ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Winner (Yoonwoo) : Just memories

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 17 : Lies

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 72
      1
      15 เม.ย. 58

    Chapter  17 : Lies

     

     

     

    ตลอดหกวันที่ผ่านมาซึงยุนใช้เวลาเท่าที่มีอยู่ทำให้เขาและจินวูมีความสุขที่สุด ถึงจะเป็นแค่วันธรรมดาๆเหมือนทุกๆวัน เจอกันที่โรงเรียนและใช้เวลากับคนตัวเล็กเช่นเดิม แต่ก็อย่างที่ใครเขาบอกไว้

     

     

     

    เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ

     

     

     

     ข้อความจากเบอร์แปลกถูกส่งมาให้ซึงยุนทุกวัน สถานการณ์ตอนนี้มันเหมือนกับจดหมายขู่ฆ่าที่เขาโดนมาเมื่อตอนเกิดเหตุครั้งนั้นไม่มีผิด ด้วยความกดดันจากสภาพรอบข้างและใช้เวลาไปกับการคิดทบทวนเรื่องนี้สักพักแล้ว ทำให้ซึงยุนจำใจต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะต้องทำ

     

     

     

                เดินมาฟุบนั่งลงบนโซฟาหนังตัวยาว ใบหน้าของคนจินวูที่เขาเคยเช็ดผมให้ รอยยิ้มกว้างและดวงตากลมโตที่เมื่อยิ้มแล้วกลับลู่ลงปิดมิด ภาพความทรงจำแห่งความสุขของเขายังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำไม่หาย มือกว้างยกขึ้นมาเสยผมแล้วกำแน่น ถอนหายใจยาว ดวงตาเรียวร้อนผ่าวชื้นน้ำและสั่นระริกขึ้นมา แรงกดดันภายในที่มีมากล้นแต่ตัวเขานั้นกลับจัดการอะไรไม่ได้เลย ซึงยุนอึดอัด เขาไม่อยากที่จะทำแบบนี้แต่สถานภาพที่เขาเป็นอยู่และอะไรหลายๆอย่างทำให้เขาจำเป็นต้องทำ สุดท้ายร่างสูงก็ต้องจำใจยกโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาสไลด์ปลดล็อคและพิมพ์ข้อความ

     

     

     

                Seungyoon : จินวู

     

     

                Jinwoodeer : ว่าไงห้อย

     

     

                Seungyoon : ทำไรอยู่อะ

     

     

                Jinwoodeer : เล่นกีต้าร์ไปเรื่อยๆแหละ มีไรหรอ

     

     

                Seungyoon : จินวู….เราขอโทษ

     

     

                Jinwoodeer : หืม ขอโทษเราทำไม ยุนยังไม่ได้ทำอะไรให้เราโกรธเลยนะ

     

     

                Seungyoon : เราขอโทษที่เรารักษาสัญญาไม่ได้

     

     

                Jinwoodeer : ?

     

     

                Seungyoon : เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้มั้ย

     

     

                Jinwoodeer : (Read….)

     

     

                Seungyoon : เราขอโทษจริงๆ จินวูเราขอโทษนะ

     

     

                Jinwoodeer : ไหนบอกจะไม่ทิ้งกันไปไง ไหนยุนเคยสัญญาแล้วไง

     

               

                Jinwoodeer : เราเคยบอกยุนแล้วไม่ใช่หรอว่าสิ่งที่เราเกลียดที่สุดคือการจากลา ยุนรู้หนิ แล้วยุนทำแบบนี้กับเราทำไมอะ

     

     

                ใช่ ซึงยุนรู้ รู้ว่าจินวูเกลียดอะไรชอบอะไร แต่เพราะเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้ ซึงยุนรู้ว่าจินวูเจ็บ แต่……ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจ็บ  

     

     

     

                Seungyoon : เราขอโทษ เราไม่ได้ทิ้ง เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะจินวู

     

     

                Jinwoodeer : พอ พอเหอะ

     

     

     

                น้ำใสๆไหลอาบแก้มขาวที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว ดวงตาเรียวเล็กหลับตาลงกระพริบถี่ๆไล่น้ำให้ไหลลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ปล่อยให้มันไหลไปช้าๆ ยิ่งอ่านข้อความที่ได้จากจินวูมาซึงยุนนึกภาพได้เลยว่าตอนนี้จินวูจะเป็นยังไง เขาอยากเอาไม้หน้าสามฟาดตัวเองสักสิบรอบ เขาเจ็บ และเขารู้ว่าจินวูคงเจ็บกว่าเขาหลายเท่า แต่ซึงยุนไม่มีทางเลือก นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรื่องนี้ในตอนนี้ ถ้าเขาไม่บอกเลิกจินวู จินวูอาจจะเจ็บกว่านี้หลายเท่า

