ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Winner (Yoonwoo) : Just memories

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 22 : Good Luck

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46
      2
      12 ส.ค. 61

    Chapter 22 : Good luck

     

     

     

                ชีวิตจริงมันกำลังจะเริ่มขึ้น ต่อจากนี้ไปคนที่เลือกเส้นทางถูกเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด…. ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่มันคือความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ ม.6ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเล่นๆ ชีวิตทุกคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย ผ่านคือผ่าน ไม่ผ่านคือรอใหม่

     

     

     

                เทอมแรกของม.6แน่นอนว่ายังมีเด็กมาเรียนตามปกติ แต่พิเศษหน่อยที่โรงเรียนจะปล่อยเร็วเพราะเด็กส่วนใหญ่จะไปเรียนพิเศษต่อข้างนอกกัน คิมดงฮยอกก็เป็นหนึ่งนั้น

     

     

                เสร็จแล้ววางไว้หน้าห้องนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะเอาไปส่งให้ตะโกนบอกเพื่อนในห้องแล้วก้าวยาวออกจากห้องทันที

     

     

                จะไปไหนวะ


     

                กะก็ไปเรียนไงจินฮยองแสยะยิ้มทันทีเมื่อรับรู้ถึงความกลัวในน้ำเสียงสั่นของดงฮยอก

     


                ครั้งที่แล้วก็โชคช่วยไม่โดนจับไปกะพวกกู ชีวิตดีจังนะพ่อหัวหน้าชานอูพูดสมทบขึ้นมาอีกเสียง

     

     

                ฉันพอแล้วไง ฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องพวกนี้แล้ว หลีก ฉันจะไปเรียน

     

     

                รายได้กูต้องหาย ไม่มีอะไรทำก็เพราะมึง มึงนี่มันหัวหน้าห้องเฮงซวยจริงๆ

     

     

                พวกนายควรเลิกคิดเรื่องนี้แล้วไปอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบดีกว่านะฉันว่าคิมดงฮยอกว่าด้วยเสียงหนักแน่นแล้วเดินจากไป สายตามุ่งมั่นที่เปลี่ยนไปของดงฮยอก ต่อไปนี้เขาจะไม่ตกเป็นเบื้อล่างใครอีก

     




     

                เมื่อก่อนดงฮยอกยอมรับว่าเขาติดยา แต่เขาก็แค่ลองเพื่อหาความสุขใส่ตัวก็เท่านั้น ดงฮยอกไม่คิดว่าแค่ลองยาเสพติดครั้งเดียวมันจะพาความเลวร้ายมาให้ตัวเขาได้ขนาดนี้ เขาต้องตกเป็นเบื้องล่างของจินฮยองและชานอู สองคนนั้นใช้งานเขายังกับเบ้ ทุกอย่างแย่ไปหมด ดีแค่ไหนที่เขายังคอยคุมระดับการเรียนไม่ให้ตกไปจากท้อปสิบของชั้นได้

     




     

                อยากเลิกยาแต่ก็ทำไม่ได้ แรงบันดาลใจที่มีทั้งหมดของเขาก็คงมีแค่คิมจินวู....... คนตัวเล็กที่เขาปลื้มมาตั้งแต่ม.ต้น

     





     

    คิมจินวูเป็นคนบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว ใส่ใจแม้แต่สิ่งเล็กๆของคนรอบข้าง ตอนม.ต้นได้อยู่ห้องเดียวกัน นั่งใกล้กัน และโชคดีที่จินวูก็หลงใหลในเสียงเพลงเหมือนกัน ยอมรับว่าเขาหลงรักจินวูเข้าเต็มเปา แต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไป ดงฮยอกเก็บความในใจเรื่อยมาจนขึ้นม.ปลาย และก็โชคร้ายที่เขาอยู่คนละห้องกับจินวู

     

     

     

    แต่แล้วโชคชะตาก็ยังคงเห็นใจดงฮยอกอีกครั้งเมื่อมีงานโรงเรียนและเขาต้องเล่นดนตรีกับจินวู

     


     

    ทำไมช่วงนี้ปากซีดอะ ไม่สบายหรอ…”

     


     

    ประโยคแรกที่ทำให้ใจเต้นรัวอีกครั้งนับจากแยกห้อง คิมจินวูเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ แววตาอยากรู้อยากเห็นแสนใสซื่อดวงเดิมที่เขาคิดถึงได้กลับมาแล้ว แต่จะให้บอกออกไปว่าเพราะเขาไปเสพยามาน่ะหรอ คงจะไม่ใช่ คิมจินวูยอมรับได้ที่ไหน เขาไม่มีทางบอกความจริงแน่ๆ ผลสุดท้ายก็ต้องบ่ายเบี่ยงและหาข้ออ้างอื่นมาบอกแทนเพื่อความสบายใจของคนที่เขารัก

