ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR Fic. ] ร้ายนักนายมาเฟีย 10069

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 16

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 59


    “ คุณเบียคุรัน!...คุณเบียคุรัน ”

    มุคุโร่ตะโกนเรียกชื่อนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือบางที่สัมผัสร่างสูงนั้นสั่นไหวและเมื่อรับรู้ถึงเลือดอุ่นๆที่ไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสติที่เคยมีก็เหมือนจะหายไป

    “ ขนาดอยู่ในสภาพเจียนตายแบบนั้น...เขาก็ยังสามารถรับกระสุนแทนคุณได้อีกนะ ”

    ถี่ถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชมแกมประชด เธอหยุดยืนเบื้องหน้าของมุคุโร่ มองดูใบหน้าสิ้นหวังที่ฉายออกมาอย่างเด่นชัดแล้วมองสลับกับร่างของเบียคุรันที่นอนนิ่งในอ้อมแขน แค่เสี้ยววินาทีที่เธอลั่นไกเบียคุรันอาศัยจังหวะดึงร่างมุคุโร่เข้ามาในอ้อมแขนและใช้แผ่นหลังตัวเองรับลูกกระสุนไว้

    “ เอาละ...เรามาจบปัญหานี้กันดีกว่า...คราวนี้คงไม่มีใครมาขัดขวางเราได้อีกแล้วนะคะ ”

    ปืนกระบอกเดิมจ่อมาทางมุคุโร่อีกครั้ง ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มเยาะเหมือนกับได้รับชัยชนะเรียบร้อยแล้ว

    “ เธอน่ะ...ไม่รีบ...เกินไปหน่อยเหรอ? ”

    ถี่ถิงเบิกตากว้าง ทั้งที่คิดว่าเขาคนนั้นน่าจะตายไปแล้วหรืออย่างน้อยน่าจะแกล้งนอนนิ่งไปแบบนั้นเสียยังดีกว่า เบียคุรันเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงพร้อมรอยยิ้ม

    “ คุณเบียคุรัน ”

    เนตรต่างสีมองร่างของชายในอ้อมแขน แววตาสั่นไหวด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเห็นเขายังมีชีวิตอยู่ในใจกลับรู้สึกดีใจและโล่งอก

    “ อย่าบอกนะคะ...ว่าคุณคิดจะรับเจ้านี่อีกเป็นครั้งที่สอง ”

    “ หึ...แน่นอนสิ...ฉันไม่ปล่อย...ให้มุคุโร่คุงตายหรอก ”

    “ ไม่นะครับ...คุณเบียคุรัน ”

    มุคุโร่พยายามดึงร่างสูงที่พยายามจะขวางตนกลับมา ทั้งที่แรงที่จะลุกขึ้นแทบจะไม่มีแล้วแท้ๆ ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วย ทั้งๆที่เขาต่างหากที่เป็นฝ่าย...ทรยศ

    “ ที่จริงฉันอยากจะกำจัดคนสำคัญของคุณต่อหน้าซักหน่อย...แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว... ”

    “ หึ...ถ้าทำได้อ่ะนะ ”

    ตูม!!

    เสียงระเบิดดังขึ้นที่ชั้นบนเพราะห้องที่อยู่ชั้นล่างสุดจึงได้รับแรงสั่นสะเทือนพอสมควรบวกกับตึกที่เก่ามากแล้วเศษปูนจากเพดานเริ่มร่วงลงมาเป็นระยะตามเสียงระเบิด

    “ ดูเหมือนว่า...เวลาของเธอจะหมดแล้วนะ ”

    ถี่ถิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ มือเรียวเล็กกำปืนแน่น เธอชั่งใจระหว่างยิงบอสของมิลฟิโอเล่ทิ้งที่นี่แล้วหนีออกไปไม่ทันโดนจับได้กับทิ้งทั้งคู่เอาไว้ที่นี่แล้วรีบหนีไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ว่าจะหนีพ้น

    “ คุณหนูครับ...เราหนีกันก่อนเถอะครับ ”

    พวกลูกน้องเสนอสถานการณ์แบบนี้เป็นใครก็ต้องกลัวตายทั้งนั้น แต่โอกาสแบบนี้ก็หาไม่ได้อีกแล้ว

