ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6
แสงแห่งอรุณของวันใหม่ลอดผ่านหน้าต่างที่ถูกกันด้วยมู่ลี่ ร่างบางที่นอนหลับสนิทในห้องสีเทาขยับตัวเล็กน้อย
ก่อนที่เนตรสองสีจะเปิดขึ้น คนเพิ่งตื่นเริ่มกระพริบตาถี่ขึ้นเพื่อปรับเข้ากับแสงจ้า
‘ นี่เราหลับไปตอนไหน? ’
มุคุโร่ยันตัวขึ้นนั่งแล้วพบว่ามีผ้าห่มสีขาวห่มตัวอยู่ ทันทีที่สมองเริ่มสั่งงานร่างบางลุกพรวดขึ้นดวงเนตรสองสี
สอดส่องทั่วห้อง
“ นี่มันห้องของหมอนั่นนี่นา ไม่อยู่เหรอ? ”
ร่างเล็กเอ่ยกับตัวเอง ขาทั้งสองข้างเริ่มก้าวออกไปนอกห้องเพื่อมองหาบอสแห่งมิลฟิโอเล่ที่แสนเกลียด ไม่ว่าจะ
มองไปที่ไหนเขาก็ไม่พบร่างสูงและนั่นทำให้ร่างบางโล่งใจ เจ้าของผมสีไพรินเดินบิดขี้เกียจอย่างสบายอารมณ์จนหยุดยืนหน้ากระจกในห้องน้ำ
“ คึหึหึ นี่เรา...หลับไปทั้งชุดนี้เลยเหรอ? ไม่ไหวแหะ ”
มุคุโร่ยิ้มเยาะตัวเองก่อนที่จะปลดกระดุมทีละเม็ดเผยให้เห็นผิวใสเนียน
ซ่า....
น้ำจากฝักบัวไหลกระทบร่างบางจนเปียกชุ่ม สิ่งที่ทำให้แปลกใจก็คือแชมพูและครีมอาบน้ำที่น่าจะอยู่ในกระเป๋า
ของร่างบางถูกวางไว้ที่ชั้นวางเรียบร้อย
“ คึหึหึ คนอย่างคุณนี่ช่างไร้มารยาทเหลือเกินนะครับ ”
ใบหน้าคมคายพร้อมรอยยิ้มของร่างสูงผุดขึ้นในสมองของร่างบาง ใบหน้าแสนหลอกลวงนั่นช่างน่า
สะอิดสะเอียน มุคุโร่หยิบผ้าผืนใหญ่นุ่งปกปิดส่วนล่าง เผยรูปร่างบอบบาง เอวที่คอดกว่าสตรีช่างดูเย้ายวน มือทั้งสองข้างหยิบผ้าผืนเล็กเช็ดผมที่เพิ่งสระเสร็จใหม่ๆ
เจ้าของเนตรสองสีเดินออกมาจากห้องนอนพลางเดินไปที่โซฟาตัวยาวสีขาวที่วางอยู่กลางห้องนั่งเล่น มันถูกตั้ง
ให้หันไปทางทางหน้าต่างทำให้มองเห็นวิวด้านนอก ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ แต่แล้ว...
