คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SF : คำตอบที่ไม่เคยรู้ [V x Jimin] Part 3
SF : คำตอบที่ไม่เคยรู้ (3)
“แทแท จีมินเป็นไงบ้าง” ร่างสูงเอ่ยปากถามน้องชายทันทีที่วิ่งมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน
“ฮึก เฮีย ผมทำเขาเจ็บ ผมทำเขาเจ็บอีกแล้วเฮีย ฮือ” ทันทีที่เห็นพี่ชายของตน แทฮยองก็รีบวิ่งเข้าหาตัวพี่ชายตนเองทันทีพร้อมกับซบไหล่ปล่อยโฮลงมาอย่างไม่อาย มือหนากำชายเสื้อของพี่ชายแน่นจนยับไปหมด คิมซอกจินทำได้เพียงกอดเจ้าตัวแล้วลูบหลังปลอบประโลมเท่านั้น ถึงแม้ประโยคที่ออกมาไม่ตรงกับคำถาม แต่ซอกจินก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนข้างในห้องฉุกเฉินเป็นอย่างไร
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ตอนที่แทฮยองโทรมา น้ำเสียงของปลายสายฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เสียงสั่นๆ ที่เปล่งออกมาแทบไม่เป็นประโยคบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวร้องไห้หนักขนาดไหนขณะที่กำลังพูดอยู่ แล้วยังดูเหมือนว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเจ้าตัวสติเตลิดไปไกลแล้ว จนเขาต้องบอกให้แทฮยองหยุด แล้วค่อยๆพูด ก่อนจะจับใจความได้ว่า
‘ปาร์คจีมินกินยาฆ่าตัวตาย ช่วยเขาด้วย ช่วยเพื่อนผมด้วยนะเฮีย’
ซอกจินจึงต้องบอกให้เจ้าตัวสงบสติอารมณ์แล้วให้รีบพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เดี๋ยวเขาจะตามไปทีหลัง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าคนที่ร่าเริงสดใสอย่างปาร์คจีมินจะคิดอะไรสั้นๆ แบบนี้ นึกไม่ออกเลยว่าอะไรกันที่ทำให้เจ้าตัวเป็นแบบนี้
“ไม่เป็นไรนะแท จีมินจะต้องปลอดภัย” ว่าพลางลูบหัวน้องชายอย่างอ่อนโยน ทว่าเสียงเปิดประตูห้องฉุกเฉินก็เรียกความสนใจของคนทั้งคู่ได้ทันที แทฮยองรีบผละจากพี่ชายแล้วรีบวิ่งไปหาคุณหมอที่เพิ่งเดินออกมาทันที
“หมอครับ เพื่อนผมเป็นไงบ้าง” ขณะที่พูดก็ยังพูดทั้งน้ำตา
“ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ ดีนะที่ล้างท้องทัน อีกสักพักก็น่าจะฟื้น งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณจริงๆ” ร่างสูงเอ่ยขอบคุณ รอยยิ้มกว้างนั่นปิดความดีใจไว้ไม่มิด
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“เล่ามาให้หมดนะแท อย่าคิดจะปิดบังเฮีย”
ตอนนี้คิมแทฮยองสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เพราะเพื่อนตัวเล็กพ้นขีดอันตรายแล้ว ถึงเวลาที่ต้องคาดคั้นเอาความจริงสักที
ร่างสูงของน้องชายผ่อนลมหายใจออกมายืดยาว ก่อนที่จะเล่าเรื่องทั้งหมด แต่ข้ามเรื่องที่ตัวเองอกหักจากแฟนคนปัจจุบันของพี่ชายไป เขาไม่อยากให้คิมซอกจินรู้สึกผิดที่รักคนๆเดียวกับน้องชาย แล้วทำให้เขาเสียใจจนต้องไปกินเหล้าเมามายขนาดนั้น
“แทแท เฮียขอโทษนะ”
“หืม? เฮียจะมาขอโทษอะไรผม”
พลั่ก !
