ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic[junseung]who are you?นายเป็นใคร? ทำไมมาอยู่ในใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที 7 งอนกับง้อ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 56


    สามวันต่อมา

    ทังฮยอนชึงและจุนฮยองยังอยู่ทีเชจูบ้านของซนดงอุนยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมีแต่ความรู้สึกของทังสองคนเท่านั้นที่เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีบาง ส่วนดงอุนทังวันก็ยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับงานของตัวเองเลยไม่ค่อยได้เจอกันมากนัก

    “อุ่น กินข้าว”เสียงเรียกของจุนฮยองดังขึ้นที่หน้าห้องทำงานของดงอุน

    “ครับพี่”ดงอุนตอบกลับพร้อมกับเจ้าตัวที่เปิดประตูออกมา

    “แกไปนั่งรอเลยเดียวไปตามฮยอนชึงก่อน”

    “ครับ แทนทีจะเรียกฮยอนชึงก่อนเรียกผมนะ”

    “ก็แกมันตามยาก”บ่นกับน้องชายแล้วเดินหันหลังให้ ตรงไปยังประตูห้องนอนที่มีร่างบางอยู่ในนั้น

    ก๊อกๆๆ

    “คุณหนูครับทานข้าว”ร่างสูงก๊อกประตูเรียก

    “...”แต่ได้แค่ความเงียบกลับมา

    “คุณหนูครับ”เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงลองเรียกอีก...แต่ก็ยังเงียบ

    “คุณหนู!!ผมไม่เล่นนะ!!!ออกมาเดียวนี้”

    “อะไรกันพี่เอะอะอะไร”ดงอุนได้ยินเสียงพี่ชายตัวเองตะโกนก็รีบวิ่งจากห้องครัวมาดู

    “ฮยอนชึงไม่ตอบ”บอกน้องแค่นั้นก่อนจะบิดลูกบิดประตูเพื่อจะเปิดเข้าไปแต่กับกลายเป็นว่ามันล็อก

    “ดงอุน พี่จะช่อมประตูให้ใหม่นะ”เมื่อพี่ชายพูดอย่างนั้นดงอุนเข้าใจเลยทันทีพี่ชายเขาคงจะพังประตู

    ตุบ!!ตุบ!!! ร่างสูงใช่เท้ายันประตูแรงๆสองสามที่แล้วมันก็เปิดออก พร้อมกับรุดเข้าไปด้านในทันทีด้วยสีหน้าตื่นตกใจ

    “เจอมั้ยพี่”ดงอุนที่ตามมาที่หลังเมื่อเห็นสภาพห้องที่ว่างเปล่าแล้วก็ตกใจ

    “เวรแล้วไง...”ดงอุนว่าลอยๆ แต่จุนฮยองกับไม่พูดอะไรรีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที

    “ฮยอง เดียวสิจะไปไหน!

     

                   ร่างสูงของจุนฮยองวิ่งลัดเลาะตามหมู่บ้านชาวประมงนี้มาเรื่อยๆสีหน้ามีแววตื่นตะหนกและกังวล เพราะการแต่งตัวและหน้าตาของเขาทีไม่เป็นทีคุ้นเคยเลยทำให้ชาวบ้านแถวนั้นมองเขาเป็นตาเดียวแต่จุนฮยองไม่ได้สนใจสายตาสอดส่ายหาแค่คนๆเดียวเท่านั้น จางฮยอนชึง!

    “ป้าครับ เห็นเด็กผู้ชายผิวขาว หุ่นผอมๆสูงน่าจะประมารนี้เดินผ่านมาแถวนี้มั้ยครับ”เมื่อคิดว่าวิ่งหาแบบไร้จุดหมายแบบนี้คงไม่ใช่วิธีที่ดีแน่ๆจุนฮยองเลยแวะถามกับคุณป้าที่นั่งอยู่หน้าร้านขายของแห่งหนึ่ง

    “ไม่เห็นหรอก ก็เห็นแต่พ่อหนุ่มเนี่ยแหละที่ผ่านมา ดูหน้าตาไม่ใช่คนแถวนี้นี่”

