ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
1 ชั่วโมง ก่อนการประชุม
ภายในห้องสีขาวของบอสแห่งมิลฟิลโอเล่ ชายหนุ่มผมสีไพรินพลิกเอกสารและแฟ้มงานต่างๆที่อิริเอะนำมาวางไว้ก่อนหน้านี้มือเป็นระวิง เนตรสองสีตรวจเอกสารต่างๆที่เป็นทั้งภาษาอังกฤษและตัวเลขอย่างร้อนรนเพราะหนุ่มร่างสูงผมสีเพอร์ไวท์บอกกับเขาว่าจะต้องใช้ในการประชุมวันนี้
ส่วนคนที่สั่งซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามกับมุคุโร่กลับนั่งฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์มือข้างขวากำลังบีบขนมของโปรดอย่างสนุกมือ ใบหน้ายิ้มแย้มจับจ้องโน้ตบุ๊คที่วางอยู่เบื้องหน้า เนตรสองสีเหลือบมองร่างสูงเล็กน้อยก่อนที่จะหันมามองนาฬิกาของตัวเอง
“ มีอะไรจะถามฉันรึเปล่ามุคุโร่คุง? หรือว่ากังวลอะไรอยู่ ”
“ คึหึหึหึ ก็มีเหมือนกันล่ะครับ ถ้าเป็นไปได้คุณน่าจะช่วยผมทำงานพวกนี้บ้างนะ แล้วก็มีเอกสารบางแผ่นที่ผมไม่เข้าใจ คุณพอจะช่วยผมได้มั้ยล่ะครับ ”
เบียคุรันเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย แต่ก็ยอมจะละสายตาจากโน๊ตบุ๊คและเปลี่ยนมานั่งข้างเลขาส่วนตัวคนใหม่
“ ตรงไหนที่ไม่เข้าใจเหรอ? ”
“ ตรงนี้ครับ ”
มุคุโร่ชี้ที่แผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง ร่างสูงโน้มใบหน้าหล่อเหลาเพื่อดูข้อความแต่เขาก็รู้สึกเหมือนมีของแข็งและเย็นจ่อเข้าที่ท้อง ดวงตาสีอเมทีสต์ก้มมองสิ่งนั้น
“ คิดจะทำอะไรเหรอ? มุคุโร่คุง ”
เจ้าของเนตรสองสีเหยียดยิ้ม
“ ดูไม่ออกเหรอครับ ว่าผมจะทำอะไร ”
ปืนกระบอกเล็กจ่อเข้าที่ตัวของร่างสูงระยะประชิด เบียคุรันวางกระดาษลงพลางหันมองเจ้าของปืนอย่างไม่สะทกสะท้านแถมยังยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนยอมแพ้อีกด้วย
“ เล่นแรงไปรึเปล่า มุคุโร่คุง ”
“ คนที่เล่นแรงก่อนคือคุณต่างหากครับ ”
“ แล้วที่เธอยอมมาที่นี่ก็เพื่อ.... ”
“ เพื่อฆ่าคุณไงครับ ”
“ อืม กะแล้วเชียว ”
ทั้งคู่ยังคงปั้นหน้ายิ้มระรื่นใส่กันเหมือนเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องเล่นๆ
“ เธอจะทำได้เหรอ มุคุโร่คุง ”
“ ทำไม? ผมจะทำไม่ได้ล่ะครับ แค่กำจัดคนเลวหนึ่งคนออกไปจากโลกใบนี้ ”
“ หึหึหึ พูดอะไรที่ใจไม่ได้คิดอีกแล้วนะเพราะฉันแย่งบริษัทของตระกูลเธอมาใช่มั้ยล่ะและที่ฉันถามเพราะรู้สึกว่าปากกระบอกปืนมันสั่นน่ะ ”
ร่างของชายหนุ่มผมสีไพรินกระตุกเล็กน้อยกับคำพูดแทงใจดำเป็นไปอย่างที่เบียคุรันพูดจริงๆนั่นแหละมือของเขากำลังสั่น
“ พูดอะไรบ้าๆ ผมไม่ได้สั่นซักหน่อย ”
“ เอาอีกแล้วมุคุโร่คุง ชอบพูดโกหกอีกแล้ว ฉันจะบอกอะไรให้นะที่เธอสั่นเพราะเธอพึ่งจะคิดฆ่าคนเป็นครั้งแรกใช่มั้ยล่ะ? ”
“ ผมไม่ได้ฆ่าคนเพื่อตัวเองเหมือนคุณนะครับ ”
“ จริงเหรอ? ”
จากแววตาขี้เล่นเปลี่ยนเป็นสายตาคมกริบเหมือนหมาป่าที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ มุคุโร่เสียวสันหลังวูบกับท่าทีที่เปลี่ยนไปนี่เหรอคือใบหน้าที่แท้จริงของบอสแห่งมิลฟิโอเล่
“ เราคงต้องจากลากันแล้วล่ะครับ คุณเบียคุรัน ”
นิ้วเรียวค่อยออกแรงกดไกปืน
ก็อกๆๆ...