     

     

     

     

                ทางที่ซึงยุนเลือกคือไม่คิดที่จะปรึกษาใคร ทำทุกอย่างในตอนนี้ที่คิดว่ามันคงรักษาความปลอดภัยของทุกคนให้ดีที่สุด แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ มินโฮ ซึงยุน ซึงฮุนไม่มีใครรู้ แต่ถ้าวันรุ่งขึ้น พวกนั้นรู้ มันคงเอาผมตายแน่ ซึงยุนอยากย้อนเวลาไปแก้ไขทุกๆอย่างแต่ก็ทำไม่ได้ แก้วที่แตกหักแล้วมันไม่สามารถเอากลับคืนมาได้อีก ความรักก็เช่นกัน จินวูจากเขาไปแล้ว และเขาเป็นคนปล่อยมือเอง ความเจ็บครั้งนี้เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง

     

     

     

     

     

                ตั้งแต่วันที่ซึงยุนบอกเลิกจินวู เขาไข้ขึ้น ไม่สบาย เลยไม่ไปโรงเรียนเลยตั้งอาทิตย์นึง ต่างกับคนโดนบอกเลิก ที่ยังไปโรงเรียนทุกวัน ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่มีคนถามหาถึงซึงยุน จินวูก็เลือกที่จะเบี่ยงประเด็นและหาเรื่องอื่นพูดขึ้นมาแทน คนอื่นรอบข้างก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าจินวูคงไม่รู้จริงๆ ก็คงจะมีแต่ซึงฮุน ผู้ที่คอยสอดส่องความเป็นไปของคู่เพื่อนรักของเขาทั้งสองคู่ รู้ความเป็นไป รู้พัฒนาการความรัก รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวจินวูเละซึงยุน

     

     

     

                ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องทำให้ร่างสูงต้องลากสังขารตัวเองที่ใกล้จะแหลกเต็มทีมาเปิดประตู และเมื่อเห็นว่าคนหน้าห้องเป็นใครก็ไม่ตกใจ เพราะรู้ว่าเพื่อนคนนี้มาเพราะรู้ว่าเขาไม่ไปโรงเรียนมาหลายวันแล้ว

     

     

     

                มึง โอเคปะวะ

     

     

                อือออ ไม่ไหวหน้ากลมสั่นหน้าช้าๆ แล้วเอามือขึ้นมากุมหน้าผากเพราะความปวดหัว ซึงฮุนที่เห็นอาการเพื่อนไม่ดีจึงเดินเข้าห้องครัวไปหยิบยามาส่งให้ร่างสูงกิน ซึงยุนหยิบยาเข้าปาก กระดกน้ำเข้าไปสองอึก ซึงฮุนมองดูสภาพเพื่อนตัวเองอย่างหน่ายๆ เขามาที่นี่เพราะอะไรซึงยุนคงรู้ แต่ถ้าถามออกไปมันจะตรงประเด็นเกินไปไหม

     

     

                “ระหว่างมึงกับจินวูมันเกิดไรขึ้น อย่ามาตอแหลใส่กูว่าไม่มีอะไร กูไม่ได้โง่ กูมีตาและมันสมองอันปราดเปรื่อง

     

     

     

                “กูบอกเลิกจินวู

     

     

                “ห้ะ เป็นเชี่ยไรของมึงวะ ผีเข้าหรอ

     

     

                “มึงไม่ใช่กูมึงไม่เข้าใจหรอก

     

     

                “เฮ้ออออออออถอนหายใจออกมายาวๆแล้วนอนพิงโซฟาเอามือก่ายหน้าผาก ไม่ทันไรหยดน้ำใสก็ไหลออกมาจากตาเรียวอีกครั้ง

     

     

     

                เห้ยๆ ไม่ใช่ละ มึงมีไร เล่าให้กูฟังเดี๋ยวนี้ เก็บไว้คนเดียวมีแต่จะแย่ ทั้งมึงทั้งจินวูท่าทางของซึงยุนทำให้ซึงฮุนใจเสีย ต้องมีเรื่องอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นกับซึงยุนแน่ๆ

     

     

                เรื่องมันยาว มันตั้งแต่ที่โรงเรียนเก่ากูละ ที่กูย้ายมาที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้

     

     

                “ยาวแค่ไหนก็เล่ามาเถอะ เผื่อกูช่วยไรได้เสนอตัวยอมรับฟังซึงยุนอย่างเป็นห่วง

     

     

                อืออ วันนั้น….”