    “ขอบคุณครับ”เพราะไม่อยากจะต่อความยาวเลยเอ่ยตัดบทแล้วก็เริ่มออกหาต่อไป

     

                   พอหาไปได้สักกพักร่างสูงก็พบกับความผิดหวังหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำกลัวร่างบางที่เฝ้าถะนุถนอมจะเป็นอะไรไปเมื่อคิดว่ามันคงไม่ใช่เรืองเล่นๆแน่ๆจุนฮยองเลยมุ่งตรงกับบ้านทันที

    แต่พอกับมาถึงบ้านก็เจอกับภาพที่ไม่คิดว่าจะเจอภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ร่างสูงพูดไม่ออกทังตกใจ โล่งใจ ดีใจแล้วก็โกรธ ภาพนั้นคือภาพที่ฮยอนชึงคนที่เขาวิ่งวุ่นตามหามาเป็นเวลานานกำลังนั่งทานข้าวกับน้องชายของเขาด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน

    “ฮยอนชึง...”จุนฮยองเรียกเสียงเบาหวิวทำให้ร่างบางหันมาให้ความสนใจตน

    “อ้าว จุนฮยองไปไหนมาอ่ะ มากินข้าวสิ”

    “...”ร่างสูงไม่ตอบแต่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับ...

    ตุ๊บ!!!ฟาดมือลงกับโต๊ะทานข้าวอย่างแรง

    “อะไรอ่ะ”ร่างบางตกใจย่นคอหลบแต่ก็ยังใจกล้าเอ่ยปากถาม

    “เคลียร์กันเอานะ ผมจะไปทำงาน”ดงอุนเห็นท่าไม่ดีเลยชิงเข้าไปในบ้าน

    “ไปไหนมาฉันรอทานข้าวตั้งนาน”ร่างบางเอ่ยออกมาอย่างใจกล้าทังๆที่รู้ดีว่าร่างสูงนี้ไปไหนมา

    “คุณคิดว่าผมไปไหนล่ะ ไปเที่ยวเล่นรึเปล่า ผมบกพร่องต่อหน้าทีเหรอ”

    “มะ...ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” 

    “แล้วหมายความว่ายังไงล่ะ ไม่อยากอยู่กับผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ ”

    “ปะ...เปล่านะ”ทำไมเมื่อมองแววตาที่ตัดพ้อและผิดหวังของร่างสูงฮยอนชึงถึงกลายเป็นคนติดอ่างมาเสียดื้อๆ

    “หึ จางฮยอนชึงคุณนี้มัน...”ร่างสูงเม้มปากแน่นเหมือนจะสะกดอารมณ์โกรธ แล้วก็หันหลังให้ร่างบางเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าหรือกลัวใจอ่อนกันแน่ก็ไม่แน่ใจ

    “ขอโทษ...”ร่างบางเอ่ยออกมาแผ่วเบา รู้สึกผิดจริงๆตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกผิดอย่างนี้มาก่อนนี้เขาทำให้ร่างสูงตรงหน้านี้ลำบากมากแค่ไหนกันนะ

    “ช่างเถอะ ทานข้าวไป”ว่าแล้วก็เดินหายเข้าไปในบ้าน

    “อะไรกัน ก็ขอโทษแล้วไง”ร่างบางทีเกิดมาแทบจะไม่เคยง้อใครก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยหันไปจัดการกับข้าวในจานตัวเองต่อ

    “กินเสร็จค่อยง้อแล้วกัน”

    ตอนเย็น

                   การง้อของจางฮยอนชึงยังไม่เป็นผลเมื่อร่างสูงยังเอาแต่ถามคำตอบคำ พอถามว่าเป็นอะไรก็บอกว่าเปล่า ถามว่าโกรธอะไรก็บอกว่าเปล่า บอกว่าขอโทษก็เงียบ ฮยอนชึงก็เลยจนปัญญามานั่งเล่นที่ระเบียงเพราะอีกคนอาศัยห้องนอนทำงานอยู่ถ้าเข้าไปนั่งในนั้นก็อึดอัดเปล่าๆก็เขาไม่พูดด้วยอ่ะ ผ่านไปสักพักเมื่อรู้สึกว่าตัวเองคอแห้งและด้านนอกนี้มันก็หนาวเกินไปที่จะมานั่งอยู่นานๆฮยอนชึงเลยเดินกลับเข้าไปในบ้าน แต่ก็เจอกับดงอุน ทีกำลังทำท่าจะรีบร้อนออกไปไหนสักที