     

     


     

    ต้องโทษปากเจ้ากรรมที่ไม่ยอมบอกความในใจออกไปซักที  เพราะรู้ตัวอีกทีคนที่เขาแอบปลื้มมานาน ชอบมาตั้งแต่ม.ต้น ก็กลับถูกคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่นาน แย่งความรักไปจากเขาได้ มันดูไม่แฟร์เลยใช่มั้ย แต่เพราะเป็นคิมดงฮยอก เขาถึงยอม การที่เห็นคนที่เขารักมีความสุขอยู่อย่างนี้ก็คือความสุขอย่างนึงของเขาแล้ว ฟังดูคล้ายกับประโยคของพระเอกในละครน้ำเน่าที่ชอบพูดกัน ดงฮยอกเคยคิดว่ามันโอเว่อร์ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ ว่าเขาก็กำลังเป็นอยู่เหมือนประโยคน้ำเน่าประโยคนั้น

     

     


     

    คิมจินวูดูมีความสุข ยิ้มกว้างและหัวเราะได้ดังขึ้นทุกวันเพราะคังซึงยุน ถามว่าอิจฉามั้ยบอกเลยว่ามาก เขาล่ะอยากจะแย่งตำแหน่งนี้มาใจจะขาด แต่ก็รู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นขี้ขลาดเกินกว่าจะพูดคำว่ารักออกไป แล้วนับประสาอะไรกับการดูแลคนๆนึง ให้คังซึงยุนทำหน้าที่นี้แทนเค้าอย่างสุดความสามารถ นั่นแหละคือความหวังของดงฮยอก

     

     


     

    อาการติดยาของเขาหนักขึ้นทุกวันๆ และดงฮยอกไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เขาอยากเลิกแต่ก็รู้ว่ามันยาก  เขาทนไม่ไหวจึงต้องขอร้องจีวอน ดงฮยอกเห็นจีวอนอาการแบบเขามาได้สักพักแล้ว กระสับกระส่าย หงุดหงิด และพยายามไม่ไปหาซึงฮยอนตามที่นัด ดงฮยอกเห็นแววสว่างของตัวเองจึงเข้าไปถามและวางแผนการที่จะเลิกงานนี้ให้สำเร็จ

     

     


     

    ประจวบเหมาะกับที่จินวูเลิกกับซึงยุน คนตัวเล็กนั่นดูเศร้าลงทุกวันๆ ไม่มีเสียงหัวเราะหรือรอยยิ้มกว้างเหมือนแต่ก่อน โลกของจินวูดูเศร้าหม่นและโลกของเขาก็เป็นไปตามจินวูด้วย ดงฮยอกไม่ชอบ การที่จินวูไม่ร่าเริงแบบนี้ดงฮยอกไม่ชอบเลย เขาต้องหายจากยาและจะเป็นคนทำให้รอยยิ้มนั้นของจินวูกลับมาให้ได้ ด้วยสัตย์ปฏิญาณนั้นทำให้ดงฮยอกตัดสินใจเลิกยาขั้นเด็ดขาด เขาและจีวอนเป็นคนไปบอกตำรวจด้วยตัวเอง และเพราะเป็นคนสารภาพโทษยอมรับผิดเองทำให้โทษลดลงเหลือเพียงแค่จ่ายค่าปรับเพียงไม่กี่บาท

     


     

     

    จนถึงตอนนี้เขาก็ได้เลิกยาแบบเต็มตัวแล้ว กลับมาเป็นดงฮยอก หัวหน้าห้องคนเก่าคนเดิม ที่ต้องเรียนพิเศษจนค่ำมืดเพราะหวังว่าจะได้สอบเข้าที่ดีๆตามที่พ่อแม่หวัง และก็วนเข้าลูปเดิม คิมดงฮยอกก็ยังไม่มีเวลาที่จะบอกความในใจกับจินวูอยู่ดี เพราะความตั้งใจที่จะอยากเข้ามหาลัยนั้นมีมากกว่า

     


     

    เอื้อมมือเสียบหูฟังเขากับหน้าจอคอม หยิบเครื่องเขียนออกมาจัดวาง พลิกกระดาษหาเลขหน้าที่เรียนจบไปครั้งที่แล้ว พลันเสียงชายวัยกลางคนก็ผ่านเข้ามาตามหูฟังทันที

     


     

    เรามาต่อจากครั้งที่แล้วกันนะ…”


     

     