“ คุณเบียคุรันค่ะ ถึงเวลาประชุมแล้วค่ะ “
เสียงใสๆที่ดังจากประตูอีกฝั่งหนึ่งดึงความสนใจของเจ้าของเนตรสองสีทำให้นิ้วเรียวที่กำลังจะกดชะงักเป็นจังหวะที่ร่างสูงฉวยโอกาสหักข้อมือของมุคุโร่ขึ้นจนปืนหล่นจากมือและล็อกแขนข้างเดียวกันไว้ด้านหลังแล้วกดลงบนโซฟา โดยเอาเข่าข้างหนึ่งทับต้นขาด้านหลังอีกที
“ โอ๊ย!! ”
เสียงร้องของมุคุโร่ดังลอดประตู
“ เกิดอะไรขึ้นค่ะ ท่านเบียคุรัน ”
หญิงสาวเมื่อครู่ถามด้วยความร้อนรนขณะที่กำลังจะบิดประตูเข้าไป...
“ ไม่ต้องเข้ามา ” เจ้าของห้องตะโกน
“ แต่ว่า... ”
“ ฉันไม่เป็นไร บอกในที่ประชุมว่าฉันจะเข้าไปช้าซัก 10 นาที ”
“ ค่ะ ”
เมื่อเสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนไกลออกไปร่างสูงเจ้าของสีตาอเมทีสต์ก้มมองร่างด้านล่างด้วยสีหน้าเย้ยหยันผิดกับมุคุโร่ที่กัดฟันแน่น
“ ผิดหวังมั้ย? ที่ฆ่าฉันไม่สำเร็จน่ะ ”
อัญมณีสีเพลิงเหลือบมองร่างสูงข้างบนที่ยิ้มเยาะ
“ คึหึหึ มันยังไม่จบหรอกครับ ”
ร่างบางตวัดแขนข้างที่เป็นอิสระเข้าใบหน้าคมคายอย่างแรงหวังให้เบียคุรันหลุดจากร่างของตน ร่างสูงเซเล็กน้อยก่อนที่จะคว้าแขนข้างนั้นได้ทันพลางล๊อกไว้อีกข้าง คนถูกชกอกแรงกดด้วยความโมโห ริมฝีปากเริ่มมีเลือดซึมไหลออกมา
“ มุคุโร่คุงเนี่ยประมาทไม่ได้เลยน๊า ”
เบียคุรันพูดน้ำเสียงสบายๆพลางใช้ลิ้นเลียมุมปาก
“ หึ ปีศาจร้ายอย่างคุณเจอแค่นี้ยังน้อยไปครับ ผมอยากจะฝั่งลูกตะกั่วเข้าไปในร่างของคุณมากกว่า ”
ร่างสูงออกแรงกดมากขึ้นจนร่างบางข้างใต้ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ
“ พูดได้ดีนี่ สำหรับคนที่คิดจะฆ่าฉัน มุคุโร่คุงคิดว่าฉันควรจะทำอะไรกับคนนั้นดี ”
“ ไม่จำเป็นต้องถามผมหรอกครับ คุณมีคำตอบในใจอยู่แล้วนี่ ถ้าจะฆ่าผมทิ้งล่ะก็เชิญเลย “
“ อืม~ เป็นความคิดที่ดีนะ มุคุโร่คุง แต่ว่าฉันมีคำถามหนึ่งข้ออยากจะถามเธอ ”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงใกล้ที่หูของร่างบางจนสัมผัสถึงลมหายใจของร่างสูง
“ คุณโคโดรู้เรื่องนี้รึเปล่า? ”
มุคุโร่เบิกตากว้าง
“ ทำไม? ถึงถามอย่างนั้นล่ะครับ ”
“ ไม่รู้สิ ถ้าพ่อของเธอสมรู้ร่วมคิดกับสิ่งที่เธอทำ ฉันจะได้กำจัดซะทีเดียวเลย ”
เขากล่าวน้ำเสียงเย็นชา แววตาคมกริบกำลังเค้นคำตอบจากเจ้าของเนตรสองสี ร่างบางกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ แน่นอนว่านี่มันเป็นความคิดของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อ ”
“ ว่าแล้วเชียว นึกว่าคุณโคโดรู้เรื่องนี้ด้วย ฉันจะได้ให้ลูกน้องกำจัดที่สนามบินซะเลย ”
“ หึ คุณพูดบ้าอะไรครับ ป่านนี้เครื่องน่าจะออกจากประเทศบ้าๆนี่แล้วล่ะครับ ”
“ ฉันชอบนะที่มุคุโร่คุงมั่นใจขนาดนั้น แต่ดูนี่ก่อนดีกว่านะ ”
เบียคุรันเอื้อมมือหันหน้าจอโน้ตบุ๊คมาหาร่างบาง ภาพในจอแสดงให้เห็นแผ่นหลังของบิดาที่กำลังนั่งรอเวลาที่เก้าอี้หน้าตารางเวลาที่เลื่อนออกไปครึ่งชั่วโมง
“ นี่คุณ!! คิดจะทำอะไรน่ะ ”
“ ลืมคำถามของฉันไปแล้วเหรอ มุคุโร่คุง ”
“ คนอย่างคุณมันปีศาจชัดๆ ”
