คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที 1 พบกันอีกครั้ง
มหาวิทยาลัยโชล
“ตอนเย็นผมจะมารับนะครับคุณหนู”คนขับรถเอ่ยบอกเมือคุณหนูทังสองสองเค้าเปิดประตูลงจากรถไปแล้ว
“ฉันตอบว่าไม่นายก็มาอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”ฮยอนชึงกัดเข้าให้
“มันเป็นหน้าทีครับถึงคุณหนูบอกว่าไม่ผมก็ต้องมา”
“แหย่เล่นนิดหน่อยทำจริงจัง ไปเถอะโย”
“พี่ฮะ...”
“หือ?”
“นั้นใช่ฮยอนอารึเปล่า”
“โย...อย่ามาอำพี่เรียนทีนี้มานานแล้วถ้าฮยอนอาเรียนทีนี้จริงๆ ก็ต้องเจอกันบ้างแหละ”
“เปล่าฮะ ผมว่าฮยอนอาจริงๆนะ แล้วคนนั้นก็สารวัตจุนฮยอง”
“โย นายกล้าโกหกพี่เป็นเรืองเป็นราวขนาดนี้เลยเหรอ”ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ร่างบางก็หันตามมือของน้องชายทีชี้ไปในทิคตรงข้ามกับทีตนมองอยู่
ภาพทีเห็นทำเอาเกือบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่กระโปรงนักศึกษาตัวยาว ผมสวยถูกถักเปียเป็นสองข้างอย่างน่ารักแว่นหนาเตอะทีประดับอยู่บนใบหน้า โอ้ ถ้าไม่เห็นว่าลงมาจากรถของสารวัตจุนฮยองก็คงไม่เชื่อแน่ๆว้เป็น คิมฮยอนอา สไนท์เปอร์คนสวยเมือวาน
“เป็นไงล่ะ โยเปล่าโกหก”
“ไปกันเถอะโย ก่อนตาบ้านั้นมันจะเห็นเรา”
“เอ๊ะ!เดี่ยวสิเราจะไม่ทักทายเขาหน่อยเหรออุตสาเจอกันอีกทีแล้วนะ”
“อย่ามาบ้า เขาไม่อยากเจอเราหรอกน่า ไปกัน!”
ในห้องเรียน
ร่างบางของฮยอนชึงทีปกติจะตั้งใจเรียนทุกคราบ แต่วันนี้กับนั่งเหม่อลอยคิดถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นเมือวานและเมือเช้า มันเรืองอะไรกันวะ ฮยอนอาเรียนมหาลัยนี้โดยทีเขาไม่เคยรู้มาก่อน ไหนจะสารวัตยงจุนฮยองนั้นทีว่าร้ายเขาสารพัตในเมือวาน ไม่อยากเชื่อเลยคนสวยๆอย่างฮยอนอาจะทนอยู่กับคนแบบนั้นได้
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ส่วนงานทีอาจารสั่งหวังว่าทุกคนจะพยายามตั้งใจทำมาส่งกันทุกคนนะ”เสียงของอาจารหน้าชั้นบอกพร้อมกับบอกปล่อยตัวทำให้ฮยอนชึงถึงกับสะดุ้ง งานอะไร ตูไม่ได้ฟัง เวรแล้วไง! ทุกคนค่อยๆถยอยพากันอออกจากห้องไปร่างบางนั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ทีเดิม เอาไงดีวะ
“นี่ๆ นาย”ร่างบางตัดสินใจหันไปสะกิดคนทีนั่งอยู่ด้านหน้าชึ่งตอนนี้กำลังจัดของใส่กะเป๋าอยู่
“หือ?ว่าไง” ไอ้แว่นไม่อยากจะเสวนาด้วยเลย แต่เอาเถอะมันจำเป็น
“อาจารสั่งงานอะไรเหรอ”
“อ๋อ นายหลับสินะ ฮ่าๆๆ”แกหัวเราะฉันเหรอ
“ปะ...เปล่า แค่ไม่ได้ฟัง แล้วอาจารสั่งงานอะไร”
“ก็...ไม่รู้จะอธิบายยังไง นายดูเอาเองแล้วกัน”ว่าแล้วก็ยื่นสมุดโน๊ดของเขาให้
“ขอบใจ”ร่างบางว่าเบาๆก่อนจะตั้งใจลอกอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงมันจะเป็นแค่โครงร่างก็เอาไว้ก่อนล่ะวะ
“ยูนดูจุน”
“ฮะ!”คนทีนั่งดูด้านหน้าเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีเหตุทำให้ร่างบางสงสัย
“ฉันชื่อยูนดูจุน นายล่ะ?”