    “จะไปไหนเหรอ ดงอุน”เห็นอย่างนั้นก็เอ่ยถามชะเลย

    “ทางองการที่ผมสังกัด เรียกตัวผมด่วนนะสิ ผมต้องกลับโชลเดียวนี้และไม่รู้เมื่อไรจะได้กลับมาหรือไม่ก็อาจจะไม่ได้กับมาอีกเลย ฝากบอกฮยองด้วยนะครับ ส่วนนี้ก็กุลแจบ้าน พวกคุณอยู่ที่นี้ตามสบายเลย แต่ถ้าจะไปก็ปิดบ้านให้ผมเรียบร้อยแล้วเอากุลแจไปด้วยเลย ผมมีดอกสำรอง”

    “เดี๋ยวสินายควรไปบอกเขาด้วยตัวเองนะ”ยื่นมือไปรับกุลแจมาอย่างงงๆพร้อมกับเอ่ยตามที่ตัวเองคิด

    “ผมไม่มีเวลาแล้ว ฝากด้วยนะครับ”

    “อืมๆ เดินทางปรอดภัย โชคดีนะ แล้วก็...ขอบใจมาก”

    “เช่นกันครับ ถ้ามีโอกาจเราคงได้เจอกันอีก”

                   เมื่อดงอุนขับรถออกไปแล้วร่างบางก้มมองกุลแจในมือของตัวเองอย่างจนใจเราจะทำไงดีเนี่ย อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ถ้าไม่คุยกันสักนิดคงได้อึดอัดตายเป็นแน่ เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เลยกลั้นใจเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งง้อดูอีกสักหน่อยไม่เสียหาย

    “จุนฮยอง...”เอ่ยเรียกร่างสูงที่ตอนนี้นั่งทำงานบนเตียงของตน

    “จะนอนแล้วเหรอ”จุนฮยองเอ่ยออกมาเรียบๆก่อนจะย้ายตัวเองกับคอมคู่ในมานั่งที่พื้นทีปูผ้าเอาไว้เป็นที่นอนของร่างสูงในช่วงสามวันที่ผ่านมา

    “เมื่อไรนายจะเลิกเป็นแบบนี้ล่ะ ดงอุนไม่อยู่แล้วรู้มั้ย เขากลับไปโชลแล้ว”

    “ผมรู้แล้ว ได้ยินที่คุยกันเมื่อกี้”พูดอย่างนั้นแต่สายตากับไม่ละออกจากโน๊ดบุ๊คเลยสักนิด

    “นี้!!หมดความอดทนแล้วนะโกรธอะไรก็พูดดีๆดิ อย่าทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ เหนื่อยที่จะง้อแล้วนะ!!”ร่างบางฟิวขาดเมื่อท่าทีของจุนฮยองไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

    “อืม เหนื่อยก็ไม่ต้องง้อ ผมวิ่งวุ่นตามหาคุณแทบตายนะไม่เหนื่อยหรอก”ว่าประชดเข้าให้ทำให้ฮยอนชึงถึงกับสะอึก

    “จุนฮยองอา...ชึงขอโทษยกโทษให้ชึงนะ”เมื่อไม้แข็งใช้ไม่ได้ผลก็กลับมาใช้ไม้อ่อนอย่างเดิมพร้อมกับนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าร่างสูง

    “ไม่ได้โกรธ...”ว่าเบาๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอะไรสองสามที่ก่อนจะยกขึ้นแนบหู

    “ฮยอนอาเหรอ”ชื่อคนที่เรียกทำให้ฮยอนชึงหูกางทันที

    “ที่นั้นเป็นไงบาง เราสบายดีมั้ย อืม... อืม...พี่อยู่ไม่ไกลหรอก อืม...ดูแลตัวเองด้วยฮยอนอาแล้วพี่จะรีบกลับไป รักเธอนะ”เมื่อคุยกันได้สักพักร่างสูงก็วางโทรศัพท์ปิดคอมแล้วทิ้งตัวลงนอนทันทีไม่สนใจร่างบางทีนั่งอยู่สักนิด

    “ย่าส์!!!ยงจุนฮยองลุกขึ้นมาคุยกันเดียวนี้!

