ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิภพราชันย์ออนไลน์ [Online]

    ลำดับตอนที่ #6 : พิภพราชันย์ออนไลน์ :: หนึ่งในสิบสองราชา (1)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57







    พิ ภ พ ร า ชั น ย์ • อ อ น ไ ล น์







     

    ตอนที่ 3 หนึ่งในสิบสองราชา (1)

     

     

     

     

    ซีแนลเงยหน้าขึ้นและสบตากับฝ่ายตรงข้าม เธอยืนประชิดเขาและสังเกตว่าชายหนุ่มที่เอ่ยอ้างว่าเป็นพี่ชายของเธอผู้นี้มีผมสีทองเช่นเดียวกับเธออย่างไม่ผิดเพี้ยน มือเธอกำแน่นขึ้นอีกเมื่อดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาปราศจากแววเสแสร้ง

     

     

     

     

    ขณะที่ทั้งคู่ตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ ไม่มีใครขยับ จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเธอจึงขยับตัวก่อนแล้วสูดลมหายใจลึกๆ

     

     

     

     

    เอาล่ะ! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือมีความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะพูดความจริงมากแค่ไหนก็ตาม อย่างไรเสียเธอเองก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาตัวรอดมาทั้งชีวิตแล้ว การแก้ตัวคงไม่มีอะไรดีขึ้น อย่างนั้นเธอควรสวมรอยซะเลยดีไหม!

     

     

     

     

    คะ... คือฉันความจำเสื่อม

     

     

     

    ว่ายังไงนะ!”

     

     

     

     

    ฉันจำใครไม่ได้

     

     

     

     

    “...”

     

     

     

     

     หมายความว่ายังไง? ไม่ใช่ว่าน้องต้องรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพี่หรอกเหรอ อีกฝ่ายเอ่ยถามเสียงเข้มด้วยสีหน้าแปลกใจแกมกังวลเล็กน้อย

     

     

     

     

    หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ฉันก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองและโลกใบนี้สักนิดเดียว เธอบอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง

     

     

     

     

    ให้ตายสิ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฝ่ายตรงข้ามครางออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะรีบปรับน้ำเสียงเป็นนุ่มนวลและเอ่ยกับเธออีกครั้ง อย่างนั้นนับแต่นี้ไปจำไว้ว่าพี่ชื่อคาเธอร์

     

     

     

     

    เธอนิ่งมองอีกฝ่ายแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงลังเล แน่ใจนะว่าเป็นพี่ชายของฉัน จริงๆ ไม่ได้จำผิด

     

     

     

     

    พี่เป็นพี่ชายของเธอแน่นอน! ไม่ว่าอย่างไรพี่ก็จำเธอได้ การตรวจสอบข้อมูลแค่นี้เป็นความสามารถที่พี่ต้องมีอยู่แล้ว อย่าได้กังวลเลยน้องรักพอพูดจบเขาก็เอามือกดลงที่หัวคิ้วยับย่นของเธอเบาๆ

     

     

     

     

    สบายใจเถอะไม่ผิดตัวหรอก ทักษะการตรวจสอบของพี่อยู่ในระดับสูงมาก ยิ่งเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันพี่ไม่มีทางพลาดหรอกเข้าใจไหมอีกฝ่ายเอ่ยขณะยกมือลูบหัวเธอเบาๆ

     

     

     

     

    เธอพยักหน้าแต่โดยดี เวลานี้ไม่อะไรน่าเป็นห่วงเท่ากับการมีพี่ชายที่ไม่รู้จักโผล่ขึ้นมาในชีวิตนี่แหละ ที่สำคัญยังได้ยินว่ามีคนอื่นๆ อีกด้วย

     

     

     

     

     น้องทำให้พี่รู้สึกประหลาดใจมากเลยรู้มั้ย ความจริงแล้วพี่คาดเดาไว้ตั้งมากมายเกี่ยวกับการพบหน้ากันของเรา เอาเป็นว่าตอนนี้เราเข้าใจกันแล้วนะคาเธอร์เอ่ยพร้อมทั้งขยับยิ้มอ่อนโยนให้เธอ

     

     

     

     

    ซีแนลพยักหน้าเบาๆ ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็เออออตามไปก่อน เพราะอย่างน้อยการมีพี่ชายให้พึ่งพาก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยทีเดียว

