ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิภพราชันย์ออนไลน์ [Online]

    ลำดับตอนที่ #3 : พิภพราชันย์ออนไลน์ :: สู่โลกเสมือน (2)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57







    พิ ภ พ ร า ชั น ย์ • อ อ น ไ ล น์







     


    ตอนที่ 1 สู่โลกเสมือน (2)

     

     

     

     

    ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนเหรอเซมีน ฉันหมายถึงฉันอยู่ตรงส่วนไหน บนถนนอะไรเธอสลัดเรื่องราวกวนใจทิ้งแล้วรีบหันไปถามเด็กสาวข้างๆ

     

     

     

     

    พี่สาวพูดเรื่องอะไรคะ เซมีนไม่เห็นเข้าใจเลย ที่ๆ เราอยู่ตอนนี้คือทวีปโซโนเทียทิศตะวันออก

     

     

     

     

    แล้วโซโนเทียนี่มันอยู่ตรงส่วนไหนของโลกล่ะ นี่อย่าบอกนะว่ากระแสน้ำพัดฉันจนหลุดออกมานอกประเทศ เธออ้าปากค้างพลางส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ

     

     

     

     

    แปลกจังเลย พี่สาวไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมถึงไม่รู้จักโซโนเทียดินแดนอิสระแห่งภูติและจอมเวทล่ะคะ ในโลกนี้มีน้อยคนมากเลยที่จะไม่รู้จักโซโนเทีย เพราะโลกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 8 ทวีปเท่านั้น แต่ละทวีปก็ล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดัง

     

     

     

     

    เซมีนเอ่ยขณะไม่ได้ดูสีหน้าอึ้งตะลึงของเธอแม้แต่น้อย ริมฝีปากเล็กๆ ของเธอร่ายยาวถึงเรื่องราวประหลาดพร้อมกับยกมือออกมานับนิ้วทำท่าทางประกอบไม่ยอมหยุด

     

     

     

    ทวีปลอร์ม

    เผ่าพันธุ์มนุษย์อาศัยอยู่

    ทวีปสเลฟ

    ดินแดนของทาสและกบฏผู้ถูกเนรเทศ

    ทวีปพาเทีย

    ดินแดนของเชื้อสายแวมไพร์ปกครอง

    ทวีปฟรอน

    ดินแดนมังกรสายเลือดศักดิ์สิทธิ์

    ทวีปอลันกราวูล์ฟ

    ดินแดนปีศาจผู้น่าหวาดกลัว

    ทวีปเฟลคอน

    ดินแดนแห่งจอมมาร

    ทวีปราชันย์

    ดินแดนปิดกั้นสำหรับผู้ถูกเลือก

    ทวีปโซโนเทีย

    ดินแดนอิสระแห่งภูติ ผู้วิเศษและจอมเวท

     

     

     

    “แล้วตรงจุดที่เราอยู่คือโซโนเทียตะวันออกสถานอยู่ติดกับเขตแดนทวีปราชันย์ค่ะ”

     

     

     

    เดี๋ยวนะ! เมื่อครู่นี้เธอว่าอะไรนะ ภูติ จอมเวท ปีศาจ แวมไพร์ มังกร จอมมาร นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เธอกำลังล้อเล่นฉันอยู่ใช่ไหมเซมีน เลิกล้อเล่นฉันสักทีเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน กลับนิวยอร์กของฉันน่ะ อีกอย่างถึงล้อเล่นไปฉันก็ไม่เชื่อเธอหรอก เลิกพูดถึงเรื่องเทพนิยายอะไรพวกนี้ได้แล้ว มุขขำๆ ที่หัวเราะไม่ออกพรรค์นี้เอามาใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอกนะ

     

     

     

    เธอยกมือขึ้นกุมหัวด้วยความสับสนอีกครั้งขณะพ่นคำบ่นออกมาด้วยความอัดอั้นขณะอีกฝ่ายยืนจ้องตาแป๋ว

     

     

     

