คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : Past
Chapter 3 : Past
“มินโฮ มานี่เร็ว”
“โห่ย อีกแล้วอ้ะ นัมนัมเราเหนื่อยแล้ว”
“ไม่งั้นเราจะฟ้องคุณน้า”
เด็กชายคิ้วตกวัย7ขวบยิ้มร่ากระโดดโหยงเหยงกวักมือเรียกเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่บนก้อนหินใหญ่
“รอบสุดท้ายแล้วนะ”
“อื้ม ฮึบ”
“จับแน่นๆล่ะ จะไปแล้วน้า”
“ฮ่าๆ”
แทฮยอนกระโดดขึ้นขี่หลังร่างสูงแล้วหัวเราะคิกคักชอบใจ แต่มินโฮที่ตอนนี้สีหน้าไม่ค่อยดีเพราะความเหนื่อยจากการที่แบกเด็กขี้งอแงบนหลังมาหกรอบแล้ว
“ลมเย็นจังเล้ย มินโอวิ่งเร็วเข้า คิกคิก”
คุณนายนัมและคุณนายซงเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย และบังเอิญว่าตอนโตยังมาปลูกบ้านที่ปูซานใกล้ๆกันอีก พอมีลูก ลูกของทั้งสองคนก็อายุเท่าๆกันด้วย เธอทั้งคู่จึงให้เด็กทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ
ทุกๆวันหยุดเสาร์อาทิตย์คุณนายซงต้องไปดูแลกิจการโรงแรมที่พ่อของมินโฮดูแลอยู่ มินโฮจึงถูกฝากไว้ที่บ้านแทฮยอนบ่อยครั้ง
คุณนายนัมเอ็นดูมินโฮเหมือนลูกแท้ๆ เลี้ยงดูมินโฮเหมือนเป็ฯลูกอีกคน เพราะมินโฮแก่กว่าแทฮยอนแค่สองเดือน สองคนนี้จึงสนิทกันได้ง่าย เรียกได้ว่าสองครอบครัวนี้สนิทกันจนแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว แทฮยอนและมินโฮใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน อาบน้ำด้วยกันก็เคยมาแล้ว และความสนิทจากสถานะพี่น้องสองเดือนเลยกลายมาเป็นเพื่อน เพื่อนสนิทและ……
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ฤดูใบไม้ผลิกลางเดือนกุมภาพันธ์ วันนี้เป็นวันจบการศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 แถมปีนี้ยังตรงกับเทศกาลแห่งความรักอีกด้วย กุหลาบหลากสีถูกจัดขายเต็มสองข้างทางระหว่างทางมาโรงเรียน เด็กหลายคนต่างเอาสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีแดงและสีชมพูแปะให้กัน
“นัมนัม เราขอมั่งดิ เรายังไม่ได้จากนัมเลยนะ”
“อะไร นายอะมีเยอะที่สุดละ ดูดิ ไม่มีที่ให้เราแปะแล้วมั้งน่ะ”
เด็กชายผิวคล้ำที่ตอนนี้เสื้อนักเรียนสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะถูกสติ๊กเกอร์สีแดงและสีชมพูแปะจนไม่มีช่องว่างอากาศให้สีขาวได้หายใจเลย มินโฮเดินมาหาร่างเล็กที่กำลังแปะสติ๊กเกอร์รูปดอกไม้ให้เพื่อนอยู่ มินโฮกระตุกชายเสื้อแทฮยอนหลายต่อหลายครั้ง แต่คนคิ้วตกก็ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเลย
“งึ้ยย กระตุกจังเลย อะ เอาไป เหลือดวงสุดท้ายพอดีเลยเนี่ย”