     

     

     

     

    เอาล่ะ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเดินทางไปยังจุดเคลื่อนย้ายเพื่อกลับบ้าน

     

     

     

    “จุดเคลื่อนย้ายอะไร?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัยจนอีกฝ่ายแสดงสีหน้าตกใจ

     

     

     

     

    ให้ตายสิ อย่าบอกนะว่านี่น้องไม่รู้กระทั่งเรื่องเวทมนตร์เคลื่อนย้าย

     

     

     

    เธอพยักหน้าตอบ

     

     

     

     

    ช่างเถอะ อย่าได้กังวลเลย เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องทั้งหมดเอง แต่น้องไม่เหมือนอย่างที่พี่คาดไว้เลยสักนิด

     

     

     

     

    แล้วปกติฉันเป็นยังไงเหรอ เธอถามด้วยความสงสัย

     

     

     

     

    หึๆ เมื่อก่อนนี้เธอเย็นชาและมีจิตใจโหดเหี้ยมยิ่งกว่าใครทั้งหมดในบรรดาพวกเรา ความเก่งของเธอแม้แต่พี่ใหญ่ที่ชื่นชอบการฆ่าฟันยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ใครสักคนที่กล้าสบตากับเธอแทบนับจำนวนได้เลยรู้มั้ยและน้อยคนนักที่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง เพราะส่วนมากคนพวกนั้นล้วนสิ้นลมหายใจไปแล้วหมดสิ้น ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่ยอมเปล่งเสียง จนพวกเราคิดว่าแท้จริงแล้วเธออาจจะเป็นใบ้ พวกเราเกือบจะหาคำตอบได้แล้วถ้าไม่ติดที่ว่าเมื่อสามปีก่อนเธอก็ไปก่อเรื่องสังหารหมู่ไว้ในทวีปปีศาจก่อนจะหายตัวไป

     

     

     

     

    อะไรนะ! ฆ่าคน ฉันนะเหรอ?

     

     

     

     

    ใช่สิ เรื่องที่เธอลักลอบเข้าไปในทวีปปีศาจแล้วลงมือสังหารพวกนักโทษประหารเดนตายในหุบเขาต้องห้ามที่ขึ้นชื่อว่ามีฝีมือร้ายกาจและถูกกักขังไว้ในส่วนลึกของที่นั่นอย่างเลือดเย็นจนไม่เหลือรอดแม้แต่ชีวิตเดียว เศษซากศพและหยาดโลหิตที่ชโลมผืนดินละลานตาไปทั่วทำให้ถูกกล่าวขานกันว่าเป็นฝีมือของจอมมารโลหิต ดีที่ท่านพ่อช่วยออกหน้าเจรจาแก้ปัญหานี้กับราชาปีศาจให้สงบลงได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ และแค่เพียงบอกพวกนั้นไปว่าเป็นฝีมือของบุตรจอมมารคนที่สี่ที่นึกอยากจะเล่นสนุกขึ้นมา หึ เจ้าน่าโง่พวกนั้นมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นผู้หญิง รู้มั้ยน้องรักถ้าพวกมันรู้ความจริงข้อนี้ละก็คงแทบอยากกลั้นใจตายกันเลยเชียวล่ะที่ถูกเหยียดหยามด้วยฝีมือของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ดินแดนนี้เธอมีชื่อเสียงและค่าหัวมากกว่านักฆ่าในทวีปสเลฟหลายร้อยเท่าซะอีก แต่จะแปลกอะไรล่ะในเมื่อน้องรักของพี่ลงมือสังหารนักโทษปีศาจฝีมือเยี่ยมพันกว่าคนโดยใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวเสียงเล่าที่เอ่ยอย่างสนุกสนานทำให้เธออ้าปากค้างเลยทีเดียว

     

     

     

     

    บ้าน่า! ฆ่าคนเนี่ยนะ ตั้งพันคน! โอ๊ย! นั่นไม่ใช่ฉันนะ

     

     

     

     

    ทำไมปัญหาเยอะแยะอะไรอย่างนี้เนี่ย ถึงจะโชคดีที่เหมือนได้เกิดใหม่ในร่างที่ดีกว่าเดิม แต่เธอชักไม่แน่ใจซะแล้วสิว่าควรร้องไห้หรือหัวเราะดี