    เซมีนมองเธอด้วยสีหน้างุนงงและเอียงคออย่างน่ารัก ในดวงตากลมโตที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์ใจนั้นไม่ได้ซุกซ่อนคำโกหกอยู่เลย

     

     

     

     

    ให้ตายสิ! สาบานได้เลยว่าไอ้ท่าทางแบบนี้ชักทำให้เธอเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ

     

     

     

     

    ตอนนี้มีเรื่องแปลกประหลาดหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันจนนับแทบไม่ทัน

     

     

     

     

    นิ้วมือเรียวเล็กของเธอเริ่มจิกเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัวหลังจากเริ่มคิดทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ความลังเลที่ก่อตัวขึ้นชักจูงให้บั่นทอนความมั่นใจของเธอลงไปทุกขณะ

     

     

     

     

    เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่เธอจมลงในแม่น้ำจนขาดอากาศหายใจ ความรู้สึกหดหู่ก็ประดังวูบเข้ามา รสชาติความทรมานอันขมปร่าในเฮือกสุดท้ายของชีวิตที่ดิ้นรนก่อนตายนั้น ไม่มีทางที่เธอจะลืมมันได้ลงหรอก

     

     

     

     

    ความรู้สึกทุกข์ทรมานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสิ้นหวังยังฝังแน่นลึกลงในจิตวิญญาณของเธอจนถึงชั่วขณะนี้ รวมถึงตอนที่จมดิ่งอยู่ในความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุดนั่นอีก ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นชวนให้จิตใจหวาดหวั่นสั่นสะพรึง

     

     

     

     

    หากพูดให้ถูกแล้ว...

     

     

     

     

    บอกได้เพียงว่าบางทีเธออาจจะหลงอยู่ในโลกประหลาดที่เซมีนกล่าวจริงๆ ก็เป็นได้

     

     

     

     

     ให้ตายสิ เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่นะ ฉันรู้สึกสับสนจนหัวแทบระเบิดอยู่แล้ว ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีเถอะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่จริง!” เสียงสบถดังขึ้นพร้อมๆ กับความรู้สึกกังวลร้นรน

     

     

     

     

    และสิ่งที่ตัวเธอกลัวมากที่สุดตอนนี้คือ...  ภายใต้ลึกๆ ในใจของตัวเองมันเริ่มยอมรับความจริงมากขึ้นทุกที

     

     

     

     

    เซมีนสะดุ้งตกใจกับเสียงหวีดร้องโมโหจากการกระทำอันไม่ตั้งใจของเธอจนน้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ

     

     

     

     

    ฮือ พี่สาวอย่าโกรธเซมีนเลยนะคะ เซมีนไม่ได้โกหก พวกเราอยู่ในโซโนเทียตะวันออกจริงๆ แล้วเซมีนก็ไม่รู้จักบ้านของพี่สาวด้วย บางทีบ้านพี่สาวอาจจะอยู่ในประเทศที่ไกลมากๆ จากทวีปอื่นก็ได้ เซมีนไม่รู้จริงๆ เพราะเซมีนไม่เคยไป เซมีนขอโทษที่พูดเหมือนพี่สาวเป็นคนโง่เพราะไม่รู้จักโซโนเทีย

     

     

     

     

    ให้ตายสิ รู้อะไรมั้ย ฉันแพ้น้ำตาเด็กล่ะ!

     

     

     

     

    โอ๋ๆ เซมีนอย่าร้องไห้สิ พี่สาวขอโทษ พี่ไม่ได้ว่าอะไรเซมีนเลยนะ ตอนนี้พี่สาวเชื่อแล้วว่าเราอยู่โซโนเทียจริงๆ

     

     

     

     

    ถ้าย้อนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันก็คงไม่แปลกอะไรถ้าเธอจะหลุดเข้ามาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักใช่ไหม หากคิดอีกแง่หนึ่งความตายของเธอนั้นถือว่าไม่ใช่จุดจบ

     

     

     

