คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 21 : Forget me please
Chapter
21 : Forget me please
“ห้องน้ำชาย”
ขายาวก้าวเดินออกจากห้องพยาบาลทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน
แล้วรอยยิ้มอย่างมีชัยก็ได้ประดับอยู่บนหน้าของชายหน้าตี๋ทั้งสอง
บุคคลปริศนาที่อยู่ในเสื้อโค้ทสีดำกำลังยืนทำท่าลับๆล่อๆอยู่หน้าซึงฮยอน
และอย่างที่ซึงยุนหวังไว้....แจ็คสันและคิมจีวอนยืนขนาบข้าง
มือบางกำแน่นเข้าหากันอย่างมีน้ำโหเมื่อเห็นหน้าแจ็คสัน นึกอยากจะซัดใบหน้าคมนั่นด้วยกำปั้นตัวเองสักทีสองที
แต่เพราะซึงฮุนที่ยังมีสติดีพอคอยรั้งไว้ ทำให้แผนการลับในครั้งนี้ไม่ล่มไปซะก่อน
“โทรบอกพ่อมึงยัง”
ซึงยุนกระซิบเสียงแหบพร่า พยายามทำให้เสียงเบาที่สุด
“ยัง”
“เอ้า ไรวะ
เดี๋ยวมันหนีไปก่อนทำไง”
“ใจเย็น” กระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย พฤติกรรมที่แปลกไปของซึงฮุนทำให้ซึงยุนหวั่นใจ….กลัวว่าแผนการมันจะไม่เป็นไปตามที่เขาคิด
การพูดคุยลับๆระหว่างซึงฮยอนและชายปริศนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
ด้วยความเหนื่อยจากกีฬาสีในช่วงเช้าทำให้ปากอิ่มหาววอดนับร้อยรอบ ตาปรือ
เรียกว่าพร้อมนอนได้เต็มที่
“เห้ยตำรวจมา”
เสียงข้าวของล้มตามด้วยเสียงตะโกนลั่นเรียกสติของซึงยุนให้กลับคืนมา
ร่างบางสะดุ้งตื่นแล้วชะโงกหน้าออกจากซอกตึก
ชายในเครื่องแบบนับสิบคนได้กำลังเข้าจับกุม ความจริงซึงยุนก็อยากจะดูต่อให้จบ
แต่ก็ไม่วายโดนซึงฮุนลากออกมาก่อน
“เดี๋ยวกูโทรบอกความเรียบร้อยมึงเอง
กลับกัน”
“อะ…อะไรวะ ดูต่อไม่ได้หรอ”
“เรื่องยาเสพติด….
ถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์ก็มีแต่เสียกับเสีย กลับก่อนเหอะเชื่อกู”
“เออๆ”
เช้าวันต่อมา ช่วงคาบเช้าม.5ไม่มีเรียน
เพราะอาจารย์งดการเรียนการสอนให้ไปเก็บกวาดสถานที่ที่ใช้จัดงานเมื่อวาน เลยไม่แปลกใจที่นักเรียนจำนวนมากจะมาสาย
และบางส่วนถึงขั้น…..ไม่มาเลย
“แทฮยอนฉันช่วย”
ลอบยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงทุ้มข้างหู
ความเหนื่อยและเมื่อยล้าถูกสลัดออกหมดเป็นปลิดทิ้ง
ยิ้มกว้างและคิ้วตกประดับบนใบหน้า
แทฮยอนเงยหัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มินโฮได้หยิบแบ่งพู่สีไปได้
แต่มินโฮกลับไม่เลือกที่จะหยิบข้างบน
“อ้ะ” มือหนาสอดเข้ากองเส้นเชือกฟางขนาดใหญ่ข้างใต้
แต่เป้าหมายของซงมินโฮไม่ใช่พู่เชือกฟาง แต่เป็นมือของนัมแทฮยอน
“นี่
ใช่เวลาเล่นมั้ยเนี่ย ปล่อยเลยนะซงมินโฮ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแล้ว…”
“แล้วไง” ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
รอยยิ้มทะเล้นที่เห็นได้บ่อยตอนที่เขาจะแกล้งนัมแทฮยอนผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมอีกครั้ง