     

     

     

     

    บ้าเอ๊ย! นั่นมันไม่ใช่ตัวเธอเลย ถึงเธอจะเจ้าเล่ห์ ตลบตะแลงเอาตัวรอดเก่ง แต่ก็ไม่เคยคิดล้อเล่นเห็นชีวิตของใครเป็นผักปลาหรอก ทุกชีวิตมีค่ามีความหมายเท่าเทียมกันทั้งนั้น

     

     

     

     

    ซีแนลเดี๋ยวก่อนๆ ที่พูดมาทั้งหมดพี่แค่ล้อเล่นเราเล่นหรอกนะ เชื่อด้วยเหรอเนี่ย

     

     

     

     

    ว่าไงนะ!

     

     

     

     

    เธอหันขวับไปค้อนใส่คนพูดที่กำลังกลั้นยิ้มขบขันตาเขียว

     

     

     

     

    ให้ตายผู้ชายคนนี้ช่างหยอกล้อไม่ดูเวลาเอาซะเลย

     

     

     

     

    “ก็เห็นน้องทำหน้าเครียดๆ พี่เลยล้อเล่นนิดหน่อย”

     

     

     

     

    นิดหน่อย!? นั่นนะเหรอที่เรียกว่านิดหน่อย

     

     

     

     

    ต่อไปห้ามพูดเรื่องน่ากลัวแบบนี้อีกนะเข้าใจไหม ฉันเป็นน้องของนาย ส่วนนายคือคาเธอร์ ตกลงว่าฉันเข้าใจแล้วเธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

     

     

     

     

    ใช่ พวกเราสองคนเป็นบุตรของท่านพ่อผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองทวีปมารมาถึงห้าพันปี

     

     

     

     

    ห้าพันปี!” ฉันร้องเสียงดังอย่างตกใจ

     

     

     

     

    มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในเมื่อในโลกนี้เกือบทุกทวีปทุกคนล้วนมีอายุยืนยาวนับพันปี โดยเฉพาะท่านพ่อปีนี้ย่างเข้าปีที่ห้าพันหกร้อยแล้วด้วยซ้ำ

     

     

     

     

    ว่าไงนะ! ห้าพันหกร้อยปี!!” นะ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ล้อเล่นอีกใช่มั้ยเนี่ย

     

     

     

     

    หืม อะไรกัน แม้กระทั่งเรื่องนี้เธอยังลืมมันด้วยหรือ

     

     

     

     

    ละ... แล้วตอนนี้ฉันกับพี่พวกเราอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ

     

     

     

     

    ปีนี้เธออายุร้อยสิบห้า ส่วนพี่ก็ย่างเข้าปีที่เก้าร้อยสิบสี่

     

     

     

     

    ร้อยสิบห้ากับเก้าร้อยสิบสี่!! คนหรือปีศาจกันแน่เนี่ย! ให้ตายสิ นี่ฉันแก่ขนาดอายุร้อยสิบห้าปีเลยเหรอ แล้วทำไมก่อนหน้านี้ร่างจริงของฉันถึงมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างไปจากเด็กอายุสิบหกเลยล่ะฉันบ่นออกมาอย่างตกตะลึง

     

     

     

     

    ที่ผ่านมาก็นับว่าเหลือเชื่อจนทำเอาฉันแทบเป็นบ้าวันละหลายรอบแล้วนะ แต่นี่ยังต้องมาเจอเรื่องที่บ้ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมดอีก ต่อไปถ้าต้องเจอกับเรื่องประหลาดแบบไหนก็คงไม่ตกใจมากไปกว่านี้แล้วล่ะ

     

     

     

     

    เธอพูดอะไร อายุแค่ร้อยปีกว่าๆ ถือว่ายังเด็กมากนัก ส่วนใหญ่แล้วพวกที่อายุไม่ถึงสามร้อยปีถือว่ายังเป็นเด็กอยู่ทั้งนั้นและไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากทวีปด้วยซ้ำ

     

     

     

     

    ไอ้เรื่องแก่ไม่แก่ช่างมันเถอะ แต่ที่สงสัยคือทำไมพี่กับฉันอายุถึงได้ต่างกันมากนักล่ะ ถ้าพี่อายุเก้าร้อยสิบสี่ปีจริง แล้วทำไมถึงมีอายุมากกว่าฉันตั้งเกือบแปดร้อยปีล่ะ

     

     

     

     

    แปดร้อยปีเชียวนะ!