     

    ในเมื่อปัญหาทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วต่อให้โวยวายหรือค้นหาคำตอบไปก็คงเสียแรงเปล่า ฉะนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตั้งสติและเปิดใจยอมรับเพื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดฝันก่อนเป็นอันดับแรก

     

     

     

     

    จริงเหรอคะ พี่สาวไม่โกรธเซมีนจริงๆ นะ

     

     

     

     

    จ้า ไม่โกรธ

     

     

     

     

    น้ำตาและท่าทางเสียใจเมื่อครู่ของเซมีนหายเป็นปลิดทิ้งราวกับมันไม่เคยมีมันมาก่อน เพราะอย่างนี้สิเธอถึงไม่ถูกชะตากับเด็ก อาศัยความเจ้าเล่ห์และความใสซื่อบริสุทธิ์เป็นเครื่องต่อรอง ชวนให้น่าปวดหัวนัก

     

     

     

     

    แล้วพี่สาวพอจะนึกอะไรออกบ้างหรือยังคะ จำได้หรือยังว่าตัวเองชื่ออะไร

     

     

     

     

    ซีแนล เฟลคอนมั้ง

     

     

     

     

    เธอเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมในหัวจึงผุดชื่อนี้ขึ้นมาไม่หยุด จึงได้ตัดสินใจเอ่ยชื่อนั้นออกมาเบาๆ

     

     

     

     

    พะ... พี่สาวว่าอะไรนะคะ

     

     

     

     

    พี่คิดว่าตัวเองอาจชื่อ ซีแนล เฟลคอนก็ได้

     

     

     

     

    พะ... พี่สาวเป็นอะไรกับราชาจอมมารเหรอ!?เซมีนถามฉันพลางถอยห่างออกไปครึ่งก้าวด้วยท่าทางหวาดกลัว

     

     

     

     

    ราชาจอมมารอะไรกันน่ะ?

     

     

     

     

    เธอมองหน้าเซมีนที่ขณะนี้เต็มไปด้วยความวิตกกังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดด้วยความไม่เข้าใจ

     

     

     

     

    ก็ราชาผู้เป็นใหญ่สูงสุดเหนือมารทั้งปวงแห่งทวีปมารนะสิคะ

     

     

     

     

    แล้วทำไมต้องคิดว่าฉันเกี่ยวข้องอะไรราชาแห่งดินแดนมารอะไรนั่นด้วยล่ะไม่ว่ายังไงเธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหละ

     

     

     

     

    ก็พี่สาวบอกว่าตัวเอง ชะ... ชื่อ ซีแนล เฟลคอน

     

     

     

     

    เซมีนเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียงนัก ปลายเสียงแผ่วเบาด้วยความหวาดกลัวจนเธอชักไม่เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังหวาดกลัวอะไรกันแน่

     

     

     

     

    แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ

     

     

     

     

    แปลกสิคะ ก็ในโลกนี้เกือบทุกทวีปจะมีราชาผู้เป็นใหญ่สูงสุดปกครองดินแดนของตัวเองอยู่ แม้แต่กษัตริย์หลายประเทศในดินแดนนั้นก็ยังต้องก้มหัวให้ ผู้ที่สืบสายเลือดของราชาโดยตรงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ใช้ชื่อของทวีปตั้งเป็นชื่อต่อท้ายชื่อจริงของตัวเองได้

     

     

     

     

    อย่างเช่น ลอร์ม เป็นชื่อของเชื้อสายราชาผู้ปกครองทวีปเผ่ามนุษย์ พาเทีย เป็นชื่อของเชื้อสายราชาแวมไพร์ ฟรอน เป็นชื่อของเชื้อสายราชามังกร อลันกราวูล์ฟ เป็นชื่อของเชื้อสายราชาปีศาจ และเฟลคอน เป็นชื่อของเชื้อสายของสายเลือดราชามาร!