     

     

     

                “ห้ะ สรุปว่าตอนนี้มึงโดนขู่ฆ่าจากพวกเล่นยา

     

     

                “อือ แต่กูไม่มีหลักฐานอะไรไปจับพวกแม่งเลยไง ฮะ ฮรึก กูทำอะไรไม่ได้เลยไง ซึงฮุนกูมันเลว กูผิดสัญญากับจินวู ฮึก ฮือออ

     

     

                “เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งร้อง แล้วมึงจำชื่อ จำหน้าพวกนั้นได้ปะ สเก็ตช์รูปส่งตำรวจก็ได้นี่

     

     

                “กูมีปัญญาสเก็ตช์ที่ไหนล่ะสัส สกิลวาดรูปกูดีที่ไหน วาดคนแบบก้างปลายังวาดไม่สวยเลย

     

     

                “แต่กูจำชื่อมันได้ คิมจีวอน กับแจ็คสัน

     

     

                “ห้ะ อะไรนะ คนที่สองชื่อไรนะ

     

     

                “แจ็คสัน เพื่อนโรงเรียนเก่ากู แม่งเป็นลูกผอ.แต่เสือกเล่นยา กูไม่เคยไปทำไรให้มันเลยนะเว่ย แต่วันนั้นแม่ง……ซัดกูไม่ยั้ง

     

     

                “แจ็คสัน….จะใช่คนเดียวกันป่าววะ

     

     

                “ทำหน้ายังกะมึงรู้จัก

     

     

                “มีคนนึงที่เรียนเต้นที่กูเคยเรียน มันชื่อแจ็คสัน แต่กูก็ไม่ค่อยได้คุยด้วยเท่าไหร่….. แม่งกวนตีนดวงตากระตุกวูบลงทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นกับคนที่ชื่อ…..แจ็คสัน

     

     

     

                “แต่เออช่างเหอะ คงไม่ใช่มั้ง งั้นกูกลับละ ดูแลตัวเองดีๆนะมึง เดี๋ยวกูมาเยี่ยมใหม่

     

     

                “เออๆ ใจเว่ย

     

     

     

                ซึงฮุนเดินออกมาจากห้องสีขาว ร่างสูงขมวดคิ้วครุ่นคิดกับตัวเอง ถ้าแจ็คสันที่ซึงยุนว่าเกิดเป็นคนๆเดียวกันกับที่เรียนเต้นเขา อะไรๆมันจะไม่บังเอิญไปหน่อยหรอ ภาพในคืนนั้นแล่นเข้ามาในหัวซึงฮุน เขามึนงงไม่ได้สติแต่กำลังเดินขึ้นบันไดเพราะมีแรงพยุงจากคนข้างๆ รู้ตัวอีกทีก็เช้า และอีเมลที่ส่งคลิปมาวันนั้นก็เป็นชื่อแจ็คสัน ซึงฮุนโดนยา แจ็คสันที่ซึงยุนเล่าเล่นยา ….. รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นที่มุมปาก ซึงฮุนคิดว่าตัวเองมีหลักฐานพอที่จะช่วยเพื่อนของเขาได้แล้ว แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อนึกถึงคลิปวันนั้น อย่างน้อยซึงฮุนก็กระดากอายพอที่จะไม่ให้คนอื่นมาดูเขานอนล่อนจ้อนเปลือยกายกอดกับคนอื่นบนเตียง แต่มันก็เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะพอมัดตัวสองคนนั้นได้อยู่หมัด ซึงฮุนสับสน ใจนึงก็อยากจะช่วยเพื่อน แต่ก็เพราะคลิปที่มีเขาอยู่มันค้ำคอ ซึงฮุนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไง ช่วยซึงยุน หรือปล่อยให้มันผ่านไป

     

     

     

    ….ครั้งนี้คิมจีวอนยิงนกตัวเดียวได้ถึงสองตัว…..

