คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 16 : Confident
Chapter 16 : Confident
ขึ้นปีการศึกษาใหม่ด้วยเช้าที่สดใส จินวูย้ายของตัวเองกลับมาหอเดิมเพราะแทฮยอนก็ย้ายกลับมาแล้วด้วยเหมือนกัน ไม่มีจูบที่หน้าผากตอนตื่นนอน ไม่มีสัมผัสอุ่นๆที่แก้มนิ่ม ไม่มีกอดอุ่นๆคอยปรับอุณหภูมิร่างกายเวลาหนาว มีเพียงแสงสีทองจากพระอาทิตย์ที่คอยส่องรำไรมารังควาญใจตอนตื่นนอนเท่านั้น แต่ถึงอย่างนันก็ยังมีข้อความที่ส่งมาตอนเช้าแทน ชดเชยสิ่งที่เคยมีและขาดไป
-Seungyoon : กู๊ดมอร์นิ่งนะตัวเล็ก-
ยิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้รับข้อความจากซึงยุน แค่ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวก็ทำให้หัวใจสั่นไหวได้ไม่แพ้ตอนอยู่ด้วยกันเลยสักนิด จินวูอมยิ้ม แก้มขาวมีสีเลือดฝาดระเรื่อขึ้นนิดหน่อย มือยาวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาสไลด์ปลดล็อคหน้าจอและพิมพ์ข้อความส่งกลับคนที่ส่งมาหาตน
-Jinwoodeer : มอร์นิ่งคนปากบวม (สติกเกอร์กวางแลบลิ้น)-
เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ทำให้เพื่อนร่วมห้องอย่างแทฮยอนต้องตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ขยี้ตาแล้วยันกายให้ลุกขึ้น มองคนตัวเล็กที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และง่วนอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์
“ซึงยุนหรอ” เอ่ยถามด้วยเสียงงัวเงียทั้งๆที่ตาเรียวเปิดเพียงครึ่งเดียว
“อื้อ” ตอบเพื่อนรักโดยไม่ละสายตาจากโทรศัพท์เครื่องใหญ่ แทฮยอนส่ายหัวน้อยๆให้จินวู เพื่อนของเขากำลังไปได้ดีกับความรักครั้งใหม่เขาก็ดีใจ อย่างน้อยเขาก็เป็นส่วนช่วยด้วยในความรักครั้งนี้ และแทฮยอนหวังว่าซึงยุนคงไม่ทำให้จินวูผิดหวังเหมือนคนที่แล้วมา
เปิดเทอมใหม่กับห้องเรียนใหม่และเพื่อนหน้าเดิมๆ จินวูและแทฮยอนเดินไปโรงเรียนกันตามปกติ เข้าห้อง จัดการเอากระเป๋าวางบนโต๊ะที่นั่งของตัวเอง แล้วหยิบไม้กวาดมาทำเวรเป็นกิจวัตร เพราะมาโรงเรียนกันเช้าเกินไป หน้าที่ทำความสะอากห้องจึงตกเป็นของจินวูอซึ่งคนตัวเล็กก็เต็มใจทำไม่มีอิดออด ทำเป็นปกติเหมือนทุกๆปี ส่วนแทฮยอน รายนั้นไม่มมีใครมาบังคับเค้าได้อยู่แล้ว พอวางกระเป๋าเสร็จร่างบางก็เดนตัวปลิวออกไปสำรวจข้างล่างตึกเล่น จินวูส่ายหน้าน้อยๆให้เพื่อนของเขา แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะรู้นิสัยแทฮยอนดี
เสียงฮือฮาจากห้องข้างๆทำเอาแทฮยอนหยุดชะงัก ขายาวเปลี่ยนทิศที่จะเดินลงตึกไปยังทางห้องม.5/2 แล้วแทฮยอนก็ต้องตกใจไม่ต่างจากคนอื่นในห้องนี้
