คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Fanciful 4
เช้าของอีกวันหลังจากที่ผมและซองมินนั้นโทรคุยกันเมื่อคืนเรื่องแผนการในการจะชนะทงแฮและแก้แค้นคยูฮยอนผมฟังแผนการแล้วผมว่าผมกลัวว่าซองมินจะเจ็บ สมควรที่จะเป็นผมที่มีปัญหาแต่ คงต้องกลับไปเป็นซองมินที่ ถ้ารู้ว่าคยูฮยอนคิดอะไรกับตัวเองแล้วซองมินยังไปล้อเล่นกับความรู้สึกแบบนั้นอีก ใช่แผนการที่ซองมินคิดคือการที่ให้ผมรวมทั้งตัวซองมินเองนั้นเล่นตามบทรักที่ทั้งสองคนนั้นยื่นให้แต่ของซองมินนั้นก็เล่นตามน้ำ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ผมจะบอกซองมินดีไหมว่าให้ล้มเลิกแผนนี้แล้วคิดใหม่แต่ซองมินก็ยืนยันว่าจะทำมันให้ได้ เหตุผมที่มันใหญ่มากที่ว่า
“ฉันเห็นมานักต่อนักแล้วในละครนะได้ผมแน่นอน” อือ เหตุผลนี้แต่ที่ผมนั้นดูจุดจบคือทั้งสองนั้นได้กันซะงั้นอ่ะ ผมว่าผมไปประกาศหรือว่าไปตั้นหน้าไอ้หน้าปลานั้นดีกว่าให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลยดีกว่าอีกอ่ะผมเดินเข้ามาในโรงเรียนก็มีสายตาที่มองทั้ง เศร้า อิจฉา บางคนถึงจะพุ้งเข้ามาหาผมด้วยซ้ำไป ผมรับเดินเข้ามาในห้องเรียนก็ยังไม่วายเจอสายตาแบบนั้นอีกอ่ะเรียนมาตั้ง 3 ปีไม่เคยรู้สึกอายแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะผมไปนั่งที่ของตัวเองแล้วฟุบหน้าลงทันทีเพื่อเลี่ยงการที่ถูกสายตาทั้งหลายนั้นมอง แต่ เอ๊ะ!!!
“จดหมาย” ผมหยิบจดหมายที่มันโผล่ออกมาจากชั้นโต๊ะเรียนของผมหยิบมาอันเดียวแต่ออกมาเป็น 10 อ่ะ ผมอึ้งกับซองจดหมายที่ออกมา
“อะไรว่ะเนี่ย “ผมสบทออกมาแต่ไม่มีใครสนใจผมเลยผมเงยหน้ามองเพื่อนในห้องต่างคนก็เดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเองทั้งที่ตอนแรกนั้นยืนมองผมอย่างกะจะกินเลทิดกินเนื้อผมอย่างนั้นแหละ
“เฮ้ ฮยอกมาไวจังนะวันนี้นะ อ่ะ จดหมายใครอ่ะเยอะแยะเลยอ่ะไหนมาดูสิ”ซองมินที่พึ่งเข่ามาแย่งจดหมายในมือผมไปอ่านแล้วทำตาโตจนผมต้องหยิบกลับมาอ่าน
“จดหมายขู่ อ่ะไรเนี่ยไหนมาดูอีกสิ”ซองมินรีบหยิบจดหมายทั้งหมดนั้นออกมาอ่าน ผมก็ก่านไปเรื่อย ๆ จนหมดกอง
“มันจะมากไปแล้วนะเล่นกันแบบนี้เลยหรือไง”ซองมินว่าเสียงดังมองไปรอบห้องเพราะรู้ว่า 1 ในนั้นนั้นต้องมีเพื่อนในห้องแน่นอน
“เอะอ่ะ อะไรแต่เช้ากันเนี่ยยัยต่ายอ้วน”เสียงคยูฮยอนเอ่นขัดขึ้นมาแทรกเสียงของซองมินที่กำลังบ้าระห่ำอยู่ทงแฮก็เดินตามเข้ามาพร้อมเพื่อนที่เหลือผมมองด้วยสายตาที่นิ่ง ๆ แค่ต้องการชนะทำให้คนอื่นดูถูกผม ว่าผมเสียหายแบบนี้เลยหรือไง
“พอใจ สนุกกันมากใช่ไหมฮะ ที่ทำให้คนอื่นเค้าโดนดูถูกนะฮะเห็นคนอื่นเค้าเป็นของเล่นหรือไงว่ะ!!!!!”ซองมินขว้างซองจดหมายที่กำจนยับใส่หน้าคยูฮยอนที่ งง กับเรื่องที่เกิดแล้ววิ่งออจากห้องไป
