Aeross Brandew of Aenaross - นิยาย Aeross Brandew of Aenaross : Dek-D.com - Writer
×

    Aeross Brandew of Aenaross

    เมื่อองค์เทพกำหนดมา เทวดาบัญชาให้ เขาต้องจัดการกับเหล่าร้ายที่จะสร้างวิบัติภัยแก่มนุษย์โลก สายเลือดแห่งเทพเจ้าในตัวจะช่วยให้เขาปฏิบัติการสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตาม

    ผู้เข้าชมรวม

    87

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    87

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  11 ส.ค. 53 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     ตอนที่1

    คุณเชื่อมั้ย? ว่าบนโลกนี้ยังมีสิ่งลี้ลับที่รอคอยการค้นหาอยู่ตลอดเวลา แน่นอน! หลายคนเชื่อ เชื่อเพราะว่าไม่รู้ เชื่อเพราะว่าไม่เห็น หรืออาจจะเชื่อเพราะว่าเชื่อ

                และในหมู่บ้านแห่งนี้อีกเอง หมู่บ้านชนเผ่าชาว เอนารอส ชนชาวพื้นเมืองด้านตะวันออก ที่ไม่มีความข้องเกี่ยวกับบุคคลในเมือง พวกเขาอาศัยอยู่กันเพียงในเกาะเล็กๆแห่งนี้ด้วยความสงบสุข ซึ่งพวกเขาไม่น่าสงสารหรอกที่โดนแยกออกจากชาวเมือง ทั้งที่พวกเขาเองก็ฉลาดปราดเปรื่องไม่แพ้คนที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่กำลังต่อต้านทุกสิ่งอย่างที่พวกเขากระทำกันอยู่นี้ เขาทำเพื่ออะไร? ฟังดูแล้วน่าจะเป็นเพื่อมนุษย์โลกทุกๆคน ซึ่งนั่นเป็นคำตอบสากลที่ทุกคนในแวดวงการงานด้านเทคโนโลยีพึงตอบ แล้วเกี่ยวอะไรกับมนุษย์โลกเล่า? ถ้าหากลองมองย้อนไปแล้ว ในอดีตมีคนตายเพราะอุบัติเหตุ เพราะโรคภัยไข้เจ็บมากเพียงไหน ทุกคนกลัวที่จะต้องประสบพบเจอกับสิ่งต่างๆเหล่านั้น และความกลัวนี่แหละ ที่ทำให้โลกพัฒนามาสู่ยุคโลกาวิวัฒน์ในปัจจุบัน

                แต่ในอีกมุมหนึ่งอันสงบ ชนที่ถูกแบ่งแยก หรือแยกแบ่งนั้น มีความสุขกับสิ่งที่เป็น และพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ทุกวันนี้

                บ้านหลังเล็กๆที่สร้างโดยไม้ป่าทั่วไปที่หาได้ในเกาะนั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าแพรี่ ห่างออกไปมีธารน้ำซึ่งน้ำที่ไหลมานั้นไหลมาจากน้ำตกใกล้บริเวณนั้นนั่นเอง หญิงสาวชาวเอนารอสกำลังเดินเข้าบ้านเพื่อนำวัตถุดิบปรุงอาหารมาให้แก่แม่ครัวประจำบ้าน ด้านในบ้านมีหญิงชรานั่งก่อไฟสำหรับเตรียมอาหารในมื้อเย็นนี้

                มาแล้วรึซอร่า ได้อะไรมาบ้างล่ะ? คำกล่าวถามของนางเอนิร่า หญิงชราผู้เป็นแม่ ออกจะสั่นเครือนิดๆ แสดงถึงความแก่ต่อโลกใบนี้ที่เธอรู้จักมากว่าแปดสิบปีแล้ว

                ได้ผักทั่วๆไปจ้ะแม่ วันนี้หวังว่าซอร่าคงไม่ต้องกินตุ๋นผักนะจ๊ะ

                แกก็แซวฉันไป   ใครๆมันก็ลืมกันได้ทั้งนั้นแหละ มานี่ดีกว่า มาก่อไฟนี่ เดี๋ยวฉันจะเอาไอ้ผักแล้วก็เนื้อนี่ไปจัดการเอง

