คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ ๗ :: ต่อให้มันรู้
“ว่าไงแก้ม ยังไม่ไปอีกหรอลูก!? จุนจีเขารอนานแล้วนะ..” มารดาของกรรัมภาเดินเข้ามาในตัวบ้านก่อนจะรับไหว้สาวๆที่ยกมือขึ้นไหว้ผู้อาวุโสอย่างพร้อมเพรียงกันแบบโคตรจะปกปิดอารมณ์หม่นๆที่กระจายอยู่ทั่วบ้านนั่นเอาไว้
“อ๋อ.. เอ่ออ ค่ะๆ เดี๋ยวแก้มตามออกไปค่ะขอไปเอาโทรศัพท์ก่อน แม่ออกไปรอแก้มที่รถเลยก็ได้นะ...” แก้มยังไม่กล้าหันหน้าไปหาผู้เป็นแม่แล้วพยักเพยิดให้เจ๊ใหญ่ของบ้านเดินตามเธอไปเป็นเพื่อนด้วยอีกคน
“มีอะไรยัยแก้ม... โอ๋ๆๆๆๆ ใจเย็นๆนะ อย่าร้องๆ... ” ญาณิณแตะไหล่เพื่อนสาวที่ต่อมน้ำตาแตกกระจายเมื่อเดินออกมาถึงที่ลับตาคนเบาๆด้วยความเป็นห่วงก่อนจะดึงกรรัมภาเข้ามากอดปลอบ เธอรู้ว่าเพื่อนเธอเจ็บ เจ็บมากๆ! เพราะเพื่อนของเธอทั้งสองคนมันรักกัน และตอนนี้มันกำลังเจ็บปวดกันทั้งคู่... ไอ้คนนึงก็ไม่คิดจะฟังคำอธิบาย ไอ้อีกคนก็พยายามจะอธิบายเต็มที่ว่าตัวเองไม่ได้อยากจะหมั้นจะแต่งกับดาราขวัญใจที่เคยพร่ำเพ้อว่าต้องการมาเป็นเจ้าบ่าวของตัวเองมาแรมเดือนแรมปีของมันเลยสักนิด... ให้ตายสิ ณิณอยากจะบ้าตายวันละหลายๆรอบ !!!!!
“ แกต้องช่วยฉันนะ... ช่วยอธิบายให้กรรณเข้าใจหน่อยเถอะว่าฉันน่ะไม่ได้อยากจะหมั้นกับจุนจีเลย!! ยัยเจ๊ แกต้องช่วยฉันนะ!” กรรัมภาขอร้องเพื่อนรักอีกคนอย่างน่าสงสารจนญาณิณต้องยอมพยักหน้าตกลง เอาเป็นว่าเดี๋ยวเธอค่อยไปปรึกษากับยัยรสยัยเนตรเอาอีกทีก็แล้วกัน
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามแกตรงๆนะ แกรักยัยกรรณใช่มั้ยแก้ม!?”
“ใช่! ฉันรักกรรณ รักมาก!! ยังไงแกก็ต้องช่วยฉันนะ ฉันยอมไม่ได้จริงๆ” สาวสวยพิ้งก์แพนเตอร์สารภาพพร้อมน้ำตาที่เริ่มจะทะลักออกมาอีกครั้ง ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเธอเลย ตั้งแต่เธอเปิดเผยกับพ่อแม่ว่าเธอทำงานที่บริษัทนี้ พ่อและแม่เธอก็ดูจะไม่พอใจเอาเสียมากๆ พอเธอบอกว่าเธอคบกับเพื่อนๆอีกสี่สาวนี้และลงขันเปิดบริษัทนี้มาได้สักพักแล้วท่านทั้งสองก็โวยวายกันเสียบ้านแทบแตก นี่ยังจะมาเรื่องที่เธอจะต้องถูกจับหมั้นกับปาร์คจุนจี ทั้งๆที่เธอก็มีคนที่เธอรักอยู่แล้วทั้งคน... ทำไมหนอสวรรค์จึงได้โหดร้ายกับกรรัมภาเช่นนี้!?