“ 555 นั่นสินะและสิ่งที่ปีศาจร้ายอย่างฉันกำลังจะทำก็คือ... ”
เบียคุรันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงต่อสายถึงใครบางคน เสียงเหมือนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากจอคอมเช่นเดียวกัน
“ ครับ ท่านเบียคุรัน ”
“ ซาคุโร่คุงเหรอ? ”
“ ครับ จะเอายังไงดีครับ ท่านเบียคุรัน ”
ร่างสูงยิ้มกว้างใบหน้าทะเล้นหันมาถามคนถูกกดด้านล่าง
“ ซาคุโร่เขาถามว่าจะเอายังไงดีล่ะ มุคุโร่คุง ”
ร่างบางเริ่มออกแรงดิ้นมากขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างสูงกำลังจะออกคำสั่งบางอย่างที่เขาหวาดกลัวมากที่สุด คือ ‘สั่งฆ่าพ่อของเขาเอง’ ดวงตาสีอเมทีสต์มองดูร่างบางที่ดิ้นอย่างทุรนทุรายด้วยความพอใจใบหน้าหล่อเหลาเผยยิ้มกว้าง มุคุโร่กัดริมฝีปากบางก่อนที่จะเค้นคำพูดที่เขาไม่เคยคิดจะพูดกับใครมาก่อน
“ ได้โปรดเถอะ คุณเบียคุรัน อย่าฆ่าพ่อของผม ”
ร่างสูงเบิกตากว้าง คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน เบียคุรันเอียงคอถามอย่างไร้เดียงสาเหมือนกับไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ เมื่อกี้ มุคุโร่คุง พูดว่าอะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยินน่ะ ”
“ ผมบอกว่า ได้โปรดอย่าฆ่าพ่อของผม ”
เบียคุรันนิ่งเงียบกับปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของมุคุโร่ ร่างข้างใต้สั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือกำลังกลัวเขากันแน่
“ ท่านเบียคุรันครับ ”
คนถือสายเรียกบอสของตนเมื่อเห็นว่าเงียบไปนาน
“ ดูแลคุณโคโดจนกว่าจะถึงญี่ปุ่น ” เขาสั่งเสียงราบเรียบ พลางกดสายทิ้ง
ร่างสูงคลายมือที่เกาะกุมออกก่อนที่จะเปลี่ยนมาพยุงร่างบางที่กำลังนอนนิ่งให้ลุกขึ้นนั่ง เบียคุรันใช้นิ้วชี้เกาแก้มของตนพลางเสตาไปทางอื่นเหมือนทำอะไรไม่ถูก
“ แค่นี้คงพอใจแล้วสินะ มุคุโร่คุง แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเธอคิดจะฆ่าฉันอีก ฉันจะบอกให้ซาคุโร่ที่ตามพ่อของเธอไปญี่ปุ่นเก็บเขาซะ ”
มุคุโร่ยังคงนั่งก้มหน้าริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาสีองุ่นเหลือบมองก่อนที่จะลุกขึ้นพลางเอามือหนาลูบที่ศรีษะของร่างบางอย่างอ่อนโยน
“ ไปประชุมกันเถอะ มุคุโร่คุง ”
เบียคุรันพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย ร่างบางพยักหน้าแต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัว ร่างสูงจำเป็นต้องเดินนำไปก่อนพร้อมกับเอามือเกาหัวตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์นัก มุคุโร่เหลือบมองร่างโปร่งที่เดินพ้นประตูไปแล้วก่อนที่จะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
‘ คึหึหึหึ คุณเบียคุรัน ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นบอสของมาเฟียได้ยังไง แต่โดนลูกไม้ตื้นๆแค่นี้หลอกเอาได้เนี่ย...คุณมันก็เป็นได้แค่เด็กน้อยเท่านั้นล่ะครับ ’
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น