ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR Fic. ] ร้ายนักนายมาเฟีย 10069

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 54


         1 ชั่วโมง ก่อนการประชุม
         ภายในห้องสีขาวของบอสแห่งมิลฟิลโอเล่ ชายหนุ่มผมสีไพรินพลิกเอกสารและแฟ้มงานต่างๆที่อิริเอะนำมาวางไว้ก่อนหน้านี้มือเป็นระวิง เนตรสองสีตรวจเอกสารต่างๆที่เป็นทั้งภาษาอังกฤษและตัวเลขอย่างร้อนรนเพราะหนุ่มร่างสูงผมสีเพอร์ไวท์บอกกับเขาว่าจะต้องใช้ในการประชุมวันนี้
         ส่วนคนที่สั่งซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามกับมุคุโร่กลับนั่งฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์มือข้างขวากำลังบีบขนมของโปรดอย่างสนุกมือ ใบหน้ายิ้มแย้มจับจ้องโน้ตบุ๊คที่วางอยู่เบื้องหน้า เนตรสองสีเหลือบมองร่างสูงเล็กน้อยก่อนที่จะหันมามองนาฬิกาของตัวเอง
         “ มีอะไรจะถามฉันรึเปล่ามุคุโร่คุง? หรือว่ากังวลอะไรอยู่ ”
         “ คึหึหึหึ ก็มีเหมือนกันล่ะครับ ถ้าเป็นไปได้คุณน่าจะช่วยผมทำงานพวกนี้บ้างนะ แล้วก็มีเอกสารบางแผ่นที่ผมไม่เข้าใจ คุณพอจะช่วยผมได้มั้ยล่ะครับ ”
         เบียคุรันเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย แต่ก็ยอมจะละสายตาจากโน๊ตบุ๊คและเปลี่ยนมานั่งข้างเลขาส่วนตัวคนใหม่
         “ ตรงไหนที่ไม่เข้าใจเหรอ? ”
         “ ตรงนี้ครับ ”
         มุคุโร่ชี้ที่แผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง ร่างสูงโน้มใบหน้าหล่อเหลาเพื่อดูข้อความแต่เขาก็รู้สึกเหมือนมีของแข็งและเย็นจ่อเข้าที่ท้อง ดวงตาสีอเมทีสต์ก้มมองสิ่งนั้น
         “ คิดจะทำอะไรเหรอ? มุคุโร่คุง ”
         เจ้าของเนตรสองสีเหยียดยิ้ม
         “ ดูไม่ออกเหรอครับ ว่าผมจะทำอะไร ”
         ปืนกระบอกเล็กจ่อเข้าที่ตัวของร่างสูงระยะประชิด เบียคุรันวางกระดาษลงพลางหันมองเจ้าของปืนอย่างไม่สะทกสะท้านแถมยังยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนยอมแพ้อีกด้วย
         “ เล่นแรงไปรึเปล่า มุคุโร่คุง ”
         “ คนที่เล่นแรงก่อนคือคุณต่างหากครับ ”
         “ แล้วที่เธอยอมมาที่นี่ก็เพื่อ.... ”
         “ เพื่อฆ่าคุณไงครับ ”
         “ อืม กะแล้วเชียว ”
         ทั้งคู่ยังคงปั้นหน้ายิ้มระรื่นใส่กันเหมือนเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องเล่นๆ
        “ เธอจะทำได้เหรอ มุคุโร่คุง ”
         “ ทำไม? ผมจะทำไม่ได้ล่ะครับ แค่กำจัดคนเลวหนึ่งคนออกไปจากโลกใบนี้ ”
         “ หึหึหึ พูดอะไรที่ใจไม่ได้คิดอีกแล้วนะเพราะฉันแย่งบริษัทของตระกูลเธอมาใช่มั้ยล่ะและที่ฉันถามเพราะรู้สึกว่าปากกระบอกปืนมันสั่นน่ะ ”
         ร่างของชายหนุ่มผมสีไพรินกระตุกเล็กน้อยกับคำพูดแทงใจดำเป็นไปอย่างที่เบียคุรันพูดจริงๆนั่นแหละมือของเขากำลังสั่น
         “ พูดอะไรบ้าๆ ผมไม่ได้สั่นซักหน่อย ”
         “ เอาอีกแล้วมุคุโร่คุง ชอบพูดโกหกอีกแล้ว ฉันจะบอกอะไรให้นะที่เธอสั่นเพราะเธอพึ่งจะคิดฆ่าคนเป็นครั้งแรกใช่มั้ยล่ะ? ”
         “ ผมไม่ได้ฆ่าคนเพื่อตัวเองเหมือนคุณนะครับ ”
         “ จริงเหรอ? ”
         จากแววตาขี้เล่นเปลี่ยนเป็นสายตาคมกริบเหมือนหมาป่าที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ มุคุโร่เสียวสันหลังวูบกับท่าทีที่เปลี่ยนไปนี่เหรอคือใบหน้าที่แท้จริงของบอสแห่งมิลฟิโอเล่
         “ เราคงต้องจากลากันแล้วล่ะครับ คุณเบียคุรัน ”
         นิ้วเรียวค่อยออกแรงกดไกปืน
         ก็อกๆๆ...