     

     

     

     

    หึ เรื่องนี้เองเหรอ ไม่แปลกอะไรหรอกในเมื่อเราสืบเชื้อสายโดยตรงจากท่านพ่อที่เป็นถึงราชาแห่งจอมมาร เหล่าราชาทุกเผ่าพันธุ์ล้วนมีลูกยากด้วยกันทั้งนั้น บางเผ่าพันธุ์ถึงกับต้องใช้เวลานับพันปีถึงจะตั้งครรภ์เลยก็มี อย่างเช่นเธอที่มีอายุห่างจากพี่ตั้งแปดร้อยปียังไงล่ะ ยิ่งเผ่าพันธุ์ไหนที่แข่งแกร่งมากก็ยิ่งต้องใช้เวลามากในการให้กำเนิดทายาท มันเป็นกฎของธรรมชาติที่ป้องกันไม่ให้ผู้มีพละอำนาจเหนือกว่าคนอื่นมีจำนวนมากเกินไป เพราะในอดีตการเข่นฆ่าแย่งชิงอำนาจกันเองก็เคยมีให้เห็นกันมามากแล้ว เท่าที่รู้เผ่าพันธุ์แวมไพร์แห่งทวีปพาเทียตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่าพวกเจ้าชายทั้งเก้าเริ่มลงมือต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงลำดับรัชทายาทอันดับหนึ่งกันแล้ว

     

     

     

     

    โลกนี้ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากโลกที่ฉันจากมาเลยสินะ ไม่ว่าที่ไหนก็มีแต่พวกโลภมาก บ้าอำนาจ เห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้น

     

     

     

     

    แล้วพี่ล่ะ พี่ไม่คิดจะทำอย่างนั้นกับฉันบ้างเหรอ ตอนนี้ฉันก็อ่อนแอและเป็นแค่เด็กไร้ฝีมือไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาอ่อนแอผู้หนึ่ง ถ้าคิดจะทำอะไรตอนนี้ก็สามารถลงมือได้อย่างง่ายดายไม่ใช่เหรอ

     

     

     

     

    ทันทีที่พูดจบคาเธอร์ก็มองหน้าฉันอย่างตะลึง ก่อนจะเก็บอาการกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

     

     

     

     

    เธอพูดอะไรผิดเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องขำนะ ดินแดนนี้ยังมีเรื่องประหลาดอะไรอีกก็ไม่รู้

     

     

     

     

     

    หึๆ เธอนี่ตลกจริงๆ พูดอะไรของเธอน่ะ รู้ไหมความขี้สงสัยเหมือนเด็กตัวเล็กๆ อันแสนน่ารักน่าชังของเธอทำให้พี่รู้สึกขำจนเกือบลืมบทพูดเชียวนะ พวกเราเผ่าพันธุ์มารไม่มีวันสู้หรือฆ่ากันเพียงเพราะเรื่องไร้สาระแค่นี้หรอกนะ เผ่าพันธุ์ของพวกเราก็เหมือนกับเผ่าพันธุ์มังกรที่ถือครอบครัวเป็นใหญ่ ยิ่งคนที่เป็นสายเลือดเดียวกันและอ่อนแอกว่าคนอื่นด้วยแล้ว พวกเรายิ่งแต่จะปกป้องและไม่มีวันคิดลงมือทำร้ายเข่นฆ่ากันเองอย่างเด็ดขาด

     

     

     

     

    จริงเหรอ คำพูดของคนตรงหน้าทำให้หัวใจเธอสั่นรัวไปหมด

     

     

     

     

    เจอเธอแบบนี้ก็ดี พี่จะได้พาเธอกลับบ้านเสียที ตอนนี้เวลาล่าช้าไปมากทีเดียว ทุกคนต้องดีใจแน่ๆ ที่รู้ว่าเธอปลอดภัย

     

     

     

     

    จะอะไรก็ช่างเถอะ เพราะที่พูดมาทั้งหมดมันหมายความว่าเธอมีครอบครัวและคนอื่นๆ รออยู่อีกใช่ไหม

     

     

     

     

    ให้ตายสิ หัวใจเธอเต้นระรัวเหมือนติดตั้งระเบิดอยู่แล้ว

     