หมดหลุนวิ่งเข้ามากระแทกหน้าเขาอย่างจัง มือหนายกขึ้นแตะที่มุมปากก็พบว่ามีเลือดติดมาที่ปลายนิ้ว ก่อนจะมองหน้าคนเป็นพี่อย่างไม่เข้าใจ ทว่าก็ไม่ได้โวยวายอะไร
“หมัดนี้ สำหรับการที่แกทำให้จีมินต้องเป็นแบบนี้นะแท เฮียอยากทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้าแกไม่ใช่น้องเฮีย เฮียจะทำให้หนักกว่านี้ เจ็บปางตายเลยยิ่งดี มีอย่างที่ไหนฮะ พูดอะไรแบบนั้นออกไป ถึงแทจะบอกว่าอยากให้จีมินตัดใจ แต่การที่ไปพูดให้เขาตัดใจแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหนนะฮะ!! บอกว่าเห็นค่าเขาแค่เซ็กซ์ ทั้งๆที่เขารักเรามากขนาดนั้น ดีนะที่เขารอด ไม่งั้นแทจะโดนหนักกว่านี้”
น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆ รินไหลลงมาจากหน่วยตาของคนถูกต่อย ทว่าเขาก็ไม่พูดอะไร คิมซอกจินเห็นสภาพของน้องชายก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ กัน ถัดจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาใดๆ ออกจากปากของทั้งคู่ ทั้งสองคนปล่อยให้ระหว่างกันและกันกลายเป็นความเงียบ ก่อนที่ศีรษะกลมๆ จะเอนลงบนบ่าของพี่ชายอย่างแผ่วเบา
“ขอบคุณนะเฮีย ที่ต่อยแท”
แต่มันเทียบกับที่จีมินเจ็บไม่ได้เลย...
“อืม”
“เพิ่งรู้นะ ว่าพี่ตัวเองหมัดหนักขนาดนี้ วันๆเห็นทำแต่ขนม” ว่าพลางยิ้มเยาะๆ ออกมา ทว่าก็ต้องสูดปาก เมื่อรู้สึกแสบที่มุมปาก
“หึ ยังจะมาปากดี” ว่าพลางหัวเราะน้อยๆ ออกมาให้กับคนเป็นน้อง มือหนาลูบลงบนผมเส้นเล็กๆ เหล่านั้นอย่างแผ่วเบา
‘เพื่อนก็คือเพื่อนนะจีมิน ถึงตอนนี้แทฮยองจะไม่ได้รักนาย แต่เขาก็รักนายมากที่สุดในฐานะที่เพื่อนคนนึงจะให้ได้นะ’
ภาพแรกที่เห็นตอนที่ลืมตาคือเพดานสีขาวของห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ คงไม่ต้องถามเหมือนละครไทยว่าที่นี่ที่ไหน เมื่อหันไปเจอสายน้ำเกลืออยู่บนฝ่ามือข้างซ้าย
และศีรษะของเพื่อนตัวสูงที่ฟุบลงกับข้างมืออีกข้าง...
มือหนากุมมือของเขาไว้ไม่แรงนัก ทว่ากลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างที่สุด
นี่แหละ มือของคนที่ชื่อว่าคิมแทฮยอง...
“อื้อ แทฮยอง”
เสียงเรียกเบาๆ ปลุกให้คนที่หลับอยู่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กฟื้นแล้ว ก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างเสียไม่ได้
“ฟื้นแล้วเหรอจีมิน นายหลับไปนานมากเลยนะ”
“ไม่ได้เกลียดเราเหรอ” เอ่ยถามอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาสวยสบกับนัยน์ตาอีกคู่อย่างเค้นหาคำตอบ
“เกลียดสิ” ถ้อยคำเย็นชาที่เอ่ยออกมา พร้อมๆกับร่างสูงที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอีกครั้ง
เกลียดกันแล้วสินะ....
ทว่าประโยคถัดมาก็ทำให้หัวใจพองโตอย่างแปลกประหลาด
“เกลียดที่ปาร์คจีมินทำแบบนี้ที่สุดเลย ก็แค่ผู้ชายเฮงซวยห่วยแตกคนนึงทำให้ตัวเองเสียใจ ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วย” ว่าพลางเดินเข้ามากอดคนตัวเล็กแนบแน่น “อย่าทำแบบนี้อีกนะ เราเสียใจนะรู้มั้ย เพราะจีมินเป็นเพื่อนที่เรารักมากที่สุดเลยรู้มั้ย” สัมผัสเปียกชื้นที่ทะลุชุดผู้ป่วยมาทำให้คนตัวเล็กรู้ว่าคนตัวสูงกำลังร้องไห้ “เราคงเกลียดตัวเองมากเลย ถ้านายเป็นอะไรไป”
ทำได้เพียงกอดตอบ แล้วร้องไห้ออกมาเงียบๆ เช่นกัน
“อื้ม”
ถึงจะไม่ใช่คนรัก แต่อย่างน้อยแทฮยองก็ให้เขาเป็นเพื่อนที่เจ้าตัวรักมากที่สุดเลยนะ
“ขอโทษนะแทฮยอง”
ขอโทษที่ทำอะไรโง่ๆ ให้นายต้องเสียใจ
“อื้ม ขอโทษเหมือนกันนะจีมิน”
ขอโทษที่รักนายไม่ได้จริงๆ
กอดกันเนิ่นนาน ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ที่รักผู้ชายอีกคนมากที่สุด...