    “อะไรกันผมจะนอนแล้วนะ”

    “ลุกๆๆ ”ว่าพร้อมกับเขย่าๆอีกคนที่นอนหันหลังให้อยู่

    “...”แต่อีกคนก็ยังคงเงียบไม่ตอบโต้

    “เฮ้ออออ ฉันทำไงนายถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอ่ะ บอกดิ”เมื่อจนปัญญาก็เลยพูดออกมาโดยไม่คิดว่ามันจะย้อนเข้าตัว

    “ทุกอย่างเหรอ”ว่าพร้อมกับหันมา

    “อืม ทุกอย่าง อ๊ะ!!”ฮยอนชึงร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อร่างสูงของจุนฮยองดึงเขาไปนอนราบกับพื้นพร้อมกับขึ้นคร่อมไว้

    “ทุกอย่างจริงๆเหรอ”ว่าพร้อมกับกวาดตาขึ้นลงมองร่างบางช้า เพื่อแหย่ให้ใจเต้นเล่นๆ

    “เอ่อ...นายถอยออกไปก่อนได้มั้ย มันอึดอัด”ฮยอนชึงหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามชวนคิดลึกพร้อมกับยกมือขึ้นมาดันอกกว้างให้ออกห่างจากตนเมื่อเห็นว่ามันเริ่มจะแนบชิดมากเกินไปแล้ว

    “งั้นตอบคำถามผมมาสามข้อ แล้วผมจะให้อภัย ต้องตอบตามความจริงถ้าโกหกผมจะโกรธต่อ แล้วที่สำคัญอย่าลืมว่าผมจบเอฟบีไอ ทักษะจับโกหกผมไม่เป็นสองรองใคร”ประโหยคยาวๆแรกของร่างสูงตลอดวันที่ผ่านมาทำให้ร่างบางหายใจติดขัดมากกว่าเดิม

    “ถามมาสิ!”เพราะลมหายใจอุ่นๆทีเป่ารดหน้าร่างบางจึงหันหน้าหนียิ่งทำให้ร่างสูงได้ใจและสนุกที่จะแกล้งต่อไป

    “ข้อแรก ยังชอบฮยอนอารึเปล่า”

    “ชะ...ชอบ”

    “เวลาตอบมองตาผม! ยังชอบฮยอนอารึเปล่า”

    “ชะ...ชอบ!”เมื่อโดนสั่ง ร่างบางก็หันมาจ้องตากับคนที่อยู่ด้านบนพร้อมตอบด้วยเสียงสั่นๆ

    “ข้อแรก คุณโกหก”ว่าพร้อมกับกดจมูกลงทีแก้มใสหนึ่งที

    “อ๊ะ!ทำไรอ่ะ”

    “ทำโทษเด็กขี้โกหก ข้อที่สอง ผมเป็นคนดีรึเปล่า”

    “นายมันคนนิสัยไม่ดี!

    “ข้อทีสองคุณก็โกหก”จุ๊บ!คราวนี้เปลี่ยนมาจุ๊บหน้าผากมนเบาๆ

    “เอาเปรียบกันนี่น่า!

    “ข้อสุดท้าย ถ้าคุณโกหกอีก รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไร เพราะงั้นปากสวยๆของคุณเอ่ยตอบคำตอบที่น่าพอใจเถอะนะ”ว่าพร้อมกับใช้มือลูบผ่านริมฝีปากบางเบาๆ

    “ถามมาเหอะน่า!”เมื่อรู้สึกว่าจนทางก็เลยเอ่ยออกมา

    “ข้อสุดท้าย ชอบผมบางรึเปล่า”น้ำเสียงแสนเจ้าเล่ห์ในตอนแรกเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่แสนจะอ่อนโยน ใจของร่างบางเต้นรั่วอย่างทีไม่เคยเป็นมาก่อน หน้าขาวๆขึ้นสีสวยอย่างน่ารักมือทีดันหน้าอกของร่างสูงไว้ขย้ำเสื้อทีร่างสูงใส่จนยับ เพราะกำลังใช่ความคิด

    “ไม่...”