บ๊อบบี้ หรือ คิมจีวอน นั่งอยู่หลังห้องในวงล้อมนักเรียนคนอื่นๆที่มุงดูอยู่ คงเป็นที่ฮือฮามากที่จีวอนกลับมาเรียน เพราะปีที่แล้วหนึ่งปีเต็มๆจีวอนดร็อพเรียนและไปอยู่ในห้องขังมา เนื่องด้วยเหตุใดไม่มีใครทราบ มีแต่ข่าวลือที่ออกมาว่าจีวอนนั้นค้ายาเสพติด จริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้ แต่ถึงยังไงมันก็เป็นที่สร้างความหวาดกลัวให้เพื่อนรอบข้างอยู่ดี
ถึงแทฮยอนนั้นจะไม่ค่อยได้รู้จักมักจี่กับจีวอนเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้จักได้จากชื่อเสียงเรียงนามที่ดังกระฉ่อนไปทั่ว เขาไม่เคยคุยหรือสนิทกับจีวอนเป็นการส่วนตัว เลยไม่ค่อยอยากที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้มาก นิสัยเดิมของจีวอนอาจจะดีก็ได้ใครจะไปรู้ แค่โดนลือว่ามีคดีก็เท่านั้น ถึงแทฮยอนจะคิดในแง่ดีแบบนั้น แต่เขาก็ไปบังคับให้คนอื่นมีความคิดเหมือนตัวเองไม่ได้ สู้อยู่ห่างๆ คอยฟังเรื่องแบบหูไว้หูน่าจะดีกว่า
“อ้ะ อ่ะ ยุนฮุน ตกใจหมด” ซึงฮุนตบเบาๆที่บ่าเล็ก แต่ก็ทำเอาแทฮยอนที่กำลังเกาะขอบหน้าต่างมองดูกลุ่มคนไทยมุงอยู่นั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“หวัดดีมินโฮ” เปลี่ยนเป็นเสียงหวานทันทีเมื่อสบเข้ากับดวงตาคม ชายร่างหนาส่งยิ้มกว้างให้แทฮยอนเหมือนที่เคยทำเช่นทุกวัน
“จ่ะ เสียงเปลี่ยนทันทีเลยนะมึง” ซึงฮุนเบะปากแซวเพื่อนคิ้วตกอย่างอดไม่ได้
“มายืนทำอะไรลับๆล่อๆตรงนี้คนเดียว แล้วจินวูหายไปไหน” ถามถึงคนตัวเล็กทันทีที่เจอหน้าแทฮยอน แหม่ปิดเทอมก็เจอกันทุกวันอยู่แล้ว นี่กะจะให้ตัวติดกันตลอดเวลาเลยใช่มั้ย แทฮยอนล่ะหมั่นไส้
“เพื่อนเก่ากลับมาเรียนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก ส่วนจินวูก็ทำเวรอยู่ในห้องนั่นล่ะ” ตอบปัดไปถึงสาเหตุที่เขามายืนเกาะขอบหน้าต่าง เพราะถึงบอกว่าเป็นใคร เพื่อนเขาทั้งสามคนก็คงไม่รู้จักอยู่ดี
“อ่อ งั้นฉันไปหาจินวูก่อนนะ” ซึงยุนพูดเสียงยิ้ม ก้าวขายาวเดินไปยังห้องตัวเองเพื่อไปหาคนตัวเล็ก ทำเอาเพื่อนอีกสามคนส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมติดแฟนแจของซึงยุน
ซึงยุนและซึงฮุนก้าวเข้ามาในห้องและสวนกับจินวูที่กำลังจะเอาขยะไปทิ้งพอดี
“อ้าว จินวูจะไปไหน”
“เอาขยะไปทิ้งน่ะ”
“อ้ะๆ แปปนึง” ขายาวก้าวเร็วๆไปที่โต๊ะของตัวเอง วางกระเป๋าแล้วรีบเดินออกไปนอกห้อง แย่งไม้กวาดและที่โกยมาจากมือจินวูแล้วเดินไปทิ้งขยะด้วยกัน ซึงฮุนมองภาพตรงหน้าแล้วก็ได้แต่เบะปาก เยี่ยมไปเลย สวีทกันหวานกว่าน้ำตาลอีก นี่กูว่ากูอุตส่าห์หลบจากคู่นั้นมาได้แล้วนะ ซึงฮุนได้แต่ถอนหายใจ ตาเรียวสอดส่องหาที่พึ่งสุดท้ายของตัวเอง
“ฮงซอก มานั่งทำหน้าโง่ไรอยู่ตรงนี้ หนังสือไม่ต้องไปอ่านมันหรอก ไป ไปซื้อขนมกับกู” ไม่ว่าเปล่า มือเรียวสอดเข้าไปใต้ปกหนังสือแล้วปิดมันอย่างรวดเร็ว มืออีกข้างก็จับข้อมือฮงซอกให้ลุกตามไปทันที การกระทำตรงหน้ามันเร็วมากจนฮงซอกไม่ทันรู้ตัวว่าตอนนี้ได้มาอยู่หน้าร้านขนมแล้ว
…..ฮงซอกโดนรังแกอีกแล้วครับพระเจ้า…..