                นางเอนิร่าจับโต๊ะเพื่อช่วยพยุงเธอให้ลุกจากท่านั่งยองซึ่งยากแก่การลุกยิ่งนัก แล้วก็นำผักและเนื้อเดินออกไปนอกบ้านเพื่อจัดการสำหรับเป็นอาหารมื้อนี้ซะ แต่ภายนอกทำไมมืดเร็วผิดปกติ นางแหงนหน้ามองท้องฟ้าแล้วต้องตกใจเป็นนัก เมื่อพบกับเมฆขนาดใหญ่มหึมากำลังรวมตัวกันเป็นรูปร่างประหลาด ซึ่งนางเองก็ไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์นี้มาก่อน นางนึกถึงคำพูดของบรรพบุรุษแห่งเอนารอสว่า มีอสูรร้ายที่ถูกเทพเจ้าคิวซาดอนหรือที่รู้จักกันว่าเทพเจ้าแห่งเพลิงพินาศฝังไว้ภายใต้พื้นพิภพของพื้นที่นารอสนี้ แล้ววันดีคืนดีเมื่อเจ้าอสูรร้ายมีพลังมากพอที่จะออกจากพื้นพิภพแห่งนี้ละก็ เมื่อนั้นแผ่นดินแห่งนี้จะพินาศ ไม่เพียงแต่เอนารอสเท่านั้น

                นางเอนิร่าเห็นเพื่อนบ้านนางเก็บข้าวของอย่างเร่งรีบผิดปกติ แสดงว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว ที่เจ้าอสูรร้ายอากาเรียส จะออกมาแสดงอำนาจเพื่อทวงแค้นกับคิวซาดอน

                ลมยังพัดแรงไม่หยุด ซอร่ามองออกมาเห็นบรรยากาศภายนอกจึงรีบวิ่งออกมาดูมารดาของตนด้วยความเป็นห่วง

                เกิดอะไรขึ้นหรือแม่?

                แกออกมาทำไมกัน เข้าบ้านไปซะ อันตรายนะ

                ไม่! ถ้าแม่ไม่เข้า ฉันก็ไม่เข้า ถ้าอันตรายแล้วแม่จะมัวมายืนอยู่ทำไมกัน?

                ฉันบอกให้แกเข้าไปไง!

                นางเนนีร่าผลักซอร่าด้วยแรงที่มากสุดของนางแล้วหันกลับไปมองท้องฟ้าอันมืดทมึนนั้นอย่างท้าทาย แล้วทันใดนั้น ไฟที่ซอร่ากก่อไว้ก็เกิดปะทุจนขนาดใหญ่น่ากลัวนัก ซอร่าตกใจเรียกมารดาของตนหันมาดู นางเอนีร่าหันกลับมาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าไฟนั้นกลับลุกโชนขึ้นเรื่อยๆจนไหม้บ้านไม้หลังนั้นของนาง

                เกิดอะไรขึ้นนี่? ทำไมไฟมันลุกแรงอย่างนี้ นางร้องขึ้นมาอย่างหวาดกลัว

                ออกไปเถอะแม่ ไปหาที่หลบก่อนดีกว่า ซอร่าพูดพร้อมดึงตัวมารดาของเธอวิ่งตรงไปยังบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน

                แต่ไม่ทันไร ก็เกิดเหตุประหลาดขึ้นอีก เมื่อไฟที่ลุกโชนไหม้บ้านอยู่นั้น จู่ๆก็ลอยข้ามหัวนางทั้งสองไปดักหน้าไว้ ตอนนี้ทั้งสองรู้สึกกลัวและกดดันไปหมด

                อะไรกันนี่ มันเกิดอะไรขึ้น ซอร่าอุทานออกมา

                ไฟกองใหญ่ที่ลุกอยู่เบื้องหน้านางทั้งสองนั้น ได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นจนเห็นได้ชัด

