่อย่างนั้นเหรอ งั้นก็แสดงว่า...
"แล้วล่าสุด..."
"..."
"เรารู้มาว่านายพ่อค้าอะไรนั่นแอบไปซื้อเหล้ามาร์ติน่าจากที่บาร์เมื่อคืนนี้ แถมยังซื้อใส่ถุงกลับ มีคนพิลึกที่ไหนที่ซื้อจากบาร์เพื่อเอากลับบ้านบ้าง ไปซื้อที่โรงงานไม่ถูกกว่าเหรอ หมอนั่นจะมาหัดดื่มอะไรเอาป่านนี้ แบบนี้มันทำตัวมีพิรุธชัดๆ"
"นายกำลังจะบอกว่าหมอนั่นไม่ได้ซื้อเหล้าไปดื่มเองอย่างนั้นสินะ"
"หมอนั่นไม่เคยรู้เรื่องเหล้ามาร์ติน่ามาก่อน เขาต้องแอบซื้อไปให้ยัยขโมยขี้เมาแน่ๆ"
ผมได้แต่อึ้งในสิ่งที่โรเนลพูดออกมา ในใจรู้สึกกลัวว่าความจริงจะหลุด แต่เดี๋ยวก่อน...เหล้ามาร์ติน่าอย่างนั้นเหรอ เอลิอัสแอบไปซื้อมาให้แคลตาสินะ อ้อ นี่คือสาเหตุที่เขามาที่บ้านของผมเช้านี้ใช่มั้ย...
'ขอบคุณนะสำหรับ...'
จู่ๆ ภาพตอนที่แคลตาพูดประโยคนี้กับเอลิอัสเมื่อก่อนหน้านี้ก็เข้ามาในหัว
และหากทว่าตอนนั้นเองที่ผมมีแผนการบางอย่างลอยเข้ามา แผนการที่ว่านี่ก็คือการที่ไอ้เอลิอัสอาจจะกำลังมีแผนการอยู่เหมือนกัน ใช่! หมอนั่นอาจจะต้องการทำให้ตัวเองดูมีพิรุธเพื่อให้พวกโปลิเชียนสาวถึงตัวแคลตาก็ได้
เหอะ...กะแล้วเชียวว่าเรื่องต้องเป็นแบบนี้ หมอนั่นไม่ได้คิดจะอย่างช่วยแคลตาตั้งแต่ทีแรก แต่ที่เขาทำทั้งหมดก็เพียงเพราะต้องการให้เธอเข้ามาอยู่ในกับดักซึ่งก็คือบ้านของผมนั่นเอง
เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่...ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง
"ฉันว่าฉันจะลองไปสืบเรื่องนี้หน่อย"
โรเนลเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะย่นคิ้วถาม
"ยังไง"
"นายไปรอฉันที่สำนักงานใหญ่ ระดมคนให้ได้มากที่สุด เราจะบุกไปที่บ้านของนายพ่อค้าคนนั้นกัน" โรเนล
"หา? เอาอย่างนั้นเลยเหรอ" โจเอล
"ยัยหัวขโมยขี้เมานั่นยังคงอยู่ที่เมืองนี้"
"..."
"และอาจจะเป็นในบ้านหลังนั้นของไอ้พ่อค้าคนนั้นด้วยก็เป็นได้"
++++++++++++++++++++++++++++++++++
สั่งลากันด้วยตอนนี้นะครับ อัพเป็นตอนสุดท้ายเนื่องจากหนังสือลงเว็บแล้ววว >O<
จะประกาศผลเกมวันที่ 12 มีนาคมซึ่งเป็นวันแรกที่หนังสือออกนะครับ
http://www.jamsai.com/product/2868
ยังไงก็ฝากเซ็ทนี้ด้วยน้า ~
ปล. จะทยอยลบเรื่องต้นเดือนนะ :-)
ดรีม
ความคิดเห็น