คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 : Bad memories
Chapter 6 : Bad Memories
ปกติแล้วช่วงเวลาพักเที่ยงจินวูจะมากินข้าวกับแทฮยอนสองคน แต่ตั้งแต่วันที่เด็กใหม่สามคนนั่นเข้ามาในชีวิต บรรยากาศรอบข้างของจินวูก็เปลี่ยนไป สามแสบเริ่มมีส่วนร่วมในชีวิตจินวูและแทฮยอนมากขึ้น
“จินวู เอาปลาหมึกมั้ย ป้าเค้าหยิบติดมาอ่า”
“เอาๆ หยิบใส่จานเราเลย”
คนคิ้วตกรีบคีบหนวดปลาหมึกในจานของตัวเองให้คนตรงหน้า
“มาแล้ววว ข้าวหน้าหมูทอด ของนายพิเศษใช่มั้ยมินโฮ อ่ะงั้นนี่ก็ของนาย ซึงยุน”
วันนี้เป็นเวรเสิร์ฟข้าวของซึงฮุน สามคนนี้ชอบทำอะไรเป็นคิวๆ ในแต่ละกลางวันของทุกวัน ซึงฮุน ซึงยุนและมินโฮจะต้องคอยสลับกันไปเอาข้าวมาให้อีกสองคนที่เหลือ
แทฮยอนที่กินข้าวเร็วเป็นปกติ อิ่มแล้วเหลือแต่น้ำซุปจึงนั่งเขี่ยหัวไชเท้าในถ้วยรอคนอื่นกินข้าวไปพลาง
“เฮ้ย หัวไชเท้า นายไม่กินช้ะ เราขอนะ”
พูดไม่ทันจบประโยค มินโฮก็จัดการตักหัวไชเท้าในถ้วยน้ำซุปของแทฮยอนมาไว้ในจานของตนทันที
“ย๊า เอาคืนมาเลยนะ ใครบอกว่าไม่กิน”
“ก็เห็นนายนั่งเขี่ยอยู่ อิ่มแล้วไม่ใช่รึไง”
“ใครว่าอิ่ม” แทฮยอนปฏิเสธเสียงแข็ง เกือบเผลอยิ้มออกไปเพราะบทสนทนาที่คุ้นเคย แต่ก็ห้ามใจไว้ได้เพราะเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมันยังฝังใจ
‘เมื่อกลับมาอยู่ด้วยกัน บรรยากาศเดิมๆก็กลับมาอีกครั้ง………. เหมือนเริ่มต้นใหม่’
“ฉัน…ท้องอืดเหอะ เลยนั่งรอให้ย่อยแปปนึง”
“เอ้าหรอ”
คนร่างสูงรีบงาบหัวไชเท้าเข้าปากตัวเอง หันมายักคิ้วและกระตุกยิ้มที่มุมปากให้คนข้างๆด้วยความมีชัย
“มินโฮ”
“ไม่เป็นไรหรอกแทฮยอน ให้มินโฮไปเหอะ มันคงหิวแหละ”
“ไอหมูอ้วน หิวก็ไปซื้อกินเองดิวะ เนอะจินวูเนอะ”
“อะ….อื้อ”
ซึงยุนพูดสมทบจินวูพร้อมหันมายิ้มให้คนข้างๆ แต่คนตาโตกลับเพียงแค่ส่งยิ้มบางให้ สายตาของจินวูเหม่อลอยและหยุดนิ่งราวกับโดนไฟช็อต ร่างเล็กสะบัดหน้าเล็กน้อยแล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ แทฮยอนเห็นเพื่อนรักของตนมีท่าทางแปลกไปจินหันไปมองตามทางที่จินวูมองเมื่อครู่
ชายร่างสูงผิวเข้มตาคมกำลังยืนกอดเอวชายร่างบางอยู่หน้าร้านข้าว มองจากตรงนี้รู้เลยว่าเค้าสองคนคุยกันมีความสุขขนาดไหน โลกทั้งใบของคนทั้งคู่นั้นคงมีแต่สีชมพู คนตัวเล็กหันไปหัวเราะให้คนที่โอบตนเอาไว้และยู่หน้าเพราะร่างสูงเอามือมาบีบจมูก ชายสองคนยืนหัวเราะกันอย่างมีความสุข แต่หารู้ไม่ว่ามีหนึ่งคนที่กำลังเจ็บปวดอยู่
“อย่าสนใจพี่ท้อปเลยจินวู เรื่องมันก็นานมาแล้ว ปล่อยคนเลวๆอย่างนั้นไปเถอะ เห้อะ นึกถึงแล้วขึ้น”
“พี่ท้อป พี่ท้อปคือใครหรอแทฮยอน”
“ก็นั่นอ่ะ คนนั้น พี่ท้อปน่ะเค้า….”