     

     

     

     

    เซมีนบางทีคนเราอาจจะชื่อซ้ำกันก็ได้นะ

     

     

     

     

    เธอสันนิษฐานโดยใช้ประสบการณ์จากโลกเดิมของตัวเอง ดูตัวอย่างไมเคิล จอห์นสิ ในนิวยอร์กมีคนชื่อนี้ซ้ำกันเกินกว่าพันเลยด้วยซ้ำ

     

     

     

     

    ไม่มีทางหรอกค่ะ เพราะมันเป็นข้อห้ามร้ายแรง ต่อให้เป็นเครือญาติหรือมีสายเลือดใกล้ชิดแค่ไหน แต่ถ้าไม่ใช่เจ้าหญิงหรือเจ้าชายที่สืบทอดสายเลือดของราชาผู้เป็นใหญ่โดยตรงแล้วละก็ไม่มีใครกล้าเอาชื่อนั้นมาแอบอ้างต่อท้ายชื่อของตัวเองแน่ๆ

     

     

     

     

     ถ้าอย่างนั้นฉันคงจำผิดไปจริงๆ นั่นแหละ คิดดูสิ ตอนนี้ฉันมีอาการป่วยยังไม่หายสนิทไม่ใช่เหรอ อีกทั้งฉันยังจำเรื่องราวอะไรในโลกนี้ไม่ได้เลย ไม่รู้จักแม้กระทั่งโซโนเทีย บางทีฉันอาจจะเป็นโรคความจำเสื่อมอย่างที่เธอบอก เพราะอย่างนั้นเวลาที่ได้ยินอะไรมาก็อาจจะเผลอพูดซี้ซั้วไปบ้าง

     

     

     

     

    เฮ้อ พี่สาวอย่าล้อเล่นให้ใจหายกันอย่างนี้สิคะ ล้อเล่นแบบนี้ไม่ดีเลย ที่สำคัญพี่สาวห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครได้ยินเป็นอันขาดนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นพี่สาวจะถูกมองว่าแอบอ้างและทำให้ชีวิตสั้นลงอย่างไม่รู้ตัวนะเสียงทอดถอนหายใจลากยาวบวกกับใบหน้ายุ่งๆ ของเซมีนแทบทำให้ฉันหลุดขำแทบไม่รู้ตัว

     

     

     

     

    เฮ้อ เด็กอะไรช่างน่ารักเสียจริงเชื่อคนง๊ายง่าย ดีจังเลยนะที่ในโลกนี้ยังหลงเหลือคนที่ห่วงใยความรู้สึกคนอื่นอยู่ด้วย

     

     

     

     

    จ้าๆ รู้แล้วจ้า

     

     

     

     

    เธอพยักหน้าเบาๆ ให้เซมีนที่ยืนกอดอกตีสีหน้าเคร่งเครียด พลางนึกถึงเรื่องราวของเสียงเรียกปริศนานั่น

     

     

     

     

    เสียงของใครกันนะ!? ให้ตายสิ สักวันหนึ่งฉันจะต้องรู้ให้ได้คอยดูเถอะ

     

     

     

     

    แล้วไหนจะ เฟลคอน ผู้สืบสายเลือดของราชาแห่งทวีปมารนั่นอีก

     

     

     

     

    ไม่ว่านี่จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือปาฏิหาริย์อะไรกันแน่ แต่รับรองว่าชีวิตใหม่ในครั้งนี้เธอจะใช้มันให้คุ้มค่าให้สมราคาอย่างดีที่สุดเชียวล่ะ

     

     

     

     

    ...และไม่แน่ว่านับต่อจากนี้ชีวิตสนุกๆ ที่ไม่เคยได้สัมผัสอาจเริ่มขึ้นแล้วก็เป็นได้

     

     

     

     

    ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วที่เธอใช้ชีวิตและเรียนรู้อยู่ท่ามกลางโลกใหม่อันแสนแปลกประหลาดนี้ แม้จะลำบากอยู่บ้างในตอนแรก แต่ก็ไม่ยากนักที่จะปรับตัว