สุดท้ายคนคิ้วตกก็หมดความอดทนหันมาแกะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจดวงใหญ่ที่สุดดวงสุดท้ายที่ตอนแรกเขากะจะเหลือไว้แปะให้ตัวเองเอาไปแปะไว้ที่หน้าอกของร่างสูง
รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของมินโฮ จากยิ้มน้อยๆก็กลายเป็นฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่แต่ร่างสูงก็ค่อยๆหุบยิ้มลงเหมือนเดิม
“เป็นไรเนี่ย เราก็ให้ไปแล้วไง หน้าบูดเป็นตูดหมูทำไม”
แทฮยอนเอามือจับแก้มนิ่มทั้งสองข้างของมินโฮแล้วดึงยืดออกและหุบเข้าไปมาเหมือนเยลลี่
“เราไม่ได้ขอสติ๊กเกอร์ซะหน่อย เราขอนี่”
มินฮพูดพร้อมเอานิ้วจิ้มที่หน้าอกข้างซ้ายของแทฮยอนซึ่งเป็ฯตำแหน่งที่หัวใจอยู่พอดี
สิ่งผิดปกติข้างในอกข้างซ้ายของแทฮยอนสั่นรัว ผิวสีมะลิเริ่มเปลี่ยนเป็นอมชมพูระเรื่อสีทับทิม ถึงมินโฮจะเคยพูดเรื่องแบบนี้กับแทฮยอนบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้มินโฮดูจะจริงจังกว่าปกติ แทฮยอนสัมผัสได้
“อะ อะ อะไรของนายเนี่ยะ”
“เขินอะดิ้ ฮ่าๆ”
แทฮยอนไม่ตอบ ได้แต่อายมุดหน้าเอาคางชิดอกอยู่อย่างนั้น เขาเลือกที่จะเงียบมากกว่าตอบรับหรือปฏิเสธ ความเงียบเข้าปกคลุมคนทั้งสองอยู่สักพัก และในที่สุดมินโฮก็ได้เป็นคนพูดทำเลยความเงียบนั้น
“แทฮยอน”
“หื้ม”
“เย็นนี้แวะร้านไอติมก่อนกลับแปปนึงดิ นะ”
“อื้ม ได้ วันนี้ไม่มีการบ้านอยู่แล้ว กลับช้าแม่คงไม่ว่าอะไร”
แทฮยอนตอบรับและส่งยิ้มกว้างจนคิ้วลู่ตกให้ร่างสูง
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
สวนสาธารณะยามเย็นเป็นสถานที่ที่คู่รักหลายคู่เลือกที่จะมาในวันแห่งความรักเช่นวันนี้ กลิ่นหอมไอดินและดอกหญ้า ลมอ่อนๆและไอเย็นจากลำธารข้างๆทำให้เพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกเข้าไปอีก ไม่แปลกที่เวลานี้สวนสาธารณะแห่งนี้จะมีคนเยอะ ใต้ต้นไม้ทุกต้นแทบจะมีคนมาจับจองทุกที่นั่ง แต่มันไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับมินโฮและแทฮยอน เขาสองคนแทบจะรู้ทุกซอกทุกมุมของสวนสาธารณะแห่งนี้ เกือบทุกเย็นที่เขาทั้งสองจะมาเดินเล่นรับลมเย็นและคอยจะหาที่แปลกๆใหม่ๆอยู่เรื่อย
หลังจากที่มินโฮได้กินไอติมอิ่มจนพุงกางแล้ว เขาบอกแทฮยอนว่าอยากมาเดินเล่นรับลมซึ่งแทฮยอนก็ยอมตามมาโดยไม่ขัด คงเห็นว่าวันนี้บรรยากาศดีเลยไม่ได้อยากรีบกลับบ้านนัก
เด็กชายสองคนเดินมาหยุดที่ก้อนหินก้อนใหญ่สองก้อนข้างแม่น้ำที่ประจำของทั้งสอง มินโฮหยุดยืนและปล่อยตัวนอนลงที่พื้นหญ้ากลิ้งไปกลิ้งมา การกระทำของมินโฮทำให้ร่างเล็กเอือมระอา ถ้าเป็นคนอื่นเห็นมุมนี้ของมินโฮคงจะมองว่าน่ารัก แต่สำหรับแทฮยอนนั้นคงไม่เพราะเขาเห็นจนชินแล้ว น่ารักกว่านี้ยังเคยเห็น เขายิ้มให้กับความงุ้งงิ้งของร่างสูง ส่ายหน้าน้อยๆแล้วค่อยๆนั่งลงข้างๆมินโฮ