“ไม่มีไรหรอกซึงยุน คนเคยรู้จักอะ”
จินวูพูดเน้นที่ประโยคหลัง ‘คนเคยรู้จัก’
ซึงยุนมองตามปลายนิ้วของแทฮยอนไปแต่ก็ถูกจินวูพูดห้ามไว้ก่อน
“อ่าๆ ไม่รู้ก็ได้”
ถึงซึงยุนจะไม่รู้ว่าคนที่ชื่อท้อปนั้นเป็นใครแล้วเคยเป็นอะไรกับจินวู แต่ดากสีหน้าของจินวูตอนนี้ หน้าและปากซีดไปหมด พี่ท้อปนั้นต้งเคยเป็นอดีตที่แสนเลวร้ายสำหรับจินวูเป็นแน่
“จินวู”
“หืม”
“อย่าไปสนใจคนในอดีตเลยนะ สนใจคนปัจจุบันก็พอ” ยิ้มกว้างเห็นฟันทุกซี่สว่างวาววับถูกส่งมาให้จินวู
“คนในปัจจุบัน ใครหรอ มินโฮอ่ะดิ้ ฮ่าๆๆ”
มินโฮสำลักข้าวทันทีที่ได้ยินจินวูพูดชื่อตน
“แอ่กๆ โอ่ย จินวูอย่าทำร้ายเราแบบนี้ ให้เป็นแฟนกับหมายังดีกว่าเป็นแฟนกับไอ้ตี๋หน้าบวมเลย คนอะไรไม่รู้ ปากบวมยังกับจาน หน้าบานยังกับยูเอฟโอ โอ๊ะ พอๆ ซึงยุนไม่เอา”
มินโฮร้องห้ามเสียงหลงเพราะโดนน้ำแข็งปามาจากคนปากบวมเหมือนจานและหน้าบานเหมือนยูเอฟโอ
“ฮ่าๆ เก็บจานเถอะ ใกล้บ่ายโมงแล้ว รีบเข้าเรียนกัน เดี๋ยวป้าแอ๋วก็ด่าอีก”
“เออเก็บกันเร็ว ฮุน วันนี้นายเก็บนะ”
“อ้ะ”
สิ้นเสียงพูดมินโฮ สี่คนที่เหลือก็รีบวิ่งแจ้นหายวับกลับเข้าตึกเรียน ทิ้งจานเปล่าที่เหลือให้กองไว้ตรงหน้าซึงฮุน
“ย๊าพวกนาย ทำไมทำงี้ กลับห้องไม่รอดแน่”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ช่วงคาบบ่ายของทุกวันเป็นช่วงที่เด็กทุกคนตั้งตารอที่สุด (หรอ) เพราะเด็กเกือบครึ่งห้องจะได้แอบหลับในคาบนี้ ถึงแม้จะเป็นอาจารย์ที่สอนโหดแค่ไหน แต่เด็กทุกคนมีสกิลการนอนที่ถูกฝึกสั่งสมมาแล้วหลายปี
“เมื่อค.ศ.1650 สาธารณรัฐเกาหลีเกิดอะไรขึ้นใครตอบได้บ้าง……..อ่ะจุนฮเวตอบสิ้”
“เทพีเสรีภาพเมื่อยเลยขว้างคบไฟในมือทิ้งฮะ ฮ่าๆๆๆๆ”
ตรรกะอะไรของมัน แล้วเทพีเสรีภาพอยู่เกาหลีที่ไหน ไหนช่วยตอบหน่อยสิ้กูจุนฮเว
“นี่จุนฮเว ถ้าหาคำตอบที่ดีกว่านี้ไม่ได้ก็นั่งเฉยๆเลยนะ”
เด็กในห้องแทบจะไม่มีใครเรียนวิชาประวัติศาสตร์เกาหลีของบมเลย คงจะมีแค่ฮงซอก หัวหน้าห้องที่สอบได้ที่หนึ่งทุกครั้งและเด็กตาแป๋วกลมโตหลังห้องที่ตั้งใจเรียนทุกวิชา ไม่มีวี่แววว่าจะง่วงเลย ไม่แปลกที่เขาสอบได้ที่สองรองจากฮงซอกมาตลอด
เศษกระดาษเล็กถูกส่งผ่านซึงฮุน มินโฮ มาวางที่โต๊ะแทฮยอน
‘แทฮยอน พี่ท้อปคือใครอะ’