                คิวซาดอน! นางเอนีร่าตกใจนัก เมื่อเห็นเทพเจ้าอยู่ต่อหน้า นางคุกเข่าแล้วก้มลงคำนับ ซอร่าเห็นดังนั้นจึงทำตามแต่โดยดี

                แล้วร่างไฟอันมหึมานั้นก็ค่อยเล็กลงแล้วกลายเหมือนมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น แต่ดูอย่างไรก็มีความโดดเด่นของเทพเจ้าอยู่ดี

                ลุกขึ้นเถิด ทายาทข้า

                ท่าน...ท่านกล่าวว่าอะไรนะ นางเอนีร่าพูดอย่างเสียงสั่นเครือ

                ข้าพูดว่า ลุกขึ้นเถิด ทายาทของข้า

                ใครกัน ท่านจะมีทายาทอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ท่านเป็นเทพเจ้าไม่ใช่หรือ?

                ใช่ แต่ต่อจากนี้ ทายาทของข้าจะเกิดแต่เจ้า ซอร่า!

                นางซอร่าตกใจ หันมองหน้ามารดาของตน

                ท่านว่าอะไรนะ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อท่านและลูกสาวข้าอยู่กันคนละโลก

                เป็นไปได้สิ เพราะข้ามีอำนาจ อย่าลืมสิ ว่าข้าเป็นเทพเจ้า

                แต่ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ถ้าเกิดมีบุตรละก็ ข้าต้องถูกเนรเทศออกจากหมู่บ้านแน่ๆ นางซอร่ากล่าวก้มหน้านิ่ง

                เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องพรหมจรรย์ ลูกของข้าเกิดแต่เจ้าโดยเจ้าจะไม่เสียพรหมจรรย์ แล้วเรื่องเนรเทศนั้น ข้ามีวิธีแก้ไขให้เจ้า

                แล้วทำไมต้องเป็นข้า? ทำไมท่านต้องสร้างบุตรด้วย?

                เจ้าคือผู้ที่ถูกเลือก และสาเหตุที่ข้าต้องสร้างบุตรเพราะต้องเตรียมรับมือกับอสูรร้ายที่ถูกข้าผนึกไว้ใต้หมู่บ้านของเจ้าไงเล่า

                มันจะมาจริงๆด้วย นางเอนีร่าพรึมพรำ แล้วอย่างนี้จะทันหรือท่าน เมื่อสักครู่นี้...

                ใช่ มันกำลังจะมา ฉะนั้นลูกเจ้าจะเป็นเด็กพิเศษ...กว่าเด็กอื่นๆทั่วไป

                แล้วอย่างนี้ลูกข้าจะมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ

                ใครบอกเจ้าล่ะ ว่าลูกของเราจะไม่เหมือนเด็กอื่นๆ เขาจะต้องเป็นเด็กเหนือมนุษย์

                แต่ตอนนั้นท่านเองที่เป็นคนผนึกเจ้ามารร้ายไว้ใต้พิภพนี้ แล้วทำไมต้องเป็นบุตรของท่านด้วย นางเอนีร่าถาม

                ข้ากำลังจะจุติไปเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น บุญของข้าหมดเท่านี้ หากข้าไม่ทิ้งทายาทไว้ ใครเล่าจะพิทักษ์พื้นพิภพแห่งนี้ ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของข้า

                เจ้าว่าอย่างไร ซอร่า มารดาหันถามลูกของตนที่นั่งพิจารณาคำสนทนาต่างๆอยู่

                ถ้าเป็นผลดีต่อลูกข้า ข้าก็ตกลง นางพูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ

                งั้นเจ้าลุกขึ้นสิ

                ซอร่าลุกขึ้นแล้วเดินไปหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของเทพเจ้าคิวซาดอน องค์เทพยื่นมือมาจ่อที่หน้าผากนางแล้วกล่าวว่า