“นายนี่ปัญญาอ่อนขึ้นทุกวัน”
“ปัญญาอ่อนแล้วน่ารักปะ”
“ถ้าเป็นคนอื่นทำก็คงน่ารัก แต่ถ้าเป็นนายก็ไม่”
“หึ่ย แทฮยอนอะ”
“ฮ่าๆ”
ก็มันจริงๆ แค่นอนกลิ้งแค่นี้มันยังไม่น่ารักหรอก สำหรับแทฮยอนแล้วแค่นี้ยังน้อยไป ท่าอื่นน่ารักกว่าตั้งเยอะทำไมไม่ทำ ความจริงมินโฮทำท่าอะไรมันก็น่ารัก เพียงแต่เขาอยากแกล้งคนร่างสูงให้หงุดหงิดเล่นก็เท่านั้น มีหรอคนฟอร์มเยอะอย่างแทฮยอนจะพูดคำว่าน่ารักต่อหน้ามินโฮ
ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ คนคิ้วตกได้แต่นั่งดึงต้นหญ้าเล่นทีละต้นสองต้นจนจะหมดสนามอยู่แล้ว ส่วนมินโฮก็ได้แต่นั่งยิ้มอยู่กับตัวเอง ในตอนนี้มีเพียงเสียงจิ้งหรีดและเสียงน้ำกระทบฝั่งเท่านั้นที่ไม่ทำให้บรรยากาศเงียบเกินไป
เวลาผ่านไปสักพักมินโฮก็หันไปหยิบกล่องกระดาษเล็กในกระเป๋าออกมาซ่อนไว้ข้างหลังตัวเอง
“นัม”
“หืม”
“เอ่อ….นายให้สติ๊กเกอร์ฉันแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้ให้อะไรนายเลย”
“ห่ะๆ ไม่เป็นไรหรอก ความจริงฉันก็ไม่ได้ตั้งใจให้อยู่แล้ว”
แทฮยอนหัวเราะและแลบลิ้นปลิ้นตาใส่มินโฮที่ตอนนี้หน้าหงอยเพราะโดนแทฮยอนแหย่เล่น
“อ่ะนี่”
สร้อยคอสีเงินเส้นเล็กที่มีตัว M ห้อยอยู่ส่องประกายวิบวับเมื่อโดนแสงจากดวงจันทร์
“สวยปะ”
ร่างเล็กไม่ตอบ ได้แต่นั่งอึ้งมองสร้อยเส้นนั้นตาไม่กระพริบ ดูจากสีหน้าแทฮยอนตอนนี้แล้วไม่บอกก็รู้แหละว่าสวยมากและชอบมาก
“ม่ะ ฉันใส่ให้”
มินโฮเขยิบเข้าไปใกล้แทฮยอน มือใหญ่เอื้อมไปอ้อมรอบคอคนตัวเล็กใบหน้าของมินโฮโน้มเข้าไปใกล้หูของคนตัวเล็กเพื่อจะดูว่าใส่ถูกรึยัง ไออุ่นของลมหายใจจากคนคิ้วตกเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆแต่มันกลับให้ความอบอุ่น และความรู้สึกที่ดีมากอย่างบอกไม่ถูก
“อ่ะ เสร็จแล้ว”
มินโฮเขยิบตัวออกมาสำรวจความเรียบร้อยของคนคิ้วตกหลังจากใส่สร้อยให้เสร็จแล้ว
“สวยจริงๆ เหมาะกะนายมากเลยนะเนี่ย”
แทฮยอนยิ้มกว้างเพราะคำชมของร่างสูง
“นี่ ฉันก็มี”
มินโฮหยิบสร้อยอีกเส้นที่เหมือนกับที่แทฮยอนใส่ออกมาจากกล่องกระดาษใบเดียวกัน แต่สร้อยของมินโฮห้อยตัว T
“ที….เอ็ม…”
“แทฮยอนกับมินโฮไง”
ดวงตาเรียวเล็กมองหน้ามินโฮ แทฮยอนมองจ้องลึกไปในดวงตาคม ภายในแววตานั้นแฝงไปด้วยความจริงใจและความอ่อนโยน แทฮยอนรู้ได้ว่ามินโฮจริงจังแล้วไม่ใช่เล่นๆเหมือนเมื่อก่อน
“เป็นแฟนกันนะแทฮยอน”
ร่างเล็กได้แต่หน้าแดง เขินจนทำอะไรไม่ถูกแม้กระทั่งจะตอบตกลงหรือปฏิเสธ มือเล็กป่ายไปมาจนไปดึงต้นหญ้าข้างๆตัวเองอีกแล้ว วันนี้หญ้าคงหมดสนามแน่ๆ
“ตะ…แต่ ถ้าแม่พวกเรารู้ เขาจะรับได้หรอ”
