คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 22 : Good Luck
Chapter
22 : Good luck
ชีวิตจริงมันกำลังจะเริ่มขึ้น
ต่อจากนี้ไปคนที่เลือกเส้นทางถูกเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด…. ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่มันคือความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ
ม.6ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเล่นๆ ชีวิตทุกคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ผ่านคือผ่าน ไม่ผ่านคือรอใหม่
เทอมแรกของม.6แน่นอนว่ายังมีเด็กมาเรียนตามปกติ
แต่พิเศษหน่อยที่โรงเรียนจะปล่อยเร็วเพราะเด็กส่วนใหญ่จะไปเรียนพิเศษต่อข้างนอกกัน
คิมดงฮยอกก็เป็นหนึ่งนั้น
“เสร็จแล้ววางไว้หน้าห้องนะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะเอาไปส่งให้” ตะโกนบอกเพื่อนในห้องแล้วก้าวยาวออกจากห้องทันที
“จะไปไหนวะ”
“กะ…ก็ไปเรียนไง” จินฮยองแสยะยิ้มทันทีเมื่อรับรู้ถึงความกลัวในน้ำเสียงสั่นของดงฮยอก
“ครั้งที่แล้วก็โชคช่วยไม่โดนจับไปกะพวกกู
ชีวิตดีจังนะพ่อหัวหน้า” ชานอูพูดสมทบขึ้นมาอีกเสียง
“ฉันพอแล้วไง
ฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องพวกนี้แล้ว หลีก ฉันจะไปเรียน”
“รายได้กูต้องหาย
ไม่มีอะไรทำก็เพราะมึง มึงนี่มันหัวหน้าห้องเฮงซวยจริงๆ”
“พวกนายควรเลิกคิดเรื่องนี้แล้วไปอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบดีกว่านะฉันว่า”
คิมดงฮยอกว่าด้วยเสียงหนักแน่นแล้วเดินจากไป
สายตามุ่งมั่นที่เปลี่ยนไปของดงฮยอก ต่อไปนี้เขาจะไม่ตกเป็นเบื้อล่างใครอีก
เมื่อก่อนดงฮยอกยอมรับว่าเขาติดยา
แต่เขาก็แค่ลองเพื่อหาความสุขใส่ตัวก็เท่านั้น
ดงฮยอกไม่คิดว่าแค่ลองยาเสพติดครั้งเดียวมันจะพาความเลวร้ายมาให้ตัวเขาได้ขนาดนี้
เขาต้องตกเป็นเบื้องล่างของจินฮยองและชานอู สองคนนั้นใช้งานเขายังกับเบ้
ทุกอย่างแย่ไปหมด ดีแค่ไหนที่เขายังคอยคุมระดับการเรียนไม่ให้ตกไปจากท้อปสิบของชั้นได้
อยากเลิกยาแต่ก็ทำไม่ได้
แรงบันดาลใจที่มีทั้งหมดของเขาก็คงมีแค่คิมจินวู....... คนตัวเล็กที่เขาปลื้มมาตั้งแต่ม.ต้น
คิมจินวูเป็นคนบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว
ใส่ใจแม้แต่สิ่งเล็กๆของคนรอบข้าง ตอนม.ต้นได้อยู่ห้องเดียวกัน
นั่งใกล้กัน และโชคดีที่จินวูก็หลงใหลในเสียงเพลงเหมือนกัน
ยอมรับว่าเขาหลงรักจินวูเข้าเต็มเปา แต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไป
ดงฮยอกเก็บความในใจเรื่อยมาจนขึ้นม.ปลาย
และก็โชคร้ายที่เขาอยู่คนละห้องกับจินวู
แต่แล้วโชคชะตาก็ยังคงเห็นใจดงฮยอกอีกครั้งเมื่อมีงานโรงเรียนและเขาต้องเล่นดนตรีกับจินวู
“ทำไมช่วงนี้ปากซีดอะ ไม่สบายหรอ…”
ประโยคแรกที่ทำให้ใจเต้นรัวอีกครั้งนับจากแยกห้อง
คิมจินวูเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้
