ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic[junseung]who are you?นายเป็นใคร? ทำไมมาอยู่ในใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที 9 ตามล่า

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 56


    กลับมาที่เกาะเชจู

                   ความสำพัลของฮยอนชึงและจุนฮยองพัธนาไปอย่างช้าๆโดยที่ทังสองต่างก็ให้ความไว้ใจชึ่งกันและกัน จุนฮยองยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ดูแลฮยอนชึง ปกป้อง และทำทุกอย่างให้มันต่างตรงแค่ว่ารู้ตัวแล้วว่าควรจะอยู่ในตำแหน่งไหนและทำอะไรให้ดีที่สุด วันนี้ก็เช่นกันทังสองคนมาเที่ยวตลาดแถวนั้นเพื่อจะหาชื้อของไปตุนใส่บ้านไว้เยอะๆ ทังสองเดินจับมือกันอย่างเปิดเผยโดยไม่สนว่าใครจะมองยังไง ตอนแรกร่างบางขัดขืนเพราะการที่ผู้ชายเดินจับมือกันอย่างนี้มันคงไม่ดีแน่ๆ เพราะความดื้อรั้นของจุนฮยองร่างบางเลยปล่อยเลยตามเลย

    “ชึง วันนี้อยากกินอะไรอ่ะ”ร่างสูงเอ่ยถามขึ้น

    “ไม่รู้ดิ อะไรทีทำให้กินก็กินทังนั้นแหละไม่เรืองมากหรอก”

    “เหรอ คิดว่าจะเรืองมากชะอีก ฮ่าๆๆๆ”

    “ฉันไม่ค่อยเห็นนายยิ้มหรือหัวเราะเลย แต่เวลานายยิ้มมัน...”

    “มันอะไรอ่ะ”

    “ก็ปากนายห้อยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”

    “เดียวเถอะฮยอนชึง”

    “แล้วทำไมถึงไม่ค่อยยิ้มล่ะ”

    “ผมเป็นหัวหน้าคนนะ จะให้หัวเราะหรือยิ้มง่ายๆมันจะไม่เป็นที่เคารพนับถือ”

    “ไม่เห็นจะเกี่ยวเรืองแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ใจ”

    “จะเข้าใจอะไรล่ะครับ คุณหนู”ว่าพร้อมกับเอามือยีผมนุ่มของอีกคนเล่น

    “ทำบ้าไรเนี่ยผมเสียทรงหมด”ปากเรียวยู่ออกมาอย่างไม่พอใจ มือก็จัดทรงผมไปด้วย

    “ครับๆ ตกลงจะกินอะไร”

    “กินโจ๊ก...”(เฮ้ย!>//<)

    “ตกลงกินโจ๊กนะ”

    “อืม”

                   เมื่อได้รับคำตอบอันแน่ชัดแล้วจุนฮยองก็เดินจูงมือร่างบางหาชื้อของต่อไป ภาพแบบนี้ช่างหาดูได้ยากผู้ชายตัวใหญ่ๆคนหนึ่งมาเดินชื้อของไปทำอาหาร

    แชะ! เสียงถ่ายรูปดังขึ้นทีข้างหู

    “ทำอะไรของคุณเนี่ย”จุนฮยองเมื่อรู้ตัวว่าโดนแอบถ่ายก็หันมาโวยกับร่างบางทันที

    “ก็ถ่ายรูปนายไง เอาเก็บไว้เป็นทีระทึก”

    “ระลึกเหอะ ได้โปรด- -

    “ฮ่าๆๆๆ”

    “ชื้อของเสร็จไปเดินเล่นชายหาดกันมั้ย หรือว่าหิวแล้ว”

    “ไปสิๆ ฉันชอบทะเล เมื่อวานก็แอบไปเล่นมาทีหนึ่งแล้ว”

    “แล้วก็ปล่อยให้ผมวิ่งตามหาใช่มั้ย”

    “ขอโทษ-^-

    “ช่างเหอะ อย่างน้อยก็เพราะคุณทำแบบนั้นมันถึงทำให้เรารู้ความรู้สึกของกันและกัน”

    “เน่า”

    “หรือจะเถียง แต่ผมขอร้องอย่าทำอีก เมื่อวานผมกลัวจริงๆนะกลัวว่าจะเสียคุณไป”

    “ฉันอยู่นี้ อย่ากลัวอะไรไม่เข้าท่าน่า ฉันจะไปจากนายได้ยังไง”ว่าแล้วก็กระชับมือหนาที่จับอยู่ให้แน่นขึ้นไปอีก