“อ่ะ นี่ยัยต่ายเป็นอะไรของเธอเนี่ยรอก่อนสิ”คยูฮยอนที่หายมึนก็ตามออกไปทันที ในห้องเงียบเชียบกันหมดทงแฮเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ผมไม่ได้ที่จะสนใจว่ามาทำไม จะว่าอะไร
“เป็นอะไร แล้วนี่”ทงแฮหยิบจดหมายที่วางเต็มโต๊ะผมขึ้นมาดูแล้วต้องขมวดคิ้วหากัน
“จดหมายขู่หรอ” ทงแฮว่าเสียงเรียบ
“แล้วเห็นว่าเป็นจดหมายรักหรือไง”
“จากใคร”
“ถ้ารู้จะมานั่งแบบนี้ไหมละ ไอ้ง่าว”ผมปาจดหมายในมือลงบนโต๊ะแล้วเดินออกมาจากนอกห้องโดยไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง ก่อนพ้นประตู
“ อย่าให้รู้นะว่าใครที่ส่งมาแม่จะเอาบ้านบึ่มเลย” ผมว่าทำเอาทุกคนหลบหน้าผมกันเป็นแถว ทีอย่างนี้ละไม่กล้าเฮอะ
“อ้าวฮยอกแจ ทำไม่อยู่นี่อ่ะไม่เข้าห้องเรียนหรอ” เรียยวอุคที่พึ่งมาถึงทักผมที่นั่งอยู่ในสวนของมหาลัย
“อือ เดี๋ยวก็ไปแล้วนายไปก่อนเถอะนะ”ผมบอกปัด ๆ ไปเรียวอุคก็ว่าง่ายพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปเข้าห้องทันที
RrrrrrrrrrrrrRrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เป็นซองมินที่โทรมาผมกดรับทันที
“อยู่ไหนเนี่ยฮะอาจารย์จะเข้าแล้วนะ”ซองมินว่าเสียงร้อนรน
“อือ กำลังไปแล้วแค่นี้แหละ”ผมกดวางแล้วเดินที่เข้าเรียวนเพราะว่าผมไม่อยากที่จะมาแก้อีกแล้ว ผมเดินเข้ามาทั้งพอนั่งลงกับเก้าอี้อาจารย์ก็เข้าประตูมาทันที หวุดหวิดเลยอ่ะ
“เกือบไปแล้วไหมละ”ซองมินที่นั่งข้างผมกระซิบ วิชานี้ผมเรียนทั้งหมด 4 ชั่วโมงกว่าจะได้พักก็ เที่ยงครึ่งท้องผมก็ร้องระนาว
“เอาละการบ้าที่ให้ไปนะส่งอาทิตย์หน้านะอย่าลืมละ เอาละไปทานข้าวได้แล้ว” ผมรีบเก็บของแล้วชวนซองมินไปกินข้าว
“นายนั่งจองโต๊ะเอาไวนะเดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้ผมบอกกับซองมินแล้วเดินไปซื้อข้าวและน้ำ
พลั๊ก!!!!!! โอ๊ย!!!!
ผมที่กำลังซื้อน้ำโดนใครไม่รู้เดินมาชนจนผมนั้นล้มลงไปนั่งกับพื้นน้ำหกใส่เต็มไปหมด
“โอ๊ะ ขอโทษครับ เป็นอะมากหรือปล่าวครับ ผมขอโทษ”คนที่ขนผมขอโทษขอพายผมเป็นการใหญ่แล้วพยุงผมลุกขึ้นมาผมร฿สุกแสบตริงหัวเข้าพอก้มไปมองก็พบว่ากางเกงขาดหัวเข้าเลยเป็ยแผล
“คุณเลือดออกนี่เดี๋ยวผมพาไปห้องพยาบาลนะครับ”
“อ่ะ ไม่ต้องครับแผลแค่นี้เองขอบคุณมากครับ”ผมบอกปัดแล้วก็ได้เห็นหน้าคนที่ชนผมเต็มตา
“งั้นเดี๋ยวผมซื้อน้ำให้ใหม่นะครับ”คนที่ชนผมนั้นน่าจะเป็นเด็กปี 2 เพราะผมคุ้น ๆ หน้าอยู่เหมือนกันหน้าตาที่ดูแล้วน่ารัก หล่อ ที่ใครเห็นแล้วต้องกรี๊ดอ่ะ ผมหยุดการวิจารเด็กคนนั้นแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะที่มีซองมินนั่งรออยู่