แทฮยอนหันหลังไปหาคนที่ส่งมาให้ตนแต่มินฮก็ชี้ไปที่คนข้างๆ แทฮยอนหันตามซึงฮุนก็ส่ายหน้าบอกว่าไม่ใช่ตนและชี้ไปที่คนข้างหน้า แทฮยอนหันตามและเจอคนหน้าตี๋กำลังโบกมืออยู่
แทฮยอนหันไปมองเพื่อนตาแป๋ว ดูท่าแล้วคงจะไม่มีอะไรมาทำลายสมาธิจินวูได้ มือขวาเขียนยุกยิกลงในเศษกระดาษแผ่นใหม่และส่งคืนผ่านเส้นทางเดิม
‘จินวูห้ามบอกอ้ะ’
‘น่านะ เดี๋ยวเลี้ยงไอติม’
‘หลังเลิกเรียนได้ปะ’
‘เคๆ’
“โอ้ะ”
แทฮยอนสะดุ้งโหยงเมื่อถูกแท่งชอล์กปาเข้ามากลางหัวอย่างแรง
“อ้ะ เจ็บมั้ยแทฮยอน”
“นายคิ้วตก ไม่เรียนแล้วยังมาขยำกระดาษเล่นอีกหรอ อยากโดนยืนหน้าห้องใชมั้ยฮะ”
“ขอโทษครับ”
ซึงยุนยกมือไหว้ขอโทษแทฮยอนเมื่อถูกคคิ้วตกมองมาอย่างคาดโทษ แต่คิมจินวู คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ได้แต่มองคนสองคนส่งซิกแนวกันอย่างงงๆ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
“กริ๊งงงงง” เสียงเวลาแห่งความสุขดังขึ้นเหมือนเคย
“แทฮยอน”
“หื้ม”
“วันนี้นายกับห้องไปก่อนเลยนะ ฉันว่าจะไปหาฮยองก่อนกลับแปปนึงอ่ะ”
“อ่า วันนี้ฮยองเค้าไม่มีซ้อมหรอ”
“มีแหละ ฉันมีเรื่องจะคุยกับฮยองนิดหน่อย คุยก่อนซ้อมแปปนึงคงได้มั้ง นายกลับคนเดียวได้ป่าวอะ”
“อ่อได้ๆ สบายมาก ฉันว่าจะอยู่คุยเล่นกับพวกซึงยุนก่อนกลับเหมือนกัน อ้าวนั่นไงมาละ ทางนี้ๆ”
แทฮยอนโบกมือทักทายผู้มาใหม่ จินวูหันไปส่งยิ้มบางให้ก่อนจะขอตัวไปทำธุระ
“แทฮยอน จินวูไปไหนอะ วันนี้ไม่ได้กลับด้วยกันหรอ”
“ไม่อะ ไปทำธุระ”
“ธุระอะไร งี้ก็กลับคนเดียวอ่ะดิ”
“มันกลับได้น่า ม.4แล้วนะ”
“นายนี่อยากรู้ทุกเรื่องของจินวูเลยนะ แอบชอบเพื่อนรักฉันปะเนี่ย แหน่ๆๆ”
ซึงยุนเงียบ เอาจริงๆความรู้สึกที่เขามีต่อจินวูมันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก เขามีความสุขเวลาเห็นรอยยิ้มของจินวู โลกเขาสดใสเวลาได้ยินเสียงหัวเราะของจินวู เขาหวั่นไหวกับดวงตา ปากและจมูก เขาหวั่นไหวทุกอย่างที่เป็นจินวู แต่เขาไม่รู้จริงๆว่าความรู้สึกนี้มันเรียกว่าอะไร
“แทฮยอน”
“ความรู้สึกยังไงที่เรียกว่าชอบหรอ”
“ห้ะ ถามอะไรของนาย”
“น่า ตอบมาเถอะ”
“ก็ รู้สึกดีเวลาเห็นหน้า มีความสุขกับทุกอย่างที่เป็นตัวเค้าล่ะมั้ง”
“อ่อ”
“นี่ ถามงี้หมายความว่าไง”
“ฉันก็รู้สึกแบบนั้นกับจินวู แบบนี้มันเรียกว่าชอบป่ะวะ”
“ก็คงใช่”