     

     

     

    นับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอเผลอฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

     

     

     

    เฮ้อ ให้ตายสิ ตอนนี้พี่ชักรู้สึกกังวลซะแล้ว ซีแนลดูน้องตอนนี้สิใสซื่อเหมือนเด็กทารกเพิ่งเกิดไม่มีผิด อีกฝ่ายส่ายหน้าแล้วยิ้มขบขัน

     

     

     

     

    ทารก! จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้เป็นเด็กอมมือแบบนั้นนะ เธอยกมือขึ้นกอดอกแล้วทำหน้ายุ่งอย่างไม่สบอารมณ์

     

     

     

     

    ตอนนี้เธอเป็นแบบนั้นจริงๆ นี่นา อีกฝ่ายเอ่ยขณะยิ้มกว้างไม่หยุด

     

     

     

     

    คาเธอร์หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้นะ แล้วเปลี่ยนความคิดบ้าๆ นั่นด้วย ถ้ากล้าว่าฉันเป็นเด็กทารกอีกแค่คำเดียว ฉันจะฆ่าพี่ซะ เธอแทบอยากจะกระโดดบีบคออีกฝ่ายซะให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อเขาเอามือกุมท้องและหัวเราะกับท่าทางของเธอซะยกใหญ่

     

     

     

     

    ฮึ่ย ไอ้เจ้าพี่บ้า สักวันเถอะเธอต้องเอาคืนแน่คอยดู

     

     

     

     

    หลังจากที่เธอพยายามรบเร้าให้คาเธอร์พามายังประตูเชื่อมต่อทวีปราชันเพื่อเฝ้าชมผู้ทดสอบที่ทำพิธีคัดเลือกเข้าสู่ทวีปก่อนจะกลับบ้านในทวีปมารวันนี้ คาเธอร์ก็ปล่อยให้เธออยู่กับคลีเซอร์ บุรุษผู้มีผมและดวงตาสีฟ้าใสซึ่งเป็นผู้รับใช้หน้าตายของเขา

     

     

     

    เป็นเพราะคาเธอร์ติดภารกิจที่ได้รับมอบหมายซึ่งสำคัญหลีกเลี่ยงไม่ได้ คล้ายได้ยินว่าต้องทำการหาจุดที่แน่นอนในการเปิดประตูเคลื่อนย้าย เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจฟังนักเธอจึงไม่รั้นจะติดตามเขาไปด้วย ขณะที่อีกฝ่ายย้ำนักย้ำหนาว่าให้คลีเซอร์พาเธอไปยังจุดนัดพบเพื่อกลับบ้าน

     

     

     

     

    ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอมีเวลาชื่นชมกับการดูพิธีกรรมคัดเลือกผู้คนเข้าสู่ทวีปราชันย์ไม่มาก เนื่องจากคาเธอร์สั่งกำชับผู้รับใช้ของเขาไว้ว่าเมื่อครบเวลาให้พาตัวเธอกลับไปเจอเขาทันที

     

     

     

     

    อีกอย่างซีแนลรู้ดีว่าพี่ชายของเธอร้ายกาจน้อยซะที่ไหน อย่างน้อยเธอก็พอทราบว่าภายใต้บุคลิกใจดีนั่นเต็มไปด้วยความร้ายกาจมากทีเดียว ขนาดผู้รับใช้อย่างคลีเซอร์เองก็ยังน่าหวั่นเกรงไม่น้อยกว่ากันเลย

     

     

     

     

    ซีแนลถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

     

     

     

     

    คลีเซอร์เป็นมนุษย์หน้าตายที่เหมือนหุ่นยนต์ ถามคำตอบคำไม่แม้แต่จะขยับ จนเธออยากจะถามเขาว่ามีปุ่มกดที่เพิ่มความสามารถในการพูดคุยได้มากกว่านี้อีกหรือไม่

     

     

     

     

    ขณะที่เฝ้าชมผู้ทดสอบมากมายคนแล้วคนเล่าไปยืนจดจ่ออยู่หน้าประตูทดสอบจนต้องถอนตัวกลับไป แต่จู่ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งน่าสนใจปรากฏตัวขึ้นมา

     

     

     

     