แววตาอยากรู้อยากเห็นแสนใสซื่อดวงเดิมที่เขาคิดถึงได้กลับมาแล้ว
แต่จะให้บอกออกไปว่าเพราะเขาไปเสพยามาน่ะหรอ คงจะไม่ใช่ คิมจินวูยอมรับได้ที่ไหน
เขาไม่มีทางบอกความจริงแน่ๆ
ผลสุดท้ายก็ต้องบ่ายเบี่ยงและหาข้ออ้างอื่นมาบอกแทนเพื่อความสบายใจของคนที่เขารัก
ต้องโทษปากเจ้ากรรมที่ไม่ยอมบอกความในใจออกไปซักที
เพราะรู้ตัวอีกทีคนที่เขาแอบปลื้มมานาน
ชอบมาตั้งแต่ม.ต้น ก็กลับถูกคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่นาน แย่งความรักไปจากเขาได้
มันดูไม่แฟร์เลยใช่มั้ย แต่เพราะเป็นคิมดงฮยอก เขาถึงยอม
การที่เห็นคนที่เขารักมีความสุขอยู่อย่างนี้ก็คือความสุขอย่างนึงของเขาแล้ว
ฟังดูคล้ายกับประโยคของพระเอกในละครน้ำเน่าที่ชอบพูดกัน ดงฮยอกเคยคิดว่ามันโอเว่อร์
แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ ว่าเขาก็กำลังเป็นอยู่เหมือนประโยคน้ำเน่าประโยคนั้น
คิมจินวูดูมีความสุข ยิ้มกว้างและหัวเราะได้ดังขึ้นทุกวันเพราะคังซึงยุน
ถามว่าอิจฉามั้ยบอกเลยว่ามาก เขาล่ะอยากจะแย่งตำแหน่งนี้มาใจจะขาด
แต่ก็รู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นขี้ขลาดเกินกว่าจะพูดคำว่ารักออกไป
แล้วนับประสาอะไรกับการดูแลคนๆนึง ให้คังซึงยุนทำหน้าที่นี้แทนเค้าอย่างสุดความสามารถ
นั่นแหละคือความหวังของดงฮยอก
อาการติดยาของเขาหนักขึ้นทุกวันๆ
และดงฮยอกไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เขาอยากเลิกแต่ก็รู้ว่ามันยาก เขาทนไม่ไหวจึงต้องขอร้องจีวอน
ดงฮยอกเห็นจีวอนอาการแบบเขามาได้สักพักแล้ว กระสับกระส่าย หงุดหงิด
และพยายามไม่ไปหาซึงฮยอนตามที่นัด
ดงฮยอกเห็นแววสว่างของตัวเองจึงเข้าไปถามและวางแผนการที่จะเลิกงานนี้ให้สำเร็จ
ประจวบเหมาะกับที่จินวูเลิกกับซึงยุน
คนตัวเล็กนั่นดูเศร้าลงทุกวันๆ ไม่มีเสียงหัวเราะหรือรอยยิ้มกว้างเหมือนแต่ก่อน
โลกของจินวูดูเศร้าหม่นและโลกของเขาก็เป็นไปตามจินวูด้วย ดงฮยอกไม่ชอบ
การที่จินวูไม่ร่าเริงแบบนี้ดงฮยอกไม่ชอบเลย
เขาต้องหายจากยาและจะเป็นคนทำให้รอยยิ้มนั้นของจินวูกลับมาให้ได้ ด้วยสัตย์ปฏิญาณนั้นทำให้ดงฮยอกตัดสินใจเลิกยาขั้นเด็ดขาด
เขาและจีวอนเป็นคนไปบอกตำรวจด้วยตัวเอง
และเพราะเป็นคนสารภาพโทษยอมรับผิดเองทำให้โทษลดลงเหลือเพียงแค่จ่ายค่าปรับเพียงไม่กี่บาท
จนถึงตอนนี้เขาก็ได้เลิกยาแบบเต็มตัวแล้ว
กลับมาเป็นดงฮยอก หัวหน้าห้องคนเก่าคนเดิม ที่ต้องเรียนพิเศษจนค่ำมืดเพราะหวังว่าจะได้สอบเข้าที่ดีๆตามที่พ่อแม่หวัง
และก็วนเข้าลูปเดิม คิมดงฮยอกก็ยังไม่มีเวลาที่จะบอกความในใจกับจินวูอยู่ดี
เพราะความตั้งใจที่จะอยากเข้ามหาลัยนั้นมีมากกว่า
เอื้อมมือเสียบหูฟังเขากับหน้าจอคอม
หยิบเครื่องเขียนออกมาจัดวาง พลิกกระดาษหาเลขหน้าที่เรียนจบไปครั้งที่แล้ว
พลันเสียงชายวัยกลางคนก็ผ่านเข้ามาตามหูฟังทันที
“เรามาต่อจากครั้งที่แล้วกันนะ…”
ตอนนี้ที่นี่ก็เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สามของดงฮยอกไปแล้ว