                ข้าแต่อำนาจของข้าทั้งหมดและอำนาจแห่งอาณาจักรเทพเบื้องบน บัดนี้ข้าพร้อมที่จะจุติแล้ว ขออำนาจข้าจงบันดาลบุตรอันมีบุญญาธิการแก่นางซอร่าแห่งเอนารอส ให้บุตรของนางและข้าพเจ้าเป็นที่สุดแห่งมนุษย์ ที่ทรงอำนาจและบุญบารมี เพื่อปราบเหล่าร้ายบนพื้นพิภพแห่งนี้ด้วยเถิด

                ในบัดดล ก็เกิดแสงจากมือขององค์เทพลอยออกมาหยุดที่ท้องของนางซอร่าและก็เข้าไปในท้องดังน้ำซึมลงสู่พื้นดินอย่างนั้น

                เจ้าจงเตือนบุตรของเราด้วย ว่าเขาไม่ใช่อมตะ มีเพียงอำนาจ และอำนาจใช้ในทางที่ถูกเท่านั้น แม้เขาจะเป็นบุตรแห่งเรา แต่ให้พึงนึกถึงโลกใบนี้ไว้ ข้าไม่ห้ามหรอก หากเขาจะมีคนรัก แต่เมื่อนั้นก็ต้องแลกกับอำนาจทั้งหมดที่เขา
    มีอยู่ เมื่อใดที่เขาสมรสหรือมีบุตร อำนาจจะพลันหายไปในที่สุด ข้าต้องไปก่อน หวังว่าเราจะได้เจอกันในโลกแห่งมนษย์นะ ดูแลลูกเราด้วย ซอร่า เทพเจ้าคิวซาดอนร่างได้จางหายไปทีละน้อย จนในที่สุดก็ไร้ร่างท่าน

                เรามีบุญ เจ้ารับรู้ไว้ซอร่า ขอเจ้าและพระบุตรของท่าน๕วซาดอนจงเจริญ ไปพักผ่อนเถอะลูก เดี๋ยวแม่จะเตรียมอาหารเอง นางเอนีร่าช่วยประคองซอร่าและเดินไปยังบ้านของเพื่อนบ้าน เนื่องจากบ้านของนางได้ถูกไฟไหม้
    จนหมดแล้ว

                เกิดอะไรขึ้นหรือเอนีร่า หญิงขชราเพื่อนบ้านที่หลบภัยอยู่ในบ้านเอ่ยถาม เมื่อนางและซอร่าเดินมาเคาะประตูที่บ้าน

                ข้าขอพักด้วยได้ไหม อาเมนา บ้านของข้าโดนไฟไหม้จนหมดแล้ว

               อุ้ย! แย่จังนะเอนีร่า เอาเถอะ เจ้าพักที่นี่ได้ตามสบาย ข้าเมตตา

                ขอบใจเจ้ามาก อาเมนา นางเอนีร่าประคองนางซอร่าเข้าบ้าน

     

    7 เดือนผ่านไป

                เอนีร่า ข้าว่าซอร่ามีดูอวบขึ้นนะ มันชักผิดปกติแล้วล่ะ

                ไม่หรอกอาเมนา เจ้าคงเพิ่งตื่นอนมากกว่า มานี่มา ข้าเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว

                แต่ข้ารู้สึกมานานแล้วเอนีร่า ข้าหวังว่าซอร่าจะไม่ทำผิดกฏของหมู่บ้านนะ

                ไม่หรอกน่า เจ้าอย่าคิดมากสิ นางเอนีร่าได้แต่ก้มเพื่อพูดเท็จ

                เช้าวันนี้ผ่านไปด้วยดี แต่ใครจะไปรู้ เมื่อนางอาเมดาไปจ่ายตลาดในหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านหลายต่อหลายคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านางซอร่ารูปร่างเปลี่ยนไป และหลายคนก็สงสัยว่านางซอร่าต้องมีบุตรกับใครที่นางไม่ได้แต่งงานแน่นอน ซึ่งผิดกฏของเอนารอส