     

     

     

     

    สิ่งแรกที่เธอสัมผัสได้จากผู้ให้ความช่วยเหลือคือความซื่อตรงจริงใจอย่างหาไม่ได้จากสังคมเก่าในโลกเดิม มันทำให้เธอเริ่มชอบชีวิตใหม่นี้ขึ้นมากทุกที

     

     

     

     

    บ้านของเซมีนเป็นบ้านหลังสุดท้ายในย่านคนจนของเมืองเก่าที่ถูกทิ้งร้างและห่างไกลความเจริญในทวีปโซโนเทียตะวันออก อยู่ติดกับเขตแดนทวีปราชันย์พอดิบพอดี

     

     

     

     

    การติดต่อค้าขายแต่ละครั้งจึงจำเป็นต้องเดินทางไปในตลาดเมืองข้างๆ โดยใช้เวลาเดินทางหลายวัน

     

     

     

     

    บ้านของเซมีนทำอาชีพหาสมุนไพรและนำตัวยามากลั่นเป็นเม็ดไว้สำหรับขายและใช้เอง รายได้ความเป็นอยู่ของเธอจึงค่อนข้างลำบากมากทีเดียว

     

     

     

     

    เซมีนเล่าว่าคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์เสียส่วนใหญ่และให้ความเคารพนับถือภูติ ซึ่งสามารถดูจากแท่นหินบูชาภูติที่ดูใหม่และสะอาดเอี่ยมเพราะได้รับการผลัดเปลี่ยนดูแลอยู่เสมอ ภูติจะแอบช่วยเหลือมนุษย์อยู่ห่างๆ และคอยให้พรที่ทำให้ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์

     

     

     

     

    ภูติเป็นเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่เกือบทุกที่ในโซโนเทีย มีทั้งเปิดเผยและหลบซ่อนตัว รูปร่างของภูติเหมือนกับมนุษย์ทุกอย่างยกเว้นสีผมและดวงตาที่มีหลากหลายสีสันแตกต่างกันไปตามความสามารถ

     

     

     

     

    ภูติที่อ่อนแอจะหลบซ่อนตัวไม่ให้ใครพบเห็น เพราะมีกลุ่มนักเวทที่เรียกตนเองว่านักล่าพยายามจับภูติไปขายตลาดมืด ว่ากันว่ากลุ่มคนชั่วพวกนี้กระจายตัวอยู่เกือบทั่วทุกทวีป คอยประสานงานกันอย่างรวดเร็วและไหวตัวได้เร็วเวลาที่ถูกจับได้

     

     

     

     

    ดังนั้น ภูติที่มีพลังอ่อนแอจึงเลือกที่จะหลบซ่อนตัว ต่างจากภูติที่แข็งแกร่งที่เลือกเดินทางไปสมัครเป็นอัศวิน ทหาร หรือแม้แต่องครักษ์ประจำตัวกษัตริย์ในแต่ละประเทศตามทวีปต่างๆ แต่ก็มีภูติบางตนที่ยอมเป็นผู้รับใช้ของผู้แข็งแกร่งเพื่อให้ตัวเองถูกเลือกเข้าไปสู่ทวีปราชันย์

     

     

     

     

    ทัศนียภาพของเมืองเก่าที่เซมีนอาศัยอยู่ถูกล้อมรอบด้วยป่าหนาทึบและซากปรักหักพังเกี่ยวกับอารยะธรรมโบราณที่ผสมผสานทางด้านเวทมนตร์

     

     

     

     

    ซีแนลรู้สึกแปลกใจอยู่มากเมื่อรู้ว่าในโลกนี้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดๆ ล้วนใช้เวทมนตร์เป็นด้วยกันแทบทั้งสิ้น ถึงแม้จะมีความสามารถที่ไม่ทัดเทียมกัน แต่เด็กทารกทุกคนจะเกิดมาพร้อมธาตุควบคู่กันมาตั้งแต่กำเนิด อย่างเช่นเซมีนคนหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษในการควบคุมธาตุน้ำ แต่เป็นความสามารถเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ได้แค่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปสู้รบปรบมือกับใครที่ไหนได้