ถึงแม้นิยามคำว่ารักของเรามันจะต่างกันก็เถอะ....
“จะไปโดยที่ไม่บอกแทฮยองจริงๆน่ะเหรอ”
คิมซอกจินถามคนตรงหน้าด้วยเสียงเป็นห่วง.. ความรู้สึก
ความจริงปาร์คจีมินไม่คิดจะบอกใครเลยด้วยซ้ำ แต่เอกสารการเดินทางไปต่างประเทศที่เจ้าตัวลืมทิ้งไว้ที่ร้านเมื่อหลายวันก่อนทำให้เขาต้องคาดคั้นเอาความจริงจากอีกฝ่าย จึงได้รู้ว่าจีมินจะไม่อยู่ที่เกาหลีอีกสักหลายเดือน และก็กำชับว่าไม่ให้บอกใคร สาเหตุก็เพราะเรื่องคราวนั้นมันทำให้มองหน้าแทฮยองไม่ค่อยติด ถึงแม้ว่าจะทำความเข้าใจกันแล้วก็เถอะ เจ้าตัวจึงอยากจะขอเวลาสักพัก ให้เรื่องต่างๆมันค่อยๆจางหายไปจากความทรงจำ ก่อนจะกลับมาพบกันอีกครั้ง
ถึงแม้จะรู้ตัวดี... ว่าต่อให้เป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิตก็จะไม่ลืมมันอยู่ดี
“ฮะ ผมไม่อยากเห็นแทฮยองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเราจะจากกัน ผมคงทำใจไปไม่ได้หรอกฮะ ถ้าเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ ขอบคุณมากนะครับพี่จินที่มาส่ง แล้วก็ช่วยส่งของสิ่งนี้ให้ถึงมือแทฮยองด้วยนะครับ” มือเรียวยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลให้กับคนร่างสูง ซอกจินรับมันมาอย่างงงๆ ของอะไรทำไมสำคัญมากถึงขั้นที่เจ้าตัวต้องย้ำว่าให้ส่งให้ถึงมือ ทว่าคำตอบถัดมาก็ทำให้ทุกอย่างมันแจ่มชัด
“ความทรงจำทุกอย่างระหว่างเรามันอยู่ในนี้” ว่าพลางปาดน้ำใสๆ ที่มันไหลมาด้วยไหนไม่รู้ลวกๆ “ช่วยส่งให้ถึงมือแทฮยองด้วยตัวเองด้วยนะครับพี่จิน”
.
.
.
.
‘ปาร์คจีมินจะไปญี่ปุ่น อีก 20 นาทีเครื่องออก ดูท่าทางว่าจะไปนาน’
ข้อความที่คิมซอกจินส่งมาเมื่อ 20 นาทีที่แล้ว เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ตรงนี้
ที่ๆ อาจจะได้ส่งคนตัวเล็กเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ เรื่องไม่คาดฝันมันก็เกิดขึ้นได้ตลอด
ร่างสูงยืนหอบเล็กน้อย เพราะตนต้องใช้พลังอย่างมากในการเร่งฝีเท้าจากจุดจอดรถมายังด้านในสนามบิน ก่อนจะหันซ้ายหันขวาไปรอบๆ จุดที่ซอกจินน่าจะมาส่งคนตัวเล็ก และแล้วก็พบกับร่างสูงของคนเป็นพี่ชาย
ทว่าอีกคนกลับไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว...
“แทแท...”