“ โอ๊ย!! ”
เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นร่างบางที่ทิ้งตัวลงไปแล้วนั้นถึงกับสะดุ้งโหย่ง เนตรสองสีหันมองต้นตอของเสียง
“ เธอทำอะไรน่ะ ฉันเจ็บนะ ”
เสียงของร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนากุมท้อง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
“ คึหึหึหึ ก็ผมไม่เห็นนี่ครับ คุณเบียคุรัน ”
“ ไม่เห็นงั้นเหรอ? ไม่เห็นคนนอนเนี่ยนะ ”
“ ครับ ผมไม่เห็น ” ร่างบางเหยียดยิ้มกว้าง
“ นี่เธอจะแก้แค้นฉันเหรอ? ”
“ เปล่านี่ครับ ผมไม่เห็นจริงๆ ”
มุคุโร่รู้สึกสะใจเล็กน้อยจากความไม่ตั้งใจของเขา แน่ล่ะที่ร่างบางจะไม่เห็นเพราะเฟอร์นิเจอร์เป็นสีขาว สีผม ผิว
กายและกางเกงนอนของร่างสูงเป็นสีขาวไปซะหมดมันแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันหมด
“ แล้วคุณมานอนอะไรตรงนี้ล่ะครับ ”
“ แล้วใครกันล่ะที่ยึดพื้นที่ไปหมดตั้งแต่วันแรกน่ะ ”
เบียคุรันดันตัวลุกขึ้น พร้อมส่งสายตาเอาผิดกับร่างบาง
“ คึหึหึ นี่คุณจะโทษผมเหรอครับ? ผมว่าคนอย่างคุณเหมาะกับโซฟาตัวนี้แล้วล่ะครับ ”
มุคุโร่ยิ้มเยาะอีกครั้ง ร่างสูงเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกันใบหน้าคมเผยยิ้มตามแบบฉบับ
“ งั้นเหรอ จะว่าไปพอฉันเห็นใบหน้าตอนหลับของมุคุโร่คุงแล้วทำให้ตื่นไม่ลงน่ะ ”
คิ้วเรียวกระตุกเล็กน้อยกับคำพูดของร่างสูง
“ เพราะแบบนั้นคุณถึงต้องนอนตรงนั้นแล้วโดนผมนั่งทับไงครับ “
มุคุโร่พูดยั่วอีกครั้ง ส่วนเบียคุรันยังยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ ฉันว่าคุ้มนะที่มานอนตรงนี้น่ะเพราะโดนสะโพกกลมมนของมุคุโร่นั่งทับ ตอนแรกฉันนึกว่าผู้หญิงที่ไหนซะอีก ”
ร่างสูงส่งรอยยิ้มไร้เดียงสาให้คนตรงหน้า ดวงตาสีน้ำแข็งค่อยๆมองไล่อกบาง เอว จนถึงสะโพกที่มีผ้าขนหนูเกาะ
หลวมๆ มุคุโร่หน้าขึ้นสีเพราะรู้ทันสายตาของเบียคุรันดี นั่นเป็นสายตาที่ผู้ชายมองผู้หญิงแบบ...
“ พูดเพ้อเจ้ออะไรของคุณน่ะครับ? ”
“ หรือว่าไม่จริงล่ะ ”
ทันใดนั้นมือแกร่งคว้าข้อมือบอบบางจนร่างของมุคุโร่เซนั่งลงบนตักของเบียคุรัน
“ เธอน่ะตัวเล็กกกว่าฉัน แถมเอวก็คอดซะขนาดนี้ จะไม่ให้ฉันคิดว่ามีผู้หญิงมานั่งทับได้ไง ”
มือของคนตัวใหญ่กว่าไล้ไปตามเอวบางทำเอาคนอยู่ด้านบนโมโหจัดด้วยความอายที่ถูกสบประมาทว่าเป็น
ผู้หญิง มือเรียวกำหนัดแน่นแล้วปล่อยใส่ใบหน้าแสนเจ้าเล่ห์นั้น
ปึ้ก...