     

     

     

     

    เซมีนพยายามสอนเธอให้รู้เกี่ยวกับเวทมนตร์เบื้องต้นและการจำแนกพวกธาตุ ซึ่งถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายประเภท ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง ไม้ สว่าง และความมืด

     

     

     

     

    แต่เธอไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนัก เพราะอย่างไรเสียตัวเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้เวทมนตร์พวกนั้นไม่ได้ อีกทั้งหลังจากสำรวจร่างกายนี้จนละเอียดแล้วก็ไม่พบว่าตัวเองจะมีพลังพิเศษใดๆ

     

     

     

     

    สองสามวันนี้ดูเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับเมืองเก่าแห่งนี้ เมื่อผู้คนมากมายทั่วสารทิศต่างแห่เดินทางเข้ามาหาที่พักแน่นขนัดเสียจนนึกไปว่าตัวเองหลงเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงสำคัญๆ สักแห่งหนึ่ง

     

     

     

     

    ตามท้องถนนหนทางและตลาดล้วนครึกครื้นไปด้วยเสียงดนตรีและสิ้นค้า มีผู้คนจำนวนมากทยอยออกมาจับจ่ายแลกเปลี่ยนสิ่งของกันแม้แต่ในยามค่ำคืน

     

     

     

     

    เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็น ภูติ จอมเวท ปีศาจ แวมไพร์ ผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์ตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิดในคราวเดียว ตอนนั้นเองที่ได้ตระหนักว่ารูปร่างหน้าตาตัวเองไม่ได้โดดเด่นจากคนอื่นเลยสักนิด จะว่าไปแล้วผู้คนในโลกใบนี้ล้วนแต่มีรูปร่างหน้าตางดงามหมดจดชวนให้ตกตะลึงกันแทบทั้งสิ้น

     

     

     

     

    เธอกับเซมีนดีใจมากที่สมุนไพรถูกขายจนหมดในวันเดียว รายได้จากการขายในครั้งนี้เพียงพอที่จะทำให้พออยู่ไปได้ทั้งเดือน

     

     

     

     

    หลังจากนั้นพวกเราทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปยังชายป่าที่พบร่างอันสลบไสลของเธอในครั้งแรกซึ่งเป็นแหล่งของสมุนไพรชั้นดี

     

     

     

     

    หลังจากได้รู้ถึงสาเหตุที่เมืองเต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกที่เมื่อสี่วันก่อน

     

     

     

     

    ก็ทราบว่าอีกสองวันข้างหน้าจะมีการคัดเลือกผู้คนเข้าสู่ทวีปราชันย์ โดยการคัดสรรจากประตูคัดเลือก ประตูเชื่อมต่อดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของทวีปราชันย์ ดินแดนที่ปิดกั้นไม่ให้ผู้ใดย่างกรายเข้าไปนับหลายร้อยปี

     

     

     

     

    อีกทั้งเซมีนยังเล่าให้ฟังว่าทวีปราชันย์เป็นทวีปอันลึกลับที่มีอำนาจเหนือทวีปใด ผู้คนภายในทวีปล้วนมีเวทมนตร์ที่เก่งกาจและยากที่จะต่อกร

     

     

     

     

    นานมาแล้วตั้งแต่ก่อกำเนิดผืนแผ่นดิน ทวีปราชันย์เป็นพื้นที่ตั้งอยู่ใจกลางซึ่งถูกรายล้อมด้วยทวีปอื่นๆ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรเวทมนตร์ด้านแร่ธาตุในการผลิตอาวุธ จนก่อให้เกิดสงครามแย่งชิงเข่นฆ่ากัน

     

     

     

     

    ผู้คนเสียชีวิตไปจำนวนมากและเกิดความแตกแยกจนยากที่จะแก้ไข เป็นหายนะนำพาไปสู่ความสูญเสียอันหาบทสรุปไม่ได้

