หากแม้รักนี้ เศร้านัก....
ชีวิตนี้จะอยู่เพื่อใคร....
ไม่อาจรู้...
หากท่านไม่ต้องการข้าแล้ว...ขอเพียงเอ่ยมาคำเดียว...
ข้าก็จะไปจากชีวิตท่าน
ตลอดกาล
....................................................
บทนำ
ปฐมบท การจากลา
เสียงดนตรีไทยดังก้องไปทั่วห้องประชุมของโรงเรียน พร้อมกับสายตาทุกคู่ที่จับจ้องไปยังนางรำแสนสวยบนเวที กับท่าร่ายรำของพวกเธอที่สามารถสะกดทุกสายตาของทั้งครูและนักเรียนในห้องประชุมได้
ในม่านหลังเวทีนั้นถูกแง้มเปิดออกเล็กน้อยเพื่อให้เพียงดวงตากลมโตนั้นมองลอดผ่านออกไปได้ 'รำพันมาลา' หรือ มะลิ มองลอดออกไปยังนางรำที่กำลังร่ายรำอยู่บนเวทีด้วยแววตาที่แปล่งประกายด้วยความชื่นชมให้กับเพื่อนของเธอ มะลิเพ่งมองแผ่นหลังของนางรำแต่ละคนเพื่อมองหา(เพื่อน)สนิทของเธอ
"นี่มะลิ ว่าไงแกหายัย'มณี'เจอรึยัง?" เสียงเรียกกระซิบของเพื่อนสาวสตาฟท์ดังขึ้น มะลิเพียงพยักหน้าหงึกหงักเพียงแค่นั้น ก่อนจะมองแผ่นหลังเพื่อนของตนเองอีกครั้ง
มณีสาร หรือ มณี ดาวโรงเรียนสุดสวยและอ่อนหวาน ซึ่งควบตำแหน่งเพพื่อนสนิทของเธออีกด้วย มณีเป็นคนเงียบๆและขี้อายเพราะฉะนั้นเธอจึงเข้ากับคนอื่นได้ยาก...พูดได้เต็มปากเลยว่าถ้าไม่ได้มะลิช่วยแนะนำเพื่อนให้รู้จัก มณีคงจะไม่มีเพื่อนเลยสักคน...เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องคอยดูแลเพื่อนสาวคนนี้ให้ดี
แปะๆๆ
เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วห้องประชุมพร้อมกับเสียงดนตรีไทยที่หยุดลงกับนางรำที่เดินกลับไปหลังเวทีเรียบร้อย ไม่นานโชว์ชุดใหม่ก็ออกมาโชว์ต่อ มะลิส่งน้ำแต่ละขวดให้กับนางรำแต่ละคนดื่ม มณีนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกสีแดง พลางพ่นลมหายใจเบาๆ
"เป็นอะไปมณี? ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?" มะลิถามในขณะที่มณีเองก็พยักหน้าพลางยิ้มให้มะลิ เด็กสาวเองก็ยิ้มตอบเพื่อนของเธอก่อนที่เสียงข้อความไลน์ของเธอจะดังขึ้น
"มณี ฉันขอตัวเดี๋ยวเดียวนะ" มะลิเอ่ยก่อนจะดินออกไปพร้อมมือถือของตนเอง โดยมีสายตาของเพื่อนสาวมองตามอย่างเป็นห่วง...
แต่เพียงไม่นานพอร่างของมะลิลับตาไป เธอก็ยิ้มออกมา ท่านั่งที่เคยเรียบร้อยแปรเปลี่ยนเป็นท่านั่งแบบไขว้ห้าง มณีกอดอกอย่างมั่นใจต่างกับก่อนหน้านี้ลิบลับ มุมปากเรียวสวยค่อยๆขยับยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ยัยโง่เอ้ย"
ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้....สิงห์น่ะเหรอ...นอกใจ..เรา?
แล้วนี่มันอะไรกัน?...มณี! ทำไมยัยนั่นกับสิงห์ถึงได้...
นี่ฉัน...โดนหลอก?
กริ๊งงง...
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้นพร้อมกับผู้คนที่เริ่มทยอยออกมาจากห้องประชุม เพียงไม่นานทั้งโรงเรียนก็ไม่หลงเหลือนักเรียนเลยแม้แต่คนเดียว...นี่เป็นเวลา...ของคนสองคน ที่จะแอบนัดเจอกัน...