    “ครั้งนี้ผมดูไม่ออกว่าคุณโกหกมั้ย แต่ผมพิสูจน์ได้...”

    ว่าจบก็ค่อยๆก้มลงมาประกบปากบางอย่างช้าๆ การตอบโต้ที่ไม่ประสีประสาของร่างบางทำให้ร่างสูงถึงกับลอบยิ้มในใจ ปากหนายังคงนำไปเรื่อยๆโดยที่ร่างบางตามอยู่ห่างๆมือที่เคยผลักไสในตอนแรก กับกลายเป็นว่าโอบรอบต้นคอหนาไปเสียแล้ว คล้อยตามจูบของเขาได้ง่ายๆรสจูบที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อนทำให้สติของร่างบางค่อยๆเลือนหายไปทีล่ะนิดความผิดชอบชั่วดีที่เคยมีในหัวตลอดเวลาแต่คราวนี้กับไม่มีเหลืออีกแล้ว ร่างสูงได้ดึงมันให้หายไปหมด

    “จุนฮยอง...อื้อ...พอแล้ว”เมื่อกลัวว่ามันจะเลยเถิดฮยอนชึงก็เลยหันหน้าหนีพร้อมกับเอ่ยปากห้าม

    “ทำไมล่ะ ”

    “ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ!

    “ที่ผมบอกว่าพิสูจน์นะจริงๆนะ ถึงปากบางๆของคุณมันจะเอ่ยปฏิเสธแต่ว่าเมื่อผมลองสัมผัล มันกับให้คำตอบรับแก่ผม”

    “ไอ้คนเจ้าเล่ห์”

    “ไม่เท่าคุณหรอกครับ ถามสามข้อโกหกทังสามข้อเลย อย่างนี้มันน่าจะทำโทษให้เข็ด”

    “ฉันเปล่า อย่างน้อยข้อสองฉันก็ไม่ได้โกหก”

    “งั้นข้อสามก็เรืองจริงนะสิ ถ้าคุณตอบโกหกแสดงว่าชอบ”

    “ไร้สาระน่าถอยไปได้แล้วจะนอน”เอ่ยปากแข็งไปอย่างนั้นแต่หน้ากับขึ้นสีระเรื่อให้คนมองได้ชื่นใจ

    “โอเคครับนอนๆ”ว่าแล้วก็ถอยไปง่ายๆ ฮยอนชึงค่อยๆก้าวขึ้นเตียงของตนไปพร้อมกับดึงผ้าผมมาคุมโปรงแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว

    “ให้โอกาจผมได้ดูแลคุณสักนิดนะครับ ชึง”

    “ไม่ให้จะตามมาด้วยทำไมล่ะ”เอ่ยอู้อี้ใต้ผ้าห่มแล้วพยายามข่มตานอนให้หลับ ไอ้บ้าจุนฮยองแบบนี้ฉันจะนอนหลับได้ไงเล่าT///T


    คุยกันค่ะ!!


    นี้ก็คงเป็นตอนอีกตอนหนึ่งที่ป่วงได้มากที่สุดเพราะคิดไรไม่ออกแล้ว
    คอนยูนิเต็ตคิวบ์ทำพิษหายไปวันหนึ่งมีใครคิดถึงเค้ามั้ย...เงียบกริบ
    เอาเถอะตอนนี้แต่งยากกว่าตอนทีแล้วอีกอ่ะไม่ชินกับการทีต้องแต่งอะไรอย่างนี้เลย
    จริงๆนะ แล้วก็คงจะบ้าจริงๆมานั่งอัพฟิคตอนตีสาม ตอนต่อไปคงเป็นดูซอบ รึเปล่าวะไม่แน่ใจ
    ยังไงก็ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันเรื่อยมาแม้ไรท์เตอร์จะป็กก็ตาม สุดท้ายอ่านแล้วเม้นมั้งนะ
    จำนวนคนเข้าชมกับเม้นต่างกันเยอะเลย แหะๆขอกำลังใจหน่อยค่ะกำลังท้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×