     

     

     

     

    ครั้งนั้นพวกจอมเวทและราชาผู้ปกครองทวีปทั้งหลาย รวมไปถึงกษัตริย์จากทั่วทุกทวีปเห็นพ้องกันว่า ทุกชีวิตสมควรได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกัน โดยมอบสิทธิ์แก่ผู้มีเวทมนตร์ทุกเผ่าพันธุ์ว่าสามารถแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งราชากันด้วยความยุติธรรมโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น

     

     

     

     

    บทสรุปสุดท้ายในเวลาต่อมาคือ เขตปิดกั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ถือกำเนิดขึ้นจากการสละชีพของมหาจอมเวทและนักบวช รวมไปถึงปีศาจผู้เก่งกาจจำนวนนับหมื่นที่ได้ร่วมใจกันร่ายมหาเวทมนตร์ต้องห้าม พลังมหาศาลปิดกั้นดินแดนมิยินยอมให้ผู้ใดสามารถล่วงล้ำผ่านพ้นเข้าไปได้ นอกเสียจากการถูกคัดสรรพลังเวทมนตร์ผ่านประตูคัดเลือกเท่านั้น

     

     

     

     

    แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเป็นที่สุดคือ ผลสรุปของผู้ชนะที่ได้ครอบครองตำแหน่งราชาแห่งทวีปราชันย์คนแรกกลับเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง เผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอซึ่งมีความอ่อนโยนเป็นที่สุด

     

     

     

     

    ผู้แข่งขันฝีมือเก่งกาจเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่เหลือรอดในคราวนั้นเลือกตัดสินใจอาศัยอยู่ในทวีปราชันย์และติดตามเป็นผู้ดูแลให้ความช่วยเหลือราชาองค์ใหม่ด้วยความสมัครใจ

     

     

     

     

    ดังนั้น ทวีปราชันย์จึงรวมผู้เก่งกาจราวกับปีศาจเอาไว้ด้วยกัน และแม้ว่าราชาของทวีปรอบนอกอยากจะขัดขืนต่อกรหรือก่อสงครามกันเองก็มิอาจสามารถทำได้ เพราะทวีปราชันย์ได้ทำการร่ายพันธสัญญาเลือด

     

     

     

     

    หากผู้ใดฝ่าฝืน... คำสาปต้องห้ามแห่งหายนะจะส่งผลไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ด้วยเหตุนั้นเองทั่วทุกทวีปจึงมีแต่ความสงบสุขเรื่อยมา

     

     

     

     

    แม้แต่ละทวีปจะไม่พอใจหรือตั้งตัวเป็นศัตรูคู่แค้นกันอย่างไร ก็ไม่สามารถขัดขืนสัจจะสาบานพันธะเวทมนตร์ที่สืบเนื่องต่อกันมาได้ ท้ายที่สุดแล้วเพื่อเป็นการแก้ปัญหาความแตกแยก ทวีปราชันย์จึงเปิดให้มีผู้ถูกคัดเลือกทุกๆ ห้าร้อยปี เดินทางเข้าไปตัดสินความแค้นและแย่งชิงตำแหน่งต่างๆ ในทวีปราชันย์เพื่อลดความบาดหมางของเผ่าพันธุ์ตัวเอง

     

     

     

     

    ผู้ที่ถูกเลือกทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกอาศัยอยู่ในทวีปราชันย์ หรือเดินทางเข้าออกได้เป็นครั้งคราวตามเงื่อนไขข้อตกลงบางอย่าง เซมีนบอกว่าส่วนมากคนที่เข้าไปไม่ได้กลับออกมา ไม่มีใครล่วงรู้ว่าภายใต้ดินแดนนั้นเป็นอย่างไร ผู้คนล้วนแต่เข้าใจว่ามันคือดินแดนวิเศษ

     

     

     

     

    To be continue…

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×