“ฮึ่ย จะปล่อยไม่ปล่อย”
นัมแทฮยอนโกรธจนหน้าแดง แต่มินโฮรู้ว่าแทฮยอนไม่ได้โกรธจริงจัง
ก็ทุกครั้งที่ลูกแมวน้อยของเขาเป็นแบบนี้มันได้เรียกโกรธหรอก…..เค้าเรียกว่าอาย อายจนแมวหน้าแดงยังไงล่ะ
“ฮ่าๆ ปล่อยก็ปล่อย” ยอมปล่อยแต่โดยดี เพราะเห็นว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้
มะเขือเทศลูกนี้จะระเบิดเสียก่อน
อีกฟากหนึ่งของแสตนด์
คิมจินวูกำลังหยิบกระป๋องให้จังหวะใส่ลังอยู่….คนเดียว เป็นโชคดีของซึงยุนจริงๆ
เมื่อวานเขาเห็นกับตา ว่าคิมจีวอนโดนตำรวจจับไปแล้ว
แม้ซึงฮุนยังไม่ได้โทรมาบอกรายละเอียดแต่ซึงยุนก็รู้ได้ว่าเรื่องจบแล้ว
ซึงยุนคนนี้ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของเขาและจินวูจะต้องเริ่มใหม่ด้วยดีนับแต่วินาทีนี้ไป
นึกแล้วร่างบางก็สาวท้าวยาวมาที่คนตัวเล็กทันที
“จินวู”
หัวทุยเงยขึ้นมาจากกิจกรรมที่ตนง่วนอยู่แล้วสีหน้าก็ต้องแย่ลงกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าเป็น…คังซึงยุน ปากอิ่มส่งยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าแล้วยื่นมือออกไปจะรับกระป๋องให้จังหวะมาใส่ลัง
“ฉันช่ว…”
“อ้าวจีวอน มาช่วยตรงนี้หน่อยสิ”
หันขวับทันทีเมื่อจินวูเรียกชื่อบุคคลที่สามด้านหลัง
ซึงยุนเบิกตาโพลงเมื่อเห็นว่าจีวอนกำลังเดินล้วงกระเป๋าตรงมายังเขา
จีวอนไม่ได้โดนตำรวจจับไปแล้วหรอ ทำไมวันนี้ยังมาเรียน แล้วนี่เขาจะโดนเตือนเป็นครั้งที่สองมั้ย
ระหว่างที่นึกระแวงอยู่นั้นคิมจินวูก็ได้ส่งงานให้จีวอนแล้วลุกพรวดออกจากกองกระป๋องนั้นทันที
“เดี๋ยวสิจินวู” ตัดสินใจได้ว่าต้องควรทำอะไร เขาต้องคุยเรื่องนี้กับจินวูให้จบ
ไม่ว่าจะโดนจีวอนกระทำรุนแรงแค่ไหนเขาก็ต้องเคลียร์กับจินวูให้ได้
มือเรียวคว้าข้อมือเล็กมากำไว้แน่น มองจ้องไปในดวงตากลมโต
“ปล่อย”
“ไม่ปล่อย จินวู วันนี้เราต้องคุยกั….”
“ซึงยุนมานี่หน่อย” เสียงเรียบเย็นเอ่ยออกมาจากจีวอน
ยิ้มที่มุมปากนั้นเรียกสมาธิของซึงยุนให้หลุดลอยไปกับคำๆนั้นด้วย
จินวูถือโอกาสสะบัดข้อมือแรงๆแล้ววิ่งหนีออกจากยิมไป
“ขอบใจกูสิ”
“ถุ้ย” พ่นน้ำลายลงพื้นแล้วมองจีวอนด้วยสายตาเรียบ
ตอนนี้ซึงยุนไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
“หึๆ”
“หัวเราะเหี้ยอะไร
มึงควรไปหัวเราะในคุกนู่น ไม่ใช่ที่นี่”
“ฮ่ะๆ ฮ่าๆ
โอ้ยมึงนี่มันตลกจริงๆคังซึงยุน โอ้ย ฮ่าๆๆๆ” หัวเสียยิ่งกว่าเดิมเมื่อจีวอนระเบิดหัวเราะดังลั่น
มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น
“กูเป็นคนแจ้งความกับตำรวจ”
“ห้ะ” เรื่องที่น่าช็อคกว่าการที่จีวอนไม่ได้เข้าคุกก็คงเป็นเรื่องนี้
เป็นไปได้ยังไง ผู้ต้องหาในคดีจะไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อมาจับตัวเองเนี่ยนะ
บ้าไปแล้ว
“ได้ยินไม่ชัดหรอ
เอองั้นกูบอกให้ใหม่ กูเป็นค….”