“ตอนแรกฉันก็ไม่มั่นใจตัวเองหรอก สับสนมาก รู้เพียงแค่ว่าชอบเวลาจินวูยิ้ม ชอบเวลาจินวูหัวเราะ แล้วก็หงุดหงิดมากเวลาที่มีคนมาใกล้จินวู”
“รวมถึงฉันด้วยป่ะเนี่ย”
“เห้ยไม่เกี่ยวๆ”
“เห้อ โล่งอกไป”
“เดี๋ยวๆ แล้วนายไม่ตกใจเลยอ่อวะ”
“อืม…..ตกใจไมอ่ะ คนรักกันชอบกัไม่เห็นจะแปลก”
“งั้น ฉันช่วยเอาปะ”
“ช่วย จิงปะ ช่วยจริงๆหรอแทฮยอน” ซึงยุนยื่นหน้าและปากบวมๆเข้ามา ส่งสายตาอ้อนวอนปริบๆเหมือนลูกหมาอยากได้ของเล่นยังไงยังงั้น
“อืออออ เห้ยออกไป สยิวว่ะ”
“แต่ขอค่าจ้างเป็นเลี้ยงไอติมนะ”
“ได้เลย ทั้งร้านเลยก็ได้”
“ทำเป็นป๋า จะกินให้ตังหมดตัวเลยคอยดู ฮ่ะๆ”
ภาพเด็กหนุ่มสองคนที่เดินคุยกันร่าเริงยังถูกโฟกัสอยู่ในสายตาคู่นึงจนลับตา น้ำใสเอ่อคลอเบ้าทั้งสอง แต่ดวยความเป็นลูกผู้ชายจึงต้องอดกลันความเสียใจไว้ภายใน
“ไม่มีฉันแล้วนายคงมีความสุขมากสินะ”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
“ฮยอง”
“อ้าวจินวู”
“คิดถึง”
คนตัวเล็กโผเข้ากอดพี่ชายที่กำลังตั้งสายกีต้าร์เตรียมซ้อมวงอยู่
“นี่พวกนาย เช็คเครื่องเสียงไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา ขอคุยกับน้องแปปนึง”
ซึงรีกำชับคำกับเพื่อนร่วมวงแล้วจูงมือน้องชายออกจากห้องซ้อม
ลมเย็นพัดผ่านต้นแขน กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย เสื้อคลุมหนังราคาแพงที่เขาเคยเก็บเงินซื้อ คนที่เขาเคยคุ้น
“พี่ท้อป”
ท้อปเบิกตาจ้องคนตัวเล็กตาโตที่ตอนนี้ก็คงมีท่าทีตกใจไม่น้อยไปกว่าเขา จินวูมองท้อปด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ แค่มองหน้ากันความรู้สึกเมื่อก่อนก็กลับเข้ามาอีกครั้ง เขาพยายามลืมแล้วแต่ยังตัดใจไม่ได้แม้เวลาจะผ่านไปนาน เพียงแต่สายาตาที่เขาได้รับกลับมากลับเป็นความเยือกเย็น เย็นชา ไร้ความรู้สึก เหมือนกับว่าเขาคนนี้ไม่เคยรู้จักจินวูเลย
“ท้อป นายซ้อมเนื้อท่อนที่เหลือไปก่อนนะ เดี๋ยวมา”
ซึงรีกระชับมือที่กุมมือน้องชายไว้ให้แน่นขึ้นแล้วพาจินวูเดินออกมาจากที่อึดอัดตรงนั้น
เรื่องราวระหว่างน้องชายและเพื่อนของเขาซึงรีรู้ ซึงรีรู้ทุกอย่าง แต่ทำไงได้ คนนึงก็น้องชาย อีกคนก็เพื่อนร่วมวง ซึงรีทำได้เพียงแค่พูดเป็นกลางและพยายามไม่พาดพิงถึงอีกฝ่าย