“เป็นไง เมื่อคืนนอนสบายเปล่า” เสียงนุ่มเอ่ยถามคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ
“สบายดิ้ ถามไรแปลกๆ หอฉันเองนะ ทำไมจะไม่สบาย” ส่งแววตางุนงงกลับไปยังซึงยุน
“ก็ไม่มีกอดอุ่นๆของฉันแล้วมันจะสบายเหร้อ โอ๊ย” ถูกฝ่ามือเล็กตีเข้าที่แขนทันทีที่ซึงยุนพูดคำว่ากอด
“พูดเบาๆสิ ฉันอาย” คนตัวเล็กขมวดคิ้วด้วยความกลัว กลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน แน่นอนว่าสำหรับจินวูแล้วมันเป็นเรื่องน่าอาย แต่ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนสำหรับคังซึงยุน
“อายก็อายไปดิ หน้านายตอนอายน่ารักที่สุด แก้มแดงๆ ปากยื่นๆ ฮ่าๆ น่ารัก” ไม่วาย มือเรียวยังยกมาจับตามตำแหน่งต่างๆ จากแก้มกลมแดงแจ๋สองข้าง ไปยังริมฝีปากล่างที่ยื่นออกมาน้อยๆ
“ซึงยุน!!!”
ทุกการกระทำของทั้งคู่ แน่นอนว่ามันเป็นพฤติกรรมของแฟนทั่วไปที่เห็นได้ในโรงเรียน แค่นี้ดูธรรมดามาก จึงไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่นัก แต่ภาพเหล่านั้นมันยังคงติดตรึงอยู่ในสายตาของใครบางคนที่ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ตัว
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
มื้อกลางวันแรกของเทอมนี้อาจจะดูแปลกหูแปลกตากันไปสักหน่อย เพราะจากเดิมที่มากินกันห้าคน แต่วันนี้มีฮงซอกเพิ่มเข้ามาจากการลากของซึงฮุน ฮงซอกผู้น่าสงสาร ที่ปกติไปกินข้าวคนเดียวอยู่แล้ว เลยปฏิเสธคำขอแกมบังคับของซึงฮุนไม่ลง
“อะ ให้” ซึงยุนคีบปลาหมึกของโปรดจินวูใส่จานของคนตัวเล็ก
“อะ งั้นเอานี่ไป” จินวูที่ไม่ชอบกินมันหมูตักหมูติดมันใส่จานคนตรงหน้า ส่งยิ้มกว้างให้เช่นเคย แลกของและกยิ้มกันไปมาจนซึงฮุนหมั่นไส้
“มาแล้วๆ น้ำส้มสองแก้วของจินวูกับซึงยุน น้ำเปล่าของฮุน น้ำเขียวของฮงซก แล้วก็….น้ำแดงของนายมินโฮ” เปลี่ยนเป็นเสียงหวานทันทีที่พูดชื่อมินโฮ ซึงฮุนเบะปากแล้วทำท่าจะร้องไห้ พระเจ้าครับ ทำไมทำกับผมแบบนี้ ซึงฮุนนึกโอดครวญได้แค่ในใจ ทำอะไรไม่ได้ และแน่นอนว่าที่ระบายภายนอกของเขาก็คือ……
“ฮงซอก ฉันอยากกินปูอัด” ฮงซอกที่กำลังซดบะหมี่ใส่ปูอัดอย่างเอร็ดอร่อยเงยหน้าขึ้นมามองคนตาตี่ที่จ้องเขาแบบอาฆาต
“ซื้อดิ้ นู่น คิวน้อยแล้ว รีบไปดิเดี๋ยวคนเยอะ” โบ้ยหน้าไปทางร้านบะหมี่ที่เขาซื้อมาแล้วซดบะมี่ต่อ
“ไม่อยากซื้อ จะกินตอนนี้” ว่าพลางหยิบตะเกียบคีบปูอัดชิ้นสุดท้ายนานฮงซอกไปอย่างทันควัน ฮงซอกที่รู้ชะตาตัวเองอยู่แล้วก็ได้แต่นั่งมองซึงฮุนเคี้ยวปูอัดตุ้ยๆและผิวปากอย่างได้ชัย
……อย่างน้อยก็มีฮงซอกเป็นที่ระบายอารมณ์ของซึงฮุน…..