    ตอนนี้ที่นี่ก็เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สามของดงฮยอกไปแล้ว ตอนเช้าไปโรงเรียน ตกเย็นมาเรียนพิเศษและพอเลิกก็กลับบ้าน วงจรชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของดงฮยอกทำให้เขาทำใจยอมรับมัน ในเมื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาเอส (มหาลัยชื่อดังของเกาหลี) ให้ได้ เขาก็ต้องทำแบบนี้ นิ้วเรียวคลิกเม้าส์ที่ปุ่มหยุดแล้วมือขวาก็เริ่มเขียนยุกยิกลงบนกระดาษ แรงเคลื่อนของเก้าอี้ข้างๆทำให้ดงฮยอกอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเล็กน้อย

     


     

    อ้าวดงฮยอกฮงซอกตกใจเสียงหลง ยิ้มทักทายเพื่อนหัวหน้าห้องแล้วนั่งลงหน้าจอคอมข้างๆกับดงฮยอก มีเพียงแค่รอยยิ้มที่ส่งให้กันเพราะในที่เรียนแบบนี้คงเสียงดังไม่ได้มาก

     


     

    มาคนเดียวหรอ’ 


    ฮงซอกอ่านปากได้แบบนั้น การคุยที่แสนยากลำบากแต่เพราะคุ้นเคยกันเลยเข้าใจได้ง่าย นึกพลางทำปากเป็นรูปคำตอบออกไป



     

     

    ป่าว เดี๋ยวจินวูกับแทฮยอนตามมา

     

     

    อ่อ’ ใจเต้นทันทีที่ได้ยินชื่อจินวู ถึงจะมีคนอื่นมาด้วยแต่ถ้ามีจินวูเขาก็มีความสุขแล้ว ดงฮยอกผงกหัวแล้วหันมาสนใจโจทย์ต่อในขณะที่รู้สึกเสียววาบในท้องไปด้วย

     

     

     

    เสียงเปิดประตูของผู้มาใหม่ที่มากกว่าหนึ่งคนเรียกความสนใจของดงฮยอกได้ทันที แทฮยอนกับจินวูเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยมินโฮ ซึงฮุนและ….ซึงยุน

     

     


    หุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นหน้าคนสุดท้าย ดงฮยอกลืมไปว่าถึงเลิกเป็นแฟนกันแล้วแต่เขาทั้งสองคนก็อยู่กลุ่มเดียวกัน โอกาสใกล้ชิดยิ่งมาก ถ่านไฟเก่าจะกลับมาติดลุกโชนได้เมื่อไหร่ไม่รู้

     


     

    คงเพราะที่นั่งมันบังคับทำให้จินวูเลือกที่จะมานั่งข้างผม แทฮยอนนั่งข้างฮงซอกแล้วตามด้วยมินโฮและซึงฮุน แต่คนข้างๆจินวูก็ยังเป็น….ซึงยุน

     


     

    อ้าว” 


    โบกมือบ้ายบายและรอยยิ้มหวานเรียกหัวใจผมให้กลับมาเต้นอีกครั้ง คิมจินวูยิ้มให้ผม รอยยิ้มกว้างนั้นกลับมาอีกครั้งแล้ว เราทั้งคู่ยิ้มให้กันและต่างคนต่างก็หันไปสนใจจอคอมต่อ ห้องเรียนตกอยู่ในความเงียบ ถ้าถอดหูหังออกก็คงได้ยินแค่เสียงหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น

     

     

    มึงหมึกหมดอะ มีปากกาปะ


     

    แปปสรรพนามที่ใช้เรียกซึงยุนของจินวูเปลี่ยนไปจนคิมดงฮยอกตกใจ ซึงยุนควานหาปากกาในกล่องดินสออย่างช้าๆเหมือนไม่ได้รีบเร่งอะไร

     

     

    คิมดงฮยอกเห็นท่าทางควานหาของซึงยุนแล้วก็หมั่นไส้ หาแบบนี้ชาติไหนมันจะเจอกันวะ มือเรียวหยิบปากกาในกล่องของตัวเองแล้วรีบส่งให้จินวูอย่างไว

     

     

    อ่ะ ลองดู กูไม่รู้ว่ามันติดป่าว

     

     

    ขอบใจ” 


    ช้าไป คิมดงฮยอกช้าไป แพ้ให้ซึงยุนตามเคย มือขาวหยุดกลางอากาศแล้วชักกลับทันทีเพราะกลัวจินวูเห็น ความสัมพันธ์ที่แปลกไปของทั้งคู่ทำให้ดงฮยอกทำตัวไม่ถูก เพื่อน แฟน หรืออะไรที่มากกว่านั้นแต่หาคำมาเรียกไม่ได้ ตอนนี้ดงฮยอกไม่รู้ว่าทั้งสองคนนั้นเป็นอะไรกันอยู่ อยู่ในสถานะอะไร และเขามีสิทธิ์มั้ยที่จะมาแทนที่

     

     

     

    เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาควรสนใจคือจอคอมตรงหน้า อนาคตของเขาขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเขาในตอนนี้เท่านั้น เขาไม่ควรเอาเรื่องอื่นมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จของตัวเอง

     

     

     

     

    อ่ะ เล่นไรวะ

     


     

    ก็มึงหลับกูเลยปลุก ผิดตรงไหนขวดน้ำเย็นถูกส่งไปกระทบแก้มขาว จินวูที่นั่งสัปหงกอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความง่วงหันไปมองตาขวางใส่ซึงยุน มือขวายกขึ้นมาขยี้ตาเพราะยังตื่นไม่เต็มอิ่ม

     


     

    ทำหน้าเหมือนหมาหิวข้าว” 



    เอื้อมมือมาวางเบาๆบนผมนุ่มแล้วลูบไปมา จินวูยู่หน้าและสบัดหัวออก ถึงจะไม่รู้สถานะที่แน่ชัดของทั้งสองฝ่าย แต่การกระทำแบบนี้มัน……ดงฮยอกก็คงหมดหวังตามเคยสินะ

     

     

     

     

     

    เพราะถูกผูกมัดด้วยคำว่าเพื่อน ทำให้จินวูต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ สถานะแอบรักของเพื่อนที่ต้องใช้ความจริงใจเข้าช่วย ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้รักและเป็นเพื่อนที่ดีต่อซึงยุน เพื่อน เท่านั้น ซึงยุนขีดเส้นใต้ไว้ที่คำๆนี้ และคงไม่มากไปกว่านั้น ถึงอีกฝ่ายจะแสดงออกว่าเป็นห่วงมากแค่ไหนแต่มันก็แค่ความรู้สึกของเพื่อน จินวูพร่ำบอกกับตัวเองตั้งแต่วันนั้นที่ลากซึงยุนไปคุย

     

     

     

    แทฮยอนมองการกระทำของซึงยุนแล้วคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากัน แทฮยอนไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาคนนี้จะมาไม้ไหน เล่นกับความรู้สึกของจินวูแบบนี้แล้วจินวูก็ไม่ได้แสดงทีท่าเจ็บปวดหรืออะไร เสมือนว่าคนตัวเล็กสมยอมซะด้วยซ้ำ หรือว่าสองคนนี้กำลังเล่นละครอะไรอยู่ แทฮยอนไม่รู้เลยจริงๆ แต่ถ้าเป็นแบบนี้แล้วทำให้กลุ่มของเรามีความสุขเหมือนเมื่อก่อนก็ดีแล้ว แทฮยอนขอแค่นั้น

     

     

     

    แสงแดดสีส้มเข้มสาดผ่านหน้าต่างใสเข้ามา อีกไม่กี่นาทีก็จะหมดเวลาเรียนที่ได้จองไว้ เสียงปากกาสีกระทบกันและเสียงรูดซิบดังขึ้นในเวลาใกล้เคียง ทุกคนถอดหูฟังออกและวางไว้ที่หน้าจอคอม เก็บกระเป๋าแล้วทยอยเดินออกจากห้องเรียน พวกเราทั้งเจ็ดคนเมื่อรวมดงฮยอกแล้ว ก็ทักทายกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

     

     

     

     

     

     

    นี่จินวู

     

     

    หื้ม

     

     

    นายสองคนเอ่อ….ซึงยุนกับนาย กลับมาคบกันแล้วหรอ

     

     


    ฮ่าๆหวังที่จะได้เห็นสีหน้าผิดหวังของเพื่อนตัวเล็กแต่กลับไม่ เสียงหัวเราะแผดดังขึ้นจนคิ้วสวยขมวดเข้าหากันกว่าเดิม


     

     

    บ้าหรอ ฉันกับซึงยุนเนี่ยนะ ไม่อ่ะๆ


     

     

    แต่ก็เห็นเล่นกันดี


     

     

    เพื่อนน่ะแทฮยอน แค่เพื่อนเท่านั้นส่งยิ้มกว้างให้แทฮยอนราวกับบอกว่าไม่เป็นไร ถึงจะบอกแบบนั้นแต่แทฮยอนก็จับความผิดปกติในดวงตาคู่สวยนั้นได้

     


     

    อ่ะ อ่อๆ อืม ดีแล้ว ฉันล่ะไม่ชอบเลยเวลานายสองคนทะเลาะกันอะ มันน่ากลัวมากรู้มั้ย หึ่ย นึกแล้วยังขนลุก

     


     

    จ่ะ ใครจะชีวิตดีหวานหยดย้อยเหมือนนายล่ะแทฮยอน มีมินโฮอยู่แล้วทั้งคนนี่

     

     

    จำไว้นะจินวู เพื่อน….. แค่เพื่อนเท่านั้น

     


     

                ไม่รู้ว่าเพราะการที่เรียกไปคุยคราวนั้นรึเปล่าที่ทำให้จินวูกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของซึงยุนแทนที่จะเป็นซึงฮุนหรือมินโฮ เราหยอกล้อกัน มีอะไรก็ถามกัน แย่งข้าวกันกิน แต่ก็นั่นแหละ ทุกการกระทำมันก็ถูกจำกัดขอบเขตไว้ด้วยคำว่าเพื่อนอยู่ดี

     

     

     

                แต่อยู่แบบนี้ก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องกลัวว่าจะเลิก ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดอะไรแล้วกระทบความรู้สึกของอีกฝ่าย อยากพูดอะไรออกมาก็พูด อยากทำอะไรก็ทำ แต่จะให้มากกว่านั้นก็ไม่ได้ เพราะคำว่าเพื่อน

     

     

             

              เฮ้ยมึงๆ ไอ้มินโฮมันสอบติดสถาปัตย์แล้วว่ะซึงฮุนถือโทรศัพท์ที่หน้าจอโชว์ผลสอบเข้าคณะสถาปัตย์มหาวิทยาลัยเอช วิ่งตะโกนทั่วชั้นม.6จนเพื่อนตามทางมองเป็นตาเดียว

     


                ฮ่ะ จิงป่ะเนี่ย


     

                เออดิ มึงดูนี่ ซง มิน โฮ มันติดแล้วเว้ยยยย แบบนี้ต้องฮงซอกซึงฮุนวิ่งมากลางวงหนังสือที่มีฮงซอกเป็นคนติว ตะโกนลั่นวงจนการติวดำเนินต่อไปไม่ได้เพราะทุกคนดีใจกับความสำเร็จของซงมินโฮ

     


     

                แล้วนี่ไอ้มินโฮมันรู้รึยัง

     

                มาโรงเรียนรึยังเหอะ โทรไปก็ไม่รับ หมูดำเอ้ยแทฮยอนบ่นพลางหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทรของซงมินโฮโทรออกอีกรอบ


     

     

                ฮ้าวววร่างหนาเดินเข้าห้องมา ในมือถือโทรศัพท์โชว์เบอร์ของนัมแทฮยอนที่กำลังโทรเข้า พลางเอามืออีกข้างป้องปากหาววอด

     


     

                โทรมาทำไมตั้งหลายสาย ง่วงก็ง่วง ฮ้าวหาวอีกรอบ ซงมินโฮคงง่วงจริงๆ เพราะเล่นประกาศผลทันทีหลังสอบหนึ่งวันแบบนี้ มินโฮที่เมื่อคืนก่อนสอบเตรียมตัวจนถึงเที่ยงคืนเลยเหนื่อยเป็นธรรมดา


     

     

                อ๊า มินโฮ นายติดแล้วรู้มั้ย นายติดแล้ววววแทฮยอนวางโทรศัพท์ของตัวเองไว้กับโต๊ะแล้ววิ่งไปแย่งโทรศัพท์ในมือของซึงฮุนมาทันที มือเรียวสไลด์ปลดล็อคแล้วยื่นให้มินโฮดู


     

     

                ตาคมเบิกกว้าง ความง่วงสลายไปในทันทีเมื่อเห็นชื่อของตัวเองโชว์เด่นหลาอยู่กลางโทรศัพท์



     

               

    ไปเว่ย เย็นนี้กูเลี้ยง

     

     

     



     

    ผลสรุปของเย็นนี้ก็จบที่ร้านเนื้อย่าง มินโฮสั่งชุดเนื้อชุดใหญ่มาสามชุด ชุดหมูพิเศษอีกสองชุด ชุดทะเลประหยัดและชุดผักอีกสองชุด เรียกว่าสั่งกันไม่เกรงใจบัตรเครดิตที่ขอท่านแม่มาเลย

     


     

    เฮ้ยๆ เยอะไปแล้วมึง แดกเหลือทำไงซึงฮุนรีบห้ามก่อนที่มินโฮจะสั่งจนหมดร้าน

     


     

    ไม่ต้องห่วง มีกูและนัมอยู่ อย่าหวังว่าจะเหลือคงต้องเรียกว่าคู่หูหมูอ้วนกันแล้ว เพราะสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรก็มีแต่ชวนกันไปกิน นู่น ร้านไอติมหลังโรงเรียนที่เก่าที่เดิม สองคนนี้ไปจนเจ้าของร้านจะยกให้เป็นมรดกต่อแล้ว ก็ไม่แปลกที่ตอนนี้สันกรามของแทฮยอนจะหายไป แต่มีแก้มย้วยๆนิ่มสองข้างเพิ่มขึ้นมาแทน

     


     

    เนอะเอื้อมไปดึงแก้มนิ่มของนัมแทฮยอนออก คนถูกดึงยู่หน้าหน่อยตามแรงดึงแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะแทฮยอนก็ชอบให้มินโฮทำแบบนี้อยู่แล้ว

     


     

    หมูสองตัวหวานเลี่ยนยิ่งกว่าน้ำจิ้มในถ้วย จนเพื่อนๆทนไม่ไหวต่างพาหยีกันไปหมด

     


     

    เออมึง อาทิตย์หน้ามึงก็สอบตำรวจแล้วดิซึงยุนพูดขัดความหวานปานน้ำตาลของหมูสองตัวนั้นขึ้น


     

    อือ กูไม่พร้อมเลยว่ะซึงฮุนแกล้งตอบหน้าตายหวังจะได้กำลังใจจากเพื่อนๆ

     

     

    กลับบ้านกูก็ต้องช่วยแม่นมล้างจาน ข้าวกูก็ไม่ได้กิน อ่านหนังสือถึงตีหนึ่งตีสองทุกวัน เห้อ มึงคิดว่ากูจะติดมั้…..”

     


     

    มาแล้วเว่ยมาแล้วๆ ทุกคนแกล้งไม่สนใจละครชีวิตน้ำเน่าของซึงฮุน ตาลุกวาวทันทีเมื่อเนื้อจานใหญ่สามจานวางกลางโต๊ะ ตะเกียบห้าคู่รุมทึ้งชิ้นเนื้อในจานกันอย่างบ้าคลั่ง เว้นไว้หนึ่งคู่ก็คือคนที่โดนตัดฉากละครของตัวเองไป


     

     

    นี่ สนใจกูหน่อยสิเบะปากร้องออกมาด้วยความน้อยใจ แต่ก็ถูกยัดด้วยเนื้อชิ้นใหญ่ที่ฮงซอกคีบใส่ปากอยู่ดี ทำไมวันนี้ซึงฮุนน่าสงสารจังครับ

     


     

    อะมึง

     

    ไรวะ

     

     

    เนื้อไม่ติดมันไง หรือมึงจะเอาชิ้นนี้มันก้อนใหญ่ถูกย้ายจากจานคนตรงหน้ามาอยู่บนจานของจินวูทันที คนไม่ชอบมันยู่หน้า จินวูเบะปากแล้วคีบมันก้อนนั้นกลับคืนจานของซึงยุนไป

     


     

    เจออีกก็คีบให้กูด้วยละกัน

     

     

    กูเจอละปลาหมึกสีขาวสามตัวถูกตักจากหม้อต้มย้ายลงมาที่จานของจินวูโดยคังซึงยุน

     

     

    กูบอกว่าเอาเนื้อไม่ติดมัน ไม่ใช่ปลาหมึก

     

     

    แต่มึงชอบปลาหมึกกว่าไม่ใช่รึไงจินวูเงียบลงเมื่อคำพูดแทงใจดำของซึงยุนจบ ซึงยุนจำได้ทุกอย่างว่าจินวูชอบอะไรไม่ชอบอะไร ซึงยุนรู้ทุกอย่างที่เป็นคิมจินวู อาจจะรู้มากกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำไป จินวูพยายามไม่คิดอะไร เพราะคิดมากไปก็เหนื่อยเปล่าๆ ก็อีกฝ่ายยืนยันแล้วว่ายังไงก็เพื่อน มือเรียวได้แต่คีบปลาหมึกใส่ปากเคี้ยว

     

     

     

    ทุกคน

     

     

    ให้กำลังใจกูหน่อย ทั้งโต๊ะหัวเราะลั่นเมื่อเจอไม้ตายเด็ดของซึงฮุนเข้าไป อีซึงฮุนแก้มป่องกระพริบตาปริบๆหวังจะได้คำพูดหวานซึ้งจากเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนยังยืนหยัดที่จะแกล้งอีซึงฮุนต่อไป

     

     


    สู้ๆ นายทำได้ทันใดเสียงสววรค์ก็ดังขึ้นจากคนตรงหน้าเขา ฮงซอกยิ้มแป้นโชว์ฟันขาวแล้วหัวเราะน้อยๆ  

     


     

     

     

     

     

     

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< 

     

     

                เวลาผ่านไปสามสัปดาห์ เพื่อนหลายคนก็ทยอยสอบติดตามแต่ละที่ที่ตัวเองหวังไว้ ซึงฮุนได้ตำรวจ ซึงยุนเรียนสาขาวิชาการถ่ายภาพที่มหาลัยพี ฮงซอกและจินวูได้แพทย์ที่มหาวิทยาลัยเอส ดงฮยอกก็ได้แพทย์เหมือนกันแต่คนละมหาลัย แทฮยอนเรียนการออกแบบชุดที่มหาวิทยาลัยพี และจุนฮเวเรียนวิศวะที่มหาวิทยาลัยวาย เรียกไว้ได้ตามที่ฝันกันทุกคน

     

     

     