                อาเมดา ข้าว่าเจ้าไล่สองแม่ลูกนั่นออกไปเถอะ ถ้าซอร่ามันท้องขึ้นมาเจ้าจะพลอยโดนตำหนิและถูกเกลียดชังไปด้วยนะ คนในหมู่บ้านพูดกับนางอาเมดา

                นั่นสิ หลายคนแล้วที่บอกกับข้าแบบนี้น่ะ

                ถ้างั้นเจ้าก็ไล่มันไปเลยสิ ข้าจะช่วยอีกแรง ซอร่ามันยังไม่ได้แต่งงาน ถ้ามันท้องนี่แสดงว่าเป็นหญิงไม่ดี เป็นตัวการกิณีแน่นอน

                ข้าขอคิดดูก่อนนะ เพราะเอนีร่านั่นก็เพื่อนรักข้า

                เจ้าไปคิดดูให้ดีแล้วกัน ข้าว่าซอร่าท้องชัวร์

                เมื่อกลับมาบ้าน นางอาเมดาจึงเดินเข้ามาคุยกับเอนีร่า

                เอนีร่า ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้าน่ะ

                เรื่องอะไรรึ อาเมดา?

                ข้าถามจริงเถอะ ซอร่าน่ะ ท้องใช่มั้ย

                เจ้าเอาอะไรมาพูด ซอร่ามันยังไม่ได้แต่งงานเลย มันจะท้องได้อย่างไรกัน เจ้านี่ก็พูดไปทั่ว นางเอนีร่าพูดแล้วทำท่าจะเดินไปทำงานต่อ

                แต่เอนีร่า ข้ารู้ ข้าดูออก ถึงซอร่ามันจะไม่ได้แพ้ท้องให้เห็น แต่ข้ามั่นใจว่าซอร่าท้องแน่นอน เจ้าอาจจะไม่รู้กับมันก็ได้

                ข้ารู้ทุกอย่างแหละ ถ้าเกี่ยวกับลูกข้า เจ้าไม่ต้องมาพูดหรก

                ถ้าเจ้ามีอะไรเจ้าก็พูดมาเถอะ บอกข้านี่ ไม่อย่างนั้นเจ้าสองคนแม่ลูกอาจจะเดือดร้อนได้นะ

                จะเดือดร้อนอย่างไร ในเมื่อเรื่องทั้งหมดมันไม่ใช่ความจริง เจ้าจะมาคาดคั้นเอาอะไรนี่

                ก็ได้ ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ เพราะข้าองก็ไม่อยากทำผิดกฏแห่งเอนารอส เจ้าคงรู้อยู่

                นางเอนีร่าได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง เพราะเพื่อนรักที่สุดของนางเริ่มเอะใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

                ข้าเตือนเจ้าไว้นะ ถ้าไม่อยากเดือดร้อน ถ้ามันเกิดขึ้นจริง พวกเจ้าก็ออกไปซะ!

                แน่นอน พวกเราจะออกไป เดี๋ยวนี้แหละ ซอร่าที่แอบได้ยินเรื่องทั้งหมดเดินเข้ามา

                ซอร่า! นางเอนีร่าตกใจ ที่ลูกสาวได้ยินคำพูดต่างที่นางรู้ว่าทำร้ายลูกสาวของตน

                งั้นเหรอซอร่า แล้วทำไมเจ้าจะต้องไป ในเมื่อแม่ของเจ้ายืนยันเรื่องทุกอย่างอย่างหนักแน่นแล้ว

                เอาไว้เมื่อเรื่องทุกอย่างพร้อม คุณก็จะเข้าใจ แม่คะ เราไปกันเถอะค่ะ ซอร่ารู้ว่าเราควรจะอยู่ที่ใด ซอร่าติดต่อท่านได้แล้ว

                ท่าน...ไหนท่านว่าท่านจะไป...