เวรเก็บจานยังคงวนเวียนตามคิวอยู่เหมือนเดิม และวันนี้ก็ตกเป็นของซึงยุน หน้าที่เก็บจานต้อนรับเปิดเทอม
“โอ๊ะ อะ ขอโทษฮะ” กล่าวขอโทษทันทีเมื่อเดินชนเข้ากับคนแปลกหน้า ซึงยุนเดินไม่มองทางเพราะมัวแต่มองจานที่ซ้อนกันจนสูงใหญ่พะเนินเทินทึกบนมืออยู่ ก้มหัวนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อเห็นว่าน้ำซุปได้หกใส่คนที่ตัวเองเดินชนไว้ด้วย
“ไม่ต้องหรอก” เสียงเรียบเอ่ยออกมา ซึงยุนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เอาเรื่อง
“หึ มาอยู่นี่เองหรอกหรอ” คำพูดชวนงงบวกกับสีหน้าเรียบนิ่งทำเอาซึงยุนไปไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งจ้องมองชายแปลกหน้าอยู่ฝ่ายเดียว
“เอ่อ….เราเคยรู้จักกันหรอครับ” ถามออกไปอย่างสุภาพแล้วยกจานไปวางที่ซิ้งค์
“มึงจำกูไม่ได้รึไง” น้ำเสียงเย็นชาแปลกหูที่ทำให้ซึงยุนต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง น้ำเสียงแบบนี้ทำให้ซึงยุนนึกถึงวันนั้น วันนั้นในซอยเปลี่ยว ซึงยุนไม่มั่นใจซะทีเดียวว่าคนๆนี้จะใช่หนึ่งในสองคนที่ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดในวันนั้นรึเปล่า แต่ดูจากท่าทาง คำพูด และน้ำเสียงแล้ว ไม่ผิดแน่
“คิมจีวอน ชื่อกู…จำใส่หัวเถิกๆของมึงไว้”
“อะ เอ่อ…”
“เย็นนี้อยู่คุยกับกูหน่อย”
“มาซะ…ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ขายาวที่เตรียมก้าวเดินออกจากที่ตรงนั้นต้องหยุดชะงักขึ้นเพราะประโยคเมื่อครู่ของจีวอน ร่างสูงยื่นมีดพกออกมากกระเป๋ากางเกง ซึงยุนหน้าซีดลอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจีวอนก็เดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะเย้ยหยัน
“ซึงยุน เสร็จยัง ไปกันออดใกล้ดังแล้ว” เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำลายภวังค์ความกลัวของซึงยุน มือเล็กสอดประสานเข้ามากุมมือใหญ่ของซึงยุนเอาไว้แล้วพาเดินเคียงกันกลับห้อง
“อื้อ”
…….หรือว่าลางสังหรณ์จากความฝันคืนนั้นมันจะเป็นเรื่องจริง…..
