ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : :: Beautiful Blues - "Pilot"
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะมาถึง...
เสียงโห่ร้องของเหล่าชาวบ้าน เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย คำสบถด่าทอต่างๆ ที่มากมายกำลังโจมตีมาที่ฉัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาคงรู้สึกพอใจและมีความสุขกับภาพตรงหน้ามากแค่ไหน ในเมื่อทุกคนต่างเฝ้ารอวันนี้มานาน
วันที่ยัยหัวขโมยขี้เมาอย่าง 'แคลตา' คนนี้จะถูกจับตัว
ไม่สิ...จะว่าถูกจับตัวก็ไม่เชิง เพราะนี่เป็นการ 'มอบตัว' ของฉันเองต่างหาก
"แคล!"
ฉันหันหน้าขวับทันทีที่ได้ยินเสียงเหมือนใครสักคนเพิ่งเรียกชื่อฉัน อา...ฉันอาจจะกำลังคิดไปเอง อาจจะหูแว่ว ทางที่ดีคือฉันไม่ควรใส่ใจอะไรมาก ในเมื่อทุกสิ่งที่ผ่านมานั้นย่ำแย่เกินกว่าที่ตัวเองจะสำนึกผิดอะไรได้อีก นับแต่นี้อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด ฉันไม่มีทางปฏิเสธอะไรได้อีกต่อไปแล้ว ฉันยกมือขึ้นเช็ดหยาดเหงื่อที่หลั่งออกมาทั้งๆ ที่เช้านี้อากาศหนาวเหน็บ สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ สอดสายตามองดูพื้นหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมโดยรอบ ทว่าในขณะเดียวกันแสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่สาดลงมาก็ทำให้ความหนาวนั้นเหือดแห้งเหลือเกิน บาดแผลตามร่างกายและใบหน้าทำฉันแสบราวกับโดนเผาไหม้ และมันจะยิ่งแสบขึ้นอีกถ้าฉันยังคงยืนอยู่กลางลานประหารอยู่แบบนี้ จึงได้แต่เฝ้ารอให้พิธีสังเวยจำเลยมันสิ้นสุดไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
"แคลตา!"
เสียงเรียกชื่อดังขึ้นราวกับเป็นเสียงสะท้อนอีกครั้ง คราวนี้ฉันหลับตาพริ้ม น้ำตาไหลออกมาพร้อมกับภาพทรงจำอันเลวร้ายที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน...
ปัง!
เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เสียงกรีดร้องที่หลุดออกจากปากฉันในวินาทีนั้นยังคงดังวนเวียนอยู่ในหัว ภาพของ 'ใครคนหนึ่ง' ที่กำลังสิ้นลมหายใจ
ใช่ เพราะเหตุนี้ฉันถึงต้องมายืนอยู่ตรงนี้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ความสูญเสีย เรื่องร้ายมากมายทั้งหมดล้วนมีต้นเหตุมาจากฉันเอง ฉันได้แต่ภาวนาว่าเสียงเพรียกชื่อที่ดังอยู่นั้นเป็นของ 'เขาคนนั้น' ไม่ใช่คนอื่น เพราะฉันไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันอีกต่อไปแล้ว
ฉันกำมือตัวเองแน่น มือที่เต็มไปด้วยคราบเลือดของเขา
คราบเลือดที่ยังคอยย้ำเตือนและคอยบอกฉันว่า...เธอ! คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด!
ปี๊ด!!!
สิ้นเสียงสัญญาณนั้น ฝีเท้าของฉันก็ค่อยๆ ย่างเดินตรงไปข้างหน้า แม้ว่ามันจะไร้เรี่ยวแรงแค่ไหน แต่ใครสนล่ะ นับว่าเป็นโชคดีแค่ไหนแล้วที่โปลิเชียนไม่มีกฎในการอนุญาตให้ปาข้าวของทำร้ายร่างกายเครื่องสังเวย มิเช่นนั้นฉันอาจจะตายก่อนเดินไปถึงหน้าประตูแล้วก็เป็นได้ บอกตามตรงว่าฉันไม่เคยรู้สึกว่ามันน่ากลัวจนมาถึงตอนนี้ พ่อกับแม่ผ่านจุดนั้นไปได้ยังไงกันนะ
ฉันเงยหน้าขึ้นมองสัญลักษณ์ดวงตาที่ถูกสลักเป็นลวดลายสวยงามอยู่บนหน้าประตูไม้ไอออรีน เพชรสีฟ้าเม็ดงามวางอยู่ตำแหน่งตรงกลางอย่างสง่างาม ฉันจ้องมันขณะหนึ่ง ตลอดจนกระทั่งโปลิเชียนสองนายดึงเชือกที่ใช้แขวนอยู่ตรงบานประตูทั้งสองข้าง พวกเขาคงต้องใช้แรงกำลังอย่างมากในการเปิดมันออก
ผ่าง...
ลมหนาวจากด้านในพัดออกมาประหนึ่งปีศาจด่านแรกที่เพิ่งทรมานร่างกายฉันไปหมาดๆ หัวใจฉันแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ข้างหน้าฉันตอนนี้เป็นเพียงผนังสีดำมีเส้นทางแยกมืดๆ ให้ฉันได้เลือกสองทาง อืม...ฉันจะไปทางไหนต่อดีล่ะ บางทีนี่อาจจะเป็นบททดสอบก็ได้
ทางไหนที่จะทำให้ฉันได้ไปเจอพ่อกับแม่กันนะ...
บางทีทางหนึ่งคือรอด ทางหนึ่งคือตาย แต่ทางไหนดีล่ะ...
โบราณว่าไว้...ขวาร้าย ซ้ายดี
อา คราวนี้ฉันหลับตาลง ทำท่าจะออกฝีเท้าวิ่งตรงเข้าไปในเขตของหอคอย ทันทีที่ปลายเท้าสัมผัสถึงความเย็นบนพื้นหินขัดมันนั้น ฉันก็พบว่ามีบางสิ่งที่กระชากฉันออกมา
ใช่...ฉันกำลังถูกกระชากอย่างแรง
เสียงโห่ร้องของเหล่าชาวบ้านเงียบสงัดไปชั่วขณะ
ฉันว่าฉันพอจะเดาออกว่าผู้ชายที่เพิ่งวิ่งเข้ามากระชากร่างฉันออกมาจากเขตประตูหอคอยเป็นใคร ฉันร้องไห้ออกมาดังลั่น แม้ว่าในใจหวังว่าจะจากเรื่องนี้และทุกคนไปด้วยดีโดยไม่มีใครต้องเจ็บตัวอีกก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ สักหน่อย
"ฮึก...ฉันกะแล้วว่านายต้องมา"
เขาทำให้หัวใจของฉันที่หยุดเต้นไปแล้วกลับมาเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง
18ความคิดเห็น