                ท่านกล่าวกับฉันว่าจะรอมาพร้อมกับ... นางซอร่าหยุดเงียบแล้วหันหน้าไปทางนางอาเมดา ลูกของฉัน

                ซอร่า! แกท้องจริงๆด้วย ถ้างั้นแกรีบออกไปเดี๋ยวนี้

                ไม่มีใครเข้าใจบัญชาของเทพคิวซาดอนเท่าฉันกับซอร่าแล้ว แกมันใจร้ายนักอาเมดา

                คิวซาดอน มาเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเจ้า

                เพราะลูกในท้องของข้าคือบุตรแห่งคิวซาดอน

                ซอร่า เจ้าพูดลบหลู่เบื้องสูง ท่านเป็นเทพ จะมาเกลือกกลั้วกับมนุษย์ธรรมดากับเจ้าได้อย่างไร มันมากเกินไปแล้วนะ ไม่งั้นข้าจะเรียกคนทั้งหมู่บ้านมาไล่พวกเจ้าเดี๋ยวนี้ล่ะ

                ข้าไปแน่อาเมดา แล้วเจ้าจะรู้และเสียใจ เอนารอสแห่งนี้กำลังจะพินาศ อสูรร้ายใต้พิภพที่บรรพบุรุษของเรามันกำลังจะตื่นขึ้นมาเพื่อล้างแค้นเทพคิวซาดอน ท่านมีบัญชาที่พวกเจ้าไม่สามารถจะรับรู้ได้ แล้วเจ้าก็จะวิบัติ รวมทั้งคนทุกคนในหมู่บ้านด้วย นางเอนีร่าพูดทิ้งท้าย นางอาเมดาโกรธที่นางทั้งสองพูดหมิ่นเทพคิวซาดอนที่คนทั้งหมู่นับถือ จึงวิ่งออกไปนอกบ้านแล้วตะโกนเรียกคนในหมู่บ้านมาบอกความจริงเรื่องของสองแม่ลูกนี่

      #160;         คนทุกคนในเอนารอส จงรับรู้ไว้ว่าแม่ลูกสองคนนี้ลบหลู่เทพเจ้าคิวซาดอนของพวกเรา นางทั้งสองกล่าวว่าเด็กในท้องของนางซอร่าเป็นบุตรแห่งองค์คิวซาดอน ดูมันทำสิ!

                เสียงของคนในหมู่บ้านพรึมพรำกันจนรวมเป็นดัง ว่านางทั้งสองทำไม่ถูก

                เราต้องฆ่ามัน! มันมันผิดกฏแห่งเอนารอส แล้วยังดูถูกเทพเจ้าของเราด้วย ชายฉกรรจ์คนหนึ่งกล่าวขึ้น

                ใช่ๆ มันทั้งคนชั่วนัก เสียงคนในหมู่บ้านพูดกันเป็นเสียงเดียว

                เพื่อนพี่น้องฟังข้าก่อน เทพคิวซาดอนมีบัญชามาให้เราอย่างนี้ ท่านต้องเชื่อในเรา เชื่อในเทพคิวซาดอนของพวกท่านนะ ซอร่าเดินออกมาประจันหน้ากับคนในหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครฟงเสียงนาง ต่างหยิบของปาใส่และขับไล่นางทั้งสองให้ออกไปจากหมู่บ้าน

                ไม่จริง เจ้ามันโกหก กกล่าวเท็จหมิ่นองค์เทพของพวกเรา ออกไป!

                นางทั้งสองไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเก็บข้าวของของนางทั้งหมดวิ่งฝ่าคนในหมู่บ้านออกไป แต่มีคนหลายกลุ่มที่หมายจะเอาชีวิตของนางทั้งสอง

                ฆ่ามัน! ฆ่ามันดีกว่า!