    “ไม่รู้สิ...ผมใจไม่ดี”

    “เอาน่า ฉันตายเท่านั้นแหละ ถึงจะแยกจากนายได้”

    “นั้นคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุดอย่าพูดมันออกมาอีก”สายตาดุๆที่ส่งมาทำให้ฮยอนชึงเข้าใจแล้วว่าตัวเองได้พูดอะไรผิดไปจริงๆ

    “อืม”

    “ขอให้เรืองมันผ่านไปโดยไวด้วยเถอะยิ่งคุณอยู่แบบนี้ผมยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ปรอดภัย”

    “จุนฮยองฉันถามอะไรอย่างได้มั้ย”

    “ครับ?”

    “ชอบฉันตรงไหน”

    “หึ ความลับครับ รีบไปกันเถอะเดียวจะค่ำชะก่อน ไปอยากไปเล่นชายหาดแล้วเหรอ”

    “อยากสิไปกัน”

                   เมื่อทังสองคนเดินออกห่างจากบริเวรนั้นแล้ว สายตามุ่งร้ายของคนๆหนึ่งจากมุมมืดก็ได้เผยตัวออกมา ริมฝีปากของบุคคนปิศนาได้แย้มยิ้มอย่างชั่วร้าย

    “เจอตัวแล้วครับ บอส”

     

    ชายหาดของเกาะเชจู

                   อากาดเย็นๆกับกลิ่นเค็มๆของทะเล ทำให้ฮยอนชึงดูเหมือนจะสดชื่นเป็นพิเศษ วิ่งเล่นเหมือนเด็กๆแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะลงไปสำผัดน้ำเพราะรู้ว่าอากาดนี้มันเย็นเพียงใด

    “จุนฮยอง มานี้เร็วสิ”ส่งเสียงเรียกอีกคนที่เดินตามหลังอยู่ก็ตัวเองเอาแต่วิ่งแล้วคนเดินจะตามทันได้ไงกันเล่า

    “ครับๆ”

    “ฮ่าๆๆๆ”เสียงหัวเราะใสๆแบบนี้อีกแล้ว จุนฮยองคิดในใจทำไมเขาถึงชอบเสียงหัวเราะของฮยอนชึงจังนะ ฟังแล้วรู้สึก ความสุข

                   ในขณะที่จุนฮยองเดินไปหาฮยอนชึงช้าๆและฮยอนชึงเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาสูดอากาดบ้าง สายตาของคนปิศนาได้จ้องมองมาที่พวกเขาอีกครั้ง จุนฮยองด้วยความที่สัญชาติญาณของเอฟบีไอ จึงรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อมีคนจ้องมอง เขาจึงหยุดชะงักไป

    “เป็นอะไรไปจุนฮยอง”ฮยอนชึงที่เห็นสีหน้าจุนฮยองเปลี่ยนไปถามขึ้น

    “เปล่าหรอก ผมว่าเรากลับกันเถอะอากาดเริ่มเย็นมากแล้ว”พูดพร้อมกับลากฮยอนชึงที่ยังขืนตัวไว้เพราะไม่อยากกลับให้ตามมา

    “เอ๊ะ!เดียวสิ”

    “ตามมาเหอะน่า”จุนฮยองดันฮยอนชึงให้เดินนำหน้าไปก่อนก่อนจะหันไปมองด้านหลังของตนอีกครั้ง แต่ก็พบกับความว่างเปล่า รู้สึกไปเองอย่างนั้นเหรอ ไม่น่าจะใช่นะ

    อดีตบ้านดงอุน(อดีต?)

                   จุนฮยองและฮยอนชึงนั่งทานข้าวอยู่ที่ระเบียงบ้านตามปกติ แต่ทำไมวันนี้ร่างสูงถึงหน้าเครียดนัก คงจะไม่พ้นเรืองที่รู้สึกเมื่อตอนเย็นนี้หรอก

    “คิดอะไรอยู่จุนฮยอง นายเอาแต่เขี่ยไปเขี่ยมาแล้วข้าวมันจะหมดมั้ยเนี่ย”ฮยอนชึงทีนั่งฝั่งตรงข้ามเอ่ยท้วงขึ้น

    “หมดสิครับ ผมจะเอาไปเททิ้งไง”

    “เททิ้งทำไมเสียดายของถ้านายไม่กินเอามาฉันจะกินเอง”ว่าพร้อมกับจะทำจริงๆ

    “ผมทำอาหารอร่อยใช่มั้ยล่ะ”