“พอๆ อย่ามาตลก”
“ไม่เชื่อก็ไปถามไอ้ซึงฮุน”
ขมวดคิ้วมากกว่าเดิมเมื่อจีวอนพูดชื่อซึงฮุน นี่มันเรื่องอะไรกัน
ซึงยุนงงไปหมด
“เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของมึง
แต่กูนี่แหละที่เป็นคนไปแจ้งตำรวจ”
“เพื่อ?”
“กูสงสารมึง แล้วก็สงสารตัวเอง”
“พูดเรื่องเหี้ยไรของมึงอีกแล้ววะ
กูงง”
“เออเรื่องของกูก็ช่างแม่งเถอะ
แค่รู้ว่าที่กูทำกับมึงไปทั้งหมดเพราะกูโดนสั่งมา
กูอยากยาเลยต้องแลกกับการทำร้ายมึง เข้าใจ?” จีวอนพล่ามยาวและเร็วจนหัวสมองของซึงยุนประมวลผลไม่ทัน
อยากยา โดนสั่งมา หรือว่า…..
“ซึงฮยอน!” ผงกหัวแทนคำตอบ
รอยยิ้มเศร้าผุดขึ้นใบหน้าคมเมื่อซึงยุนเอ่ยชื่อซึงฮยอน
“เป็นเชี่ยไรอีกวะ”
“กูมันเหี้ย กูทรยศเจ้านายกู”
“แต่มึงก็รู้ใช่มั้ยว่าเรื่องที่พวกกูทำอยู่มันผิด”
“ขนยาน่ะ กูทำเพราะมันรวยเร็ว
ได้เงินดี…..พ่อแม่กูไม่มีหรอก กูถูกทิ้งตั้งแต่เด็ก
อยู่กับป้าสองคน เงินที่ใช้ก็เงินป้า เกาะป้ากินไปวันๆ”
“กูก็แค่อยากหาเงินเองโดยไม่ต้องพึ่งป้า
ก็แค่นั้น”
“จนกูได้แจ็คสัน
เพื่อนแถวบ้านกูแนะนำงานนี้ให้” ซึงยุนเงยหน้าขึ้นสบตาจีวอนเมื่อได้ยินชื่อแจ็คสัน
แววตาอยากรู้อยากเห็นและคิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันทันที
“แรกๆเออกูก็ว่ามันสนุกดี
ขนไปแดกไป ลองบ้างให้รู้ไว้คงไม่ได้ติดหรอก แต่ไปนานๆละแม่งเสือกติด”
“ความรักแม่งก็เหมือนยาเสพติดนั่นแหละ….ติดแล้วแม่งก็เลิกไม่ได้ กว่าจะเลิกแม่งก็ทำใจยาก”
จีวอนเว้นวรรคคำแล้วมองมาที่ซึงยุน
“อย่าทำหน้างง กูบอกมึงนั่นแหละ”
“กูเข้าใจความรู้สึกนั้นดี
แล้วกูก็อยากเลิกมานานแล้ว…พอดีกับเรื่องมึงเข้ามาด้วย
ยิ่งเข้าทางกูใหญ่”
“แล้วงี้ มึงไม่ต้องติดคุกหรอวะ”
ซึงยุนถามขึ้นมาด้วยหน้างงๆ
แน่ล่ะก็จีวอนเล่นมาคุยด้วยอย่างกับเพื่อนเล่นแล้วก็พล่ามยาวอยู่คนเดียวไม่แบ่งให้เค้าพูดเลย
แล้วแบบนี้จะไม่ให้ซึงยุนงงได้ยังไง
“ชเวซึงฮยอน
ลูกเจ้าของสนามบินรายใหญ่ของประเทศ แค่จ่ายเงินให้นิดหน่อยก็ออกมาได้ละ”
“เหอะ…ก็….ขอบใจละกัน” ก้มหน้าพูดเสียงเบา
เพราะใจจริงแล้วก็ไม่ได้อยากขอบคุณจีวอนสักเท่าไหร่
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันก็มาจากจีวอนทั้งนั้น ถ้าไม่มีจีวอน
ยังไงเขากับจินวูก็จะไม่ได้เลิกกัน
“ห้ะ อะไรนะ มึงพูดอะไรนะ” แกล้งล้อคนหน้าตี๋เล่น จีวอนเอามือป้องหู เบิกตากว้างและยักคิ้วขึ้น
“ขอบใจ ได้ยินมั้ย”
“ฮ่ะๆ” ซึงยุนพูดเสียงดังขึ้นแต่ก็ไม่วายเอาหน้าหันไปอีกทาง