    ปัง...ปัง

    เสียงปืนเริ่มใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ ถี่ถิงจึงต้องตัดใจลดปืนลง ลูกน้องเห็นดังนั้นจึงรีบนำตัวเธอออกไปให้เร็วที่สุด แต่ก่อนที่จะออกไปเธอสั่งให้ลูกน้องล๊อคประตูขังสองคนนี้เอาไว้ ต่อให้มีคนมาช่วยคงต้องใช้เวลามากพอสมควรเป็นการทรมานบอสแห่งมิลฟิโอเล่ไปในตัวด้วย

    ทันทีที่ถี่ถิงจากไปเบียคุรันล้มคว่ำลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มุคุโร่รีบเข้าไปช่วยพยุงให้นอนหงายขึ้น ร่างสูงเริ่มหายใจเร็วและถี่ขึ้น เลือดจากแผ่นหลังและแผลที่ถูกแทงที่ท้องไหลออกมามากจนเสื้อสีขาวถูกย้อมด้วยสีแดง มุคุโร่ใช้มือกดปากแผลที่ท้องไว้

    “ คุณเบียคุรัน...ทำใจดีๆไว้นะครับ...คุณยังได้ยินเสียงผมอยู่ใช่มั้ย? ”

    “ อืม...เสียงของเธอน่ะ...ไม่ว่าเมื่อไหร่...ฉันก็ได้ยินเสมอนั่นแหละ ”

    ใบหน้าคมคายขาวซีดเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาสีอเมทีสต์มองร่างบางอย่างอ่อนล้าแต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก ริมฝีปากได้รูประบายยิ้มน้อยๆ

    “ ไม่คิดเลย...ว่าจะได้เห็นเธอกังวลเรื่องของฉันด้วย...อย่างตอนนี้ ”

    “ หมายความว่ายังไงครับ? ”

    “ หึ...หึ...ก็เธอน่ะเกียจฉันมาก...จนอยากจะให้ฉันตายไปให้พ้นๆไม่ใช่เหรอ? ”

    “ นี่มันใช่เวลามาพูดเรื่องแบบนี้เหรอครับ? ”

    มุคุโร่ดุเสียงแข็งสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจผิดกับเบียคุรันที่ดูจะสนุกกับการที่ได้หยอกล้อ คิ้วหนาขมวดหากันด้วยความเจ็บปวด มือบางที่คอยกดแผลสั่นสะท้านมากขึ้นความรู้สึกมากมายผสมปนเป ความตระหนก,ความกังวลและสุดท้าย คือ ความกลัว

    เบียคุรันกุมมือของมุคุโร่อย่างอ่อนโยน...

    “ อย่ากังวลไปเลย...มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะ ”

    มุคุโร่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เนตรต่างสีเบิกกว้างจับจ้องเจ้าของสีตาอเมทีสต์ ดวงตาคู่นั้นไม่ได้ฉายแววตำหนิกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เลย ในเวลาแบบนี้แทนที่เขาจะเป็นฝ่ายที่ถูกต่อว่าแท้ๆ ทำไม?...คนๆนี้จึงเลือกที่จะปลอบโยนเขาแทน

    “ ฉันน่ะ...ไม่ว่าเรื่องอะไร...ขอแค่ทำให้เธอมีความสุขได้...ฉันพร้อมที่จะทำมันทั้งนั้นแหละ ”

    เบียคุรันละมือที่กุมมือมุคุโร่มาสัมผัสใบหน้างามแทน มือนั้นชุ่มไปด้วยเลือดของตนเองนิ้วเรียวเกลี่ยแก้มนวลเบาๆ

    “ หากตอนนี้ความตายของฉัน...จะทำให้เธอมีความสุขได้...ฉันก็... ”

    “ หยุดล้อเล่นแบบนี้ซะทีเถอะครับ!! ”

    มุคุโร่ตวาดลั่นพร้อมกับคว้ามือนั้นแนบข้างแก้มไว้ ถึงจะไม่เคยคาดคิดมาก่อนแต่การกระทำแบบนั้นกลับทำให้เบียคุรันดีใจ เขายิ้มออกมาอีกครั้ง เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว ต่อให้สิ่งที่แสดงตอนนี้ไม่ได้เกิดจากความรักที่มีต่อเขา แค่นี้ก็พอแล้ว...ทั้งที่อยากจะอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้...ทั้งที่อยากจะปกป้องแท้ๆ...แต่สิ่งที่เขาทำให้ร่างบางรู้สึกมีแต่ความแค้นและความเกลียดชังเท่านั้น

    “ อย่าพูดเหมือนกับจะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังอย่างนี้นะครับ ”

    “ ไม่หรอก...จนถึงตอนนี้...ฉันมองแค่เธอเท่านั้น ”

    เนตรสีอเมทีสต์ฉายแววลังเลริมฝีปากที่ยิ้มแย้มกลับเม้มสนิท...ร่างกายกระตุกเล็กน้อยสาเหตุอาจมาจากที่เขาเสียเลือดมากเกินไป

    “ เธอล่ะ?...เคยหันกลับมามองฉันบ้างรึเปล่า? ”

    พูดออกมาแล้วก็ยิ้มอย่างสมเพชให้กับตัวเอง...ความอบอุ่นจากฝ่ามือค่อยๆจางลงเรื่อยๆ...ถึงมุคุโร่จะไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่เบียคุรันก็ไม่รู้สึกติดค้างอะไร...นั่นเพราะเขาเข้าใจคนตรงหน้าดีซะยิ่งกว่าใคร...สัมผัสที่ยังพอรับรู้ได้คือมุคุโร่บีบมือที่ขาวซีดแน่น

    ปึง...ปึง...ปึง เสียงเคาะจากอีกฝากของประตูดังขึ้น

    “ คุณเบียคุรัน...คุณอยู่ข้างในใช่มั้ยครับ? ”

    เสียงร้อนรนของโชอิจิดังเล็ดลอดเข้ามา...มุคุโร่รีบส่งเสียงตอบกลับทันทีเขาวางมือของเบียคุรันไว้บนหน้าอกแล้ววิ่งไปที่ประตู

    “ คุณโชอิจิ!...รีบหน่อยครับ...คุณเบียคุรันบาดเจ็บสาหัสครับ ”

    “ บ้าจริง!...งั้นคุณช่วยถอยห่างจากประตูด้วยครับ...ผมต้องพังมันเข้าไปแล้วล่ะ ”

    เบียคุรันเห็นแผ่นหลังของมุคุโร่อย่างเลื่อนลาง...เสียงหวานที่อยากจะฟังก็เริ่มจะไม่ได้ยินแล้ว...ที่เขาฝืนมาอยู่ได้จนถึงตอนนี้คงเป็นเพราะอยากเห็นคนที่เขารักมากที่สุดปลอดภัย...ทั้งที่สัญญาไปแล้วว่าจะปกป้องตลอดไป...สุดท้ายเขาก็เป็นได้แค่...คนหลอกลวง

    เธอจะร้องไห้เพื่อฉันมั้ย?...เธอจะคิดถึงฉันมั้ย?...เธอเคยรักฉันบ้างรึเปล่า?

    แต่ฉันคง...ไม่มีเวลารอคำตอบจากเธอแล้ว

    ปัง...ปัง...ปึง

    ประตูถูกกระแทกออกทั้งบานโดยกลุ่มชายฉกรรจ์ โชอิจิรีบวิ่งเข้าในห้องแต่ก็ช้ากว่าที่มือของมุคุโร่คว้าแขนของเขาแล้วลากเข้ามา มุคุโร่คุกเข่าข้างกายคนเจ็บ โชอิจิที่วิ่งตามมาก็ช๊อคไม่แพ้กัน

    “ คุณเบียคุรัน...คุณโชอิจิมาแล้ว...แข็งใจไว้นะครับ ”

    “ .......... ”

    ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง ตาทั้งสองข้างปิดสนิท

    “ คุณเบียคุรัน!! ”

    “ .......... ”

    “ อย่าเล่น...แบบนี้นะครับ...ผมไม่สนุกด้วยนะ ”

    “ .......... ”

    มุคุโร่เขย่าร่างสูงแรงขึ้นเรื่อยๆ...โชอิจิเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาห้ามมุคุโร่และตะโกนสั่งกลุ่มลูกน้องทันที

    “ พวกนายรีบตามหน่วยแพทย์จากด้านนอกมาสิ ”

    ดวงตาสีมรกตสำรวจร่างของคนเจ็บอย่างละเอียด...หน้าอกยังขยับอยู่ แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น...บาดแผลที่ถูกแทงและถูกยิงทำให้เสียเลือดมาก แถมคนเจ็บก็หมดสติไปแล้วด้วย...ให้ตายเหอะนี่มันเข้าขั้นวิกฤตแบบสุดๆ