“อืมๆ ฉันรู้แล้วๆ! เดี๋ยวฉันกับยัยรสยัยเนตรจะช่วยพูดกับยัยกรรณให้.. แกก็อย่าเครียดล่ะ กลับไปทำใจให้สบายยยยยย หาโอกาสคุยกับแม่แกให้รู้เรื่องก็แล้วกัน” ญาณิณเหลือบไปเห็นเบอร์ของมารดาเพื่อนรักโชว์ขึ้นที่หน้าจอมือถืออีกครั้งเธอเลยต้องตัดบทให้กรรัมภากลับบ้านไปก่อน ถ้าเกิดนานไปกว่านี้แม่ของกรรัมภาอาจจะเข้ามาในบ้านอีกครั้งจนสังเกตสิ่งผิดปกติและบรรยากาศอึมครึมต่างๆได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่
“งั้นฉันไปก่อนนะยัยเจ๊ แล้วเจอกันจ้ะ..” กรรัมภาปาดน้ำตาแล้วส่งยิ้มแห้งๆไปให้สาวโบฮีเมี่ยนก่อนจะเดินออกจากบ้านไปโดยไม่ได้สนใจคนที่มายืนด้อมๆมองอยู่ที่หน้าต่างบ้านด้วยสายตารวดร้าวไม่แพ้เธอ
“สุดท้าย.. เราก็เป็นได้แค่เพื่อนกันจริงๆสินะกรรัมภา”
‘ได้แค่เพื่อนก็ดีเท่าไหร่ แม้จะได้แค่เพียงใกล้กัน ใครคนนั้นคงไม่ว่า ช่วยไม่ได้เธอรักเขาก่อน ฉันต้องซ่อนอาการมากมาย ไม่ให้เธอรับรู้ได้จากสายตา ~’ เสียงเพลงจากวิทยุที่สุคนธรสเปิดทิ้งไว้ดังเข้ามาในโสตประสาทของคนหูดีอย่างรู้ใจ แต่บางทีมันก็รู้ใจเธอเกินไปจนทำให้เธอแทบกระอัก มันจะมาเปิดเพลงประเภทนี้ทำอาวุธอะไรเวลาแบบนี้วะ!!? คิดแล้วก็พาลทำท่าจะไปปิดเครื่องต้นเสียงนั่นให้เงียบๆไปเสียทีแต่แล้วเจ้าของเครื่องวิทยุที่ซื้อมาจากตลาดนัดมือสองก็มาคว้าหมับออกไปก่อนพร้อมด้วยเหตุผลสุดแสนจะกวนเบื้องล่างปนหักดิบหัวใจอันบอบบางของเธอว่า “ฟังๆไปเหอะไอ้กรรณ!! ของอย่างนี้มันต้องเอาให้เจ็บจี๊ดๆแล้วชินไปเองเว้ยมันถึงจะหายบ้า!!!”
บ้างั้นหรอ!? นั่นสินะ.... นี่เธอคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ
กรรณาได้แต่นั่งฟังเพลงนี้อย่างเข้าใจทุกท่วงทำนองและทุกตัวอักษรในเพลงนี้อย่างเข้าใจ เข้าใจเสียจนน้ำตาเจ้ากรรมมันจะไหลลงมาตามท่วงทำนองเพลงที่ใกล้จะจบเต็มทีแล้ว ที่คงไม่ต่างอะไรจากที่ลมหายใจของเธอจะใกล้หยุดลงแล้วกระมัง..
‘ต่อให้มันรู้ คนอย่างฉันไม่ควรคู่เธอ ต่อให้รู้สักวันต้องเจอ~’
เฮ้ยยยยยยยยยย !!! นี่มันสถานีวิทยุเพื่อนใจคนอกหักหรืออย่างไรวะเนี่ย!!? ฟังเข้าไป!! แต่ละเพลงที่เปิด นี่กะจะฆ่าเธอให้ตายด้วยเสียงเพลงเลยหรืออย่างไรกัน?? ขอเพลงแบบโจ๊ะๆบ้างได้ไหมเนี่ยยยย!!?!
“ไอ้กรรณ... นี่ๆๆๆ ฉันให้ไอ้ก๊องซื้อผัดไทเจ้าอร่อยมาฝาก! มาๆๆๆ มากินกัน.. ยัยน้องหนู ยัยรส ไอ้ก๊อง มากินกันเร็ว!!” ญาณิณเดินมาเคาะประตูห้องเสียงดังก่อนจะตะโกนเรียกเพื่อนๆและน้องชายของเธอไปทานข้าวเที่ยง จนทำให้เธอต้องหันไปมองนาฬิกาอย่างงงๆ นี่มันก็จะบ่ายโมงแล้ว เธอทำไมถึงได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไม่ใยดีเช่นนี้นะ ไม่ใช่วิสัยของเธอเลยสักนิดเลยให้ตายสิ!! เฮ้ออออออออออออ!!!! ความรักนี่มันทำให้คนเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้เลยหรอ!?