ก็จะให้มาพูดขอบคุณกับคนที่เพิ่งสนิทกันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามันก็แปลกๆ
แถมก่อนหน้านี้ยังไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่ด้วยแล้ว ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่
ท่าทางเก้ๆกังๆของซึงยุนทำให้จีวอนหัวเราะร่วน
“แต่ความจริงตอนแรกกูก็ทำไปเพราะความแค้นมึงนะ
หมั่นหน้ามึงอะ ยิ่งทำยิ่งชอบ ฮ่าๆ”
“กูขอถอนคำพูดได้มั้ยวะ”
“พอๆ เรื่องจบแล้วก็ไปง้อแฟนมึงซะ
โดนหมาคาบไปแดกกูไม่รู้ด้วย”
“จินวู” พอนึกได้ว่าเรื่องทั้งหมดมันจบลงแล้วจริงๆ
ภาพลูกกวางน้อยตากลมโตที่มีคราบน้ำตาติดก็ลอยขึ้นมาทันที ขาเรียวจะก้าวออกตามจิตใต้สำนึก
แต่หัวสมองกลับไม่ให้ทำแบบนั้น
“เอ้า ไม่ไปหรอวะ”
“ไม่อะ”
“ห่านี่ กูอุตส่าห์ยอมโดนตำรวจจับ
เออเรื่องมึงละกัน กูไม่ยุ่งด้วยละ โว้ะ” จีวอนขว้างกระป๋องน้ำอัดลมลงพื้นอย่างหัวเสียแล้วเดินออกจากยิมไป
ทิ้งให้ซึงยุนนั่งเก็บคนเดียว
ร่างเล็กเดินออกจากยิมอย่างคนหัวเสีย ความจริงจินวูก็ไม่ได้อยากฝืนใจตัวเองทำขนาดนั้น
ฝ่ามืออุ่นๆที่กอบกุมข้อมือเขาไว้เมื่อกี้มันทำให้หัวใจเขาพองโต จินวูยิ่งกว่าฝัน
แต่ถ้าจะเดินย้อนกลับไปหาซึงยุนตอนนี้ก็คงจะไม่ทัน
ในใจก็นึกหวังอยู่แล้วว่าคังซึงยุนคงจะยังมาง้อตามเคย
แต่มันไม่ใช่อย่างที่จินวูคิดไว้
ขาเรียวก้าวยาวขึ้นทันทีเมื่อเห็นแทฮยอนและมินโฮนั่งพักกินน้ำที่โต๊ะม้าหินอ่อน
และพอดีกับฮงซอกและซึงฮุนที่เดินมาพร้อมกันพอดี
“น้ำมึงใช่ปะมินโฮ”
“อืม” ซึงฮุนกระดกน้ำในขวดใสลงคออย่างทันทีเมื่อมินโฮครางฮืมในลำคอ
ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆอย่างรวดเร็วจนหมด “อ่าส์”
ความเย็นของน้ำที่ค่อยๆชโลมร่างกายของซึงฮุนตอนนี้มันกลับไม่เจ็บแปล๊บเหมือนวันนั้น
กลับกันยิ่งกลับทำให้รู้สึกดีตั้งแต่ต้น
หรือว่านี่จะเป็นสัญญานของเรื่องดีๆที่จะเกิดขึ้น
“ซื้อใหม่ให้กูด้วย”
“เอาตังค์มาดิ”
“สัสนี่
แดกน้ำกูยังมาใช้ตังค์กูอีก”
“ฮ่าๆ”
บทสนทนาในวงน้ำเปล่าเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเหมือนทุกครั้ง
แต่กลับมีเพียงหนึ่งคนที่หยุดเสียงหัวเราะลงเมื่อมีผู้มาใหม่เข้ามาเพิ่มในวงสนทนา
“ไปซื้อน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อย”
“อ้ะ อ่ะ เออๆ” ไม่ทันได้นั่งคุยแต่กลับลากซึงฮุนออกจากวงสนทนาด้วย
คังซึงยุนท่าทีเย็นชาไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่สิ ผ่านไปแค่ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรกัน
ภาพมือที่กุมแขนเขาไว้ที่ยิมเมื่อกี้ยังติดตาจินวูอยู่เลย แล้วนี่อะไร
ทำเป็นไม่เห็นเขางั้นหรอ จะเอายังไงกันแน่คังซึงยุน
ช่วงพักกลางวัน นักเรียนม.5เริ่มเยอะขึ้นแล้วเพราะมีเรียนต่อในตอนบ่ายหลังจากที่ว่างมาทั้งเช้า
จินวูวางถ้วยมาม่าลงที่โต๊ะก่อนที่จะตามมาด้วยแทฮยอนและมินโฮ ซึงฮุน
ฮงซอกและซึงยุน
“เอ้ายุน ที่มึงอยู่นี่ป้ะวะ”
มินโฮผู้ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวอะไรโพล่งออกมาทันทีที่ซึงยุนเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ
พลางใช้มือขวาตบเก้าอี้ข้างตัวเอง
“มีชื่อกูเขียนติดไว้หรอวะ”
พูดเสียงเรียบแล้ววางจานข้าวลงที่ที่นั่งใหม่ของตน
วันนี้แปลกหน่อยก็ตรงที่คังซึงยุนสลับที่กับฮงซอก
ปกติแล้วก่อนหน้าที่จะเป็นแฟนกัน เป็นแฟนกัน และถึงเลิกไปแล้วซึงยุนก็ยังหน้าด้านหน้าทนนั่งตรงข้ามเขาอยู่
แต่วันนี้คงถึงขีดจำกัดของซึงยุนแล้วจริงๆ จินวูมองจ้องไปตรงหน้า
จานข้าวแกงกะหรี่ของฮงซอกกำลังวางลงและตามมาด้วยคนที่นั่งลงมาเต็มๆก้น
มือสองข้างถือช้อนและส้อม นั่นแปลว่าสัญญานแห่งความหวังของเขาถูกตัดขาดจากซึงยุนแล้วจริงๆ
ข้อศอกมนกระทุ้งเข้าที่สีข้างของคังซึงยุน
นัมแทฮยอนที่ตอนนี้นั่งคั่นกลางระหว่างจินวูและซึงยุนรู้สึกถึงไอหม่นหมองจากทั้งสองข้างเริ่มทนไม่ไหวจึงต้องออกปากถาม
“นี่ อะไรอีกซึงยุน
เรื่องจบแล้วไม่ใช่หรือไง” กระซิบเสียงเบากับคนข้างขวา ตาเรียวยังคงสนใจกับชิ้นหมูทอดในจานตรงหน้า
ไม่มีสัญญานตอบรับจากปากอิ่ม แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาก็ไม่แม้แต่ให้แทฮยอนรู้ ซึงยุนยักคิ้วขึ้น
เคี้ยวข้าวในปากด้วยความสบายใจ แทฮยอนส่ายหัวในการตอบรับของซึงยุน
ไม่รู้ว่าซึงยุนคิดอะไร ไม่รู้ว่าซึงยุนจะทำอะไร ตอนนี้แทฮยอนไม่รู้เลยจริงๆ
แต่นับวันมันก็ยิ่งแย่ลงขึ้นทุกที
ถามอะไรแทฮยอนก็บอกไม่รู้ๆ ใช่
เมื่อก่อนจินวูก็คอยถามแทฮยอนถึงซึงยุนอยู่ทุกครั้งนี่แหละ
ไม่อย่างนั้นเขาจะมีหวังอย่างนี้หรอ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
แทฮยอนไม่รู้อะไรแล้วหรือเลือกที่จะไม่บอกกันจินวูก็ไม่รู้
แต่ที่รู้แน่ๆคือซึงยุนคนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ทุกวัน
ซึงยุนทำเหมือนคิมจินวูคนนี้ไม่มีตัวตนมาตลอดสามเดือน จินวูอึดอัด แน่นอนว่าถ้าใครมาทำแบบนี้ด้วยก็คงอึดอัด
และนี่ยิ่งเป็นคนที่เขาแคร์และแคร์เขามากที่สุด มันเจ็บซะยิ่งกว่าเจ็บ ความเครียดเริ่มทำลายชีวิตของจินวูมากขึ้นทุกวันๆ
จินวูใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยความเครียด
เครียดทั้งที่ซึงยุนไม่มาง้อและเครียดที่ซึงยุนเปลี่ยนไป
คะแนนสอบย่อยของจินวูแย่ลงผิดปกติ จนเพื่อนๆสงสัยและตัวเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน
และคงไม่ดีแน่ถ้าเป็นแบบนี้ตอนม.6
ระเบียงทางเดินหน้าห้องตอนพักกลางวันมักจะไม่มีคนเพราะเด็กส่วนใหญ่จะอยู่ที่สนามกีฬาหรือโรงอาหารซะมากกว่า
คิมจินวูเดินตามหลังคนตัวสูงมาตั้งแต่โรงอาหาร สองมือกำเข้าหากันแน่น
ถอนหายใจแล้วเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันคนข้างหน้า
“มานี่” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เลิกกันที่จินวูลากซึงยุนไปคุยซึ่งปกติแล้วจะมีแต่ซึงยุนเท่านั้นที่ทำ
“คุยกันตรงนี้แหละ
จะไปไกลๆทำไม”
“เป็นอะไร”
“ไม่หนิ ปกติ”
“ปกติยังไงวะ
ก่อนหน้านี้นายไม่ทำแบบนี้นี่ เมื่อตอนกีฬาสีนายยังรั้งฉันไว้อยู่เลยแล้วนี่อะไร”
“ก็ทำแบบที่เพื่อนเค้าควรทำกันไง”
จุก จินวูจุกและช็อคมาก เขาไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง
วันที่ซึงยุนหมดรักเขาจริงๆแล้ว
“นายต้องการไม่ใช่หรอ”
ซึงยุนตอบเสียงเรียบ
แววตาอบอุ่นที่เคยมีให้เขาตอนนี้มันได้หายไปหมดแล้ว
“ไอโง่
พูดแบบนั้นมันก็ประชดปะวะ แยกให้ออกสิว่าอันไหนประชดอันไหนเรื่องจริง นี่ซึงยุน
เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ” จินวูน้ำเสียงเริ่มอ่อนลง
มือสองข้างประคองหน้าคนรักไว้ มองตาแล้วพูดช้าๆ ส่งยิ้มกว้างให้เหมือนเมื่อก่อนที่มีให้กันทุกเช้าตอนตื่นนอน
“ฉันคิดดูแล้ว…เป็นเพื่อนนั่นแหละดีกว่า” น้ำตาที่ไม่รู้มาจากไหนต่างพากันพรั่งพรูไหลออกจากเบ้าตากลมโตหลังจากประโยคเสียดแทงใจของซึงยุนจบลง
มือเล็กค่อยๆเคลื่อนออกช้าๆ พร้อมๆกับที่ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง
“ร้องไห้ทำไม” ตาที่ยังมีหวังฉายแววหม่นเศร้าลงทนที ตอนนี้มันจบแล้วจริงๆใช่มั้ย
เปรียบเหมือนจุดเทียนท่ามกลางพายุ
แสงสว่างสุกวาวที่สั่งสมมานับปีแต่มาถูกทำลายลงเพียงเพราะพายุในไม่ถึงเสี้ยววินาที
“นาย….ฮึก อะ
นายล้อเล่นใช่มั้ย” ไม่มีนิ้วอุ่นๆที่คอยซับน้ำตา
ไม่มีแววตาเป็นห่วงเหมือนแต่ก่อน มีเพียงสายตาเรียบเฉยที่ถูกส่งออกมาผ่านดวงตาหรี่เล็กตรงหน้านี่เท่านั้น
“อะ เอาไปก่อน
อยากคืนเมื่อไหร่ก็คืน รีบเช็ดซะใกล้เข้าเรียนแล้ว” มีเพียงผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนถูกส่งมาตรงหน้าแทนที่จะเป็นมืออุ่นๆหรือคำขอโทษสักคำสองคำ
“เพื่อน?”