เบียคุรันเอามือรับหมัดก่อนที่มันจะถูกใบหน้าอันหล่อเหลา
“ คงมีแต่สิ่งนี้ล่ะมั้งที่เธอดูเป็นผู้ชายน่ะ มุคุโร่คุง ”
คนตัวเล็กกว่ารีบเด้งตัวออกให้ห่างมือบอบบางกำชับผ้าขนหนูแน่น นั่นยิ่งทำให้ร่างสูงเหยียดยิ้มกว้างด้วยความ
พอใจ
“ ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว อย่ากลัวไปเลยนะ ”
“ ผมบอกกี่ครั้งแล้ว ว่าผมไม่ได้กลัวคุณ แต่เกลียดคุณต่างหาก ”
“ อืม เรื่องนั้นฉันรู้ดี แต่ตอนนี้ฉันต้องขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ ”
“ จะไปไหนก็ไปครับ จะไปเป็นศพในห้องน้ำก็เชิญ ”
“ เธอนี่มัน จริงๆเลยน๊า ”
ร่างสูงเหยียดยิ้มดวงตาคมจดจ้องร่างบอบบางแบบเมื่อครู่อีกแล้ว มุคุโร่เงื้อกำปั้นอีกครั้งแต่เบียคุรันกลับลุกขึ้น
เดินเข้าห้องอาบน้ำหนีไปซะงั้นทิ้งให้เจ้าของผมสีไพรินต้องโมโหอยู่คนเดียว
‘ คนบ้า...นี่คุณต้องการจะยั่วผมสินะ...คอยดูเถอะผมจะเอาคืนให้สาสมเลย ’
ผ่านไป 10 นาที
เจ้าของทรงผมชี้ฟูเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ประจวบเหมาะที่ร่างบางเข้ามาใส่เสื้อพอดี
“ อ๊ะ!! มุคุโร่คุงลามก เธออยากเห็นรูปร่างของฉันใช่ม๊า? ”
คนถูกกล่าวหาลอบถอนหายใจกับคำพูดสุดไร้สาระของบอสแห่งมิลฟิโอเล่
‘ สงสัยจริงว่าหมอนี่เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียได้ยังไง? ’
“ เลิกพูดเล่นเถอะครับ นี่ก็สายมากแล้ว เดี๋ยวจะทานอาหารเช้าไม่ทัน ”
“ เอ๋! อาหารเช้า? เธอสั่งมาแล้วเหรอ? ”
“ สั่งอะไรล่ะครับ ของก็มีอยู่ในตู้เย็น ทำเอาสิครับ ”
“ ไม่ยักรู้แหะว่าในนั้นจะมีอะไรนอกจากมาชเมลโล่ ”
“ นี่คุณไม่เคยสำรวจเลยรึไงครับ ”
“ อืม ก็นะ ธรรมดาแล้วโชจังจะเป็นคนทำทุกอย่างน่ะ ”
‘ ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไม คุณโชอิจิถึงทิ้งเอกสารเหล่านั้นไว้ให้ผม ’
“ เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ ผมจะออกไปรอคุณที่โต๊ะ ”
ร่างบางหันกายเดินออกจากห้องทิ้งให้ร่างสูงอยู่ภายในห้องคนเดียว พอนึกได้ว่าเลาขาส่วนตัวทำอาหารเช้าให้ผู้
เป็นนายรีบแต่งตัวด้วยความเร็วสูง
‘ ฝีมือของมุคุโร่คุงจะเป็นยังไงน๊า...อยากชิมซะแล้วสิ ’
แค่ 5 นาทีเท่านั้นที่เบียคุรันจัดแจงแต่งตัวหล่อด้วยชุดสูทสีขาว เขาเดินมาที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หวัง
ว่าอาหารมื้อแรกกับเลขาคนใหม่ต้องเป็นอะไรที่พิเศษสุด แต่แล้ว...