-ห้องดนตรีไทย 18:30 น.-
มณีสารนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่สีดำ เพื่อรอใครบางคนซึ่งตอนนี้เขาได้เข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองกอดกันอย่างแนบแน่นก่อนจะจูบกันอย่างดูดดื่ม....ทุกๆภาพถูจารึกเข้าไปในความทรงจำของรำพันมาลา อย่างเจ็บปวด....เด็กสาวยกมือขึ้นปิดปากพลางดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจนไหลลงอาบแก้มนวลสองข้างของเธอ มะลิซึ่งได้รับข้อความจาก (ผู้หวังดี) ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง แอบมาซ่อนอยู่ในตู้ล็อคเกอร์ภายในห้องดนตรีไทยก่อน...และแน่นอนว่าเธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น....
สิงห์...กับ..มณี...
"อุ๊บ! อึก...ฮือ...ฮึก..." เสียงร้องไห้ที่มะลิพยายามอดกลั้นไว้หายเข้าไปในลำคอ เมื่อเธอได้ยินประโยคการสนทนาของคนทั้งคู่
"คืนนี้ฉันไปค้างบ้านนายนะสิงห์...ได้รึเปล่า?"
"ได้สิ...วันนี้พ่อแม่ไม่อยู่ด้วย....งั้นไปกันเลยเถอะ"
"อืม...แต่อย่าให้ยัยมะลิรู้ล่ะเดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา"
"นั่นสินะ"
ทั้งสองคน...หักหลังฉัน!!
แอ๊ดด...
ฮึก....มัน...พวกมัน.....ฉันเกลียดพวกมัน!!
ทั้งๆที่สัญญาว่าจะแต่งงานกับฉันแท้ๆ...ทำไม!!
กริ๊งงงงง!!!
เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มะลิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางขมวดคิ้ว พร้อมกับจ้องมองเบอร์โทรที่ไม่ได้มีในรายชื่อ
ติ๊ด!
"ฮ-ฮัลโหล...ใครคะ?" มะลิพยายามทำเสียงให้ดูเป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เด็กสาวเดินออกมาจากตู้แล้วนั่งลงบนพื้นพลางเอนหัวลงไปพิงกับประตูตู้
'เห็นรึยังมะลิ...คงเห็นแล้วสินะ แล้วเธอเป็นยังไงบ้าง?' ทันทีที่เธอกล่าวจบเสียงทุ้มก็เทรกขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่า(เป็นห่วง) แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าคนที่เธอมาเป็นคนที่เธอรู้จัก
"เอ่อ...นั่นใครคะ?" มะลิถาม ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ
'เรียกฉันว่าธารา...'
ธารา....ใครกันนะ? คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
"เอ่อ..นาย คือคนที่ส่งรูปพวกนั้นมาให้ฉันดูใช่มั๊ย?" มะลิเอ่ยถาม ในขณะที่ชายปริศนานามว่าธาราแค่เพียงไป ซึ่งนั่นก็บ่งบอกว่าที่เธอถามไปนั้นถูกต้อง มะลิหลับตาลงพลางถอนหายใจ
"ถึงมันจะทำให้ฉันได้รู้ความจริงอันเจ็บปวดก็เถอะ...แต่ก็ขอบใจนายมากนะธารา..."
'....ไม่ต้องขอบใจฉันหรอก...เพราะฉันเองก็อยากให้เธอได้รู้ความจริงและเลิกยุ่งกับเจ้าสิงห์นั่น....'
"ทำไมล่ะ?...ทำไมนายถึง"
'เพราะฉันชอบเธอไงล่ะ...มะลิ'
ติ๊ด!...
มะลิกดตัดสายไปในทันทีที่เธอและเขาสนทนากันเสร็จไม่นาน....เด็กสาวยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นในขณะที่ท้องฟ้าด้านนอกกลายเป็นสีดำสนิท...มีเพียงแสงจันทร์สีนวลที่ส่องลอดเข้ามาจากหน้าต่างเท่านั้นที่ทำให้เธอ มองเห็นสิ่งรอบๆตัวได้...แต่เพียงแค่สลัวๆเท่านั้น...
ห้าทุ่มครึ่ง....แล้วงั้นเหรอ?
กลับบ้านดีกว่า....ว่าแต่จะกลับไปทำไมล่ะ?...ไม่สิ
กลับไปหาใครมากกว่า...
ฉันเป็นเด็กกำพร้า...พ่อแม่ตายไปตั้งแต่ฉันห้าขวบ...มรดกตกทอดที่ทำให้ฉันอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้คือเงินมรดกก้อนโต....แต่นั่นมันกลับไม่สามารถทำให้ฉันมีความสุขเลยแม้แต่น้อย
ถ้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว..และเจ็บปวดล่ะก็
ขอตายดีกว่า...