                มึงๆ เขียนเสื้อให้กูหน่อยดิจุนฮเวยื่นปากกาให้ยุนฮยองแล้วหันหลังให้เจ้าตัวเขียนเขียนดีๆนะสัส ไม่งั้นกูไม่ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้นะเว่ย จุนฮเวพูดติดตลกเรียกรอยยิ้มบนหน้าของยุนฮยองได้ดี

     


     

                รักนะสัส ไอ้กู…..จุนฮเว

     

     

                เสร็จละ เขียนให้กูบ้างยุนฮยองส่งปากกาคืนให้จุนฮเวแล้วหันหลังให้

     


     

                เสร็จละ กูไปนะ จะไปเขียนให้จีซู คึคึจรดปลายปากกาลงไม่ถึงห้าวิจุนฮเวก็แผ่นแวบหายไปพร้อมกับคำที่ยุนฮยองได้ยินมาบ่อยครั้ง นึกหัวเราะแล้วหันหลังไปดูข้อความที่เพื่อนรักได้เขียนไว้

     



     

                รักมึงมากกว่านะสัสไอ้ซงยุนฮยอง

     

     

     

                วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนที่โรงเรียน ช่วงเช้ามีงานเลี้ยงอำลารุ่นพี่ม.6ซึ่งจัดโดยน้องม.5 ปีที่แล้วก็จินวูก็เป็นคนจัดให้ซึงรี บรรยากาศดูอบอวลไปด้วยความสุขเพราะเต็มไปด้วยดอกไม้ แต่หากรู้ไม่ว่าชีวิตหลังจากนี้จะน่าหดหู่เพียงใด

     

     


     

                                                        จินวูไม่ชอบการจากลา ถึงจะเป็นการจากลาด้วยดีก็เถอะ




     

     

                ประโยคนี้ซึงยุนจำได้ขึ้นใจ และวันนี้มันก็เป็นอย่างนั้น พื้นโถงทางเดินเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ บรรยากาศเหมือนวันแห่งความรัก แต่ก็คงเป็นวันแห่งความรักครั้งสุดท้ายของที่นี่

     



     

                เสื้อนักเรียนสีขาวถูกปากกาเมจิกหลายสีเขียนทุกพื้นที่บนเสื้อ ข้อความแห่งความทรงจำครั้งสุดท้ายได้สลักลงบนผ้าสีขาว ถึงแม้จะดูสกปรก…..แต่มันก็น่าเก็บรักษา


     

     

      เสียงหัวเราะเล็กๆ รอยยิ้มที่สดใส ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนวันแรกที่เราเจอกัน รวมถึงความสัมพันธ์ในสถานะ เพื่อน คิมจินวูกำลังเขียนปกเสื้อให้แทฮยอนอยู่ แทฮยอนหัวเราะคิกคักเพราะจักจี้ จินวูรู้ดีแต่ก็ยังทำอยู่อย่างนั้น

     


     

    อะมึง เหลือมึงคนเดียวละกระดาษสีขาวถูกยื่นจากมือหนาส่งมาให้ซึงยุน

     


     

    อะไรวะ

     


     

    เปิดดูสิ้ ไอ้สังคังมินโฮเอ่ยเสียงทุ้ม เกาหัวแล้วเดินไปหาแทฮยอน ท่าทางของมินโฮชักจะฮิพฮอพขึ้นทุกวัน เมื่อซึงยุนพลิกดูกระดาษแล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียว รูปวาดสเก็ตช์ล้อเลียนหน้าของซึงยุน มินโฮดึงเอกลักษณ์ของซึงยุนออกมาได้ดีเหมือนตัวจริง ปากบวม แก้มยุ้ย และไม่ลืมที่จะวาดกล้องห้อยคอไว้ด้วย

     



     

    ได้ดีแล้วอย่าลืมกูนะ

     

     



    ข้อความสุดท้ายเขียนไว้ด้วยลายมือหวัดๆด้านล่างรูป

     



     

    ชอบอ่ะดิเสียงเล็กเอ่ยขึ้นทำให้ซึงยุนกลับมาวางมาดหน้าขรึมแทบไม่ทัน

     


     

    มาไม่ส่งเสียงกันเลยวะ





     

    ฮ่ะๆ มา เขียนเสื้อให้จินวูส่งยิ้มกว้างแล้วเดินไปข้างหลังซึงยุนแต่คนตัวสูงกลับหันหลังมาอีกที 






    เขียนตรงนี้ได้มั้ยวะ

     





     

    จินวูหน้าขึ้นสีเมื่อซึงยุนชี้ตรงที่หน้าอกข้างซ้าย ผงกหัวลงช้าๆแล้วจรดหัวปากาเมจิกลงบนที่ว่างขาวทีเว้นไว้ ใจหล่นวูบกับการกระทำที่น่าคิดมากของซึงยุน เพื่อน ท่องไว้ในใจว่าเพื่อนเสร็จแล้ว

