คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter 2 ▪ Igues VS Ziren!
2
Igues VS Ziren!
เจ้าเชื่อในพรหมลิขิตไหม...
เชื่อว่าพรหมลิขิตทำให้เราพบกัน...
แต่ชะตากรรมทำให้เราต้องจากกัน...
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ถูกพรหมลิขิตและชะตากรรมบงการ...
นั่นคือหัวใจของเจ้าและข้าที่ผูกพันกัน...
หืม...
หอมจัง...
เขาคิดพลางสะดุ้งตื่นเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมๆ ของอะไรสักอย่าง นัยน์ตาสีแดงเข้มราวกับเลือดพยายามเปิดตาจนเบิกตาโตก่อนจะกระพริบและขยี้จนหายงัวเงียเป็นปริทิ้ง
เจ้าของนัยน์ตาสีแดงฉานพยายามดันตัวลุกขึ้นออกจากเตียงไม้เล็กๆ ที่ดูเหมือนจะนอนได้แค่คนเดียวก็เต็มกลืน อาจจะสำหรับเขาที่ตัวใหญ่เกินไปก็ได้ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงหรือเด็กอาจจะนอนพอ...
ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ตรงนั้น
ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยใบหน้าฉงนแล้วหันไปมองรอบๆ ที่แปลกตาไปจากเดิม มันคือห้องนอนขนาดเล็กที่มีหน้าต่างสองบาน ภายในห้องมีเพียงเตียงไม้เล็กๆ ที่เขากำลังนั่งอยู่กับโต๊ะเขียนหนังสือที่ไม่ใหญ่มากและตู้เก็บหนังสือที่มีหนังสือเล่มหนาปึกแต่กลับมีฝุ่นเกาะจนหนาเตอะเหมือนไม่มีใครหยิบมานาน
ที่นี่มัน...ที่ไหน?!
กึก
เสียงจากประตูทำให้เขาสะดุ้งรีบหันไปมองอย่างหวาดระแวง นัยน์ตาสีแดงสดเพ่งมองด้วยความสงสัย เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาร่างของสาวน้อยที่รูปร่างดูอายุใกล้เคียงกับเขาก็ปรากฏขึ้น
เธอคือหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีทองอร่ามสดใสและนัยน์ตาสีเทาหม่นจนเกือบดำ ในมือเล็กๆ ของเธอถือถาดไม้ที่บนถาดใส่ซุปร้อนๆ หนึ่งชาม
“อ๊ะ เจ้าตื่นแล้วเหรอ”
เธอแสร้งทำสีหน้าตกใจรีบเดินเข้ามาวางถาดไม้ไว้กับโต๊ะเขียนหนังสือแล้วหยิบถังเล็กๆ ที่ใส่น้ำและมีผ้าเช็ดตัวผาดเอาไว้ขึ้นมา
“เจ้าอยากจะเช็ดตัวหน่อยไหม?” เธอเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ แล้วส่งให้
“เจ้า...เป็นใคร” เสียงที่ตอบกลับมาหาได้มีความน่าฟัง กลับดูหยาบกระด้านจนหาความเป็นมิตรไม่ได้เลยสักนิดเดียว
เธอขมวดคิ้วไม่แพ้เขา จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ
“เจ้าเพิ่งตื่นนี่นา คงจะจำอะไรไม่ได้สินะ”
“จำ...ข้าต้องจำอะไรกัน?” เขาทวนคำเบาๆ ก่อนจะชักสีหน้าหงุดหงิด
“จำไม่ได้จริงๆ สินะ ข้าพบเจ้าตอนที่กำลังนอนสลบตรงหน้าผา บนตัวของเจ้ามีบาดแผลมากมาย ข้าไม่ได้กลัวว่าเจ้าจะตายเพราะบาดแผลหรอก เพราะมันไม่หนักหนาอะไร แต่ข้ากลัวเจ้าจะตายในป่าเพราะลมหนาวมากกว่าถึงได้พามาที่นี่...บ้านของข้าเอง”
“...”