“ฮยอกไปทำอะไรมาเนี่ยทำไมเป็นแบบนี้ละ”ซองมินรีบเข้ามาหาผมจับผมหมุนซ้ายหมุนขวา
“นี่ พอไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่าไปนั่งที่ได้แล้วไป”ผมดันหลังซองมินให้ไปนั่งที่ของตัวเองก่อนที่ผมจะโดนมากกว่านี้
“มาแล้วครับน้ำ”
“นายเป็นใครเนี่ย”ซองมินชิงถามทันทีที่เดก็คนนั้นเอาน้ำมาให้ แต่ว่าผมก็ยังไม่รู้ชื่อของเด็กคนนี้เลยเหมือนกัน
“ผม ชเว มินโฮครับ อยู่ปี 2 คณะศิลปกรรมศาสตร์ครับ” ผมถึงว่าคุ้น ๆ เดือนคณะศิลปะนี่เอง
“พี่ชื่อ ฮยอกแจ อี ฮยอกแจ และนี่เพื่อนพี่ชื่อ ซองมิน อี ซองมิน”ผมแนะนำตัวและซองมินติบกลับไป
“แล้วนายเอาน้ำมาให้พวกฉันทำไมอย่าบอกนะว่าจะมาจีบเพื่อนฉันนะฮะ”ซองมินใส่เป็นชุดจนมินโฮหน้าซีด
“นี่ซองมินน้องเค้าเดินชนฉันเองแล้งเค้าก็ซื้อน้ำมาใช้ ขอบใจมากนะ”ผมบอกกับซองมินแล้วไปขอบคุณมินโฮที่ยิ้มตอบกลับมา
“งั้นผมขอตัวนะครับพี่ฮยอกแจ พี่ซองมิน แล้วเจอกันไหม่ครับ”มินโฮบอกลาแล้วเดินออกไปโดยมีสายตาที่มองตามอย่างเดลิ้ม ๆ แล้วหันกลับมามองพวกผมอย่างจิกกัด ผมไม่ได้สนใจสายตานั้น กลับลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าแทน
“ไปทำอะไรมา มอบเป็นลูกหมาแบบนี้นะ” ผมที่ทานข้าวเสร็จกำลังจะลุกก็เจอทงแฮเดินเข้ามาพอดี
“แล้วเกี่ยวอะไร ถอย”ผมผลักทงแฮให้พ้นทางเดินแต่ต้องเสียงหลักเพราะแผลที่หัวเข่าที่ติดว่าไม่หนักอะไรกลับหนักกว่าที่คิด ทงแฮรับตัวผมที่จะล้อมลงไปไว้ได้ทันผมจึงรับผละออกมาทันที
“เป็นอะไร ไปโดนอะไรมา”ทงแฮมองที่แผลผมแล้วถามอย่างขึ้นเสียง
“ไม่มีอะไรหรอกน่าหลีกไปได้แล้ว”ผมเดินผ่าวงผ่านหน้าทงแฮเดินออกไปแต่มีมือใหญ่มาฉุดแขนผมไว้
“มานี่”ผมเดินตามแรงดึงของทงแฮที่เดินเร็วไม่รู้ว่าไปตามความที่ไหนแผลก็เจ็บ อะไรของมันเนี่ยฮะ
“อะไรเนี่ย”
“เงียบ ๆ แล้วไปนั่งบนเตียง”ทงแฮออกคำสั่งผมทำตามอย่างว่าง่ายเพราะเสียงที่ใช้นั้นมันดูหน้ากลัว พ่อทงแฮเป็นทหารนี่นา ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงรอทงแฮที่เดินหายเข้าไปในห้องยาแล้วเดินออกมาพร้อมกล่องยา และอุปกรณ์ทำแผล
“แสบก็บอกนะ”ทงแฮผับกางเกงผมขึ้นมาไว้เหนือเข้าแล้วเอาสำลีที่ชุบน้ำมาล้างแผลอย่างเบามือ มันเบาจริง ๆ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นทงแฮทำผมคงคิดว่าเป็นหมอมาทำเองซะอีกนะเนี่ย
“เจ็บไหม” ทงแฮเงยหน้ามาถามผม
“ไม่” ผมตอบกลับทงแฮก็เทเอลกลอฮอลล์เพื่อมาล้างแผล
“อ่ะเดี๋ยว อันนี้ไม่เอาได้ไหมอ่ะ”ผมห้ามทงแฮเอาไว้ก่อนที่จะได้นำสำลีนั้นแตะลงกับแผลผม
“ต้องฆ่าเชื้อก่อนสิไม่ทำไม่ได้”ทงว่าเสียงเรียบทำเอาผมไม่กล้าเถียง