“ผมมาไม่ทันใช่มั้ยเฮีย” ไม่มีคำตอบจากคนเป็นพี่ มีเพียงการพยักหน้าเบาๆ เท่านั้นที่บอกทุกอย่าง
“อื้อ ขึ้นเครื่องไปได้สักสิบนาทีแล้วล่ะ” ว่าพลางยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลให้คนตัวสูง “จีมินฝากมาให้น่ะ เขาไม่อยากเจอนาย กลัวว่าถ้าได้เจอกันแล้วตัวเองจะเปลี่ยนใจไม่ไป”
“หึ ไปไม่บอกนี่ก็ว่าเสียใจแล้วนะ แถมยังมาทิ้งของให้ดูต่างหน้าอีก แม่งโคตรเสียใจเลยว่ะ” ยิ้มเยาะๆให้กับเจ้าของถุงกระดาษ ก่อนจะเบะปากเล็กน้อย
และยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่มันไหลลงมาตอนไหนก็ไม่รู้อย่างลวกๆ
“เฮ้อ จีมินจะดีใจมั้ยเนี่ย ที่ทำให้น้องเฮียร้องไห้ได้เพราะเรื่องนี้น่ะ”
“อย่าบอกมันนะเฮีย!!” ใบหน้าหล่อมีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพี่ได้ไม่น้อย
“ถ้าจะบอกน่ะ แทขอบอกเองดีกว่า... ตอนที่จีมินกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว”
ร่างสูงยังคงจ้องมองสมุดเล่มโน้ตสีเขียวอ่อนที่ตนเพิ่งหยิบมันออกมาจากถุงกระดาษสีน้ำตาลเนิ่นนาน เขาจำได้ว่าสมุดเล่มนี้เป็นของขวัญวันเกิดที่เขาซื้อให้เจ้าตัวเมื่อสองปีก่อน ก่อนจะตัดสินใจเปิดหน้าแรกของสมุดโน้ตขึ้นมา
‘สวัสดีสมุดโน้ต แทแทให้แกกับฉันแล้ว จะใช้ให้คุ้มเลยนะ : )’
แทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าจีมินจะแอบเรียกเขาว่าแทแทด้วย ใบหน้าหล่อยิ้มเล็กๆออกมา เมื่อนึกถึงสีหน้าของปาร์คจีมินตอนพยายามเขียนหนังสือเล่มนี้ เจ้าตัวคงตั้งใจน่าดู ดูจากลายมือที่ค่อยๆ บรรจงเขียนก็รู้
‘ง่า วันนี้ไม่สบายอีกแล้ว แถมยังเอาหวัดไปติดแทแทอีก แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อนหยุดเรียนด้วยกันเนอะ ว่ามั้ย ฮ่าๆๆ’
วันนั้นเป็นวันแรกที่เขาต้องหยุดเรียนเพราะว่าเป็นหวัด แถมหวัดที่ว่านั่นก็ติดมาจากเพื่อนตัวเล็กของนั่นแหละ สุดท้ายก็เป็นหนักมาก จนต้องหยุดอยู่ที่ห้องด้วยกันทั้งคู่ แถมยังมีคิมซอกจินมาเป็นพยาบาลชั่วคราวด้วย
‘ไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกใบนี้จะมีคนทำมาม่าได้ห่วยแตกขนาดนี้...
แต่มันก็เป็นมาม่าที่รู้สึกดีด้วยมากเลยนะ เพราะว่ามันเป็นชามแรกของแทแทไง : )’
อ่านมาถึงตอนนี้ก็อดขำไม่ได้ วันนั้นเป็นวันที่พายุเข้า ทำให้ออกไปหาของกินไม่ได้ มีเพียงมาม่าสองซองอยู่ในตู้ และปาร์คจีมินเองก็บาดเจ็บจากคาบพละวันนั้น เขาเองจึงอาสาทำให้ โดยไม่ยอมบอกเพื่อนตัวเล็กว่าตัวเองทำไม่เป็นแม้กระทั่งจุดเตาแก๊ส เพราะกลัวคนตัวเล็กจะเป็นห่วงแล้วฝืนสังขารมาทำเอง ทันทีที่ทำเสร็จ บอกได้เลยว่าแค่รูปลักษณ์ก็ไม่น่ากินแล้ว
‘มันกินได้จริงๆน่ะเหรอแทฮยอง’
‘นี่ ไม่เคยได้ยินรึไง อย่าตัดสินอะไรจากภายนอก’
และทันทีที่ตักมาม่าเข้าปาก ชักโครกก็กลายเป็นทางออกของมาม่าที่เหลือในชาม
ร่างสูงเปิดอ่านไดอารี่เล่มนั้นไปเรื่อยๆ ทุกๆหน้ามันเต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างเขากับปาร์คจีมิน แต่ละเรื่องมันก็ทำให้เขาหยุดยิ้มไม่ได้สักที เมื่อนึกย้อนไปถึงวันวานที่เคยใช้ร่วมกัน ก่อนจะสะดุดที่หน้าหนึ่ง... ที่มีดอกกุหลาบแห้งคั่นอยู่
‘ดอกไม้นี้แทแททำหล่นไว้บนโต๊ะแหละ สงสัยของวันวาเลนไทน์จะเยอะเกินมั้ง จนลืมแก แต่ไม่เป็นไรนะดอกไม้ที่น่าสงสาร จีมินคนนี้จะเก็บแกไว้เอง ถึงแกจะเป็นดอกไม้ที่แทแทลืมไว้ก็เถอะ แต่เราจะเหมาไปเองละกันนะว่าแทแทให้เรามา’
เปล่า... ไม่ใช่เลยจีมิน
ดอกไม้นั่นเขาตั้งใจเอาไปให้เจ้าตัว ไม่รู้เกิดคิดอะไรขึ้นมา อยู่ดีๆมันก็เป็นความคิดแว้บเข้ามาให้หัว ทว่าก็ไม่กล้าให้เจ้าตัวตรงๆ ก็เลยต้องวางทิ้งไว้บนโต๊ะของอีกคนเฉยๆ
ก็มีอย่างที่ไหนผู้ชายให้ดอกไม้ผู้ชาย
รึว่าเขาจะรักคนตัวเล็กเข้าแล้ว แค่ไม่ยอมรับความรู้สึก...