ชายหนุ่มจ้องใบหน้าหวานของเธออย่างไม่วางตา หาใช่เพราะเสน่หาในตัวเธอไม่ แต่เขากำลังจับผิดต่างหาก
“เจ้าช่วยข้าเหรอ?” เขาเริ่มพูดบ้าง
“เมื่อกี้ข้าก็เพิ่งบอกไปว่าข้าช่วยเจ้า” เธอตอบกลับ
“ช่วยข้าทำไม” เขาเริ่มคำราม
“ช่วยทำไม? ต้องมีเหตุผลด้วยหรือไง จะช่วยคนคนหนึ่งน่ะ” เธอย้อนกลับ
“บอกมานะ! ใครส่งเจ้ามาตามตัวข้ากลับไป!” เขาคำรามแผดเสียงดังกว่าเดิม แขนยาวเหยียดของเขาเอื้อมไปคว้าคอขาวๆ ของหญิงสาวตรงหน้าได้สบาย เธอผงะแต่ไม่ทันตั้งตัว ร่างกายก็กระแทกเข้ากับกำแพงบ้านโดยมีมือของเขา มือที่ใหญ่และแข็งแรงบีบคอเล็กๆ ของเธอจนแทบหายใจไม่ออก แม้เพียงแขนข้างเดียวแต่ก็ทำให้เธอไม่สามารถขยับได้
“เจ้า...!” เธอกัดฟันกรอด
“บอกข้ามา! ฮาเวิร์ดส่งแกมาใช่ไหม!”
นัยน์ตาสีแดงประกายแวววับทันใดเมื่อเอ่ยถึงชื่อนั้น คนถูกถามสะอึกสำลักไอคอกแค่กเริ่มหายใจไม่ออกเพราะแรงบีบจากเขา
“ขะ ข้าไม่...รู้” เธอตอบด้วยเสียงทุรนทุรายพยายามแกะมือของเขาออก
“โกหก!” เขาตอบเสียงดังฟังชัดด้วย น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังเย้ยหยัน
“ไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้า! ปะ ปล่อยข้านะ” เธอเริ่มร้องแผ่วเบา
“โอ๊ย...!”
มือเรียวรีบจับขมับ อาการปวดหัวแปลบราวกับหัวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้แขนที่บีบคอเธอเริ่มอ่อนลง มือทั้งสองข้างรีบจับศีรษะ ขาทรุดลงไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้จะยืนขึ้น ใบหน้าของเขาแสดงถึงอาการเจ็บปวดเจียนตาย
บ้าเอ๊ย...
นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกับข้ากัน!
ปวดหัว
ปวดเหลือเกิน...
“เฮ้! จะ เจ้าเป็นอะไรน่ะ!” เสียงของเธอแว่วเข้ามาในสมองของเขา แต่ตอนนี้สมองของเขาหนักและทรมานเกินจะรับฟังเสียงของใคร
สติที่ประคับประคองได้ยากเต็มทีเริ่มหลุดลอยออกไปทุกที กลิ่นหอมๆ ที่เขาได้ดมทำให้สมองเริ่มปลดปล่อยจนในที่สุดเขาก็ล้มลงและไม่รู้อะไรอีกเลย...
อบอุ่น...
ไอกัสสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ เรียกให้สติของเขากลับเข้ามา มือหนาพยายามจะเอื้อมมาบดบังแสงแดดที่เริ่มแยงตาแต่กลับไม่สามารถบังคับได้ดั่งตามที่ใจของเขาต้องการเลยสักนิด
มือ...ทำไมไม่ขยับกัน!
เขาเบิกตากว้าง ดวงตาสีแดงประกายแวววับมองเห็นเชือกเส้นใหญ่ที่มัดข้อมือและขาทั้งสองข้างทำให้เขาตกใจ
นี่มัน...อะไรกัน!!
“อืม...”
ไอกัสสัมผัสถึงมือของใครบางคนที่กำลังคว้าเขาเข้าไปกอด ไอกัสสะดุ้งแต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้เพราะมือที่โดนมัด ได้แต่อยู่นิ่งด้วยความงุนงวยจนกระทั่ง...