“เชื่อใจเราสิ ถึงวันนั้นแม่ต้องเข้าใจพวกเรา”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
เวลาผ่านเลยไปสองสัปดาห์ แทฮยอนกับมินโฮก็เริ่มแสดงพฤติกรรมของแฟนออกมามากขึ้น
-กีจมบูรีจีมานอแตมเม นันแมอิลแมอิลบูลอนเน เอ เอ เอ่~~~~~-
เสียงริงโทนจากโทรศัพท์สีดำเครื่องสวยโชว์รูปแทฮยอนยิ้มกว้างชูสองนิ้วขึ้น
“ฮัลโหล”
“มินโฮ”
เสียงเหนื่อยจากปลายสายทำให้สีหน้ามินโฮแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่สบายหรอนัม”
“งือ เนี่ยะ วันนี้แม่ว่าจะพาไปเที่ยวด้วย เค้าดันไม่สบายซะงั้น อดไปเลย”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวถ้าหายแล้วซงคนนี้จะพาไปเที่ยวเอง”
“จริงนะ”
“จริงสิ เค้ารักตัวเอง ไม่โกหกตัวเองหรอกน่า”
“มินโฮ”
“ฮะ…อะ ครับ”
มินโฮสะดุ้งเพราะเสียงเรียกของแม่ เขารับซ่อนโทรศัพท์ที่กำลังคุยค้างกับแทฮยอนอยู่ไว้ด้านหลัง
“มินโฮ”
“คุยกับใคร”
“แทฮยอนไงแม่ มันป่วยอยู่บ้าน เหงาเลยโทรมาหาผม”
“แล้วเมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ รัก รักอะไร”
“อะ…เอ่อ เปล่านี่ครับ”
“อย่ามาโกหกมินโฮ”
สายตาจริงจังของคุณนายซงทำให้มินโฮไม่กล้าโกหก เขาไม่อยากผิดบังความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแทฮยอนอีกต่อไป ตอนนี้ความคิดในหัวมินโฮกำลังตีกัน ‘ถ้าบอกไปแล้วแม่ไม่ยอมรับล่ะ’ ‘แต่คนรักกัน แม่น่าจะเข้าใจนะ’ เขากระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่ และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ
“ผมเป็นแฟนกับแทฮยอน”
ราวกับมีลูกธนูแล่นมาปักเข้าที่กลางอกของคุณนายซง เธอแทบยืนไม่อยู่เพราะคำพูดที่ออกมาจากปากลูกชายเมื่อครู่
“ไปเลิกกันเลยนะ ลูกจะรักกับผู้ชายได้ยังไง ผู้ชายก็ต้องคู่กับผู้หญิงสิถึงจะถูก”
“แต่แม่…”
“แทฮยอนกับลูกก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน แม่ไม่คิดเลยนะว่าอะไรๆมันจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ได้”
“แต่ผมรักแทฮยอน”
“มินโฮ ลูกเป็นไส้เดือนหรอ ชายกับชายมันอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกนะ เชื่อแม่สิ มีลูกด้วยกันก็ไม่ได้ สังคมก็ไม่ยอมรับ ไปที่ไหนก็มีแต่คนรังเกียจ ลูกอยากเป็นตัวตลกรึไงฮะ”
มินโฮหน้างอลง ไม่แม้แต่จะพูดโต้ตอบแม่ออกไปได้อีก
“เชื่อแม่นะมินโฮ เลิกกับแทฮยอนซะ”
มินโฮยืนนิ่งเงียบและเช่นเดียวกับปลายสายที่ตอนนี้มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ มินโฮลืมไปว่ายังไม่ได้วางสายจากแทฮยอน ร่างเล็กที่คิ้วตกอยู่แล้วพอร้องไห้ก็ยิ่งตกมากเข้าไปใหญ่ แทฮยอนรู้ ร็ว่ายังไงแม่ของมินโฮต้องไม่ยอมรับ แต่ถึงแม้เขาจะยอมรับได้ในความคิด พอมาเจอกับตัวเองจริงๆเขากลับทำไม่ได้ ร่างเล็กได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ แทฮยอนกดตัดสายมินโฮ เพราะถ้ายิ่งอยู่ฟังต่อ คำพูดเหล่านั้นมันก็ยิ่งบั่นทอนและกัดกินหัวใจของเขาเอง