         “ คุณเบียคุรันค่ะ ถึงเวลาประชุมแล้วค่ะ “
        เสียงใสๆที่ดังจากประตูอีกฝั่งหนึ่งดึงความสนใจของเจ้าของเนตรสองสีทำให้นิ้วเรียวที่กำลังจะกดชะงักเป็นจังหวะที่ร่างสูงฉวยโอกาสหักข้อมือของมุคุโร่ขึ้นจนปืนหล่นจากมือและล็อกแขนข้างเดียวกันไว้ด้านหลังแล้วกดลงบนโซฟา โดยเอาเข่าข้างหนึ่งทับต้นขาด้านหลังอีกที
         “ โอ๊ย!! ”
         เสียงร้องของมุคุโร่ดังลอดประตู
         “ เกิดอะไรขึ้นค่ะ ท่านเบียคุรัน ”
         หญิงสาวเมื่อครู่ถามด้วยความร้อนรนขณะที่กำลังจะบิดประตูเข้าไป...
         “ ไม่ต้องเข้ามา ” เจ้าของห้องตะโกน
         “ แต่ว่า... ”
         “ ฉันไม่เป็นไร บอกในที่ประชุมว่าฉันจะเข้าไปช้าซัก 10 นาที ”
         “ ค่ะ ”
         เมื่อเสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนไกลออกไปร่างสูงเจ้าของสีตาอเมทีสต์ก้มมองร่างด้านล่างด้วยสีหน้าเย้ยหยันผิดกับมุคุโร่ที่กัดฟันแน่น
         “ ผิดหวังมั้ย? ที่ฆ่าฉันไม่สำเร็จน่ะ ”
         อัญมณีสีเพลิงเหลือบมองร่างสูงข้างบนที่ยิ้มเยาะ
         “ คึหึหึ มันยังไม่จบหรอกครับ ”
         ร่างบางตวัดแขนข้างที่เป็นอิสระเข้าใบหน้าคมคายอย่างแรงหวังให้เบียคุรันหลุดจากร่างของตน ร่างสูงเซเล็กน้อยก่อนที่จะคว้าแขนข้างนั้นได้ทันพลางล๊อกไว้อีกข้าง คนถูกชกอกแรงกดด้วยความโมโห ริมฝีปากเริ่มมีเลือดซึมไหลออกมา
         “ มุคุโร่คุงเนี่ยประมาทไม่ได้เลยน๊า ”
         เบียคุรันพูดน้ำเสียงสบายๆพลางใช้ลิ้นเลียมุมปาก
         “ หึ ปีศาจร้ายอย่างคุณเจอแค่นี้ยังน้อยไปครับ ผมอยากจะฝั่งลูกตะกั่วเข้าไปในร่างของคุณมากกว่า ”
         ร่างสูงออกแรงกดมากขึ้นจนร่างบางข้างใต้ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ
         “ พูดได้ดีนี่ สำหรับคนที่คิดจะฆ่าฉัน มุคุโร่คุงคิดว่าฉันควรจะทำอะไรกับคนนั้นดี ”
         “ ไม่จำเป็นต้องถามผมหรอกครับ คุณมีคำตอบในใจอยู่แล้วนี่ ถ้าจะฆ่าผมทิ้งล่ะก็เชิญเลย “
         “ อืม~ เป็นความคิดที่ดีนะ มุคุโร่คุง แต่ว่าฉันมีคำถามหนึ่งข้ออยากจะถามเธอ ”
        ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงใกล้ที่หูของร่างบางจนสัมผัสถึงลมหายใจของร่างสูง
         “ คุณโคโดรู้เรื่องนี้รึเปล่า? ”
        มุคุโร่เบิกตากว้าง
         “ ทำไม? ถึงถามอย่างนั้นล่ะครับ ”
        “ ไม่รู้สิ ถ้าพ่อของเธอสมรู้ร่วมคิดกับสิ่งที่เธอทำ ฉันจะได้กำจัดซะทีเดียวเลย ”
        เขากล่าวน้ำเสียงเย็นชา แววตาคมกริบกำลังเค้นคำตอบจากเจ้าของเนตรสองสี ร่างบางกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
         “ แน่นอนว่านี่มันเป็นความคิดของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อ ”
         “ ว่าแล้วเชียว นึกว่าคุณโคโดรู้เรื่องนี้ด้วย ฉันจะได้ให้ลูกน้องกำจัดที่สนามบินซะเลย ”
         “ หึ คุณพูดบ้าอะไรครับ ป่านนี้เครื่องน่าจะออกจากประเทศบ้าๆนี่แล้วล่ะครับ ”
         “ ฉันชอบนะที่มุคุโร่คุงมั่นใจขนาดนั้น แต่ดูนี่ก่อนดีกว่านะ ”
         เบียคุรันเอื้อมมือหันหน้าจอโน้ตบุ๊คมาหาร่างบาง ภาพในจอแสดงให้เห็นแผ่นหลังของบิดาที่กำลังนั่งรอเวลาที่เก้าอี้หน้าตารางเวลาที่เลื่อนออกไปครึ่งชั่วโมง
         “ นี่คุณ!! คิดจะทำอะไรน่ะ ”