นัยน์ตาสีแดงสดเหลือบไปเห็นร่างบางที่กำลังนอนข้างๆ เขา เธอคว้ากอดพร้อมพึมพำเบาๆ บางอย่างจนเขาไม่อาจได้ยิน
ผู้หญิง?
ไอกัสนึกในใจ คิ้วเรียวสีดำเข้มของเขาขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ในใจมีเพียงคิดถึงเรื่องที่ตัวเองโดนมัด แต่ตอนนี้กลับเป็นความอยากรู้มากกว่าว่าผู้หญิงมาอยู่ข้างๆ เขาได้ยังไง!?
“เฮ้! เจ้า...เจ้า! ตื่นสิ” ไอกัสเริ่มตะโกนใส่หลังจากที่คิดอยู่นานจะทำให้เธอตื่นยังไง ลำตัวของเขาพยามยามดันร่างเล็กๆ ออกห่างจากเขาให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ยัยผู้หญิง เฮ้! ตื่นสิ ข้าบอกให้เจ้าตื่นไงเล่า” ไอกัสเริ่มตะโกนแผดเสียงดังกว่าเดิม แต่เธอนั้นดูเหมือนจะตื่นได้ยาก เมื่อนานเข้าไอกัสเริ่มแผดเสียงดังอีกครั้งจนเธอเริ่มงัวเงีย
“อา...” หญิงสาวครางเบาๆ พลางเอื้อมกอดไอกัสแนบแน่น “ท่าน...พ่อ ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย...”
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าขาวของเธอ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขแต่กลับดูเศร้าปะปนกัน น้ำตาใสๆ จากนัยน์ตาสีนิลเริ่มไหลออกมา เธอเริ่มสะอื้นครวญครางเบาๆ ว่า ‘ท่านพ่อ’ ไปมา
“เฮ้! เจ้า! ยัยผู้หญิง ข้าบอกให้ตื่นไงเล่า!”
ทันใดนั้นเสียงของไอกัสก็แผดเสียงดังลั่นกว่าครั้งที่ตะโกนจนหญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นจากนิทรา เธอเริ่มรู้สึกตัวใช้มือเล็กๆ ที่กอดไอกัสขยี้ดวงตาเบาๆ แล้วครางอย่างงัวเงีย
“ท่านพ่อ หืม...” ไซเรนเริ่มตงิดเมื่อนัยน์ตาสีนิลของเธอมองเห็นชายหนุ่มผมสีดำสนิทที่กำลังนอนข้างเธอ
ท่านพ่อของข้าตอนหนุ่มเหรอ?
นี่ข้าฝันไปเหรอ...
ไม่สิ! ฝันได้ยังไง ในเมื่อพ่อของเธอ...
“จะ เจ้า!! ไอ้โรคจิต!” เธอตวาดเสียงดังลั่นรีบผงะออกจากเตียง มือเล็กๆ คว้าสิ่งของรอบข้างปาใส่อย่างหวาดระแวงไม่คำนึงถึงความแข็งหรืออ่อน
“โอ๊ย! จะ เจ้า! อะ โอ๊ย! ปาใส่ข้าทำไมกัน โอ๊ย หยุดซะทีสิ! หยุดนะ ไม่งั้นข้าจะ...โอ๊ยยย!” ไอกัสเริ่มครวญครางเจ็บแปลบเมื่อเธอขว้างกล่องใส่ของบนโต๊ะปาใส่หน้าผากของเขา เลือดสีแดงเริ่มซึมๆ บนหน้าผาก
บะ บ้าน่า! เธอมานอนเตียงเดียวกับไอ้โรคจิตนี่ได้ยังไง
ไซเรนที่ตื่นขึ้นมาเรี่ยวแรงเริ่มหายกลายเป็นความสิ้นหวัง ขาสองข้างทรุดลงจนไม่มีแรงยืน มือทั้งสองกุมอกราวกับหัวใจดวงน้อยๆ กำลังแตกสลาย
“ยัยผู้หญิง! บังอาจนัก! ยโสโอหังที่สุด!” ไอกัสแผดเสียงคำราม เขากัดฟันกรอดอย่างเจ็บแค้นอยากจะกระชากเชือกเส้นหนาที่พันธนาการร่างกายของเขาจนขยับไปไหนไม่ได้
ขยับไม่ได้เหรอ? ไซเรนเริ่มได้สติชะงักมือที่กำลังปาข้าวของ
เดี๋ยวสิ...ขยับไม่ได้แล้วเจ้าหมอนี่จะลวนลามข้าได้อย่างไร
เธอคิดและเริ่มเพ่งมองใบหน้าเรียวของชายหนุ่ม
ผมสีดำสนิท...