    “อืม ก็ดีนะ แต่สู้ฮยอนอาไม่ได้”

    “โอย ยัยนั้นจะมีอะไรทอดไข่ยังไหม้เลย”

    “อย่าว่าน้องสิ”

    “นี้คุณยังชอบฮยอนอาอยู่เหรอ”

    “เปล่า ก็แค่ไม่อยากให้นายว่า”

    “ปกป้องกันเข้าไป”

    “ความรู้สึกนะ เข้าใจนะ”

    “เข้าใจครับ แค่กับฮยอนอาผมไม่หึงหรอก แต่ถ้ากับคนอื่นก็ไม่แน่”

    “ไม่ว่าจะหญิงหรือชายเหรอ”

    “หญิงทีอาจจะมียกเว้นบาง แต่ถ้าชายใครมันกล้ายุ่งได้กินลูกปืนผมแน่”

    “ตำรวจเถื่อนรึไงเนี่ย”

    “หึ ผมไม่กลัวหรอกแค่นี้เอง”

    “จ้า อิ่มแล้วเก็บด้วยนะ”ว่าแล้วร่างบางก็ลุกจากที่นั้นแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

    “ก็ผมเก็บตลอดอยู่แล้ว”

    กลางดึกคืนนั้น

                   ในขณะที่ร่างบางของฮยอนชึงนอนหลับอย่างสบายใจอยู่บนเตียงอุ่นๆ จุนฮยองที่นอนอยู่ด้านล่างกับกระสับกระส่ายเหมือนคนนอนไม่หลับก็นอนไม่หลับจริงๆนั้นแหละ จะว่าหนาวหรือพื้นแข็งก็ไม่น่าจะใช้เพราะก็นอนหลายวันผ่านมาแล้วทำไมถึงนอนได้นะ

    พรึบ!ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมกับสะบัดผ้าห่มออกอย่างแรง เพื่อหวังจะลุกไปกินน้ำบางที่อาจจะรู้สึกดีขึ้น

    “ไปไหนเหรอ”ร่างบางที่คิดว่าหลับไปแล้วเอ่ยอู้อี้ออกมา

    “ขอโทษที่ทำให้ตื่นผมจะไปดื่มน้ำนะ”

    “นอนไม่หลับรึไง”ว่าพร้อมกับลุกขึ้นนั่งมือเรียวยกขึ้นมาขยี้ตาเล็กน้อยเหมือนเด็กพึ่งตื่นนอน

    “อืม”ตอบเสียงแผ่วเบาก่อนจะเดินมานั่งที่ปลายเตียง

    “ทำไมถึงนอนไม่หลับล่ะ หนาวเหรอ”เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงเล็กน้อยพร้อมเอ่ยถาม

    “เปล่าหรอก”

    “ขึ้นมานอนด้วยกันมั้ย”

    “พูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ย”

    “จะเป็นอะไรล่ะ นายช่วยฉันตั้งเยอะแค่นี้เอง”

    “ไม่ล่ะ ไม่อยากนอนเบียดคุณคุณนอนสบายๆเถอะ ผมก็จะนอนแล้ว”ว่าแล้วก็ลงจากเตียงกลับสู่ที่ของตัวเอง

    “ตามใจ”ร่างบางก็ทิ้งตัวลงนอนเช่นกัน

    “ฮยอนชึง...”

    “อะไรอีกล่ะ จะขอขึ้นมานอนด้วยไม่ให้แล้วนะ”

    “ไม่ใช้ แต่...ขอจับมือได้มั้ย อย่างน้อยผมก็อุ่นใจว่าคุณยังไม่ไปไหน”

    “ทำตัวเหมือนเด็กไปได้”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยอมนอนตะแคงมาฝั่งที่คนตัวสูงนอนอยู่พร้อมยื่นมือลงมา

    “ผมคิดว่าที่นอนไม่หลับนี้อาจจะเป็นห่วงคุณ กลัวเกิดอะไรขึ้นกับคุณตอนผมหลับ”

    “นอนได้แล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆฉันจะกระตุกมือนายแรงๆเลย ถ้านายไม่ตื่นล่ะน่าดู”ว่าให้อีกคนสบายใจ

    “จริงๆนะ”

    “อืม”แล้วทังสองก็เข้าสู่ห้วงนิททาไป

    ผ่านไปสักพัก

    แกรกๆๆ เสียงปิศนาอะไรบางอย่างที่ดังขึ้นหน้าห้องนอนร่างทังสองร่างยังนอนอย่างไม่รู้เรืองรู้ราว