         “ ลืมคำถามของฉันไปแล้วเหรอ มุคุโร่คุง ”
         “ คนอย่างคุณมันปีศาจชัดๆ ”
         “ 555 นั่นสินะและสิ่งที่ปีศาจร้ายอย่างฉันกำลังจะทำก็คือ... ”
         เบียคุรันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงต่อสายถึงใครบางคน เสียงเหมือนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากจอคอมเช่นเดียวกัน
         “ ครับ ท่านเบียคุรัน ”
         “ ซาคุโร่คุงเหรอ? ”
         “ ครับ จะเอายังไงดีครับ ท่านเบียคุรัน ”
         ร่างสูงยิ้มกว้างใบหน้าทะเล้นหันมาถามคนถูกกดด้านล่าง
         “ ซาคุโร่เขาถามว่าจะเอายังไงดีล่ะ มุคุโร่คุง ”
         ร่างบางเริ่มออกแรงดิ้นมากขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างสูงกำลังจะออกคำสั่งบางอย่างที่เขาหวาดกลัวมากที่สุด คือ ‘สั่งฆ่าพ่อของเขาเอง’ ดวงตาสีอเมทีสต์มองดูร่างบางที่ดิ้นอย่างทุรนทุรายด้วยความพอใจใบหน้าหล่อเหลาเผยยิ้มกว้าง มุคุโร่กัดริมฝีปากบางก่อนที่จะเค้นคำพูดที่เขาไม่เคยคิดจะพูดกับใครมาก่อน
         “ ได้โปรดเถอะ คุณเบียคุรัน อย่าฆ่าพ่อของผม ”
         ร่างสูงเบิกตากว้าง คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน เบียคุรันเอียงคอถามอย่างไร้เดียงสาเหมือนกับไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
         “ เมื่อกี้ มุคุโร่คุง พูดว่าอะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยินน่ะ ”
        “ ผมบอกว่า ได้โปรดอย่าฆ่าพ่อของผม ”
         เบียคุรันนิ่งเงียบกับปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของมุคุโร่ ร่างข้างใต้สั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือกำลังกลัวเขากันแน่
         “ ท่านเบียคุรันครับ ”
        คนถือสายเรียกบอสของตนเมื่อเห็นว่าเงียบไปนาน
         “ ดูแลคุณโคโดจนกว่าจะถึงญี่ปุ่น ” เขาสั่งเสียงราบเรียบ พลางกดสายทิ้ง
         ร่างสูงคลายมือที่เกาะกุมออกก่อนที่จะเปลี่ยนมาพยุงร่างบางที่กำลังนอนนิ่งให้ลุกขึ้นนั่ง เบียคุรันใช้นิ้วชี้เกาแก้มของตนพลางเสตาไปทางอื่นเหมือนทำอะไรไม่ถูก
         “ แค่นี้คงพอใจแล้วสินะ มุคุโร่คุง แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเธอคิดจะฆ่าฉันอีก ฉันจะบอกให้ซาคุโร่ที่ตามพ่อของเธอไปญี่ปุ่นเก็บเขาซะ ”
       มุคุโร่ยังคงนั่งก้มหน้าริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาสีองุ่นเหลือบมองก่อนที่จะลุกขึ้นพลางเอามือหนาลูบที่ศรีษะของร่างบางอย่างอ่อนโยน
         “ ไปประชุมกันเถอะ มุคุโร่คุง ”
         เบียคุรันพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย ร่างบางพยักหน้าแต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัว ร่างสูงจำเป็นต้องเดินนำไปก่อนพร้อมกับเอามือเกาหัวตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์นัก มุคุโร่เหลือบมองร่างโปร่งที่เดินพ้นประตูไปแล้วก่อนที่จะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
    คึหึหึหึ คุณเบียคุรัน ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นบอสของมาเฟียได้ยังไง แต่โดนลูกไม้ตื้นๆแค่นี้หลอกเอาได้เนี่ย...คุณมันก็เป็นได้แค่เด็กน้อยเท่านั้นล่ะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×