    เธอไม่เห็นว่าอีกฝ่ายมีหน้าตาเป็นยังไง เพราะคนส่วนใหญ่ล้วนปิดบังใบหน้าด้วยชุดคลุมสีดำด้วยกันแทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่คลีเซอร์ที่ยืนอยู่ข้างกายเองก็เช่นกัน

     

     

     

     

    ทว่าครู่หนึ่งเธอกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันบางอย่างจากคนที่เพิ่งมาใหม่ เขาดูต่างจากคนอื่นออกไปโดยเฉพาะลวดลายบนผืนผ้าคลุมสีดำ

     

     

     

     

    ขณะที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูแห่งการเลือกสรรได้ไม่นานก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีลมพัดหมุนโดยรอบและขอบประตูลามไปถึงกำแพงรอบๆ เริ่มเปล่งแสงเป็นสัญญาณเล็กน้อย

     

     

     

     

    คนๆ นี้ผ่านการคัดเลือกสินะ

     

     

     

     

    เปรี้ยง!

     

     

     

     

    เสียงสายฟ้าผ่าลงตรงบริเวณลานหน้าประตูเชื่อมต่อ ทันทีทันใดนั้นก็ปรากฏมังกรตัวใหญ่ยักษ์สีดำตัวหนึ่ง บรรยากาศรอบๆ เงียบลงและเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกใจทันที มังกรที่ปรากฏตัวขึ้นมาน่าดูน่าเกรงขามกว่าตัวที่เธอเคยเจอก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า

     

     

     

     

    ไม่นานมังกรตัวนั้นก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งและคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผู้เข้าทดสอบครั้งนี้ทันที

     

     

     

     

    ชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งเปลี่ยนร่างจากมังกรตัวนั้นแสดงความเคารพต่อหน้าบุคคลที่เข้าทดสอบงั้นเหรอ!?

     

     

     

     

    เกิดอะไรขึ้นน่ะคลีเซอร์ เธอร้องถาม

     

     

     

     

    ถ้าจำไม่ผิดการกระทำเมื่อครู่เหมือนกับตอนที่คลีเซอร์แสดงต่อพี่ชายของเธอไม่มีผิด ต่างตรงว่ามันดูแกร่งกร้าวและตั้งใจแผ่อำนาจให้คนรอบข้างเห็นมากกว่า

     

     

     

     

    เธอถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขณะชะโงกหน้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่กะพริบตา

     

     

     

     

    ผู้ที่ถูกเลือกสรรแล้วเท่านั้นจึงจะข้ามผ่านประตูนี้เข้าไปในทวีปราชันย์ นอกจากจะต้องให้ประตูตอบรับแล้ว ผู้ใดที่ยังไม่มีผู้รับใช้มันก็จะเรียกออกมา

     

     

     

     

    คนที่ไม่มีผู้รับใช้สามารถเรียกผู้รับใช้ออกมาได้ด้วยเหรอ เธอทำตาโต

     

     

     

     

    ได้ยินแต่ว่าคนที่จะเข้าไปได้ต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือมีผู้รับใช้ติดตามตัว แต่จากเวทีประมูลทาสผู้รับใช้มาจากการซื้อขายไม่ใช่เหรอ

     

     

     

     

    เอ๊ะ แต่เท่าที่เห็นคลีเซอร์ก็เป็นผู้รับใช้ของคาเธอร์เหมือนกันนี่

     

     

     

     

    ตามที่คลีเซอร์บอกก่อนหน้าตอนที่เธอซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเขา ผู้รับใช้คล้ายๆ กับอาวุธชิ้นหนึ่งของผู้มีเวทมนตร์ที่แข็งกล้า ส่วนมากพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับมนุษย์ และเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์ภูติที่มีพลังเวทมนตร์ สามารถปรากฏตัวในรูปแบบของสัตว์และรูปร่างมนุษย์ ด้วยการทำพันธสัญญาโดยใช้จิตวิญญาณเลือกเจ้าของ หรืออาจจะถูกซื้อจากการค้าทาส หรือการเอาชนะใจอีกฝ่าย โดยให้สัตย์สาบานผ่านพลังเวทมนตร์ว่าจะไม่ทรยศและจงรักภักดี

     

     

     

     

    แล้วต่างกันตรงไหนเหรอเธอถามด้วยความสงสัย

     

     

     

     