    แกรกๆๆๆ ตุบๆๆ

                   เมื่อเสียงมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆทำให้จุนฮยองรู้สึกตัวขึ้นมา หัวของเขาคิดไปถึงความรู้สึกเมื่อตอนเย็นเมื่อคิดว่ามันคงจะไม่ใช่เสียงแมวธรรมดาแน่ๆ เขาก็เลยเอื้อมมือไปหยิบปืนพกที่เก็บเอาไว้ใต้หมอนออกมาถือไว้ในมือ

    “ฮยอนชึงๆ”เอ่ยปลุกอีกคนพร้อมเขย่าเบาๆตอนนี้รู้สึกตัวไว้ดีที่สุด

    “หือ...อะไรเหรอ”ร่างบางที่ยังง่วงนอนอยู่นั้นลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย

    “ผมได้ยินเสียงแปลกๆด้านนอก ตื่นเถอะมันอันตราย”

    “ว่าไงนะ พวกมันตามเราเจอแล้วเหรอ”ตาสว่างทันทีที่ร่างสูงพูดจบ

    “ผมไม่รู้อยู่นี้นะผมจะออกไปดูด้านนอก”จุนฮยองว่าพร้อมกับลุกขึ้นยืน ร่างบางก็ลุกตามทันที

    “อืม”

                   เมื่อร่างบางตอบรับจุนฮยองเลยค่อยๆย่องออกไปทางด้านประตูก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังร่างสูงพิงกำแพงฝั่งในก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูก่อนจะผลักเปิดออกโดยทีไม่ได้เดินออกไปทันที

                   เมื่อทุกอย่างยังคงเงียบร่างสูงเลยสงสัยเลยเล็งปืนไปทางประตูพร้อมกับค่อยๆก้าวออกช้าๆสายตาคมสอดส่ายหาความปกติในความมืดทีแทบจะมองไม่เห็นอะไร

    พรึบ! และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อร่างสูงก้าวพ้นประตูเพียงเล็กน้อยมือปิศนาก็เอื้อมมาจากด้านหลังล๊อกคอร่างสูงไว้ ชึ่งแสดงว่าบุศคนผู้นี้หลบอยู่หลังประตูมาตลอด

    พลั่ก!!

    “จุนฮยอง!”ร่างบางร้องอย่างตกใจเมื่อคนผู้นั้นเตะข้อพับขาของร่างสูงจนทรุดลงพร้อมแย่งปืนของร่างสูงมาไว้ในมือ แต่ร่างสูงยังคงนิ่ง ร่างบางแทบไม่อยากจะเชื่อว่าบอดี้กราด์ทีแสนเก่งกาจของตัวเองเสียท่าง่ายๆแบบนี้

    พรึบ! แต่ร่างสูงก็ไหวตัวทันตอนทีมันเผลอเอื้อมมือบิดแขนของมันไขว่หลังก่อนจะดันให้ติดฝาแต่ก็รู้สึกถึงวัตถุเย็นๆที่จ่ออยู่ที่ท้องเสียก่อน

    “ปล่อยไม่งั้นฉันแทงแน่ๆ”เสียงทุ้มต่ำๆที่ฟังดูแม่งๆทำให้ร่างบางตกใจอย่างมาก จุนฮยองจะถูกแทงงั้นเหรอ เพราะความมืดทำให้เขามองไม่เห็นอะไรเลย

    “เลิกเล่นได้แล้ว”จุนฮยองเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดสวิกไฟที่อยู่ตรงกำแพง ทำให้มองเห็นบุศคนปิศนาคนนั้นทันที

    “ฮยอนอา!!!!


    คุยกันค่ะ
    จุดๆๆไม่มีอะไรจะพูดเหนื่อยมากเลยช่วงนี้การเรียนงานเงิน
    ทุกอย่างไม่เป็นใจกับมาจุนชึงแล้วค่ยแต่งออกหน่อยตอนนี้ใช่
    เวลาแต่งสองวัน(ความจริงคือสองชั่วโมงนอกนั้นอู้)แต่งยากเพราะ
    เราอธิบายฉากไม่เก่ง เฮ้อออออ เหนื่อยอ่ะ ที่สัญญากับทุกคนไว้ว่าเรืองนี้จะจบจะ
    ทำตามสัญญาให้ดีที่สุดนะ เป็นกำลังให้เราด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×