“ นี่อะไรน่ะ มุคุโร่คุง ”
ร่างสูงมองอาหารในจานที่สีเกือบเหมือนถ่านของในจานพอจะเดาได้ว่าเป็นไส้กรอก 2 ชิ้น ไข่ดาวกับขนมปังที่อบ
จนไหม้ช่างผิดกับอาหารที่อยู่ในจานของร่างบางลิบลับ
“ ถามอะไรแปลกๆครับ นั่นก็คืออาหารเช้าของคุณไงครับ ”
“ นี่เธอจะให้ฉันกินไอ้นี่เข้าไปงั้นเหรอ? แล้วทำไมของเธอถึงไม่เหมือนฉันล่ะ ”
“ ก็ของคุณผมทำให้ก่อนไงครับ ส่วนของผมทำทีหลัง ”
“ นี่เธอเอาอาหารที่เธอทดลองเอามาให้ฉันกินเหรอ? ”
“ ครับหรือว่าคุณกินมันไม่ได้ ”
มุคุโร่ยิ้มอย่างไร้เดียงสาเหมือนกับของที่เขาทำออกมาจะกินได้งั้นแหละ ชายหนุ่มมองของในจานด้วยสายตา
ละห้อย เขาเลื่อนเก้าอี้และทิ้งตัวลง
“ รีบกินเถอะครับ ผมหิวแล้ว ”
“ ฉันเองก็หิวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพราะรอมุคุโร่คุงตื่นขึ้นมากินพร้อมกัน แต่เธอเล่นนอนซะยาวเลย ”
ร่างบางชะงักเล็กน้อยขณะกำลังจะหั่นไส้กรอก เนตรสองสีเหลือบมองร่างสูงฝั่งตรงข้ามที่ใช้ส้อมจิ้มเจ้าไส้กรอก
ไหม้ๆนั่น ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มน้อยๆ
“ แต่นี่มุคุโร่คุงตั้งใจทำออกมา งั้นฉันก็ขอรับไว้ล่ะกัน ”
พูดจบเขาก็ยัดไส้กรอกเข้าปาก ในตอนนั้นร่างบางรู้สึกสำนึกผิดขึ้นมาแต่ก็ต้องแข็งใจทำเป็นไม่สนใจยิ่งเห็นคน
ตรงหน้ากินของตรงหน้าเหมือนเป็นอาหารรสเลิศจนหมดยิ่งรู้สึกผิด มือหนาของร่างสูงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มก่อนที่จะหันมาส่งยิ้มละไมให้ร่างบาง
“ กาแฟถ้วยนี้เธอก็คงชงให้ฉันก่อนสินะ รสชาติถึงได้ออกมาแบบนี้ ”
มุคุโร่เบิกตากว้างที่คนตรงข้ามกระดกซะหมดแก้ว เขารู้ดีว่ารสชาติของมันไม่น่าจะกระเดือกเข้าไปได้ด้วยซ้ำ ร่าง
สูงวางแก้วลงแล้วหยิบผ้าที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาเช็ดปาก
“ ขอบใจสำหรับอาหารมื้อเช้านะ มุคุโร่คุง ถ้าวันไหนเธอขี้เกียจทำโทรสั่งก็ได้ เบอร์โทรอยู่ใกล้กับโทรศัพท์นั่น
แหละ อิ่มรึยังล่ะ สายมากแล้วนะ ”
“ คะ ครับ ”
เลขาจำเป็นวางช้อนลงทั้งที่ยังกินไปได้นิดเดียวเอง แต่เพราะความอึ้งกับเหตุการณ์ณ์เมื่อครู่ทำให้เผลอตอบ
ออกไปอย่างไม่ตั้งใจ
ณ. ตึกบัญชาการมิลฟิโอเล่
ภายในห้องบนสุดของตึกเจ้าของเรือนผมสีไพรินตรวจเอกสารที่ต้องเข้าประชุมวันนี้ ส่วนบอสกลับนอนเหยียด
ยาวบนโซฟาสีขาวอย่างสบายอารมณ์ส่วนมือยังหยิบขนมรสหวานเข้าปาก
“ นี่คุณเบียคุรันครับ คุณช่วยวางขนมนั่นแล้วมาช่วยผมก่อนได้มั้ยครับ ”
“ ไม่เอาอ่ะ เธอเป็นเลขาของฉันนะ ”
“ ใช่ครับ ผมเป็นเลขา แต่คุณเองก็ต้องตรวจรายละเอียดด้วยสิครับ ถ้าผมแกล้งตรวจผิดแล้วจะแย่นะครับ คึหึหึ ”
บอสหนุ่มเพียงแค่เหลือบมองใบหน้าแสนหวานที่แสดงสีหน้าท้าทาย
“ ฮ่า ฮ่า เธอไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกเพราะมุคุโร่คุงคงไม่อยากโดนฉัน...ทำแบบนั้นอีกใช่ม๊า ”