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< 

     

     

     

                “สำเร็จแล้วนะเฮีย

     

     

                อืม ดี

     

     

                “แล้วเฮียให้ทำแบบนี้ทำไมวะ เฮียไม่ได้รักมันแล้วหนิ

     

     

                “กูแค่ไม่อยากเห็นมันมีคนรัก ไม่อยากให้มันสมหวัง

     

     

                “แบบนี้เรียกว่าหึงป่ะวะน้ำเสียงล้อเลียนเอ่ยขึ้นจากปากของคิมจีวอน

     

     

                เหอะซึงฮยอนแค่นหัวเราะในลำคอแล้วหันมามองที่จีวอน

     

     

                กูมีจียงอยู่แล้ว กูจะหึงทำไมวะ

     

     

                “แต่เฮียก็คบไปเพราะธุรกิจ

     

     

                มึงไม่ใช่กู มาตัดสินใจแทนกูได้ไงมองหน้าลูกน้องของตัวเอง โยนบุหรี่ที่ใกล้หมดแล้วลงพื้น ขายาวก้าวเดินออกจากห้องน้ำชายเก่าทันที

     

     

     

     

                ควอนจียง ลูกชายคนเดียวของพ่อค้าเสพติดรายใหญ่ ที่ชเวซึงฮยอนติดต่อซื้อขายอยู่ประจำ เป็นเรื่องจริงที่ซึงฮยอนคบจียงเพราะความสะดวกในการค้า ซึงฮยอนเริ่มรู้จักจียงเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว วันนั้นซึงฮยอนมีนัดส่งของที่โกดังของเฮียควอนพร้อมกับลูกน้องของเขา จีวอน แจ็คสัน และวันนั้นเฮียเอาลูกชายติดมาด้วยเพราะจียงไม่อยากไปเรียนพิเศษ เป็นวันแรกที่ซึงฮยอนได้เห็นหน้าจียง แค่เห็นครั้งแรกก็รู้สึกติดตา และด้วยความหัวไว ในสมองคิดถึงทั้งเรื่องแผนสานสัมพันธ์ทางการค้าและทั้งจียง เป็นเหตุทำให้ซึงฮยอนเอ่ยปากขอจียงเป็นแฟนไป

     

     

     

                ไม่ได้รัก….แค่รู้สึกชอบและถูกชะตาเท่านั้น จากความพลั้งปากในวันนั้นทำให้ซึงฮยอนเปลี่ยนสถานะของเขาและจินวูทันที จากแฟนกลายเป็นคนรู้จัก และความรู้สึกที่เขายังมีให้จินวูยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ลดน้อยลงทุกวันนับตั้งแต่วันที่ได้รู้จักจียง จนถึงตอนนี้เขาแทบไม่เหลือความรู้สึกดีๆอะไรให้จินวูอีกเลย จียงเข้ามาแทนที่หมด แต่เขาจะโทษจียงที่เข้ามาแทนจินวูก็ไม่ได้ เขาต้องโทษตัวเอง ที่ไม่มีสติและเห็นการค้าสำคัญกว่าคนรัก

     

     

     

     

                แต่ซึงฮยอนก็ไม่เสียใจที่ทิ้งจินวูไป หลังจากที่จียงเข้ามาในชีวิต อะไรรอบข้างเขาก็ดูดีไปหมด การส่งของก็เป็นไปราบลื่นขึ้น กับจียงเขาก็มีความสุข ยิ่งอยู่ไปนานๆยิ่งมีความสุขมากขึ้นแบบบอกไม่ถูก ทุกอย่างดูโอเคหมดจนเขาลืมจินวูได้

     

     

     

    ….ซึงฮยอนไม่เสียใจเลยที่ทิ้งจินวูมาวันนั้น….

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< 

     

     

                ณ สวนหย่อมหลังตึก 4 เป็นวันแรกที่จินฮวานได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกอย่างจริงจังสักที ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นความรับผิดชอบคิมฮันบิน คนเดียวที่สามารถบังคับจินฮวานได้

     

     

                ฮ้า สบายจังนะ ไม่ยักรู้ว่าตรงนี้ลมเย็นขนาดนี้คนตัวเล็กพูดเจื้อยแจ้วเสียงใส

     

     

                ก็วันๆอยู่แต่กับห้องแอร์อับๆ นี่ถ้าฉันไม่พาออกมา จบม.6ไปนายจะรู้มั้ยว่าโรงเรียนนี้ลมมันเย็นแค่ไหนน่ะ

     

     

               

                “พูดมากน่าหยิบหนังสือวิทยาศาสตร์ขึ้นมากางปิดหน้า ป้องกันตัวเองจากคนขี้แซะ ขนาดฮันบินพาออกมาข้างขนาดนี้แล้วจินฮวานก็ยังไม่วายเอาหนังสือติดมือมาอ่านด้วย ฮันบินหมดความพยายามที่จะทำให้คนตัวเล็กข้างหน้าเขาอยู่ห่างจากหนังสือแล้ว บรรยากาศท่ามกลางทั้งสองคนกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง จินฮวานกำลังมีสมาธิในการอ่านหนังสือ คิมฮันบินที่นั่งอยู่ข้างๆก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งดูเฉยๆ ตอนนี้มีเพียงเสียงแพหญ้าที่ลู่ลมหยอกล้อกันแซมนิดๆด้วยเสียงนกร้องมาเป็นระยะ  