ตอนเช้าไปโรงเรียน ตกเย็นมาเรียนพิเศษและพอเลิกก็กลับบ้าน วงจรชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของดงฮยอกทำให้เขาทำใจยอมรับมัน
ในเมื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาเอส (มหาลัยชื่อดังของเกาหลี) ให้ได้
เขาก็ต้องทำแบบนี้ นิ้วเรียวคลิกเม้าส์ที่ปุ่มหยุดแล้วมือขวาก็เริ่มเขียนยุกยิกลงบนกระดาษ
แรงเคลื่อนของเก้าอี้ข้างๆทำให้ดงฮยอกอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเล็กน้อย
“อ้าวดงฮยอก” ฮงซอกตกใจเสียงหลง ยิ้มทักทายเพื่อนหัวหน้าห้องแล้วนั่งลงหน้าจอคอมข้างๆกับดงฮยอก
มีเพียงแค่รอยยิ้มที่ส่งให้กันเพราะในที่เรียนแบบนี้คงเสียงดังไม่ได้มาก
‘มาคนเดียวหรอ’
ฮงซอกอ่านปากได้แบบนั้น
การคุยที่แสนยากลำบากแต่เพราะคุ้นเคยกันเลยเข้าใจได้ง่าย
นึกพลางทำปากเป็นรูปคำตอบออกไป
‘ป่าว เดี๋ยวจินวูกับแทฮยอนตามมา’
‘อ่อ’ ใจเต้นทันทีที่ได้ยินชื่อจินวู
ถึงจะมีคนอื่นมาด้วยแต่ถ้ามีจินวูเขาก็มีความสุขแล้ว
ดงฮยอกผงกหัวแล้วหันมาสนใจโจทย์ต่อในขณะที่รู้สึกเสียววาบในท้องไปด้วย
เสียงเปิดประตูของผู้มาใหม่ที่มากกว่าหนึ่งคนเรียกความสนใจของดงฮยอกได้ทันที
แทฮยอนกับจินวูเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยมินโฮ ซึงฮุนและ….ซึงยุน
หุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นหน้าคนสุดท้าย
ดงฮยอกลืมไปว่าถึงเลิกเป็นแฟนกันแล้วแต่เขาทั้งสองคนก็อยู่กลุ่มเดียวกัน
โอกาสใกล้ชิดยิ่งมาก ถ่านไฟเก่าจะกลับมาติดลุกโชนได้เมื่อไหร่ไม่รู้
คงเพราะที่นั่งมันบังคับทำให้จินวูเลือกที่จะมานั่งข้างผม
แทฮยอนนั่งข้างฮงซอกแล้วตามด้วยมินโฮและซึงฮุน แต่คนข้างๆจินวูก็ยังเป็น….ซึงยุน
“อ้าว”
โบกมือบ้ายบายและรอยยิ้มหวานเรียกหัวใจผมให้กลับมาเต้นอีกครั้ง
คิมจินวูยิ้มให้ผม รอยยิ้มกว้างนั้นกลับมาอีกครั้งแล้ว
เราทั้งคู่ยิ้มให้กันและต่างคนต่างก็หันไปสนใจจอคอมต่อ ห้องเรียนตกอยู่ในความเงียบ
ถ้าถอดหูหังออกก็คงได้ยินแค่เสียงหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น
“มึงหมึกหมดอะ มีปากกาปะ”
“แปป” สรรพนามที่ใช้เรียกซึงยุนของจินวูเปลี่ยนไปจนคิมดงฮยอกตกใจ
ซึงยุนควานหาปากกาในกล่องดินสออย่างช้าๆเหมือนไม่ได้รีบเร่งอะไร
คิมดงฮยอกเห็นท่าทางควานหาของซึงยุนแล้วก็หมั่นไส้
หาแบบนี้ชาติไหนมันจะเจอกันวะ
มือเรียวหยิบปากกาในกล่องของตัวเองแล้วรีบส่งให้จินวูอย่างไว
“อ่ะ ลองดู กูไม่รู้ว่ามันติดป่าว”
“ขอบใจ”
ช้าไป
คิมดงฮยอกช้าไป แพ้ให้ซึงยุนตามเคย มือขาวหยุดกลางอากาศแล้วชักกลับทันทีเพราะกลัวจินวูเห็น
ความสัมพันธ์ที่แปลกไปของทั้งคู่ทำให้ดงฮยอกทำตัวไม่ถูก เพื่อน แฟน
หรืออะไรที่มากกว่านั้นแต่หาคำมาเรียกไม่ได้ ตอนนี้ดงฮยอกไม่รู้ว่าทั้งสองคนนั้นเป็นอะไรกันอยู่
อยู่ในสถานะอะไร และเขามีสิทธิ์มั้ยที่จะมาแทนที่
เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ
เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาควรสนใจคือจอคอมตรงหน้า
อนาคตของเขาขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเขาในตอนนี้เท่านั้น
เขาไม่ควรเอาเรื่องอื่นมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จของตัวเอง
“อ่ะ เล่นไรวะ”
“ก็มึงหลับกูเลยปลุก ผิดตรงไหน”
ขวดน้ำเย็นถูกส่งไปกระทบแก้มขาว
จินวูที่นั่งสัปหงกอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความง่วงหันไปมองตาขวางใส่ซึงยุน
มือขวายกขึ้นมาขยี้ตาเพราะยังตื่นไม่เต็มอิ่ม
“ทำหน้าเหมือนหมาหิวข้าว”
เอื้อมมือมาวางเบาๆบนผมนุ่มแล้วลูบไปมา จินวูยู่หน้าและสบัดหัวออก ถึงจะไม่รู้สถานะที่แน่ชัดของทั้งสองฝ่าย
แต่การกระทำแบบนี้มัน……ดงฮยอกก็คงหมดหวังตามเคยสินะ
เพราะถูกผูกมัดด้วยคำว่าเพื่อน
ทำให้จินวูต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ สถานะแอบรักของเพื่อนที่ต้องใช้ความจริงใจเข้าช่วย
ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้รักและเป็นเพื่อนที่ดีต่อซึงยุน เพื่อน เท่านั้น
ซึงยุนขีดเส้นใต้ไว้ที่คำๆนี้ และคงไม่มากไปกว่านั้น
ถึงอีกฝ่ายจะแสดงออกว่าเป็นห่วงมากแค่ไหนแต่มันก็แค่ความรู้สึกของเพื่อน
จินวูพร่ำบอกกับตัวเองตั้งแต่วันนั้นที่ลากซึงยุนไปคุย
แทฮยอนมองการกระทำของซึงยุนแล้วคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากัน
แทฮยอนไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาคนนี้จะมาไม้ไหน
เล่นกับความรู้สึกของจินวูแบบนี้แล้วจินวูก็ไม่ได้แสดงทีท่าเจ็บปวดหรืออะไร
เสมือนว่าคนตัวเล็กสมยอมซะด้วยซ้ำ หรือว่าสองคนนี้กำลังเล่นละครอะไรอยู่
แทฮยอนไม่รู้เลยจริงๆ
แต่ถ้าเป็นแบบนี้แล้วทำให้กลุ่มของเรามีความสุขเหมือนเมื่อก่อนก็ดีแล้ว
แทฮยอนขอแค่นั้น
แสงแดดสีส้มเข้มสาดผ่านหน้าต่างใสเข้ามา
อีกไม่กี่นาทีก็จะหมดเวลาเรียนที่ได้จองไว้ เสียงปากกาสีกระทบกันและเสียงรูดซิบดังขึ้นในเวลาใกล้เคียง ทุกคนถอดหูฟังออกและวางไว้ที่หน้าจอคอม เก็บกระเป๋าแล้วทยอยเดินออกจากห้องเรียน พวกเราทั้งเจ็ดคนเมื่อรวมดงฮยอกแล้ว ก็ทักทายกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
“นี่จินวู”
“หื้ม”
“นายสองคน…เอ่อ….ซึงยุนกับนาย กลับมาคบกันแล้วหรอ”
“ฮ่าๆ” หวังที่จะได้เห็นสีหน้าผิดหวังของเพื่อนตัวเล็กแต่กลับไม่
เสียงหัวเราะแผดดังขึ้นจนคิ้วสวยขมวดเข้าหากันกว่าเดิม
“บ้าหรอ ฉันกับซึงยุนเนี่ยนะ
ไม่อ่ะๆ”
“แต่…ก็เห็นเล่นกันดี”
“เพื่อนน่ะแทฮยอน
แค่เพื่อนเท่านั้น” ส่งยิ้มกว้างให้แทฮยอนราวกับบอกว่าไม่เป็นไร
ถึงจะบอกแบบนั้นแต่แทฮยอนก็จับความผิดปกติในดวงตาคู่สวยนั้นได้
“อ่ะ อ่อๆ อืม ดีแล้ว
ฉันล่ะไม่ชอบเลยเวลานายสองคนทะเลาะกันอะ มันน่ากลัวมากรู้มั้ย หึ่ย
นึกแล้วยังขนลุก”
“จ่ะ
ใครจะชีวิตดีหวานหยดย้อยเหมือนนายล่ะแทฮยอน มีมินโฮอยู่แล้วทั้งคนนี่”
จำไว้นะจินวู เพื่อน…..
แค่เพื่อนเท่านั้น
ไม่รู้ว่าเพราะการที่เรียกไปคุยคราวนั้นรึเปล่าที่ทำให้จินวูกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของซึงยุนแทนที่จะเป็นซึงฮุนหรือมินโฮ
เราหยอกล้อกัน มีอะไรก็ถามกัน แย่งข้าวกันกิน แต่ก็นั่นแหละ
ทุกการกระทำมันก็ถูกจำกัดขอบเขตไว้ด้วยคำว่าเพื่อนอยู่ดี
แต่อยู่แบบนี้ก็ดีไปอย่าง
ไม่ต้องกลัวว่าจะเลิก ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดอะไรแล้วกระทบความรู้สึกของอีกฝ่าย
อยากพูดอะไรออกมาก็พูด อยากทำอะไรก็ทำ แต่จะให้มากกว่านั้นก็ไม่ได้ เพราะคำว่าเพื่อน
“เฮ้ยมึงๆ
ไอ้มินโฮมันสอบติดสถาปัตย์แล้วว่ะ” ซึงฮุนถือโทรศัพท์ที่หน้าจอโชว์ผลสอบเข้าคณะสถาปัตย์มหาวิทยาลัยเอช
วิ่งตะโกนทั่วชั้นม.6จนเพื่อนตามทางมองเป็นตาเดียว
“ฮ่ะ จิงป่ะเนี่ย”
“เออดิ มึงดูนี่ ซง มิน
โฮ มันติดแล้วเว้ยยยย แบบนี้ต้องฮงซอก” ซึงฮุนวิ่งมากลางวงหนังสือที่มีฮงซอกเป็นคนติว
ตะโกนลั่นวงจนการติวดำเนินต่อไปไม่ได้เพราะทุกคนดีใจกับความสำเร็จของซงมินโฮ
“แล้วนี่ไอ้มินโฮมันรู้รึยัง”
“มาโรงเรียนรึยังเหอะ โทรไปก็ไม่รับ
หมูดำเอ้ย” แทฮยอนบ่นพลางหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทรของซงมินโฮโทรออกอีกรอบ
“ฮ้าววว” ร่างหนาเดินเข้าห้องมา ในมือถือโทรศัพท์โชว์เบอร์ของนัมแทฮยอนที่กำลังโทรเข้า
พลางเอามืออีกข้างป้องปากหาววอด
“โทรมาทำไมตั้งหลายสาย
ง่วงก็ง่วง ฮ้าว” หาวอีกรอบ ซงมินโฮคงง่วงจริงๆ
เพราะเล่นประกาศผลทันทีหลังสอบหนึ่งวันแบบนี้
มินโฮที่เมื่อคืนก่อนสอบเตรียมตัวจนถึงเที่ยงคืนเลยเหนื่อยเป็นธรรมดา
“อ๊า มินโฮ
นายติดแล้วรู้มั้ย นายติดแล้วววว” แทฮยอนวางโทรศัพท์ของตัวเองไว้กับโต๊ะแล้ววิ่งไปแย่งโทรศัพท์ในมือของซึงฮุนมาทันที
มือเรียวสไลด์ปลดล็อคแล้วยื่นให้มินโฮดู
ตาคมเบิกกว้าง
ความง่วงสลายไปในทันทีเมื่อเห็นชื่อของตัวเองโชว์เด่นหลาอยู่กลางโทรศัพท์
“ไปเว่ย เย็นนี้กูเลี้ยง”
ผลสรุปของเย็นนี้ก็จบที่ร้านเนื้อย่าง มินโฮสั่งชุดเนื้อชุดใหญ่มาสามชุด
ชุดหมูพิเศษอีกสองชุด ชุดทะเลประหยัดและชุดผักอีกสองชุด
เรียกว่าสั่งกันไม่เกรงใจบัตรเครดิตที่ขอท่านแม่มาเลย
“เฮ้ยๆ เยอะไปแล้วมึง แดกเหลือทำไง”
ซึงฮุนรีบห้ามก่อนที่มินโฮจะสั่งจนหมดร้าน
“ไม่ต้องห่วง มีกูและนัมอยู่
อย่าหวังว่าจะเหลือ” คงต้องเรียกว่าคู่หูหมูอ้วนกันแล้ว
เพราะสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรก็มีแต่ชวนกันไปกิน นู่น ร้านไอติมหลังโรงเรียนที่เก่าที่เดิม
สองคนนี้ไปจนเจ้าของร้านจะยกให้เป็นมรดกต่อแล้ว
ก็ไม่แปลกที่ตอนนี้สันกรามของแทฮยอนจะหายไป
แต่มีแก้มย้วยๆนิ่มสองข้างเพิ่มขึ้นมาแทน
“เนอะ” เอื้อมไปดึงแก้มนิ่มของนัมแทฮยอนออก
คนถูกดึงยู่หน้าหน่อยตามแรงดึงแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
เพราะแทฮยอนก็ชอบให้มินโฮทำแบบนี้อยู่แล้ว
หมูสองตัวหวานเลี่ยนยิ่งกว่าน้ำจิ้มในถ้วย
จนเพื่อนๆทนไม่ไหวต่างพาหยีกันไปหมด
“เออมึง
อาทิตย์หน้ามึงก็สอบตำรวจแล้วดิ” ซึงยุนพูดขัดความหวานปานน้ำตาลของหมูสองตัวนั้นขึ้น
“อือ กูไม่พร้อมเลยว่ะ” ซึงฮุนแกล้งตอบหน้าตายหวังจะได้กำลังใจจากเพื่อนๆ
“กลับบ้านกูก็ต้องช่วยแม่นมล้างจาน
ข้าวกูก็ไม่ได้กิน อ่านหนังสือถึงตีหนึ่งตีสองทุกวัน เห้อ มึงคิดว่ากูจะติดมั้…..”