มือหนาเปิดอ่านไปเรื่อยๆ ก่อนจะพบว่าหน้าหลังๆ ของหน้าที่เขียนเกี่ยวกับกุหลาบไว้นั้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเขาแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะความรู้สึก
‘ถ้าเขาชอบผู้หญิง แต่เราเป็นผู้ชายจะทำไงดีนะ’
‘อิจฉาซอฮยอนจัง แทแทเลือกของขวัญให้เกือบตายแหนะ ถ้าเธอรู้คงดีใจมากแน่เลย’
หลังจากหน้าที่พูดถึงซอฮยอนสมุดโน้ตก็ไม่มีหน้าไหนถูกเขียนอีกเลย จนกระทั่งหน้าสุดท้าย
‘ขอโทษนะแทแท ที่ไปโดยไม่บอก ก็กลัวนี่หน่า ว่าถ้าเจอหน้ากันก่อนไปแล้วมันจะบอกลาไม่ออก ฮ่าๆๆ ฟังดูขี้ขลาดดีใช่มั้ย
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ เพราะเรายังรักนายมากนะ มันเป็นความรู้สึกนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งๆที่นายชอบผู้หญิง แต่เราก็ยังอยากจะรักนายอยู่ดี ถึงมันจะเป็นรักข้างเดียวก็เถอะ ฟังดูเจ็บปวดดีเนอะ แต่มันก็เจ็บจริงๆนั่นแหละ เราก็เลยอยากอยู่คนเดียวสักพักที่นู่น ให้เวลาเรารักษาแผลใจก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา ฮ่าๆๆ ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่เรามีให้แทแทตอนนี้จะเปลี่ยนไปรึยัง
แต่ถ้าเป็นไปได้ เราก็ยังจะขอรักแทฮยองคนนี้ตลอดไปนะ -- ปาร์คจีมิน’
แหมะ...
หยดน้ำใสจากดวงตาตกลงสู่หน้ากระดาษแผ่นนั้น ก่อนจะค่อยกระจายเป็นดวงๆ แล้วก็ตมมาอีกหลายๆหยด ร่างสูงไม่สนใจจะปาดมันออกแต่อย่างใด กลับปล่อยให้มันไหลหยดซึมลงหน้ากระดาษหยดแล้วหยดเล่า
“เราช้าอีกแล้วใช่มั้ย...
ถ้าบอกว่ารักนายตอนนี้จะยังทันมั้ย”
“แทแท !”
อยู่ดีๆ ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างกะทันหันโดยพี่ชายตัวสูง ใบหน้าหล่อของอีกคนขาวซีด และดูวิตกอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งน้ำตาที่มันหยดลงมาอาบใบหน้านั่นอีก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอเฮีย”
ร่างสูงไม่ตอบอะไร กลับยื่นเดินไปเปิดทีวีของเขาก่อนจะกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปที่ช่องข่าว ด้วยมืออันสั่นเทา
‘วันนี้เมื่อเวลา 10.20 น. ได้เกิดเหตุเครื่องบินตก ทราบว่าเป็นของสายการบิน K ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นในวันนี้ คาดว่าไม่มีผู้รอดชีวิต...’
“ไม่จริงหน่า...”
**********************************************************
อีกตอนเดียวจะจบละค่ะ (มั้ง 555)
เม้นให้ด้วยนะคะ ><
ความคิดเห็น