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ช่วงเรียนคาบบ่ายของซึงยุนดูจะไม่ราบลื่นเอาเสียเลย ตัวเลขในหน้าสมุดตีกันยุ่งไปหมด เสียงของซีแอลที่ตะโกนดังหน้าห้องก็ได้แค่เข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหูขวาเท่านั้น ซึงยุนเรียนไม่รู้เรื่อง จีวอนที่เขาเจอเมื่อกลางวันแทบทำให้เขาเป็นบ้า ที่เรียกเขาไปคุยตอนเย็น จะคุยเรื่องอะไร จะมาไม้ไหนซึงยุนไม่รู้เลย เรื่องในวันนั้นมันน่าจะจบแล้ว ซึงยุนไม่ได้เอาเรื่องที่ทั้งคู่ทำร้ายเขา และทั้งจีวอนกับแจ็คสันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรจากรูปถ่ายที่เขาส่งประกวดไป เรื่องมันน่าจะจบได้แล้ว แต่ทำไมจีวอนยังจุดชนวนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
สายตากวัดแกว่งไม่รู้ทิศทาง เหงื่อออกตามฝ่ามือและต้นคอ หูซีดๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึงยุนกลัว กลัวว่าอะไรมันจะเปลี่ยนไป กลัวว่าอะไรๆหลังจากนี้มันจะไม่เหมือนเดิม การแสดงออกทางร่างกายที่เปลี่ยนไปทำให้คนตัวเล็กที่นั่งข้างๆไม่สบายใจ
“ยุน”
“หืม”
“ไม่สบายรึเปล่า ดูนายไม่ค่อยโอเคนะ” ยื่นหลังมือมาแตะที่ต้นคอและหน้าผาก สัมผัสแผ่วเบาที่ผิวกายทำให้ความคิดฟุ้งซ่านของซึงยุนสลายหายไปทันที คิมจินวูคงเป็นยาสำหรับผมจริงๆนั่นแหละ
“เปล่า ฉันโอเค”
“โอเคแน่นะ”
“อื้ม” แววตาเป็นกังวลของจินวูทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกรั้นของคนตัวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว คิมจินวูน่ารักเกินไปแล้ว น่ารักเกินจนผมอยากจะเก็บไว้ดูเล่นที่บ้านคนเดียว
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
เลิกเรียนแล้ว ผมบอกจินวูว่าจะอยู่คุยงานกับอาจารย์นิดหน่อย กลัวว่าจะนานเลยให้จินวูกลับไปก่อน และคนตัวเล็กก็ไม่ได้เอะใจอะไร
ซึงยุนเดินเข้ามาที่สนามหญ้าหลังโรงเรียนที่มีซากห้องน้ำชายเก่า ร้างและใกล้จะโดนทุบทิ้งเต็มที ในใจก็นึกหวั่น กลัวทุกอย่างในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ลางสังหรณ์ซึงยุนมันบอกอย่างนั้น
คิมจีวอนในเสื้อหนังสีดำเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ตาเรียวมองซึงยุนแบบเหยียดๆ กระตุกยิ้มพร้อมกลั้วหัวเราะแล้วเดินเข้ามาหาซึงยุน
“มีอะไรก็ว่ามา”
“เลิกกับจินวูซะ” คำขู่บังคับเมื่อครู่ทำเอาซึงยุนช็อก ยืนนิ่งอึ้งไม่พูดอะไร ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเหมือนกับหยุดเต้นไปชั่วคราว ลางสังหรณ์ที่ว่ามันคงมาถึงแล้วสินะ
“จินวูไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นตายยังไงกูก็ไม่เลิก” พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วหันหลัง ไม่สนใจกับคำพูดของคนข้างหลังอีกต่อไป
“งั้นกูก็ไม่รับรองความปลอดภัยทั้งจินวู….ทั้งมึง” ประโยคเมื่อครู่ทำเอาซึงยุนหยุดชะงัก ขายาวที่เตรียมจะก้าวเดินกลับหยุดค้างในอากาศ มือเรียวกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ
“กูจะแจ้งตำรวจ กูจะแจ้งข้อหามึงเล่นยา กูจะแจ้งว่ามึง….”