                เร็วเถอะลูก ออกมาพร้อมแม่นี่ นางเอนีร่าจับมือลูกของเธอไว้แน่นแล้วจูงออกมาจากวงล้อมวิ่งหนีออกไป แต่คนเหล่านั้นก็ยังคงตาม นางทั้งสองวิ่งข้ามคลองที่แห้งขอดจนรู้ว่าคลองนี้ลึกเพียงใด

                ไม่ไหวแล้วล่ะแม่ ข้ากลัวว่าลูกข้าจะเป็นอันตราย

                ต้องไหวสิ! เจ้าต้องทำได้ เพื่อโลกใบนี้นะซอร่า

                นางซอร่าได้แต่หลับตา แล้วระลึกถึงเทพเจ้าคิวซาดอน

                ข้าแต่องค์เทพควซาดอน หากข้ามีบุญมากพอ และเป็นตัวแทนทายาทแห่งท่าน ขอให้ข้ากับแม่ของข้าหนีรอดจากภัยครั้งนี้ด้วยเถิด

                เมื่อซอร่าลืมตาขึ้น นางรู้สึกว่าแผ่นดินไหว เมื่อนางมองไปยังทิศเหนือ น้ำจำนวนมหาศาลหลั่งไหลมาตามคลองที่แห้งขอดสนิทจนเกือบทั่ว ชาวบ้านที่ตามมาตกใจจนวิ่งกลับ เพราะบางคนลงไปในคลองแล้ว คนอื่นๆเห็นดังนั้นจึงหยุดไล่ตามนางทั้งสอง

                เกิดอะไรขึ้นรึเนี่ย? นางเอนีร่าอุทานออกมา

                ฉันก็ไม่รู้

                แกทำอะไร ซอร่า แกจะทำร้ายในหมู่บ้านรึ?

                ฉันเปล่านะ ฉันแค่อธิฐานให้ฉันกับท่านรอดจากการไล่ตามของพวกชาวบ้านนี้เท่านั้น

                แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?

                ฉันว่าไปกันเถอะแม่ ฉันร้อนแล้ว เดี๋ยวพวกนั้นตามมาทัน นะ นะ ซอร่าฉุดลากดึงมารดาที่ยังคงช็อกกับเหตุการดังกล่าวให้เดินไปด้วยกัน

                พลบค่ำ หลังจากที่นางทั้งสองขึ้นรถโดยสารเก่าคร่ำครึในหมู่บ้านใกล้ๆมายังในเมือง นางก็ลงแล้วหาที่พักโดยนางทั้งสองคิดว่าน่าจะเข้าไปทำงานบ้านใดบ้านกนึ่งเพื่อประทังอยู่กินไปก่อน

                เธอทั้งสองทำอะไรได้มั่งล่ะ? คนที่เป็นคุณหญิงของบ้านกล่าวถามขึ้นอย่างเป็นมิตร

                พวกเราทำอาหารได้ ทำความสะอาด จะดูแลสวนก็ได้นะคะ นางเอนีร่ากล่าวขึ้น

                แล้วสาวน้อยนั่นจะทำได้หรือ ดูว่าจะอ่อนแรงอยู่นะ

                คือ... นางทำได้แต่เบาๆ เพราะนางท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว พวกเรามาตามหาญาตินี้น่ะค่ะ

                ตายจริง! กำลังท้องกำลังไส้ จะมาตามหาทำไมกัน รอคลอดก่อนไม่ได้หรือ อีกเพียงสองเดือนเท่านั้นเอง

                ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเรามีธุระด่วน

                เอาอย่างนี้แล้วกัน เธอทั้งสองก็อยู่บ้านฉันไปก่อน ทำงานเท่าที่ทำได้ พอคลอดแล้วค่อยว่ากันต่อ ว่าแต่ค่าแรงล่ะ จะเอากันเท่าไหร่

                แล้วแต่คุณหญิงกรุณาเถอะค่ะ พวกเราไม่ต้องการอะไรมาก ขอแค่ได้มีที่อยู่ที่กินก็พอแล้ว

                จ้ะ แล้วฉันจะเรียกมาคุยทีหลังนะ ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ นี่ก็ค่ำแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันต่อพรุ่งนี้แล้วกัน

                ถ้าอย่างนั้นดิฉันทั้งสองขอตัวก่อนนะคะ คุณหญิงพยักหน้าเป็นการรับรู้ นางทั้งสองจึงเดินตามแม่บ้านเก่าไปยังที่พัก