     

     

     

                “ต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานมั้ย

     

     

                “จนกว่าฉันจะสอบได้ที่หนึ่งแหละน่ะพูดตอบโดยไม่เงยหน้ามองคนตรงหน้า ดวงตาเรียวยังคงจดจ้องกับตัวหนังสือในกระดาษสีเหลืองนวลอยู่

     

     

     

                นายจะอยากได้ที่หนึ่งไปทำไมกัน กินก็ไม่ได้ ฉันว่านะ อ่านไปก็เครียดเปล่าๆเพียงเพราะฮันบินอยากหาเรื่องคุยให้บรรยากาศมีสีสันขึ้นเพียงเท่านั้น แต่ดูท่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย ในทางตรงข้าม คนตัวเล็กอาจมีน้ำโหเพราะคำพูดเล่นๆของเขาอีกด้วย

     

     

     

                เรื่องของฉัน จะได้หรือไม่ได้ที่หนึ่งยังไงมันก็เรื่องของฉัน นายจะอยากรู้ไปทำไมกันลุกขึ้นยืนแล้วตะคอกเสียงดังใส่ฮันบิน

     

               

     

                “ฉันก็แค่อยากทำอะไรให้มันสำเร็จ ให้มันเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างนึง ฉันจะได้เลิกเรียกตัวเองว่าคนไม่เอาไหนสักที

     

     

     

                จินฮวาน…”

     

     

                “พอเหอะ กลับห้องได้แล้ว ฉันไม่อยากทะเลาะกับนายเรื่องนี้รวบกองหนังสือไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินย่ำแพหญ้าไปที่ตึกเรียนทันที ฮันบินมองหลังของคนตัวเล็กที่ตอนนี้คงอารมณ์เสียมาก ดวงตาหลุบต่ำด้วยความผิดหวัง ทั้งๆที่วันนี้เขาทำให้จินฮวานออกมารับลมเย็นดีๆข้างนอกได้แล้วเชียว แต่เพราะเขา ทำให้บรรยากาศเสียไปหมด ขาเรียวรีบก้าวยาวตามหลังจินฮวานไปทันที

     

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< 

     

     

     

                คาบเรียนตอนบ่ายก็เหมือนเช่นเคย ลมร้อนๆกับเสียงตะโกนหน้าห้องของบอมยังคงทำให้พื้นที่หน้าห้องกลายเป็นที่ราบลุ่มเช่นเคย ส่วนมากจะฟุบลงกับโต๊ะ และอีกส่วนน้อยก็หาอะไรอย่างอื่นทำ แต่ส่วนน้อยกว่านั้นก็คงเป็นคนหลังห้องอย่างจินวูคนนี้ ที่ยังเป็นภูเขาลูกโดดตั้งตระหง่านเพียงลูกเดียวท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้

     

     

                ฮันนา

     

                “มาค่ะ

     

                เสียงเช็คชื่อท้ายคาบเรียนคงเป็นนาฬิกาปลุกชั้นเยี่ยมของเด็กพวกนี้ บอมเรียกชื่อเด็กทีละคนเพื่อที่จะเช็คจิตพิสัยในคาบของเธอ

     

     

                แทฮยอน

     

                “มาครับ

     

                “จินวู

     

                “มาฮะ

     

                “ซึงยุน

     

                “….”

     

                “ซึงยุน

     

     

     

                ทุกๆอย่างเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นที่นั่งว่างข้างๆจินวู หลังจากวันนั้น ข้อความสุดท้ายที่จินวูได้ส่งไป ก็มีเพียงแค่สัญลักษณ์บอกว่าอ่านแล้วเท่านั้น ไร้ซึ่งการตอบกลับจากอีกฝ่าย จินวูไม่รู้ว่าคนที่บอกเลิกตัวเองไปนั้นตอนนี้จะเป็นยังไง จินวูไม่อยากรู้ ไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับซึงยุนทั้งนั้น จินวูเกลียด เกลียดคนผิดสัญญา

     

     

     

                ซึงยุนไม่มาอีกแล้วหรอเนี่ย ขาดจะครบอาทิตย์แล้วนะ แบบนี้จะสอบปลายภาคได้มั้ย อ่าจินวู

     

     

                “ครับ

     

     

                นายสนิทกับซึงยุนใช่มั้ย ช่วยดูๆซึงยุนให้ด้วยนะ

     

                “อะเอ่อ

     

     

                “เอาล่ะ ยังไงช่วงนี้ก็อ่านหนังสือได้แล้วนะ ใกล้สอบแล้วเตรียมตัวเองดีๆ อย่าให้ครูต้องบอกหลายรอบ

     

     

                ขี้เกียจบอกก็ไม่ต้องบอกสิครับ พูดมากเมื่อยปากจะตายเสียงเรียบเอ่ยออกมาจากกูจุนฮเว…..เช่นเคย

     

     

                ย๊….”