นัยน์ตาสีแดงเข้มราวกับเลือด...
คำพูดรุนแรงดูไม่น่าคบหาและหยาบกระด้าน...
ลักษณะแบบนี้มันเป็นของคนที่เธอเก็บมานี่นา!
“เจ้าตื่นแล้วงั้นเหรอ” เธอได้สติรีบวิ่งเข้าไปใกล้ มือเรียวๆ ของเธอวางไว้ที่หน้าผากของเขา “ไข้ไม่ขึ้นแสดงว่าหายดีแล้ว”
ทันใดนั้น นัยน์ตาสีนิลเหลือบไปเห็นเลือดที่ไหลซิบๆ ตรงมุมหน้าผากทำให้เธออุทานเสียงดัง “เอ๊ะ! เลือด! แย่แล้ว!”
“โอ๊ย! ยัยบ้า! ออกไปจากร่างกายของข้านะ” ไอกัสเริ่มร้องโวยวาย
“เจ้าหุบปากเถอะน่า! ข้าจะช่วยรักษาเจ้านะ” ไซเรนพูดพลางมือก็เริ่มหยิบผ้ามาเช็ดเลือดและตลับยาทาให้เขา
“อะ โอ๊ย! เจ้า! ยัยบ้า! ยัยโรคจิต! นี่ไม่ใช่การรักษาแต่กำลังฆ่าข้าต่างหาก!” ไอกัสโวยวายเมื่อแรงจากนิ้วของหญิงสาวกดไปที่แผลเขาแรงๆ
“ใครบอก! เจ้านั่นแหละโรคจิต! เลิกแหกปากซักที!”
“อ๊ะ อ๊ากกก!!!” คราวนี้กลายเป็นแหกปากจนยากที่จะหยุดเมื่อหญิงสาวเจ้าของร่างที่ถือตลับยากดแผลแรงๆ อีกครั้งจนเขาทนไม่ไหว
“เอาละ เสร็จแล้ว เฮ้อ เป็นผู้ชายแท้ๆ ร้องลั่นแหกปากเหมือนกำลังจะถูกเชือดไปได้” เธอบ่นพึมพำดังๆ ให้เจ้าตัวได้ยินพลางเดินไปเก็บตลับยาที่เดิม
“ยัยผู้หญิง! ข้าเกลียดเจ้า ปล่อยข้านะ ข้าจะไปฆ่าเจ้า!” ชายหนุ่มขู่ฟ่อฟอดพยายามดังแขนแรงๆ ให้หลุดจากเชือกเส้นหนาที่พันธนาการ
“เฮอะ แน่จริงก็ดึงให้หลุดสิ ข้าปล่อยเจ้า เจ้าก็ได้บีบคอข้ากันพอดี เรื่องอะไรข้าจะปล่อยเจ้าให้โง่กันเล่า” เธอเริ่มยิ้มเยาะ
“ฮึ่ย...!!” ไอกัสกัดฟันกรอด
ฝากไว้ก่อนเถอะ!!
--------------------------------------------------------------
ในที่สุดตอนที่ 2 ก็จบลงเเต่รู้สึกเหมือนรั่วแปลกๆ ในความคิดเลยเเฮะ -_-;
ยังไงก็ขอความคิดเห็นหน่อยนะ เเต่งไม่เก่งถ้าไม่สนุกก็ขออภัยด้วยจ้า มือใหม่หัดเเต่ง!
อัพเดท 1 ; 05 / 03 / 2010
" 2 ; 10 / 03 / 2010
" 3 ; 01 / 05 / 2010
ความคิดเห็น