“เงียบกริบเลยว่ะยัยเจ๊... มันเอาหัวจุ่มชักโครกฆ่าตัวตายไปแล้วมั้งน่ะ!!” สุคนธรสพูดอย่างเซ็งๆ “ไอ้กรรณนี่มันก็บ้า! อกหักทีทำอย่างกับจะเป็นจะตาย.. ยัยแก้มกับนายจุนจีเขาก็ยังไม่ได้หมั้นกันจริงๆซักหน่อย เรื่องแค่นี้ทำเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศไปได้ เดี๋ยวแม่ก็เสกหนังควายใส่เป็นหมู่คณะเสียเลยนี่!!!!”
“แกอย่าปากดีไปไอ้รส!! แกก็ทำเสน่ห์ใส่นายจุนจีหรือใครก็ได้ให้งานหมั้นมันยกเลิกไปเลยดีมั้ย เรื่องมันจะได้จบๆแฮปปี้เอ็นดิ้งไป!!” ญาณิณประชดขึ้นมาบ้าง จนคนปากดีต้องส่ายหน้ารัวๆใส่กลับไป “โนวเวย์เซย์โน เลยยัยเจ๊!! จะให้ฉันทำเสน่ห์เนี่ยนะ!? ถ้าฉันจะทำฉันทำไปนานแล้วว ไม่ต้องมามัวแต่แอบรักเขาอย่างนี้ทุกวันหรอก!!”
“นี่แกหมายถึงใครหรอรส??” แม่น้องหนูสวนขึ้นมาด้วยความสงสัยทันทีจนส่งผลกระทบให้ทั้งบ้านหันมามองเธอเป็นตาเดียว
“ก็... ก็คืออ.... ก็ฉันก็แค่เปรียบเทียบเฉยๆไง เอ้ออ!! คือฉันจะบอกว่าถ้าฉันทำเสน่ห์ได้ง่ายๆโลกนี้ก็คงไม่มีใครอกหักแล้วไง.. 55555 เออๆ ไอ้กรรณลงมาพอดีกินข้าวกันๆ” สุคนธรสทำท่าโวยวายก่อนจะเดินลิ่วไปที่โต๊ะกินข้าวอย่างลนๆ
“พี่รสเค้าชอบเจ๊จีจ้า!!” เสียงที่ไม่ปรากฏกายเกิดดังขึ้นมาอีกครั้งจนคนหูดีต้องอมยิ้มกับตัวเองเบาๆแล้วกระซิบตอบปนออกคำสั่งเจ้าของเสียงไปอย่างทันทีทันใด “ว่างๆก็ไปบอกเจ๊จีจ้าบ้างนะเจ้าหนู มาบอกพี่ก็เท่านั้นแหละ! คืนนี้เลยก็ได้ แต่อย่าให้ชัดเจนนักล่ะ ค่อยๆให้หายคลุมเครือไปทีละนิดๆ คงน่ารักดีนะ พี่ชอบ!! 555555”
“อะไรวะพี่กรรณ เดี๋ยวๆก็อารมณ์เสีย เดี๋ยวๆก็ร้องไห้ นี่มาหัวเราะอีก!! บ้าไปแล้ววววว!!!” น้องชายตัวแสบพึมพำกับตัวเองเบาๆแต่ก็คงไม่รอดพ้นระยะการได้ยินของกรรณาจนพี่สาวต่างมารดาต้องพูดขึ้นมาลอยๆด้วยความหมันไส้
“เก็บปากไว้กินข้าวไปไอ้ก๊อง!!!” หันไปส่งสายตาคาดโทษให้น้องชายตัวแสบก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทานอาหารด้วยอาการนอยๆ เหมือนเดิม ...อีกครั้ง!!
====================================
หาย_ัวไปนานแสนนานนนน!~
เค้ากลับมาแล้วน้าาา
จริงๆจะอัพตั้งแต่วันศุกร์แล้วแหละ
เรากดอัพแล้วจริงๆนะแต่พอมาเปิดดูในไอแพดอีกทีไม่มีซะงั้น!!
โทษอะไรดีล่ะ!?
โทษข้าพเจ้านี่ล่ะหนออ ไม่ยอมดูให้ดีๆ แถมมาอัพช้าอีก
แหะๆ :P
ปล.ใครบ้านไม่ใกล้ไม่ไกลจุฬามากนักก็ไปดูกันนะงาน'จุฬาวิชาการ' เจ๋งมากจริงๆ เราขอแนะนำ!!!!
วันนี้วันสุดท้ายแล้วด้วยยย ไม่ไปปีนี้รอไปอีกสามปีเลยน้าาา 55555
รักพวกคุณนะ ขอบคุณที่ตามอ่านผลงานที่โคตรตั้งใจแต่ก็ได้แค่นี้ของเรา
สาบานว่าจะพัฒนาฝีมือตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อคนอ่านทุกคนนะจ๊ะ... :))
ความคิดเห็น