“เอาสิ เอาเลย คิดว่ามีหลักฐานพอก็เอาเลย”
“….”
“หลักฐานก็ไม่มี ฟ้องไปมึงก็โดนข้อหาแจ้งความเท็จเปล่าๆ”
“….”
“ทำตามที่กูบอกซะ เลิกกับจินวู แล้วพวกมึงทั้งคู่ก็จะปลอดภัย แค่เนี้ย” ยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างได้ชัย ผิวปากและใช้สายตามองไปยังซึงยุนเชิงบังคับ
“กูจะให้เวลามึงแค่อาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว ถ้าพวกมึงสองคนยังไม่เลิกกันก็…” ซึงยุนไม่รอฟังจีวอนพูดจนจบ กำมือแน่น ดวงตาแดงก่ำจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความโกรธแล้วเดินออกมาจากที่อึดอัดตรงนั้น
เปิดเทอมวันแรก…..เดินกลับบ้านคนเดียวทั้งๆที่ควรจะมีจินวูมาอยู่ข้างๆ แต่เพราะมีไอบ้านั่น ทำให้เขาจำเป็นต้องโกหกให้จินวูกลับบ้านไปก่อน
ตอนนี้ในหัวของซึงยุนว่างเปล่าไปหมด ซึงยุนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ควรจะเริ่มจากตรงไหน ควรรีบหาหลักฐานมามัดตัวจีวอนหรือ….ควรบอกเลิกจินวู แต่อย่างหลังเขาคงไม่คิดจะทำแน่นอน แต่ถ้าเขาไม่ทำ มันคงไม่ปลอดภัยสำหรับตัวของจินวูเอง
ความคิดนับร้อยตีกันอยู่ในหัว ซึงยุนสับสน สับสนไปหมด ขอบตาเรียวเริ่มมีน้ำใสเอ่อคลอเบ้า ดวงตาใสเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความอึดอัดกดดันภายใน เรื่องๆนี้ไม่มีใครรู้ ตอนเกิดเหตุก็มีแค่เขา และชายแปลกหน้าสองคน คนนึงคือแจ็คสัน ขำได้ เพราะเคยอยู่โรงเรียนเก่าด้วยกัน และก็เป็นคนที่ปล่อยหมัดหนักใส่เขาไม่ยั้งด้วย ลีกคนหนึ่งคงเป็นคิมจีวอน คนแปลกหน้าที่เขาเพิ่งจะได้เห็นหน้าชัดๆและได้รู้จักวันนี้ เหตุการณ์วันนั้นเขาเป็นผู้ถูกกระทำ สองคนนั้นควรได้รับการลงโทษ และในวันนี้เขาก็เป็นผู้ถูกกระทำอีกเช่นกัน แต่บทลงโทษก็ยังไม่สนองถึงตัวสองคนนั้นสักที ซึงยุนไม่มีหลักฐานที่จะสาวไปถึงตัวของทั้งคู่ได้เลย กล้องวงจรปิดก็ไม่มี ภาพที่เขาถ่ายมาก็คงใช้ไม่ได้เพราะไม่เห็นหน้าคนร้าย อะไรๆดูตันไปหมด ซึงยุนหมดหนทาง หมดตัวช่วย หมดทุกๆอย่าง ซึงยุนทำอะไรไม่ได้เลย
“ครืด ครืด”
-สายเข้า : Jinwoo-
ซึงยุนยกยิ้มขึ้นเมื่อหน้าจอโทรศัพท์โชว์เบอร์ของคนที่โทรเข้า นิ้วเรียวจะสไลด์กดรับแต่ก็ต้องถูกชักกลับเพราะความสับสน ซึงยุนควรตัดไฟตั้งแต่ตอนนี้ หรือว่าควรจะทำอะไร คิมจีวอนกำลังปั่นหัวซึงยุนเข้าอย่างหนัก ซึงยุนสับสนในตัวเองไปหมด เขาทำได้แค่มองโทรศัพท์หรูที่กำลังสั่นอยู่ในมือจนหยุดลง ซึงยุนถอนหายใจออก แล้วอยู่ดีๆน้ำตามันก็ไหล หยดน้ำสร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วง ปริมาณของน้ำตาที่ไหลออกมามันยังไม่ได้ถึงครึ่งความอัดอั้นที่อยู่ในใจตอนนี้เลยสักนิดเดียว น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ที่ปิดไว้ไม่ได้