     



     

    เอาปากกามาจินวูไม่ทันได้ไปไหนเพราะถูกแขนแกร่งสองข้างของซึงยุนจับตรึงไว้แน่น จินวูก้มหน้ามองพื้นแล้วส่งปากกาให้คนตรงหน้าช้าๆ เพราะความสูงที่ต่างกันทำให้ซึงยุนต้องย่อลงนิดหน่อยเพื่อให้เขียนได้ถนัด ตาเรียวจ้องมองที่คนขี้อายที่กำลังงุดหน้าอยู่กับปกเสื้อ ซึงยุนหัวเราะน้อยๆแล้วจรดปากกาลงบนหน้าอกข้างซ้ายของจินวู ที่เดียวกันกับของเขา

     



     

    อะ จักจี้ อะฮ่ะๆ ซึงยุนเปลี่ยนที่ไม่ได้ อ้ะ หรอ ฮ่ะๆใช่ เพราะซึงยุนรู้ซึงยุนเลยทำ





    "อ่ะ...."





    มีแต่ความเงียบเข้าครอบคลุมคนทั้งสอง ซึงยุนเลื่อนสายตาจากจากอกข้างซ้ายของจินวูขึ้นมาสบเข้ากับตาของคนตัวเล็ก 






    ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ที่รู้คือตอนนี้จินวูละสายตาไปจากคนตรงหน้าไม่ได้เลย ความรู้สึกดีใจมันวาบขึ้นมาที่ท้องและตีขึ้นมาที่มุมปากของคนตัวเล็ก ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงและมุมปากก็ค่อยๆยกขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกอะไรก็ตาม ทั้งดีใจ เขิน หรือความสับสนต่างๆ จินวูขอนับว่าเป็นความรู้สึก.....ชอบ ก็แล้วกัน






    "อย่าลบนะ"





    "อ่ะ...อือ เสร็จแล้วหรอ?"





    "ก็จ้องหน้าตั้งนานแล้ว น่าจะรู้สิว่าเขียนเสร็จแล้ว"





    "อ่า....."





    "หึ.." ซึงยุนขำให้กับท่าทีเคอะเขินของคนตรงหน้า เวลาจินวูเขินนี่มันน่ารัก ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ





    "กลับไงอะ"





    "เหมือนเดิมไง ลืมหรอ"





    "ไม่ลืม"





    "งั้นเดี๋ยวไปส่ง"





    คำธรรมดา แต่ทำให้คนตัวเล็กมีความสุขได้มากอย่างบอกไม่ถูก จินวูผงกหัวช้าๆแล้วเดินไปเก็บกระเป๋า แวะบอกลาเเทฮยอนที่กำลังคุยกับมินโฮว่าจะไปกินไอติมที่ไหนต่อกันดี พ่วงด้วยฮงซอกที่โดนซึงฮุนจับให้อยู่กับที่เพราะจะเขียนเสื้อที่หลังให้ ซึงยุนหัวเราะน้อยๆให้กับภาพตรงหน้า 






    'อะไรๆมันกำลังจะดีขึ้น นี่คือสัญญานของความสุขใช่มั้ยนะ'








    แชป22~~~~ ❤️❤️❤️



    เอามาเสิร์ฟแล้วนะค้าาาาาาาา

    ฮื่อออ ไรท์ขอโทษรีดเดอร์ทุกๆคนเลยยย ไรท์ขอสารภาพบาปที่หายไปนานม้ากกกกกกกกกกกกก 

    ด้วยอะไรหลายๆอย่าง บวกกับไรท์แต่งไฟล์ไว้ในโน๊ตบุ้ค ละมันเปิดไม่ได้อยู่พักนึง ไม่ได้เซฟไฟล์ไว้ที่อื่นด้วย บอกตรงๆเลยคิดว่าไฟล์หายแล้ว จะถอดใจแล้วฮืออออ 

    แต่วันนี้ไรท์ลองกลับมาเปิดคอมแล้วพบว่า..........มันติด!!!แล้วไฟล์ไรท์ก็ยังอยู่!!!!!! กรี๊ดดดดดดดด




    ไม่รู้จะยังมีคนรออ่านอยู่มั้ยยย ถ้ามีคนหลงเข้ามาก็ขอบคุณและขอโทษที่เอามาเสิร์ฟช้านะคะะ น้อมรับความผิดทุกข้อกล่าวหาเลย



    ไรท์ขอขอบคุณล่วงหน้ากับทุกคอมเม้นท์และกำลังใจเลยย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมา 


    ใบ้ๆว่าตอนหน้าจะจบแล้วว ไม่แน่อาจมีสเปมาให้ถ้าไรท์ว่างแต่ง 555555


    ไว้เจอกันตอนหน้านะคะทุกคนน จุ้บบบ  





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×