                ในห้องนอน นางเอนีร่าจัดข้าวของเสร็จก็กำลังจะเข้านอน ซอร่าจึงขออนุญาตมารดาตนไปเดินเล่นข้างนอก

                แกจะไปทำไมซอร่า แกกำลังท้องอยู่นะ ไม่ควรจะนอนดึก

                แป๊บเดียวจ้ะแม่ ฉันชอบสวนดอกไม้ที่นี่ ไม่นานเดี๋ยวฉันก็กลับมา

                แป๊บเดียวนะ แล้วระวังตากน้ำค้างล่ะ

                จ้ะแม่ ซอร่ายิ้มหวานให้มารดาแล้วเดินออกมานอกห้องของตน

                ซอร่านั่งที่เก้าอี้ในสนามหญ้าแล้งแหงนหน้ามองท้องฟ้า

                ถ้าฉันได้พบกับท่านอีกครั้งก็คงจะดีนะ ท่านคิวซาดอน

                ทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง

                เจ้าเรียกข้ารึ ซอร่า?

                ท่าน... นางรีบลงนั่งกับพื้น

                ลุกขึ้นเถิด ข้าถือว่าเจ้าคือคู่สมรสข้า

                ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะถามท่าน

                เรื่องที่เอนารอสใช่ไหม เรื่องของชาวบ้านหล่านั้น

                ท่านรู้...

                อย่าลืมสิ ว่าข้าเป็นเทพเจ้า เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะจิตใจ

                นั่นแหละ ที่ข้าต้องการรู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ท่านหรือเปล่าที่เป็นผู้ทำ?

                เปล่านี่ เจ้าสงสัยไหม ทำไมข้าถึงเลือกเจ้าเป็นผู้อุ้มบุตรของข้า

                ใช่ ข้าเคยสงสัย แต่เรื่องที่ข้าจะถามคือ...

                มันเรื่องที่ต่อเนื่องกัน เจ้าคือธิดาประทานจากเทพเจ้าโซบัส เทพเจ้าแห่งสายน้ำ ถึงแม้เจ้าจะจะเกิดแต่มนุษย์ แต่เจ้าก็มีอำนาจแห่งเทพ

                ท่านจะบอกว่าน้ำที่ไหลมานั่นคืออำนาจของข้างั้นเรอะ ตลกสิ เป็นไปไม่ได้ ข้าเป็นเพียงคนธรรมดานะ

                ข้าบอกแล้ว ถึงจะเกิดแต่มนุษย์ธรรมดาแต่เจ้ายังคงได้รับพรจากโซบัส

                แล้วทำไมเทพเจ้าโซบัสต้องประทานข้าแด่พ่อแม่ข้าด้วย

                โซบัสเป็นเทพที่บันดาลความสมหวังในทุกสิ่งอย่าง พ่อแม่เจ้าเคยมาขอให้มีบุตรธิดาซึ่งตอนนั้นครอบครัวเจ้ายังยากจนอยู่มาก โซบัสจึงคิดว่า...ถ้าธิดาของพ่อแม่เจ้ามีความพิเศษในตนก็คงจะช่วยให้ครอบครัวมีเงินทองใช้บ้าง โซบัสจึงได้ใช้เส้นเกษาให้มาจุติในครรภ์ของแม่เจ้า แต่หลังจากที่ประทานเจ้าไปแล้ว โซบัสได้รับบัญชาจากเบื้องบนให้จุติเป็นเพียวมนุษย์ธรรมดาก่อน จึงไม่ได้มาบอกพ่อแม่ของเจ้า

                ถ้าอย่างนั้น แม่ข้าก็ยังไม่รู้สิ?

                ใช่ นางยังไม่รู้ แล้วด้วยเหตุนี้เองข้าจึงติดต่อกับเจ้าได้ง่าย และก็เลือกเจ้าเปนผู้อุ้มครรภ์บุตรของข้า

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น