“มาแล้วเว่ยมาแล้วๆ” ทุกคนแกล้งไม่สนใจละครชีวิตน้ำเน่าของซึงฮุน ตาลุกวาวทันทีเมื่อเนื้อจานใหญ่สามจานวางกลางโต๊ะ
ตะเกียบห้าคู่รุมทึ้งชิ้นเนื้อในจานกันอย่างบ้าคลั่ง
เว้นไว้หนึ่งคู่ก็คือคนที่โดนตัดฉากละครของตัวเองไป
“นี่ สนใจกูหน่อยสิ” เบะปากร้องออกมาด้วยความน้อยใจ
แต่ก็ถูกยัดด้วยเนื้อชิ้นใหญ่ที่ฮงซอกคีบใส่ปากอยู่ดี
ทำไมวันนี้ซึงฮุนน่าสงสารจังครับ
“อะมึง”
“ไรวะ”
“เนื้อไม่ติดมันไง
หรือมึงจะเอาชิ้นนี้” มันก้อนใหญ่ถูกย้ายจากจานคนตรงหน้ามาอยู่บนจานของจินวูทันที
คนไม่ชอบมันยู่หน้า จินวูเบะปากแล้วคีบมันก้อนนั้นกลับคืนจานของซึงยุนไป
“เจออีกก็คีบให้กูด้วยละกัน”
“กูเจอละ” ปลาหมึกสีขาวสามตัวถูกตักจากหม้อต้มย้ายลงมาที่จานของจินวูโดยคังซึงยุน
“กูบอกว่าเอาเนื้อไม่ติดมัน
ไม่ใช่ปลาหมึก”
“แต่มึงชอบปลาหมึกกว่าไม่ใช่รึไง”
จินวูเงียบลงเมื่อคำพูดแทงใจดำของซึงยุนจบ
ซึงยุนจำได้ทุกอย่างว่าจินวูชอบอะไรไม่ชอบอะไร ซึงยุนรู้ทุกอย่างที่เป็นคิมจินวู
อาจจะรู้มากกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำไป จินวูพยายามไม่คิดอะไร
เพราะคิดมากไปก็เหนื่อยเปล่าๆ ก็อีกฝ่ายยืนยันแล้วว่ายังไงก็เพื่อน มือเรียวได้แต่คีบปลาหมึกใส่ปากเคี้ยว
“ทุกคน”
“ให้กำลังใจกูหน่อย” ทั้งโต๊ะหัวเราะลั่นเมื่อเจอไม้ตายเด็ดของซึงฮุนเข้าไป
อีซึงฮุนแก้มป่องกระพริบตาปริบๆหวังจะได้คำพูดหวานซึ้งจากเพื่อนบ้าง
แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนยังยืนหยัดที่จะแกล้งอีซึงฮุนต่อไป
“สู้ๆ นายทำได้” ทันใดเสียงสววรค์ก็ดังขึ้นจากคนตรงหน้าเขา
ฮงซอกยิ้มแป้นโชว์ฟันขาวแล้วหัวเราะน้อยๆ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
เวลาผ่านไปสามสัปดาห์
เพื่อนหลายคนก็ทยอยสอบติดตามแต่ละที่ที่ตัวเองหวังไว้ ซึงฮุนได้ตำรวจ ซึงยุนเรียนสาขาวิชาการถ่ายภาพที่มหาลัยพี
ฮงซอกและจินวูได้แพทย์ที่มหาวิทยาลัยเอส ดงฮยอกก็ได้แพทย์เหมือนกันแต่คนละมหาลัย
แทฮยอนเรียนการออกแบบชุดที่มหาวิทยาลัยพี และจุนฮเวเรียนวิศวะที่มหาวิทยาลัยวาย
เรียกไว้ได้ตามที่ฝันกันทุกคน
“มึงๆ
เขียนเสื้อให้กูหน่อยดิ” จุนฮเวยื่นปากกาให้ยุนฮยองแล้วหันหลังให้เจ้าตัวเขียน
“เขียนดีๆนะสัส ไม่งั้นกูไม่ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้นะเว่ย” จุนฮเวพูดติดตลกเรียกรอยยิ้มบนหน้าของยุนฮยองได้ดี
‘รักนะสัส ไอ้กู…..จุนฮเว’
“เสร็จละ
เขียนให้กูบ้าง” ยุนฮยองส่งปากกาคืนให้จุนฮเวแล้วหันหลังให้
“เสร็จละ กูไปนะ
จะไปเขียนให้จีซู คึคึ” จรดปลายปากกาลงไม่ถึงห้าวิจุนฮเวก็แผ่นแวบหายไปพร้อมกับคำที่ยุนฮยองได้ยินมาบ่อยครั้ง
นึกหัวเราะแล้วหันหลังไปดูข้อความที่เพื่อนรักได้เขียนไว้
‘รักมึงมากกว่านะสัส…ไอ้ซงยุนฮยอง’