     

     

                “นักเรียนทำความเคารพยางฮงซอกรู้ดีว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อไป นี่ไม่ใช่มินจี ที่จะทนต่อคำพูดกวนบาทาของจุนเวได้ตลอด แน่นอนว่าถ้าบอมวีนขึ้นมาเรื่องคงไม่จบง่ายๆแน่ ฮงซอกคนหัวไวจึงรีบพูดแทรกบอกเลิกคาบเรียนทันที

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< 

     

                วันนี้ไปร้านเดิมปะเสียงทุ้มของร่างสูงเอ่ยถาม

     

     

                อื้อ จินวูไปด้วยกันนะ

     

     

                “เอ่อไม่อะจินวูเอ่ยเสียงเรียบแล้วก้มลงมองพื้นหลบสายตาของแทฮยอน

     

     

                จินวู ไม่เอาดิ นายกลับบ้านคนเดียวทุกวันเลยนะ งั้นฉันไม่ไปละ มินโฮไปวันอื่นละกัน

     

     

                เฮ้ยๆ ไม่เป็นไร นายกินกับมินโฮนั่นแหละ ฉันกลับคนเดียวได้จินวูรีบพูดห้ามทันทีเมื่อแทฮยอนเปลี่ยนใจจะไม่ไปกินกับมินโฮเพราะเขา ความเป็นห่วงที่อยู่ในดวงตาเรียวของเพื่อนสนิทก็อดไม่ได้ที่จินวูจะพูดปฏิเสธ แต่เพราะตอนนี้เขาอยากกลับบ้าน เขาอยากอยู่คนเดียว เขาไม่มีอารมณ์ท่ะไปเจอใครทั้งนั้นในตอนนี้

     

     

     

                “ไม่ต้องห่วงน่าแทฮยอน ฉันกลับคนเดียวได้ส่งยิ้มกว้างให้แทฮยอนแทนคำปลอบใจ จินวูรู้ว่าเพื่อนคนนี้ห่วงเขาแค่ไหน แต่เขาไม่อยากจะทำตัวเป็นภาระของแทฮยอนอีกต่อไปแล้ว เขาควรให้แทฮยอนมีเวลาส่วนตัวของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าจะมาดูแลเขาอย่างเดียว

     

     

     

                ขาเรียวก้าวเดินช้าๆตามทางเดินเล็กๆข้างสะพาน ลมเย็นอ่อนๆพัดมากระทบผิวกาย ถึงมันจะไม่ได้หนาวมาก แต่มันก็เป็นบรรยากาศที่ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับคนเคยมีอย่างจินวูในตอนนี้

     

     

     

                แขนเล็กยกขึ้นมากอดตัวเอง ถูๆไถๆพอให้เกิดไออุ่นขึ้นมาบ้าง แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยสำหรับอ้อมแขนกว้างที่เขาเคยมีในตอนนั้น

     

     

                ฟู่วว หนาวเนอะ ถ้าหิมะตกมาล่ะแย่เลย จินวูบ่นกระปอดกระแปดพร้อมยกมือขึ้นมาถูไถพร้อมกระชับเสื้อสเวตเตอร์สีฟ้าอ่อนให้แน่นขึ้น

     

     

                ก็ตัวเล็กแบบนี้เลยหนาวไง บอกแล้วให้กินนมเยอะๆ จะได้สูงๆ

     

     

                “เกี่ยวอะไรด้วย ดูเด็กคนนั้นดิ ตัวเล็กกว่าฉันตั้งเยอะ ไม่เห็นจะหนาวเลยจินวูเถียงคนตัวสูงแล้วหันไปชี้ที่เด็กผู้ชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างสะพาน

     

     

                เอ่อแล้วทำไมน้องคนั้นเค้ายืนอยู่คนเดียวอะ

     

     

                “จะไปรู้เค้ามั้ยล่ะ ฉันเป็นพ่อเด็กซะที่ไหน โอ้ะร้องเสียงหลงเมื่อโดนข้อศอกมนของจินวูกระทุ้งเบาๆเข้าที่ท้อง    

     

     

                “ตัวเล็ก

     

     