ซึงรีฝันที่จะเป็นนักดนตรี เขาอยากมีวงเป็นของตัวเอง เขาอยากทำอัลบัม พูดได้เลยว่าเสียงเพลงนั้นคือชีวิตของเขา ซึงรีจึงไม่อยากมีปัญหากับคนในวง ไม่งั้นวงที่เขาและเพื่อนสร้างมาด้วยกัน ความฝันของเขาและเพื่อนมันพังด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“ว่าไงล่ะ จะถามเรื่องเดิมอีกรึเปล่า”
“อือ พี่ท้อปเป็นไงบ้าง กับคนนั้น…. เค้าดูแลดีรึเปล่า”
อีกแล้ว ถึงแม้จะไม่ค่อยได้คุยกับน้องชายตัวเองเท่าไหร่ แต่เจอกันทีไรจินวูก็จะถามถึงเรื่องเดิมๆ
จินวูกับท้อปเลิกกันไปนานแล้วก็จริง ท้อปนั้นดูไม่เป็นอะไรเลยตั้งแต่วันที่เลิกกัน ตรงข้ามกับจินวู น้องชายเขาถามตลอดเกี่ยวกับอดีตคนรัก เยื่อใยสัมพันธ์ที่ท้อปนั้นสร้างเอาไว้ให้จินวูมันทำให้เขายังคงติดบ่วงรั้นนั้นไม่ไปไหน
‘พี่ท้อปสบายดีมั้ย’
‘ร้องไห้บ้างรึเปล่า’
‘คนนั้นทำให้พี่ท้อปยิ้มได้ใช่มั้ย’
ประโยคเดิมๆจากปากคนเดิมๆนั้นออกมาทุกครั้งที่ได้เจอกับจินวู เขารู้ รู้ดีว่าเพื่อนของเขานั้นไม่เคยแคร์ความรู้สึกจินวูเลย มีแต่จินวูที่แคร์อยู่ฝ่ายเดียว เขาอึดอัด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ใจนึงก็อยากบอกจินวูว่าไม่ต้องสนแล้ว เลิกคิดได้แล้วแต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะอีกใจนึงก็เป็นห่วงว่าจินวูจะรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ คำพูดมากมายในหัวของซึงรีคงจะเฉยๆสำหรับคนอื่น แต่กับจินวูแล้วคงทำลายความรู้สึกได้ไม่น้อย เขาได้แต่ทำเหมือนเช่นทุกครั้งทุกครั้งที่เคยทำ ส่งยิ้มบางให้จินวูแล้วตอบประโยคเดิมๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ท้อปสบายดี”
ขยี้หัวจนเจ้าตัวเผลอหลุดยิ้มออกมา
…..รอยยิ้มที่สดใส แต่ไม่รู้ว่าภายในรอยยิ้มที่ถูกปกปิดไว้มันมืดมนมากเพียงใด….
เฮลโหลวว พี่ท้อปออกมาแล้วนะทุกคน อดีตที่แสนโหดร้ายของจินวูจะเป็นยังไงมาติดตามกันต่อไปเนอะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามฟิคเรื่องนี้น้า ถึงจะน้อยแต่ไม่เป็นไร ทุกยอดวิวที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นกำลังใจให้ไรต์แต่งต่อไป ถึงจะคนสองคนไรต์ก็ดีจัยย อิ้อิ้
ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกแชร์ทุกวิวเลยน้า รักทุกคนที่หลงเข้ามาเล้ย จุ้บๆ
ความคิดเห็น