ร่างบางชะงักเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ใบหน้าเริ่มขึ้นสีจัดเลยจำเป็นต้องเฉไฉมองเอกสารแทน ร่างสูง
ลอบยิ้มกับอาการของเลขา
“ อ๊ะ!! ”
อยู่ดีๆเบียคุรันก็ร้องขึ้นมาทำเอามุคุโร่ตกใจไปด้วย
“ เป็นอะไรไปครับ ”
“ ปะ เปล่า ”
เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นใบหน้าคมคายเขายันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วส่งยิ้มหวานมาทางร่างบาง
“ เดี๋ยวฉันมานะ ”
“ คุณจะไปไหนครับ อีก 15 นาทีก็จะเริ่มประชุมแล้วนะ ”
“ 15 นาที พอถมเถไป ”
“ นี่คุณไม่ได้จะหนีการประชุมหรอกนะครับ ”
“ ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า ”
ร่างสูงเริ่มลุกลี้ลุกลนเม็ดเหงื่อเริ่มออกมามากขึ้น
“ งั้นก็บอกผมก่อนสิครับ ”
“ ไม่บอก เดี๋ยวเจอกันที่ห้องประชุมเลยนะ ”
จบประโยคเบียคุรันลุกพรวดเดินออกจากห้องด้วยความเร็วทิ้งไว้เพียงเลขาที่นั่งมองตามตาปริบๆ
“ อะไรของเขานะ หวังว่าเขาคงไม่ทำอะไรแผลงๆตามที่คุณอิริเอะบอกหรอกนะ ”
15 นาทีหลังจากนั้น
เหล่าสมาชิกแก๊งมาเฟียของมิลฟิโอเล่เริ่มนั่งประจำที่ๆนั่งถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย เสื้อสูทดำเป็นคนของแก็งจิสโรเนโร่
มีบอสชื่อยูนิ ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยและอีกฝ่ายที่ใส่เสื้อสูทสีขาวสะอาดตาเป็นคนของแก็งเจสโซ่มีเบียคุรันเป็นบอส ทั้ง 2 แก๊งรวมตัวกันภายใต้ชื่อมิลฟิโอเล่และเบียคุรันเป็นบอสอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 คือยูนิ สมาชิกทั้งห้องกลับหันมองเลขาคนใหม่เป็นตาเดียว คนถูกมองยิ้มเจื่อน
‘ เจ้าบ้าเบียคุรัน...เมื่อไหร่จะกลับมาซะที...ผมจะโดนเขมือบอยู่แล้วนะ ‘
“ เฮ้ย! แกน่ะ ”
ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีขาวตะคอกใส่ร่างบาง
“ มีอะไรเหรอครับ ”
“ แกเป็นเลขาของท่านเบียคุรันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงแต่งสีดำ! ”
“ ก็เขาไม่อยากเป็นพวกเดียวกับแกไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
ชายชราที่อยู่ในชุดสูทสีขาวพูดขัดขึ้น จนคนที่ถามร่างบางถลึงตาไปทางนั้นแทน
“ แกว่าไงนะ ไอ้แก่ ”
“ ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ ”
ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกันแถมตอนนี้สมาชิกทั้งหมดเริ่มลุกจากเก้าอี้จะตะบันหน้ากันอยู่แล้ว
‘ เจ้าบ้าเบียคุรัน...รีบกลับมาเร็วๆเข้า...ลูกน้องนายจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว ’
มุคุโร่ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่ตอนนี้เขาอยากจะให้เจ้าของผมสีเพอร์ไวท์มาที่นี่ไวๆทั้งที่ทุกครั้งจะภาวนาว่าอย่า
ให้เจอกันอีกเลย
แอ๊ด...