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนที่โรงเรียน
ช่วงเช้ามีงานเลี้ยงอำลารุ่นพี่ม.6ซึ่งจัดโดยน้องม.5 ปีที่แล้วก็จินวูก็เป็นคนจัดให้ซึงรี
บรรยากาศดูอบอวลไปด้วยความสุขเพราะเต็มไปด้วยดอกไม้
แต่หากรู้ไม่ว่าชีวิตหลังจากนี้จะน่าหดหู่เพียงใด
‘จินวูไม่ชอบการจากลา ถึงจะเป็นการจากลาด้วยดีก็เถอะ’
ประโยคนี้ซึงยุนจำได้ขึ้นใจ
และวันนี้มันก็เป็นอย่างนั้น พื้นโถงทางเดินเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ
บรรยากาศเหมือนวันแห่งความรัก แต่ก็คงเป็นวันแห่งความรักครั้งสุดท้ายของที่นี่
เสื้อนักเรียนสีขาวถูกปากกาเมจิกหลายสีเขียนทุกพื้นที่บนเสื้อ
ข้อความแห่งความทรงจำครั้งสุดท้ายได้สลักลงบนผ้าสีขาว ถึงแม้จะดูสกปรก…..แต่มันก็น่าเก็บรักษา
เสียงหัวเราะเล็กๆ รอยยิ้มที่สดใส
ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนวันแรกที่เราเจอกัน รวมถึงความสัมพันธ์ในสถานะ เพื่อน คิมจินวูกำลังเขียนปกเสื้อให้แทฮยอนอยู่
แทฮยอนหัวเราะคิกคักเพราะจักจี้ จินวูรู้ดีแต่ก็ยังทำอยู่อย่างนั้น
“อะมึง เหลือมึงคนเดียวละ” กระดาษสีขาวถูกยื่นจากมือหนาส่งมาให้ซึงยุน
“อะไรวะ”
“เปิดดูสิ้ ไอ้สังคัง” มินโฮเอ่ยเสียงทุ้ม เกาหัวแล้วเดินไปหาแทฮยอน
ท่าทางของมินโฮชักจะฮิพฮอพขึ้นทุกวัน
เมื่อซึงยุนพลิกดูกระดาษแล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียว
รูปวาดสเก็ตช์ล้อเลียนหน้าของซึงยุน
มินโฮดึงเอกลักษณ์ของซึงยุนออกมาได้ดีเหมือนตัวจริง ปากบวม แก้มยุ้ย
และไม่ลืมที่จะวาดกล้องห้อยคอไว้ด้วย
‘ได้ดีแล้วอย่าลืมกูนะ’
ข้อความสุดท้ายเขียนไว้ด้วยลายมือหวัดๆด้านล่างรูป
“ชอบอ่ะดิ” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นทำให้ซึงยุนกลับมาวางมาดหน้าขรึมแทบไม่ทัน
“มาไม่ส่งเสียงกันเลยวะ”
“ฮ่ะๆ มา เขียนเสื้อให้” จินวูส่งยิ้มกว้างแล้วเดินไปข้างหลังซึงยุนแต่คนตัวสูงกลับหันหลังมาอีกที
“เขียนตรงนี้ได้มั้ยวะ”
จินวูหน้าขึ้นสีเมื่อซึงยุนชี้ตรงที่หน้าอกข้างซ้าย
ผงกหัวลงช้าๆแล้วจรดหัวปากาเมจิกลงบนที่ว่างขาวทีเว้นไว้
ใจหล่นวูบกับการกระทำที่น่าคิดมากของซึงยุน เพื่อน ท่องไว้ในใจว่าเพื่อน “เสร็จแล้ว”
“เอาปากกามา” จินวูไม่ทันได้ไปไหนเพราะถูกแขนแกร่งสองข้างของซึงยุนจับตรึงไว้แน่น
จินวูก้มหน้ามองพื้นแล้วส่งปากกาให้คนตรงหน้าช้าๆ
เพราะความสูงที่ต่างกันทำให้ซึงยุนต้องย่อลงนิดหน่อยเพื่อให้เขียนได้ถนัด ตาเรียวจ้องมองที่คนขี้อายที่กำลังงุดหน้าอยู่กับปกเสื้อ
ซึงยุนหัวเราะน้อยๆแล้วจรดปากกาลงบนหน้าอกข้างซ้ายของจินวู ที่เดียวกันกับของเขา
“อะ จักจี้ อะฮ่ะๆ
ซึงยุนเปลี่ยนที่ไม่ได้ อ้ะ หรอ ฮ่ะๆ” ใช่
เพราะซึงยุนรู้ซึงยุนเลยทำ
"อ่ะ...."