ผงกหัวแทนคำตอบรับ หน้าเรียบฉายแววออกมาชัดเจน
ไม่มีคำว่าห่วงใยอีกต่อไป พลันขายาวก็หันหลังกลับและก้าวเดินตามทางไปยังห้องเรียน
“เดินมาเร็วๆได้มั้ย
เข้าห้องสายโดนเช็คขาดพอดี”
ไม่เพียงแต่การกระทำที่เปลี่ยนไป
แต่น้ำเสียงที่พูดกับเขามันก็เปลี่ยนไปด้วย
จากนี้ไปสถานะของเขากับซึงยุนคงชัดเจนและหยุดลงแล้วที่คำว่า’เพื่อน’ คงไม่มีมากและน้อยลงไปกว่านี้ จากคำยืนยันทางสายตาและการกระทำของซึงยุน ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาลวกๆแล้วเดินตามหลังซึงยุนเข้าห้องไป
“ครืด” เสียงลากเก้าอี้ข้างตัวดังขึ้นทำให้แทฮยอนหันหน้าไปมอง
“จินวู…นายเป็นอะไรอะ”
พูดเสียงสงสัยลางเอามือมาชี้ที่ตาบวมแดงก่ำ
“เปล่า ไม่มีอะไร” จินวูตอบปัด
พลางหยิบหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ขึ้นมาวางบนโต๊ะหลังจากที่แชรินเดินเข้ามาในห้อง
แทฮยอนเงยหน้ามองข้ามไปยังคนที่นั่งข้างจินวู
ย่นจมูกแล้วส่ายหน้าเพราะรู้แล้วว่าสาเหตุของตาแดงๆนั่นมาจากอะไร
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากชำระร่างกายและจัดการธุระของตัวเองในห้องน้ำเสร็จ
มือขวาถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมลวกๆ
เดินไปยังโต๊ะข้างเตียงเมื่อเห็นว่าหน้าจอสว่าง
NTH : นี่
NTH : ซึงยุนนายเป็นอะไร
NTH : นายกับจินวูมันยังไงกันแน่
NTH : ตอบมานะเว่ย ซึงยุนตอบสิ
NTH : ไม่งั้นฉันจะฟ้องมินโฮแล้วนะ
NTH : ซึงยุนนนนนน
เสียงไลน์เด้งถี่จนซึงยุนต้องสไลด์เปิดดูข้อความ
เป็นอย่างที่คิด แทฮยอนต้องสงสัยเรื่องเมื่อกลางวันแน่ๆ แต่เรื่องนี้แทฮยอนจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด
เพราะถ้าแทฮยอนรู้ จินวูก็ต้องรู้
Seungyoon : ไม่มีอะไรหรอกน่า
NTH : อย่ามาโกหก
เมื่อกลางวันจินวูร้องไห้ มันกลับเข้าห้องก่อนหน้านายไม่กี่วิเอง
นายต้องทำอะไรจินวูแน่ๆ
Seungyoon : ไม่มีอะไร
NTH : โกหกฉันไม่ได้หรอกนะ
Seungyoon : อะ เอางี้
ทะเลาะกันนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีกันแล้ว โอเคมั้ย
NTH : อือ อย่าหลอกกันนะ
Seungyoon : เออน่า
Seungyoon : แล้วจินวูทำไรอยู่
NTH : อยากรู้ก็ทักมันไปดิวะ ดีกันแล้วไม่ใช่ไง?