                “ตัวเล็กครับ พ่อแม่หนูไปไหนลูกจินวูรีบเดินเข้าไปหาเด็กผู้ชายอายุราวขวบเศษๆที่ยืนจ้องมองเขาด้วยตากลม นั่งลงยองๆเพื่อให้เท่ากับเด็กแล้วถามด้วยเสียงอ่อน

     

     

                อื้ออส่ายหน้าแทนคำตอบ

     

     

                “นี่ ไปยุ่งกับน้องเค้าเดี๋ยวน้องเค้ากลัวนายตกใจร้องไห้ทำไง ไปเร็ว เดี๋ยวพ่อแม่เค้าก็มาเองแหละเสียงซึงยุนจากข้างหลังไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทของจินวูเลยสักนิด จินวูยังคงนั่งคุยกับเด็กน้อยอยู่ไม่ได้สนใจซึงยุนเลย

     

     

     

                แหงะ อื่อ ฮือ แง้ๆๆๆอยู่ดีๆเด็กน้อยก็เบะปากและส่งเสียงร้องไห้ระงมไปทั่วสะพานยาว จินวูตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่จับแขนเล็กเขย่าไปมาและลูบหลังหวังให้ใจเย็นลง

     

     

                อ้า ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะยุน ทำไงดีอะ อ่า ไม่ร้องนะไม่ร้องๆ เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็มาแล้วนะ

     

     

                ซึงยุนมองท่าทางปลอบเด็กแบบเก้ๆกังๆของจินวูแล้วถอนหายใจ ย่อตัวลงอ้าแขนไปอุ้มเด็กคนนั้นเข้ามาในอ้อมกอดแล้วยืนขึ้น

     

     

                โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ พ่ออยู่นี่แล้วนะลูบหลังแล้วโคลงตัวเบาๆ ใบหน้าเล็กที่ซบลงกับไหล่มนของซึงยุนเริ่มมีสีหน้าดีขึ้น

     

     

     

                นู่นๆ ดูเป็ดเร็ว เห็นเป็ดมั้ย เป็ดมันร้องก๊าบๆหันหลังตัวเองเข้ากับสะพานเพื่อให้เด็กในอ้อมกอดได้เห็นเป็ดล่างสะพานชัดๆ ซึงยุนพูดกล่อมเด็กไป ลูบหัวและทำเสียงเล่นกับเด็ก ปากที่แบะเริ่มกลับมาคลี่ยิ้มบางและหัวเราะ

     

     

               

                แอะ อ่ะ แฮะๆ คิกๆมือเล็กที่กอดคอซึงยุนค่อยๆคลายออกแล้วชูมือเล่นอย่างมีความสุข เสียงร้องไห้หายไปแล้ว มีแต่เสียงหัวเราะเข้ามาแทนที่ ตอนนี้จินวูเป็นเพียงบุคคลที่สามในเหตุการณ์นี้เท่านั้น

     

     

     

                มินกุ๊ก มินกุ๊กลูกเสียงผู้หญิงวัยกลางคนดังขึ้นเรียกความสนใจของจินวูและซึงยุนให้หันไปมอง

     

     

                อ้ะ ม๊า เป็ด เป็ด คิกๆซึงยุนส่งเด็กที่ชื่อมินกุ๊กคืนสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ทันที

     

     

                ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูมินกุ๊กของชั้น ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

     

     

                “ฮ่ะๆ ไม่เป็นไรครับ ดูน้องเขาจะชอบเป็ดนะฮะ เห็นแล้วยิ้มใหญ่เลย

     

     

                “ค่ะ มินกุ๊กชอบเป็ด เอ่อ..ยังไงก็ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ ทั้งคู่เลย

     

     

                “ครับ งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับบทสนทนาที่มีเพียงแค่ซึงยุนและแม่ของมินกุ๊กได้จบลงด้วยรอยยิ้มและแววตางงๆของจินวู ซึงยุนจับข้อมือบางของจินวูไว้แล้วพาเดินไปด้วยกัน

     

     

     

                นายเคยเลี้ยงเด็กหรอเงยหน้าถามคนข้างๆ

     

     

                ป่าวหรอกซึงยุนลอบยิ้มออกมา

     

     

                “จริงหรอ แต่นายดูเลี้ยงเด็กคล่องมากเลยนะ ยังกะเป็นพ่อเด็กคนนั้นจริงๆอะ พอเด็กคนนั้นอยู่ในกอดของนายนะ หยุดร้องทันทีเลยอะ หรือนายใส่ยาเส่นห์ให้เด็กคนนั้น แววตาอยากรู้อยากเห็นของจินวูทำให้ซึงยุนอดหัวเราะไม่ได้