มีแต่ความเงียบเข้าครอบคลุมคนทั้งสอง ซึงยุนเลื่อนสายตาจากจากอกข้างซ้ายของจินวูขึ้นมาสบเข้ากับตาของคนตัวเล็ก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ที่รู้คือตอนนี้จินวูละสายตาไปจากคนตรงหน้าไม่ได้เลย ความรู้สึกดีใจมันวาบขึ้นมาที่ท้องและตีขึ้นมาที่มุมปากของคนตัวเล็ก ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงและมุมปากก็ค่อยๆยกขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกอะไรก็ตาม ทั้งดีใจ เขิน หรือความสับสนต่างๆ จินวูขอนับว่าเป็นความรู้สึก.....ชอบ ก็แล้วกัน
"อย่าลบนะ"
"อ่ะ...อือ เสร็จแล้วหรอ?"
"ก็จ้องหน้าตั้งนานแล้ว น่าจะรู้สิว่าเขียนเสร็จแล้ว"
"อ่า....."
"หึ.." ซึงยุนขำให้กับท่าทีเคอะเขินของคนตรงหน้า เวลาจินวูเขินนี่มันน่ารัก ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ
"กลับไงอะ"
"เหมือนเดิมไง ลืมหรอ"
"ไม่ลืม"
"งั้นเดี๋ยวไปส่ง"
คำธรรมดา แต่ทำให้คนตัวเล็กมีความสุขได้มากอย่างบอกไม่ถูก จินวูผงกหัวช้าๆแล้วเดินไปเก็บกระเป๋า แวะบอกลาเเทฮยอนที่กำลังคุยกับมินโฮว่าจะไปกินไอติมที่ไหนต่อกันดี พ่วงด้วยฮงซอกที่โดนซึงฮุนจับให้อยู่กับที่เพราะจะเขียนเสื้อที่หลังให้ ซึงยุนหัวเราะน้อยๆให้กับภาพตรงหน้า
'อะไรๆมันกำลังจะดีขึ้น นี่คือสัญญานของความสุขใช่มั้ยนะ'
แชป22~~~~ ❤️❤️❤️
เอามาเสิร์ฟแล้วนะค้าาาาาาาา
ฮื่อออ ไรท์ขอโทษรีดเดอร์ทุกๆคนเลยยย ไรท์ขอสารภาพบาปที่หายไปนานม้ากกกกกกกกกกกกก
ด้วยอะไรหลายๆอย่าง บวกกับไรท์แต่งไฟล์ไว้ในโน๊ตบุ้ค ละมันเปิดไม่ได้อยู่พักนึง ไม่ได้เซฟไฟล์ไว้ที่อื่นด้วย บอกตรงๆเลยคิดว่าไฟล์หายแล้ว จะถอดใจแล้วฮืออออ
แต่วันนี้ไรท์ลองกลับมาเปิดคอมแล้วพบว่า..........มันติด!!!แล้วไฟล์ไรท์ก็ยังอยู่!!!!!! กรี๊ดดดดดดดด
ไม่รู้จะยังมีคนรออ่านอยู่มั้ยยย ถ้ามีคนหลงเข้ามาก็ขอบคุณและขอโทษที่เอามาเสิร์ฟช้านะคะะ น้อมรับความผิดทุกข้อกล่าวหาเลย
ไรท์ขอขอบคุณล่วงหน้ากับทุกคอมเม้นท์และกำลังใจเลยย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมา
ใบ้ๆว่าตอนหน้าจะจบแล้วว ไม่แน่อาจมีสเปมาให้ถ้าไรท์ว่างแต่ง 555555
ไว้เจอกันตอนหน้านะคะทุกคนน จุ้บบบ
ความคิดเห็น