“แต่ว่ามันเจ็บอ่ะ แสบด้วย”ผมว่าน้ำตาก็เอ่อ อยู่ขอบตาเพราะตอนเด็ก ๆ นั้นโดนพี่ผมแกล้วเอาแอลกอลฮอลล์ลาดแผลผมเลยระวังตัวที่จะไม่โดนอะไรให้เป็นแผลอีกถ้าเป็นผมจะทำเองแล้วไม่ล้างแผลด้วยแอลกลอฮอลล์
“งั้นไม่ต้องมอง”ทงแฮลุกมายืนหันหลังให้ผมบังผมมาให้ผมเห็นแผล
“ไม่เห็นแล้วใช่ไหม”ทงแฮถามผมตอบรับในลำคอ
“อ๊า!!!!! เจ็บ”ผมผวากอดทงแฮทันทีน้ำตาที่คลออยู่นั้นไหลลงมาอย่างไม่อาย
“อ่ะ เสร็จแล้ว”ทงแฮบอนผมไม่รู้ว่ามันเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ พอเสร็จผมจึงผละออกมาจากหลังของทงแฮที่เปียกไปด้วยน้ำตาของผม
“ตัวร้ายอย่างนายกลัวกับแค่เรื่องแค่นี้หรอไงฮะเด็กดื้อ”ทงแฮว่าแล้วเช็ดน้ำตาให้ผมแล้วเดินเอาของไปเก็บ
“ทีนี้ก็บอกมาว่าโดนอะไรมา”ทงแฮเอาเก้าอี้มานั้งตรงหน้าผม
“แค่อุบัติเหตุ”ผมบอกเสียงเบา
“คนที่ส่งจดหมายพวกนั้นมานะหรอ”ผมมองหน้าทงแฮแล้วรู้สึกว่าหน้าผมมันร้อน ๆ ทำไมรู้สึกว่าทงแฮเป็นห่วง คนอย่างทงแฮไม่มีทางหรอกน่าฮยอกแจ
“ปล่าว เด็กรุ่นน้อง”ผมรู้สึกว่าผมเหมือนเด็กที่โดนผู้ใหญ่ถามว่าไปเล่นซนแล้วได้แผลมา ทั้งที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงตอบคำถามออกไปอย่างไม่ขัดขืนเลยละ ทั้ง ๆ ที่ผมกับทงแฮนั้นมีเนื่องกันอยู่
“ทีหลังหัดระวังบ้าง เดินไหวไหมแผลนายดูหนักเอาการไปล้มอีท่าไหนให้เป็นแผลขนาดนี้นะฮะ” ทงแฮบ่นผมเหมือนผมเป็นเด็กแต่ก็เข้ามาพยุงผมลงจากเตียง พอลงจากเตียงผมไม่สามารถที่จะชันขาออกได้เพราะว่าแผลที่หัวเข่ามันตึงจนผมต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ
“เจ็บหรอ”ทงแฮถามแล้วเข้ามาดูแผลที่เข่าผม
“งั้นไม่ต้องไปเรียนแล้วอยู่นี่แหละ”
“ไม่เอาฉันไม่อยากที่จะตามแก้หรอกนะฉันเดินได้หรอกนายไม่ต้องห่วง”
“......................”ทงแฮเงียบและนิ่งไป
“คะ...ใครห่วงนายฉันไม่ได้ห่วงซะหน่อย”ทงแฮพูดรัวใส่ผม อะไรของมัน
“แล้วที่ทำอยู่นี้ละหมายความว่าไง”
“ก็...ก็แค่กลัวว่านายจะถอนตัวเพราะว่ากลัวแฟนคลับฉันก็เท่านั้น”ทงแฮหันหลังให้ผม
“ไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะกลัวนะ”ผมเดินกะเพก ๆ ผ่านหน้าทงแฮอย่างไม่สนใจแต่มือหนาของทงแฮกลับลั้งผมไว้
“อะไรอีกละ”ผมถามอย่างเอาเรื่อง
“เดี๋ยวพาไป”
“ฮึ ว่าไงนะ”
“ฉันกลัวว่านายจะล้อมหัวฟาดพื้นตายก็เท่านั้น ไปได้แล้วถ้าไม่เดินฉันจะอุ้มนายไปเองนะ”
“อ่ะ !!! ไม่ต้องเดินเองได้”ผมรีบบอกทงแฮที่ก้มลงมาจะอุ้มผมจริง ๆ เฮ้อทำไมใจเต้นแรงอย่างนี้ละทั้ง ๆ ที่รู้ว่าที่ทงแฮทำเพราะว่าอะไรทำไมยังใจเต้นอยู่ละ ผมเป็นคู่แข่งกันนะหรือว่านี้จะเป็นแผนของทงแฮ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปหวั่นไหวไม่ได้ ต้องเข้มแข็ง ฮยอกแจ สู้!!!!!!!
ความคิดเห็น