    โชอิจิพาเบียคุรันที่บาดเจ็บและมุคุโร่มาที่โรงพยาบาลในเครือเจสโซ่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ ทันทีที่ลงจอดเบียคุรันได้ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินโดยมีมุคุโร่และโชอิจินั่งคอยอยู่ด้านนอก เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง คนเจ็บไม่มีทีท่าว่าจะออกมามีแต่พยาบาลเท่านั้นที่วิ่งเข้า-ออกกันวุ่นวาย

    “ คุณเบียคุรัน...เป็นยังไงบ้าง? ”

    โชอิจิคว้าแขนพยาบาลคนหนึ่งที่วิ่งออกมา

    “ คุณเบียคุรันหยุดหายใจไป 2 ครั้งคะ...แต่เราก็ปั๊มหัวใจจนกลับมาได้...บวกกับคุณเบียคุรันเสียเลือดมาก...อาการยังไม่ถือว่าปลอดภัยคะ ”

    โชอิจิคลายมือออกพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้หน้าห้องอย่างหมดแรง...เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเรื่องทำนองนี้กับเบียคุรัน...

    เนตรสีมรกตจ้องไปทางมุคุโร่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเดือดดาล

    คราวนี้คงสมใจคุณแล้วล่ะสิ?

    “ …………… ”

    ใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ตัวเองได้ตามเป้าหมาย...คุณเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพวกมาเฟียที่คุณเกลียดหรอก!

    “ …………… ”

    โชอิจิเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อคนนั่งนิ่งจนร่างไหวตามแรง

    พูดอะไรบ้างสิ!

    มุคุโร่ยังคงหน้านิ่งไร้อารมณ์สิ่งที่แฝงอยู่ในดวงตาคือความรู้สึกผิด...เขาซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเกลียดมาเฟียอย่างที่สุดกลับใช้วิธีการของมา

    เฟียถึงขั้นยอมร่วมมือเพื่อให้ได้ธุรกิจของครอบครัวคืน...ศักดิ์ศรีของเขาไม่มีเหลืออีกแล้ว

    โชอิจิง้างมือเพื่อจะต่อยใบหน้าที่ทำให้ไม่สบอารมณ์นี้...แต่ก็ถูกคิเคียวหยุดไว้ซะก่อน

    “ นี่มันใช่เวลามาทำเรื่องแบบนี้เหรอ?...คุณโชอิจิ ”

    “ คุณคิเคียว!? ”

    “ ถ้าคุณเบียคุรันรู้ว่าคุณกำลังทำเรื่องแบบนี้อยู่มีหวังโดนดุแน่ๆนะครับ...หน้าที่สำคัญที่คุณเบียคุรันฝากคุณไว้คืออะไรครับ? ”

    โชอิจิมองคิเคียวที่เข้ามาเตือนสติด้วยความรู้สึกผิด..เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกลับมาปรับเสียงให้ราบเรียบ

    เหมือนเดิม

    “ ไปกันได้แล้ว ”

    เขาหันกลับมาพูดกับมุคุโร่พร้อมกับปล่อยคอเสื้อ

    “ ............... ”

    มุคุโร่มองโชอิจิอย่างไม่เข้าใจ...ตัวเองจะถูกพาไปไหน?...เขาคิดว่าหากตอนนี้ตัวเองจะถูกพาไปฆ่าก็เป็นเรื่องที่สมควร

    แล้ว...ดังนั้นจึงไม่คิดจะถามอะไร

    “ ผมเตรียมสถานที่ให้เรียบร้อยแล้วครับ...เวลาคือ 9:00 น....แล้วนี่ชุดครับ ”

    คิเคียวยื่นถุงกระดาษที่เตรียมมาให้ชิอิจิ

    “ อืม...นี่ก็ใกล้เวลาแล้วด้วยสิ...เอาล่ะ รีบไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว...คุณมุคุโร่? ”

    “ หมายความว่ายังไงครับ? ”

    “ คุณเบียคุรันฝากเรื่องสำคัญให้ผมจัดการ...หลังจากที่ช่วยคุณเรียบร้อยแล้วครับ ”

    “ เรื่องที่ให้จัดการ? ”

    “เรื่องการประกาศบอสของมิลฟิโอเล่คนใหม่...คนนั้นก็คือ...คุณไงครับ...คุณมุคุโร่ ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×