เสียงประตูห้องประชุมดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง เจ้าของผมสีไพรินยิ้ม
อย่างดีใจเล็กน้อยที่มีคนเข้ามาห้ามสงครามบ้าเลือดนี่ แต่พอร่างบางหันกลับมาอีกทีสมาชิกทุกคนนั่งกันอย่างสงบเสงี่ยมเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“ หืม เมื่อกี้ฉันยังได้ยินเสียงทุกคนอยู่เลยนี่นะ ”
บอสแห่งมิลฟิโอเล่กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่เหล่าสมาชิกกลับนั่งก้มหน้าเหงื่อแตกพลัก เขานั่งลงเอามือขวา
ท้าวคางเผยให้เห็นแหวนปีกนกสีขาว
“ แล้วเมื่อกี้ฉันได้ยินใครบางคนเรียก ‘เลขาของฉัน’ ว่าแกงั้นเหรอ? ”
ดวงเนตรคู่คมปราดมองรอบโต๊ะบรรกาศเริ่มกดดันทั้งที่รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของร่างสูง คนในแก๊งก้มหลบ
สายตาจนหัวจะชนโต๊ะอยู่แล้ว อย่าว่าแต่พวกนั้นเลยคนนั่งข้างๆอย่างมุคุโร่ก็เริ่มกดดันไปด้วย
“ ว่าไงล่ะ มุคุโร่คุงใครที่เรียกเธอแบบนั้น ”
“ เอ่อ คือ ”
ร่างบางได้แต่ตะกุกตะกักพอมองไปที่คนที่เรียกเขาแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้
“ ป่าวนี่ครับ ไม่มีใครเรียกผมแบบนั้นหรอก ”
“ จริงเหรอ ”
“ จริงสิครับ ”
“ อืม งั้นก็ได้ ถ้าเธอบอกว่าไม่มีก็คือไม่มี แต่อย่าให้ฉันได้ยินอีกเป็นครั้งที่สองนะ ถ้าจะเรียกเลขาของฉันให้เรียกว่า คุณมุคุโร่ ”
“ ทราบแล้วครับ ”
ทุกคนกล่าวพร้อมกัน
‘ นี่คงเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนายสินะ ’
ร่างสูงหันมาสบตากับร่างบางเล็กน้อยก่อนที่จะขอเอกสารที่ถืออยู่เรื่องที่ประชุมก็ไม่ต่างกับบริษัททั่วไปอย่าง
เรื่องธุรกิจต่างๆที่เบียคุรันถือหุ้นอยู่รวมถึงธุรกิจของร่างบางด้วย
“ อืม ธุรกิจก็ลงตัวดีนี่นา จะมีปัญหาก็แค่ผับของเรา ”
“ ใช่ครับ มีแก๊งมาเฟียจากประเทศจีนที่เพิ่งย้ายเข้ามากำลังจะขยายอิทธิพลที่นี่ครับ ”
“ ที่นี่ก็เลยตกเป็นเป้าหมายสินะ ”
ชายหนุ่มพลิกหน้าเอกสารไปมาใบหน้าของเขาดูครุ่นคิดเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มคนหนึ่ง ร่างบางเผลอมอง
ใบหน้าครึ่งซีกอย่างไม่ตั้งใจ
“ แล้วจะเอายังไงดีครับ ท่านเบียคุรัน ”
“ อืม นั่นสินะ ”
เบียคุรันเอนหลังพิงพนักพิงพลางกอดอกเหมือนเด็กที่กำลังคิดหนัก ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเผยยิ้มออกมา
“ นี่เป็นธุรกิจของมาเฟีย พวกนายก็ใช้วิธีของมาเฟียไงล่ะ ”
“ เราจะไม่เจรจาก่อนเหรอครับ? ”
“ ไม่ล่ะ ฉันไม่ว่างขนาดจะคุยกับพวกนั้นหรอก ”
“ เข้าใจแล้วครับ ”
“ ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย? ฉันจะได้ปิดการประชุม ”
ทุกคนนิ่งเงียบเป็นอันเข้าใจตรงกัน ร่างสูงเดินออกจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งคู่เดินมาจนถึงห้องทำงานเชาย
หนุ่มผมสีเพอร์ไวท์เดินลิ่วมาที่โซฟาตัวโปรดพลางทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง
“ คึหึหึ ทำงานแค่นี้ถึงกับหมดแรงเลยรึครับ? ”
“ งานแค่นี้ไม่ทำให้ฉันหมดแรงได้หรอกน่า ”
“ จริงรึครับ ผมนึกว่าพอเป็นงานที่ต้องใช้สมองแล้วคุณอาจจะลำบาก ”
“ หวา มุคุโร่คุงนี่ชอบแดกดันฉันจังเลยนะ นี่เธอเกียจฉันขนาดนี้เลยเหรอ? ”
“ คึหึหึหึ ก็แล้วแต่จะคิดครับ ”
“ แต่ฉันไม่เคยเกียจมุคุโร่คุงเลยนะ ”
“ นั่นมันเรื่องของคุณครับ ”
มุคุโร่ตอบอย่างเย็นชา
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“ ขออนุญาตครับ ท่านเบียคุรัน ”
เสียงทุ้มต่ำดังมาจากฝากประตูอีกด้านหนึ่ง
“ อืม เข้ามาสิ คิเคียวจัง ”
เมื่อได้รับอนุญาตประตูหนาถูกเปิดออกพร้อมร่างชายหนุ่มผมหยักศกสีมรกต ดวงตาสีเดียวกับผมเหลือบมอง
ร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเจ้านายที่เขาเทิดทูนที่สุด
“ ยาที่สั่งได้แล้วครับ ”
“ อืม ขอบใจมากนะ ”
“ เป็นไงบ้างครับ ”
“ ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ ”
“ คุณเบียคุรัน เป็นอะไรเหรอครับ ”
ร่างบางหันมาถามชายหนุ่มผู้ที่นำยามาให้
“ อยู่ดีๆท่านเบียคุรันรู้สึกปวดท้องน่ะครับ ”
“ ปวดท้องเหรอครับ? ”
“ น่าจะมาจากอาหารเป็นพิ... ”
“ คิเคียวจัง!! ”
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงยะเยือกทำเอาคนถูกเรียกชะงักทันที
“ ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ ฉันคงจะกลับเลย ฝากนายดูแลทางนี้ต่อด้วยนะ ”
“ ได้ครับ ท่านเบียคุรัน ”
ร่างโปร่งโค้งตัวคำนับก่อนที่จะเดินออกไป
“ เรากลับกันเถอะ มุคุโร่คุง ”
ตลอดทางที่เดินตามหลังร่างสูง มุคุโร่แอบมองแผ่นหลังกว้างที่เดินตัวตรงแบบไม่มีทีท่าอิดออดเหมือนตอนอยู่ใน
ห้องเลย
‘ หมอนี่กำลังวางท่าไม่เป็นไรงั้นเหรอ? ’
เมื่อถึงลานจอดรถร่างบางรีบเดินดักหน้าพลางยื่นมือเพื่อขอสิ่งที่อยู่ในมือของร่างสูง
“ เอากุญแจรถมาให้ผมครับ ”
“ ทำไมอ่ะ เมื่อเช้าฉันก็ขับมา ” เบียคุรันทำหน้างง
“ เอามาเถอะครับ ผมคิดว่าคุณไม่น่าจะพร้อม ”
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่เธอคิดว่าแค่อาการปวดท้องของฉันจะทำให้ฉันขับไม่ได้เลยเหรอ ”
“ เท่าที่ดูจากสภาพที่คุณนอนในห้องแล้วและผมก็รักชีวิตของผมมาก ผมจะไม่ยอมฝากชีวิตไว้กับคุณหรอกครับ ”
“ มุคุโร่นี่เห็นแก่ตัวจัง ”
“ นี่แหละครับตัวตนที่แท้จริงของผม ”
“ แต่ฉันชอบนะ ”
มุคุโร่เขินจนทำอะไรไม่ถูกจึงกระชากกุญแจมาจากมือของร่างสูงเพื่อปกปิดความเขินอาย เบียคุรันมองแผ่นหลัง
นั้นแล้วลอบขำ
‘ มุคุโร่คุง ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป อย่างน้อยฉันก็อยากให้เธอชอบฉันบ้างก็ยังดี ’
----------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------
จากใจไรท์เตอร์ : ชอบหรือไม่ชอบยังไงแสดงความคิดเห็นกันได้นะค่ะและไรท์เตอร์จะได้มีกำลังใจแต่งต่อด้วย 5555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น