     

     

                “ก็ฉันรู้ไง

     

     

                “รู้อะไร

     

     

                “รู้ว่าจะทำให้เด็กเงียบอะ ต้องกอดไว้ ไม่ใช่แค่จับแขนเขย่าแล้วลูบหลังแบบนาย

     

     

                “โห่ ก็ฉันตกใจนี่ กลัวว่าถ้ากอดเด็กก็จะร้องอีก ฉันเลยทำได้แค่จับแขน ลูบหลังแค่นั้…”

     

     

                “แล้ววิธีนี้จะใช้ได้ผลกับคนทุกวัย รวมทั้งนายด้วยจินวูเงียบทันทีที่ซึงยุนดึงแขนเข้ามากอด แขนแกร่งโอบกอดรอบตัวจินวู คางมนเกยไหล่เล็กของจินวูไว้ สูดดมกลิ่นหอมแชมพูจากกลุ่มผมนิ่มของคนตัวเล็กอย่างโหยหาราวกับเป็นกอดครั้งสุดท้าย จินวูยืนนิ่งแข็งทื่ออยู่ภายใต้อ้อมกอดนั้น เสียงหัวใจที่เต้นรัวกลับมาเป็นปกติอีกครั้งเมื่อจังหวะลมหายใจของซึงยุนค่อยๆเบาลง

     

     

               

                อืออ ซึงยุน

     

     

     

                “ขออยู่แบบนี้อีกแปปนึงนะมือเล็กที่พยายามจะผลักออกเพราะช่วงเวลาที่ผ่านไปนานต้องหยุดลงเพราะคำพูดของซึงยุน ไม่ใช่ว่าจินวูรังเกียจหรืออะไร แค่อ้อมกอดนี้มันนานกว่าปกติก็เท่านั้นเอง ซึงยุนไม่เคยกอดเขานานขนาดนี้ จินวูถอนหายใจแล้วกอดตอบ เอามือลูบหลังและกลุ่มผมเบาๆ

     

     

     

                เป็นอะไรหรอเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง

     

     

                ฉันรักนายนะเสียงอู้อี้ข้างหูดังขึ้น ถึงจะไม่ชัดแต่จินวูก็ได้ยิน กระชับกอดแน่นขึ้นเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ เพราะไม่ค่อยได้ยินซึงยุนพูดบอกรักเท่าไหร่เลยทำให้เคอะเขินเมื่อได้ยินออกมาจากปากของคนรัก แม้จะไม่ได้เห็นหน้าก็ตาม

     

     

     

     

                อื้ออ ฉันก็รัก รักนายนะซึงยุนเขย่งปลายเท้าขึ้นฝังจมูกลงบนพวงแก้มขาวของคนตัวสูงแล้วผละตัวออกมา ส่งยิ้มกว้างให้ ซึงยุนมองหน้าจินวูแล้วคลี่ยิ้มออก คนตัวเล็กไม่เคยหอมแก้มเขาก่อน นี่คงเป็นครั้งแรก….และครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้มีความสุขแบบนี้

     

     

     

               

                จินวูไม่เคยคิดว่านั่นจะเป็นคำบอกรักครั้งสุดท้ายที่เขาสองคนได้กล่าวให้กัน เหมือนที่ใครๆเคยบอกไว้ ครั้งสุดท้ายมักจะมาโดยที่เราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน จินวูเดินกอดตัวเองท่ามกลางลมหนาว กอดที่มันคงจะอุ่นกว่านี้ถ้ามีซึงยุน …...อะไรๆคงจะดีกว่านี้ถ้ามีซึงยุน

     

     

     

     

     

     

     

                แชป17~~~

     

     

                ดราม่ามาแล้วค่า ฮือออ เลิกกันอย่างเป็นทางการแล้วนะยุนวู  แต่อย่าเพิ่งใจร้อนนะรีดเดอร์ ยังคงมีแววกลับมารีเทิร์น(รึป่าว) 55555

     

     

                ขอโทษที่ห่างหายไปนานนะคะ พอดีไรต์ติดเรียนพิเศษแล้วก็สงกรานต์ เลยไม่มีเวลามาอัพฟิคเลย แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันไปนะ อยู่เป็นกำลังใจให้ไรต์ก่อนน้า

     

     

                ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกแชร์แล้วก้ทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านด้วย ขอบคุณที่คอยสกรีมแท็ก ถึงจะน้อยก็ไม่เป็นไร ยอดวิวเพิ่มขึ้นไรต์ก็ดีใจแล้วว ^^ รักรีดเดอร์ทุกคนเลยนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×