    ประตูคัดเลือกที่ท่านเห็นเบื้องหน้าสามารถเรียกได้อีกนัยหนึ่งว่าประตูแห่งสัจจะและอำนาจ สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติและความกล้าแกร่งตามเงื่อนไขบางอย่าง ประตูจะสามารถจะเชื่อมจิตวิญญาณและเรียกร้องผู้รับใช้ของตัวเองออกมาโดยทันที นั่นหมายความว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเรียกผู้รับใช้ที่วัดจากพลังจิตวิญญาณของตัวเองได้ ไม่ว่าผู้รับใช้ของตัวเองจะอยู่แห่งใดพลังนั้นก็จะร้องเรียกหากันและปรากฏขึ้นที่นี่

     

     

     

    อย่างนั้นทำไมคนอื่นๆ ต้องไปดิ้นรนซื้อหรือบังคับภูติมาเป็นผู้รับใช้ให้เสียเวลาด้วยล่ะ แค่ก้าวย่างไปปรากฏตัวเบื้องหน้าประตูนี่ก็สามารถเรียกผู้รับใช้ของตัวเองออกมาได้แล้วไม่ใช่เหรอ

     

     

     

     

    มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ท่านคิดหรอกเจ้าหญิง ประตูแห่งสัจจะและอำนาจสามารถทำให้ผู้รับใช้ของตัวเองปรากฏตัวออกมาได้ก็จริง แต่ถ้าใครไม่มีพลังและคุณสมบัติเพียงพอ ก็มิอาจเรียกออกมาได้เช่นกัน อีกทั้งคนผู้นั้นจะไม่มีวันมีผู้รับใช้ได้อีกชั่วชีวิต นัยหนึ่งคล้ายกับเป็นคำสาปสำหรับผู้หาญกล้าที่คิดท้าทายต่ออำนาจของประตูแห่งอำนาจ หลังจากนั้นต่อให้พยายามทำพันธสัญญาเวทมนตร์กับผู้รับใช้ตนอื่นสักกี่ครั้งก็ไม่เป็นผล ด้วยเหตุนั้นถ้าท่านไม่มั่นใจในตัวเองว่าพลังเวทมนตร์ของตนเองแข็งแกร่งมากพอแล้วละก็อย่าได้คิดลองดีโดยไม่มีผู้รับใช้ที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วและก้าวข้ามไปปรากฏตัวเบื้องหน้าประตูทดสอบขณะทำพิธีเช่นนี้อย่างเด็ดขาด

     

     

     

     

    ถ้ามันน่ากลัวขนาดนั้น ทำไมฉันถึงเห็นคนอื่นๆ ถึงกล้ายืนอยู่ใกล้ประตูเชื่อมต่อนั้นเต็มไปหมดล่ะ

     

     

     

     

    เช่นนั้นท่านลองสังเกตดูดีๆ สิว่าพวกเขามีผู้รับใช้ติดตามตัวหรือไม่

     

     

     

    อ๊ะ จริงด้วย

     

     

     

     

    ต่อให้เป็นภูติรับใช้ที่ได้จากการถูกซื้อหรือบังคับขู่เข็ญ แต่ก็ถือว่ามีคุณสมบัติสินะ

     

     

     

     

    เอ๊ะ นั่น! ลูกแก้วสีฟ้าที่อยู่ในมือคนที่สามารถเรียกมังกรมาเป็นผู้รับใช้ให้ตัวเองเมื่อครู่นี้นี่

     

     

     

     

    นั่นคือกุญแจ

     

     

     

     

    กุญแจ!? เธอขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยทันที

     

     

     

    คนที่ผ่านเข้าสู่ทวีปราชันจะได้รับกุญแจ เพียงแค่กำมันให้แตกเท่านั้นก็สามารถเข้าสู่ทวีปราชันย์ได้ทันที

     

     

     

    อย่างนั้นเองเหรอเนี่ย แล้วถือไว้แบบนั้นเขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะขโมยไปเหรอคลีเซอร์

     

     

     

     

    ไม่มีใครสามารถขโมยกุญแจของท่านได้หรอก เพราะถ้าถูกช่วงชิงไปมันก็จะกลับคืนสู่มือเจ้าของทันทีเช่นกัน

     

     

     

     

    แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลยสินะเขาพยักหน้าเบาๆ

     

     

     

     

    To be continue…

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×