“ฮึก แม่”
“เป็นอะไรลูก”
“ฮึก ผะ ผมขอย้ายโรงเรียนได้มั้ย ยะ ยะ ยายไปไกลๆเลย ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ ฮึก นะแม่นะ ย้ายโรงเรียนให้ผมนะ ฮึก ฮึก ฮือ”
น้ำตาของลูกผู้ชายไหลอาบรินแก้มสวย ในเมื่อมันทนไม่ไหวก็ต้องปล่อยออกมา เก็บไว้ก็มีแต่จะแย่
จนถึงวันนี้ ความคิดที่ว่าเขาเป็นไส้เดือน เขามันเป็นสัตว์ประหลาดก็ยังติดอยู่ในหัวของแทฮยอน ที่เขาย้ายโรงเรียนมาไกลๆก็เพราะอยากที่จะอยู่ห่างจากมินโฮให้มากที่สุด มินโฮเป็นถึงลูกเจ้าของโรงแรม เขาควรมีชีวิตที่ดี เขาควรได้รักกับคนที่เหมาะสมกับเขา มินโฮไม่ควรต้องมาเป็นตัวตลกเพราะเขาแบบนี้ มินโฮไม่ควรแปดเปื้อน เขาจะไม่เป็นตัวถ่วงชีวิตของมินโฮอีก
ตั้งแต่วันนั้น จากที่แทฮยอนเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส ชอบหัวเราะและวิ่งเล่นไปมา ยิ้มจนคิ้วตกทุกครั้ง แต่ตอนนี้แทฮยอนกลับเป็นเด็กเงียบขรึม ไม่สุงสิงกับใคร พยายามอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว จนกระทั่งเขาขึ้นม.1และได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมัธยม YG นี้ เขาก็มีจินวู เด็กชายร่างเล็กท่าทางบอบบางคนนี้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา คอยเป็นน้ำตาลเติมความหวานให้แทฮยอน เป็นคนที่คอยไม่ทำให้ชีวิตแทฮยอนหม่นหมองไปมากกว่านี้ เป็นคนที่ทำให้ชีวิตของแทฮยอนสดใสกว่าเดิมอีกครั้ง
~~~~~คุยกันหน่อย~~~~~
แท่แด้ ตอนสามแล้วน่อวว เอฟซีนัมซงอ่านเต็มๆเลยนะตอนนี้ อดีตที่น่าหดหู่ของแทฮยอนฮับ น่าสงสารเนอะ แม่มินโฮนี่ก็ใจร้าย พูดตัดเยื่อใยได้อย่างน่ากลัวมาก
แล้วก็รีดทุกคนนน ไรต์มีเรื่องมาบอก บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคอมเม้นท์ไม่ได้ คือไรต์โง่เอง ไปปิดตั้งค่าการแสดงความคิดเห็นของนิยาย โอ้ยยย ไรต์ก็ว่าทำไมไม่มีคนมาเม้นท์เลย หดหู่มาก งื้ออ นี่มีมาเม้นท์นึงไรต์ดีใจบ้านแทบแตก ฮ่าๆๆ ยังไงก็ฝากฟิคเรื่องนี้ให้ทุกคนติดตามด้วยนะคะ นี่แค่เริ่มแรกเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่มีอะไรมาก ไปแบบเนิบๆ แต่หลังๆเข้มข้นแน่นอนรับรอง ตอนหน้ามียุนวูเหมือนเดิมนะ บางคนอาจน้อยใจที่ตอนนี้มีแต่นัมซง ตอนหน้ายุนวูคัมแบ็คแน่นอนจ้า ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกวิวและทุกแชร์นะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนเล้ยยยย // ปาหัวใจรัวๆ
ความคิดเห็น