Seungyoon : อืม
NTH : ทักเดี๋ยวนี้
ไม่งั้นถือว่าโกหก
นิ้วเรียวกดออกจากแชทของแทฮยอนแล้วเลื่อนนิ้วไปทีชื่อของจินวูที่ตัวเองตั้งเป็นรายการโปรด
เม้มปากเป็นเส้นตรง แล้วกดเข้าไป
Seungyoon : จินวู
-Read-
ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อกดส่งไปและขึ้นว่าอ่านแล้วอย่างรวดเร็วแต่ไม่มีข้อความตอบกลับ
เวลาที่รอเพียงไม่กี่วินาทีแต่สำหรับซึงยุนแล้วมันนานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
Jinwoodeer : มีอะไร
ในที่สุดจินวูก็ตอบกลับมา
Seungyoon : ทำอะไรอยู่
Jinwoodeer : อ่านหนังสือเรื่อยๆ
Seungyoon : อ่านแล้วตอบไลน์ได้ไง
Jinwoodeer : หรือจะให้ไม่ตอบ
Seungyoon : ล้อเล่นนิดหน่อยทำเป็นโกรธ
ปากเรียวยกยิ้มเมื่อเห็นข้อความกวนๆของอีกฝ่าย
จินวูลืมความรู้สึกเมื่อกลางวันไปหมดสิ้น
ที่เคยคิดไว้ว่าการกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมจะไม่ได้ดีเหมือนเก่า
แต่ตอนนี้จินวูขอเปลี่ยนคำพูด แม้ว่าซึงยุนะไม่ได้พูดหวานเลี่ยน
ไม่ได้บอกว่ารักหรือคิดถึงเลยสักนิด
แต่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกลับเต้นรัวตั้งแต่ที่แชทของซึงยุนเด้งขึ้นมาแล้ว
Jinwoodeer : ง่วงแล้ว ไปนอนก่อนนะ
อยากจะคุยต่ออีกหน่อย
แต่ความรู้สึกบางอย่างมันบอกให้หยุดไว้แค่นี้ก่อน
บางทีเรื่องนี้มันอาจจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆบางทีมันอาจจะกลับมาดีกว่าเดิมก็ได้
Seungyoon : โอเค ฝันดีนะ
-Read-
กดปิดหน้าจอแล้ววางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเมื่อเห็นว่าจินวูคงไม่ตอบกลับมาแล้วแน่ๆ
ก็แค่อยากให้ลืมไปก่อน ว่าเราเคยรักกัน
แล้วค่อยมารักกันใหม่อีกครั้ง…จะดีกว่ามั้ย
แชป 21 ~~~
กลับมาแล้วนะทุกคน
เทศกาลดองฟิคได้สิ้นสุดลงแล้ว
ช่วงนี้เรายุ่งมากไม่มีวลามาลงเลย ขอโทษทุกคนที่ทำให้รอน้า
แล้วก็ขอบคุณด้วยที่ยังติดตามฟิคเราอยู่ ถึงจะหายไปนานม้ากกกกก
เรื่องราวทุกอย่างเกือบจะสิ้นสุดลงละนะ
คดีของบาบิกับพี่ท้อปก็จบลงแล้ว แต่เรื่องของยุนวูนี่สิ ต้องติดตามต่อไป
ขอบคุณทุกเม้นทุกแชร์และทุกคนที่เข้ามาอ่านน้า
ขอบคุณที่รอและขอโทษที่มาช้าด้วย เราจะตั้งใจแต่งฟิคให้แม่ยกยุนวูอ่านต่อไปนะ
รักรีดเดอร์ทุกคนเลย จุ้บบ
ความคิดเห็น