“ทำไมนายถึงอยากรู้ล่ะ เอาอาจจะคุยกันแค่ครั้งเดียวนี้นะ”
“นี้ ถึงจะไม่เคยคุยกัน เราก็ควรรู้ชื่อกันไว้นะ แต่ทีจริงฉันก็รู้แหละว่านายชื่ออะไร แต่อยากรู้จากปากนายเอง มันเป็นมารยาท^^”
“ทำไมนายพูดมากจัง”พูดน้อยต่อยหนักอีกตามเคย
“เอ่อ...= =””ทำเอาคนทีอยากสานสำพันถึงกับไปไม่เป็น
“อะ...เสร็จแล้วขอบใจ”
“อะ...อืม”
“ไปนะ”ว่าแล้วเค้าก็คว้ากะเป๋าเดินออกไปทันที ฮยอนชึงแทบจะไม่มีเพื่อนเพราะเขาไม่เชื่อในความสัมพันทีเรียกว่ามิตภาพเขาอยู่กับน้องชายของเขา ยังโยซอบแค่สองคนมาตลอด เลยไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นหรอก แค่ทำให้พ่อกับแม่พอใจแค่นั้นทีเรียกว่าจางฮยอนซึง
“ฮยอนซึง!!”
“นายเรียกฉันแบบนั้นได้ด้วยเหรอ”
“เอ่อ...คือว่าถ้านายไม่รังเกียจงานนี้เรามาทำด้วยกันมั้ย?”ยูนดูจุนถามอย่างมีความหวัง
“ไม่ล่ะ ฉันชอบเดี่ยว อีกอย่าง ฉันไม่รู้จักนาย”ว่าแล้วก็เดินออกไปเลย
“เฮ้อออออ จางฮยอนซึง ฉันตามนายมาตลอดแต่นายกับไม่เคยเห็นฉันเลยเหรอ”
“พี่ครับ!!!”ว่าเดินผ่านตัวตึกมาหน่อยเดียวก็เจอกับน้องชายทีนั่งเล่นอยู่ทีโต๊ะหินอ่อนตัวประจำของพวกเขา โดยมี ลีกีกวังเพื่อนสนิทน้องชายนั่งอยู่ด้วย
“สวัสดีครับ รุ่นพี่”
“ดี กีกวัง กลับรึยังโย”ร่างบางนั่งลงตรงข้ามกับเด็กสองคนพร้อมถาม
“พี่ ผมถามกีกวังแล้ว ฮยอนอานะเรียนทีนี้ ปีเดียวกับผมแต่คนล่ะคณะ”
“อืม บอกพี่ทำไม”
“เปล่าเพื่อใครบางคนอยากรู้ และทีเราไม่รู้ว่าฮยอนอาเรียนทีนี้เพราะเธอดรอฟเรียนไว้เพื่อประติบัติหน้าทีอย่างจริงจังพึ่งกับมาเรียนได้แค่อาทิดกว่าๆ”
“เป็นตำรวจด้วย ทังๆทีอายุเท่านายเนี่ยนะ”
“นี้แหละทีผมสงสัย แล้วกีกวังก็ไม่รู้เหมือนกัน...”ใบหน้าสวยหันไปมองเพื่อนของน้องชายแต่ได้เพียงแค่การพยักหน้าเบาๆจากกีกวังเท่านั้น
“ฮยอนอาจบเอฟบีไอตั้งแต่อายุยี่สิบปี ชึ่งเป็นไปไม่ได้เลยสำรับเด็กอายุเท่านั้น”
“แล้ว ยงจุนฮยองคนนั้นล่ะ ”
“ผมคิดว่าเขาน่าจะอายุห่างจากฮยอนอาสักห้าหกพี่และเขาก็ไม่ได้เรียนแล้วด้วย สำรับคนนี้ไม่มีอะไรหน้าสงสัยเพราะอายุเขา ความสามราถเขาเหมาะสมทีจะเป็นตำรวจเอฟบีไอทุกอย่าง”กีกวังเป็นคนตอบคำถามนี้ ทำเอาฮยอนชึงแอบเบะปาก เหอะ ไม่เห็นจะเหมาะสมสักนิด
“แล้ว...ความสำพันของพวกเขาล่ะ”โยซอบเป็นคนเอ่ยถามบ้าง
“ก็ยังคงเป็นปิศนาต่อไป”พอกีกวังพูดแบบนี้ทุกคนก็มองหน้ากันแบบเหนื่อยๆ
“แล้วเราจะมาสนใจสองคนนั้นทำไมกัน แค่การพบกันแบบบังเอิญไม่ใช่รึไง”ฮยอนซึงว่า
“สีหน้าพี่ไม่ได้แสดงออกอย่างนั้นเลยนะ ไปกลับกันเถอะ กีกวังพวกเราไปนะกลับบ้านดีๆล่ะ”
“จ้า นายก็กลับบ้านดีๆ”
หลังจากแยกจากเพื่อนน้องชาย ร่างบางก็เอาแต่ครุ่นคิดตลอดเวลาว่า ตำรวจทีมีลักษณะนะแปลกๆสองคนนั้นมีความเป็นมายังไงกันแน่ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกก็แน่ล่ะ รู้จักกันแค่ผิวเผินจะให้รู้ประวัติเขาดี ก็คงจะเป้นไปไม่ได้
โครม!
“โอย!”เพราะเดินคิดอะไรเพรินมากไปทำให้ฮยอนชึงไม่ทันมองโต๊ะทีมันตั้งอยู่ เลยไปเดินซนมันเข้าอย่างจัง เล่นเอาจุกเลยไม่ล่ะ
“ไอ้โต๊ะบ้า ใครบอกให้แกมาอยู่ตรงนี้นะ มันน่านัก”ทำท่าจะเตะโต๊ะช้ำไปอีกที แต่พอคิดได้ว่าเตะแล้วอาจจะเจ็บก็เลยอย่าดีกว่า
“พี่คิดไรอยู่อ่ะ ถึงเดินซนโต๊ะได้ อันแน่ คงไม่ได้คิดถึงผู้กองฮยอนอาคนสวยหรอกนะ”
“จะบ้าเหรอ”
“งั้นก็คิดถึง สารวัตจุนฮยอง”
“คิดถึงทังสองคนนั้นแหละ!”
“เฮ้ย!ล้อเล่น พูดจริงดิ ฮ่าๆๆๆ”
“หุบปากของนายชะ”เมื่อเห็นว่าตัวเองเริ่มจนมุม ก็เดินนำน้องซายไปไกลเพราไม่อยากได้ยินเสียงหัวเราะอันน่าอับอายนั้น
“พี่ รอด้วยสิ ฮ่าๆๆๆ>O<”
สองพี่น้องเดินมาจนถึงบริเวรหน้ามหาลัยทีคนขับรถจะชอบมาจอดรอเป็นประจำและวันนี้ก็เช่นกัน แต่เมือร่างบางจะก้าวขาขึ้นรถสายตาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับรถคันหรูทีเจ้าของมันนั่งเต๊ะท่า อย่างหล่อนั่งอยู่ผมสีสวยของเขาเมื่อมันต้องกับแสงแดดแล้ว มันดูมีเสน่ห์ขึ้นมา เหอะ นั่งแบบนั้นแล้วคิดว่าตัวเองหล่อเหรอ...ก็หล่อนั้นแหละ คงมารอฮยอนอาสินะ น่ารำคาญใจชะมัดเลย
“พี่ มองอะไรอ่ะ”
“เปล่า กลับกันเถอะ”
“เดี๋ยว เมือกี้พี่คงไม่ได้มองสารวัตจุนฮยองหรอกนะ”
“โย อย่าบ้า ถ้าพี่มองจริงก็คงมองด้วยความหมั่นไส้นั้นแหละ”
“ให้มันจริงเต๊อะ!!”
“อืม”ว่าตัดรำคาญเบาๆก่อนจะก้าวขึ้นรถทีคนขับรอเปิดประตูให้
“พี่!นั้นมันฮยอนอานี้ ไปทักหน่อยมั้ย”
“ไม่ล่ะ เขาคงไม่อยากจะเสวนากับคนอย่างพวกหรอกรีบกลับเถอะป่านนี้พ่อกับแม่คงถึงบ้านแล้ว”
“ฮะ เข้าใจแล้ว”
บ้านตะกูลจาง
“กลับมาแล้วครับ”สองพี่น้องเอ่ยขึ้นพร้อมกันในระหว่างทีก้มถอดรองเท้าอยู่หน้าบ้าน
“มาแล้วเหรอตัวดี แม่รอจะคุยกับพวกเราสองคนอยู่พอดี”คุณนายจางเดินออกมารับลูกชายกับหลานชายทีพึ่งกับมาจากมหาลัยด้วยตัวเอง ประโหยกทีคุณนายจางเอ่ย ทำให้สองพี่น้องหันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย
“อะไรครับแม่ ผมกับโยเหนื่อยเราอยากพักผ่อน”ฮยอนชึงทำใจดีสู้นางพยา
“พักผ่อนเหรอ แล้วเมือคืนออกไปทำอะไรกันมาฮะ!!”เสียงตะคอกละดับสามร้อยล้านเดชิเบล(เว่อร์)ทำให้สองพี่น้องถึงกับสะดุ้งใครในโลกนี้ ฮยอนชึงไม่กลัว ขอแค่แม่คนเดียวก็พออย่าด่าเขาเลยT^T
“แม่...รู้ได้ไงอ่ะ”ในเมื่อไม่มีอะไรจะประฏิเสธก็ถามสาเหตุชะเลย
“ทีเราหนีออกไปเที่ยวกางคืนนะ แม่อาจจะไม่รู้ แต่ข่าวการทีผู้ร้ายจับตัวประกันนี้ มันคงไม่ใช่เรืองยากใช่ไม่ทีแม่จะจำลูกชายตัวเองได้ตั้งแต่มองแวบแรก”
“โธ่ แม่ครับมันไม่ใช่การเที่ยวกางคืนพวกผมแค่...”
“อย่าเถียง!!”เฮือก!
“คุณป้าครับโย ไม่เกี่ยวนะ พี่ฮยอนชึงทังนั้นเลย เขาบังคับโยอ่ะ”อ้าว น้องรักทำไมทำแบบนี้ล่ะ
“ป้าเชื่อโย เพราะโยเป็นเด็กดีไม่เหมือนใครบางคน”เอ้า ทีลูกตัวเองล่ะไม่เชื่อ
“ยังไงก็ตามเรืองนี้ ฮยอนชึงต้องคุยกับพ่อแล้วล่ะ เกิดเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้พ่อเขาไม่ปล่อยลูกไปแน่ๆ เตรียมตัวไว้ได้เลย เดียวพ่อก็กลับมา ส่วน ยังโยซอบ ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาทานข้าว ”
“ครับๆ”ช่วงนี้ใครก็ว่าง่ายเป็นพิเศษ
ในเวลาอาหารเย็นคุณท่านตะกูลจางก็กลับมาทานข้าวกับครอบครัวด้วยเวลาอย่างนี้ ไม่ได้หาได้ง่ายๆเพราะพ่อของร่างบางนั้นงานยุ่งแทบจะตลอดเวลา การได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ถือว่าเป็นเรืองดี แต่ทำไมฮยอนชึงกับกลืนข้าวไม่ลงนะ
“ฮยอนชึง”เสียงเรียกจากผู้เป็นพ่อทำให้ร่างบางทีพยายามก้มหน้าก้มตากินอาหารอยู่เงยขึ้นมา
“ครับ?”
“เมื่อวานเราไปก่อเรืองมาใช่มั้ย”
“ผมเปล่า...”
“ถ้าพ่อพูดแล้วอย่าเถียงพวกเราสองพี่น้องนะ พ่อเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่า อย่าทำตัวมีปัญหาแค่นี้พ่อก็จะตายอยู่แล้ว”
“ผมขอโทษครับ”
“พ่อไม่ให้โอกาจ การทำผิดของเรามีครั้งแรกแล้วมันต้องมีครั้งทีสองเราจะต้องโดนคุมประพฤติ!”คำสั่งเด็ดขาดของพ่อทำให้ฮยอนชึงหน้าซีดลงอย่างถนัดตา
“สำรับโย ลุงให้อภัย เพราะเราคงโดนพี่ชายเราหว่านล้อม”
“ไม่แฟร์!!”ฮยอนชึงเถียง
“อย่าเถียงต่อจากนี้ลูกจะต้องมีบอดี้กราค์”
“บอดี้กราค์!!!!”
คุยกันค่ะ!!!
ไรท์เตอร์อัพตอนนี้ัโดยสติไม่ครบถ้วนมึนๆเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับ
เอาแต่คิดว่าฟิคทีลงไปจะมีคนเม้นมั้ย ฮ่าๆๆๆตอนนี้เหนือย มึน ง่วง
ฟิคตอนนี้อาจจะแปลกๆไปบ้าง ก็ขออภัย ฟินสุดๆกับเนื้อเพลงwhen i got a paid
ของยังโยทีมีท่อนยังโยเรียกชื่อเราอ่ะ ฟิน >O< สุดท้ายอ่านแล้วเม้นสักนิดหนึ่งจะด่าก็ได้
แต่ก็เม้นให้เราไม่รู้ข้อเสียของตัวเองนะ รักรีดเดอร์จ๊ะ
ความคิดเห็น