“ฮึก ฮึก ฮืออ ฉันควรจะทำยังไง จินวูฉันควรจะทำยังไง ฮือ”
“ครืด ครืด” โทรศัพท์สั่นครั้งที่สองกับเบอร์โทรเดิม เส้นความอดทนของซึงยุนของผึง นิ้วเรียวสไลด์กดรับสายแล้วเอาไปวางแนบหู
“ย๊า ซึงยุนทำไมไม่รับโทรศัพท์” เสียงใสตะโกนกรอกมาตามปลายสาย ซึงยุนอดยิ้มไม่ได้ทันทีที่ได้ยินเสียงของคนรักทั้งๆที่น้ำตาก็ยังไหลอยู่ ยิ้มทั้งน้ำตา ซึงยุนเคยได้ยินมาบ่อย วันนี้ได้เจอกับตัว มันเป็นแบบนี้สินะ
“รู้มั้ยเป็นห่วงขนาดไหนเนี่ย ถ้านายไม่รับโทรศัพท์ฉันสายนี้ฉันจะไปแจ้งคนหายกับตำรวจแล้วนะ” เสียงหวานที่ยังบ่นแต่ก็แฝงความเป็นห่วงอยู่ มันไม่ทำให้ซึงยุนรำคาญเลยสักนิด ตอนนี้เขาอยากจะที่จะได้ยินเสียงคนตัวเล็กให้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะไม่ได้ยินอีก
“ซึงยุน นายฟังอยู่รึเปล่า ซึงยุน”
‘กูจะให้เวลามึงแค่อาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว ถ้าพวกมึงสองคนยังไม่เลิกกันก็….’
“ฮึก อื้อ ฟังอยู่” กลั้นเสียงสะอื้นไว้ภายใน ฟันขบริมฝีปากล่างไม่ให้เสียงความอ่อนแอเล็ดลอดออกไปตามสาย ซึงยุนต้องไม่ให้จินวูรู้เรื่องนี้เด็ดขาด
“นายเป็นอะไรอะ เสียงดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรอ” ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะเสียงสะอื้นที่เล็ดลอดไปตามสายทำให้จินวูตกใจ
“ปะ ฮึก เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” โกหกหน้าตายเพราะไม่อยากให้คนปลายสายคิดมาก ใช้หลังมือปาดคราบน้ำตาที่ติดตามจมูกและแก้มออกไป
“แน่นะ แล้วนี่ถึงบ้านยัง”
“ใกล้แล้วล่ะ”
“อื้อ ดีแล้ว เดินเร็วๆล่ะ ฟ้าครึ้มเดี๋ยวฝนตกมาเป็นหวัดแย่”
“จินวู”
“หื้ม”
“รู้ใช่มั้ยว่าฉันรักนาย”
“ห่ะ ถามอะไรแปลกๆ รู้สิ ฉันรักนายมากแล้วนายก็รักฉันมากด้วย” ตอบเสียงใสฉะฉาน ซึงยุนนึกหน้าจินวูออกเลยว่าตอนนี้คงยิ้มไปพูดไปอยู่แน่ๆ
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นยังไงฉันก็รักนายนะ”
“ยุน….ทำไมพูดแบบนั้นอะ จะเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ” น้ำเสียงจากปลายสายอ่อนลงทันทีที่ได้ยินซึงยุนพูด คำว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’ ทำให้หัวจินวูแทบหล่นไปที่ตาตุ่ม
“ก็…..เปล่าหรอก ฉันแค่จะยืนยันไง ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ยังไงฉันก็จะรักนายเหมือนเดิม” คำพูดของซึงยุนทำให้จินวูโล่งอก ใจชื้นขึ้นมาอีกหน่อย เสียงเปลี่ยนทันทีเมื่อรู้ว่าไม่มีอะไรร้ายๆเกิดขึ้น
“อ่า เห้อ ทำฉันตกใจหมด”
“งั้นแค่นี้ละกัน เดินดูรถด้วย ถึงคอนโดแล้วโทรหาเค้าด้วย รักนะห้อย”
…..อย่างน้อยก็ขอยืดเวลาแห่งความสุขออกไปสักนิดก็ยังดี….
กดวางสายจินวูแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก ทรุดตัวลงบนพื้นนั่งพิงสะพานข้ามแม่น้ำ ตอนนี้ซึงยุนดูเหมือนไร้หนทาง ไม่มีตัวช่วย ทางออกสุดท้ายของซึงยุนแล้วจะเป็นแบบไหน มันดูมืดมนไปหมด ความรักที่เขาฝ่าฟันมาจนถึงตอนนี้ มันจะพังทลายลงเพราะเรื่องโง่ๆที่กลับมาเป็นชนวนใหม่อย่างนั้นหรอ เป็นเพราะเขา ถ้าเขาไม่ดื้อดึงอยากส่งรูปประกวดเวทีนั้น เรื่องทั้งหมดมันคงไม่เป็นแบบนี้ ไม่มีคนคอยตามขู่ และคงไม่ได้เจอจินวูด้วย ซึงยุนได้แต่นึกโทษตัวเองที่เหมือนจะเป็นต้นเหตุให้เรื่องแย่ๆทั้งหมดเกิดขึ้น ต้นเหตุที่ทำให้จินวูต้องเสียใจ ต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของเขาโดนตามขู่อีกครั้ง
กลับคอนโดมาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อน สีหน้าแย่มากเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก วางกระเป๋าบนโต๊ะรับแขกขนาดย่อมแล้วล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอย่างคนสิ้นหวัง เขาควรอยู่อย่างนี้ต่อไป อยู่แบบเครียดๆไม่ปรึกษาใคร ควรหาทางแก้คนเดียวหรือเปล่า ใบหน้าของซึงฮุนและมินโฮผุดขึ้นมาในความคิด แต่ก็แวบหายไปเพราะคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง ถอนหายใจรอบที่ล้านของวันแล้ว
มือเรียวจับตุ๊กตาหมีสีขาวที่วางบนหัวเตียงขึ้นมา จับแขนทั้งสองข้างของตุ๊กตาแล้วยื่นปากบึนใส่
“พ่อต้องทำยังไงดีล่ะฮึ พ่อควรทำยังไง”
“ไม่ตอบอีก เดี๋ยวไม่ให้กินข้าวแล้วนะ”
“ย๊า จะโทรไปฟ้องแม่เดี๋ยวนี้ล่ะถ้ายังนั่งยิ้มอยู่อย่างเดียวแบบนี้เนี่ย” ในเมื่อลงที่ใครไม่ได้ก็มาลงกับตุ๊กตาเนี่ยแหละ คิมจีวอนจะทำให้ซึงยุนเป็นบ้าแล้วจริงๆ
ตอน16 ~~
เสียวกันแล้วใช่มั้ยย มันใกล้เข้ามาแล้วนะ
นี่ไรต์แต่งไปแต่งมาจะจิ้นฮุนกะฮงซอกแล้วนะ สงสาร น่าจับคู่กันให้จบๆไป 555555
ขอโทษที่ห่างหายกันไปนานเลยนะ พอดีช่วงนี้ไรต์ยุ่งๆ ไม่มีเวลามาลงเลย แต่อย่าเพิ่งลืมฟิคเรื่องนี้กันไปนะ // กอดขา
ขอบคุณคุณ Oumyim Naruk มากๆเลยนะคะที่คอมเม้นท์ให้ทุกตอนเลยย เม้นท์อื่นก็เช่นกัน ขอบคุณสกรีมแท็กในทวิตด้วยน้า ขอบคุณมากๆนะคะ ไรต์มีกำลังใจแต่งต่อขึ้นเยอะเลย ขอบคุณจริงๆ รักรีดเดอร์ทุกคนเลยน้า จุ้บๆๆ
ความคิดเห็น