ใช่....ตายๆไปซะ..บางทีอาจจะได้เจอกับคุณพ่อคุณแม่ตอนกลายเป็นวิญญาณแล้วก็ได้....
นั่นสินะ...
คิดได้ดังนั้นเด็กสาวก็ลุกขึ้นแล้วเปิดประตูตู้อีกตัวที่อยู่ในห้อง พร้อมกับหยิบเชือกเส้นหนาที่ยาวมากออกมา พร้อมกับอีกมือนึงลากเก้าอี้ไม้ที่เริ่มพุไปตามทางเดิน...ก่อนจะหยุดอยู่กลางห้องดนตรี
รำพันมาลาจัดการขึ้นไปผูกเชือกกับพัดลมเพดานกลางห้องแล้วผูกเป็นปม เด็กสาวลงมายืนอยู่บนพื้นพลางจ้องมองเชือกที่ลอยอยู่ตรงหน้า...
"เท่านี้ก็..." ในขณะที่รำพันมาลากำลังจะเดินไปจับเชือกที่แขวนอยู่ เสียงเรียกชื่อของเธอก็ดังขึ้นมาซะก่อน
พร้อมกับเสียงอีกหลายเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อเธอ ราวกับกำลังมีผู้คนมากมายกำลังเอ่ยเรียกชื่อเธอพร้อมๆกัน จนฟังไม่ได้ศัพท์ เด็กสาวหันไปรอบๆตัว เหงื่อพลางแตกพลั่ก ดวงตากลอกไปมารอบทิศเพื่อมองหาที่มาของเสียง
'รำพันมาลา....รำพันมาลา...รำพันมาลา.....รำพันมาลา! รำพันมาลา!'
'ทางนี้! รำพันมาลา! ทางนี้!!'
"ไม่! ไม่! หยุดนะ! หยุดเดี๋ยวนี้!!" เด็กสาวยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างพลางส่ายหัวไปมา ก่อนที่หลังของเธอจะชนเข้ากับบางสิ่ง
กึก!
"!...อะไร...." รำพันมาลาสะดุ้งตกใจก่อนจะหันไปมองสิ่งที่เธอชนเข้าอย่างรวดเร็ว
กระ...จก?
ภาพข้างหน้าของเธอในตอนนี้คือ กระจกเก่าบานใหญ่ ที่กรอบทำจากไม้สักเกะสลักเป็นลวดลายไทยโบราญ...
รำพันมาลาจ้องมองเข้าไปยังในกระจก ที่ตอนนี้ภาพในกระจกนั้นไม่ได้สะท้อนเงาของเธออยู่ แต่ภายในกระจกนั้นกลับสะท้อนภาพหญิงสาวผมสีดำยาว ที่สวมชุดไทยโบราณพร้อมกับประดับกายด้วยเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและทับทิม....หญิงสาวในกระจกก้มหน้าจนเส้นผมดำสลวยนั้นปรกหน้าของเธอจนมิด
"นี่มัน...ไม่นะ...หรือว่านี่คือ" รำพันมาลาได้แต่นั่งตัวเข็งทื่อเป็นท่อนไม้ ปากพะงาบๆ กับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าซึ่งเธอไม่เคยได้พบเจอมาก่อน
เดี๋ยวสิ...หรือว่ากระจกบานนี้คือ
รำพันมาลานึกย้อนไปยังข่าวลือที่เริ่มดังภายในโรงเรียนเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว
'นี่ๆ เธอได้ยินข่าวลือนั่นรึเปล่า?'
'ข่าวลืออะไรงั้นเหรอ?'
'ก็ข่าวลือที่ว่า ถ้าเข้าไปในห้องดนตรีไทยตึก 3 ตอนเที่ยงคืนล่ะก็...จะได้เจอกับกระจกไทยโบราญที่ตั้งอยู่กลางห้อง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีกระจกแบบนั้นตั้งอยู่...แล้วถ้าเกิดเจอกระจกนั่นเข้าล่ะก็..เธอก็จะได้เจอกับผีผู้หญิงใส่ชุดไทยที่อยู่ในกระจกไงล่ะ...แล้วเขาก็จะถามเธอว่า'
'มาสลับกันมั๊ย?...ชีวิตของเจ้ากับข้าน่ะ'
'ว่าไง...รำพันมาลา...?'
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย