ชื่นชีวาสี่ขาสื่อรัก
หนึ่งสาวที่ชีวิตพ่วงมาด้วยสาวแก่แต่ยังมีไฟ กับเจ้าสองตัวแปดขามะหมาจอมป่วน บ้านใกล้เรือนเคียงหนุ่มสุขุมนุ่มลึกที่มีภรรยาจอมวีน ความหรรษาจึงบังเกิด
ผู้เข้าชมรวม
70
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ 1แรกเริ่มเดิมที
“เอ้าลูกบอมบ์กินข้าวอีกคำสิลูก อ้าม....อีกคำลูก เก๊งเก่ง”
ทุกเช้ากับเย็นต้องได้ยินคำนี้มิลล์ถอนหายใจวันละสิบรอบ เฮ้อ...ชีวิตนี้เปลี่ยนแม่ เปลี่ยนน้อง ๆ ยังทันไหมนี่
“เอ้ามิลล์กลับมาแล้วเหรอลูกมาป้อนข้าวน้องบอมบ์แทนแม่หน่อยเร็ว”
แม่บอกพลางวางชามข้าวของบอมบ์บนพื้นข้างลำตัว
“โธ่!แม่ไม่ต้องป้อนมันหรอกเดี๋ยวหิวมันก็กินเองละน่าป้อนงี้ทุกมื้อมันก็เคยตัวหมดสิ”
มิลล์พยายามกดเสียงเบื่อหน่ายไว้
“ก็แม่เป็นห่วงมันกลัวปวดท้องหิวข้าวตอนดึก เมื่อคืนท้องร้องจ๊อก ๆ เลยต้องลงมาปอกแอปเปิลให้กินกลางดึก” เสียงแม่ชักจะสั่นเครือเข้าทุกที
“โอเค ๆ แม่ เดี๋ยวมิลล์ป้อนมันเอง”
เพื่อจะจบคำถกเถียงกับแม่จึงยอมสานต่อภารกิจของแม่ให้จบแต่...ชามข้าวของบอมบ์ที่ยังมีอาหารเต็มปรี่เมื่อกี้คงเหลือแต่ความเงาวับของชามอลูมิเนียมกับปากที่มันแผล่บของเจ้าบิ๊กกี้
“แม่...ไอ้บิ๊กกี้มันแอบกินของไอ้บอมบ์อีกแล้ววววววววววว”
เหตุการณ์ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ของบ้านมิลล์เหมือนหนังที่ฉายวนเวียนแต่เรื่องเดิมๆสาวสองวัยกับหมาสองตัวที่นิสัยต่างกันสุดขั้วบอมบ์เป็นหมาสายมังสวิรัติชอบกินผักเลี้ยงยากกินยากชอบกินอาหารของคนไม่ชอบอาหารหมาขี้น้อยใจเป็นที่หนึ่งส่วนบิ๊กกี้เป็นจอมสวาปามกินทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่สะดุ้งสะเทือนกับคำบ่นคำด่าใด ๆ ทั้งสิ้น ขอแค่ได้กิน กิน และกิน ไม่ชอบกินผักแต่ถ้าเห็นบอมบ์กินมีส่วนร่วมเพราะกลัวเสียเปรียบ เวลาจะลูบหัวต้องลูบพร้อมกันทั้งสองตัวมิฉะนั้นอาการงอนสุดขีดก็จะบังเกิดไม่ไปนอนใต้บันได ก็จะเป็นใต้เตียงที่มิลล์ต้องเป็นคนมุดเข้าไปลากออกมา เพราะคุณนายสมรศรีอ้างว่าแก่แล้ว ก้ม ๆ เงย ๆ มาก กระดูกกระเดี้ยวจะผิดรูปเอา
ตั้งแต่เล็กจนโตมิลล์ตั้งใจไว้แล้วว่าชีวิตนี้จะไม่เลี้ยงหมู หมา กา ไก่ ใด ๆ ทั้งสิ้นให้เป็นภาระ แต่แม่นี่สิดันเป็นคนรักสัตว์ทุกประเภทเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แม่ไปเจอ บิ๊กกี้แล้วถูกชะตาจึงซื้อกลับมาที่บ้าน
มิลล์บอกให้แม่เอาไปคืนร้านโดยไม่ต้องขอเงินคืนปรากฏว่าแม่โดนร้านขายหมาเล่าถึงความรันทดของบอมบ์ว่าเป็นหมาสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เกิดท้องเดียวกันกับบิ๊กกี้รักกันมากอยากให้อยู่ด้วยกันจากที่จะเอาหมาไปคืนกลับได้มาเพิ่มอีกตัว
‘แม่อยากเลี้ยงก็เลี้ยงไปเลยนะแต่มิลล์ไม่เอาด้วยหรอกเลี้ยงหมาเป็นภาระจะตายดูดิไอ้ตัวเล็กตาแฉะๆดูขี้โรคจะตายไอ้ตัวโตก็ดูกร่างขากางเอาเรื่องเชียวนะแม่’มิ้ลล์บอกแม่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
‘น้องชื่อบิกกี้กับบอมบี้น่ะเค้ามีชื่อ’แม่บอกด้วยความรักใคร่เอ็นดูอย่างปิดไม่มิด
‘เอ๋า มิลล์มีน้องเป็นหมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยแม่ พ่อก็ตายตั้งนานแล้วนิ’ มิลล์อดแขวะแม่ไม่ได้
‘เออเอ็งไม่เลี้ยงก็อย่ามายุ่งกับข้าหมาของข้าๆ เลี้ยงเองได้’
ถ้าคุณนายสมรศรีขึ้นคำว่าข้ากับเอ็งเมื่อไหร่สัญญาณอันตรายเริ่มบังเกิดแล้ว มิลล์มองหมาตัวเล็กกับตัวใหญ่ในกล่องมีที่ไหนบอกว่าท้องเดียวกันตัวนึงเล็กจิ๋วขนหยิกหยอยสีเทาๆ เหมือนพันธุ์พุดเดิลหน้าตาน่ารักดูเป็นหมาเด็กตลอดกาล อีกตัวตาโตขนตรงยาวสีน้ำตาลทองเหมือนพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ แม่โดนเค้าหลอกมาแน่ๆแต่ช่วงกำลังรักกำลังหลงบอกไปก็ป่วยการ มิลล์ถือคติเสียว่านิ่งเสียตำลึงทองแล้วก้มหน้าก้มตาเลี้ยงน้องสองตัวแปดขาให้แม่ชื่นใจดีกว่า เจ้าหมาน้อยสองตัวนี้ก็เหมือนจะอยู่เป็นรีบเลียมือไพรพนาอย่างเอาอกเอาใจแรกๆเจ้าหมาสองพี่น้องเป็นหมาที่กินอยู่อย่างมีวินัย ขับถ่ายเป็นระเบียบ สอนสั่งได้ดั่งใจทุกอย่างเจ้าของเดิมน่าจะฝึกมาดี คุณนายสมรศรียังเกรงใจมิลล์อยู่บ้างจึงให้นอนชั้นล่างแต่ค่อยๆคืบคลานจากชั้นล่างมานอนหน้าห้องนอนก็ค่อยๆคืบคลานมานอนหน้าเตียงจนบัดนี้ยึดเตียงนอนไปครึ่งหนึ่งเรียบร้อยแล้ว บางทีครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนผีอำหนักที่อกกับหัว ที่ไหนได้บอมบ์นั่งบนหัวส่วนบิ๊กกี้นั่งป๋อหลอบนตัวอยู่รอให้ตื่นพาไปเดินเล่นทำให้ไพรพนาหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่เช้าส่วนแม่น่ะเหรอร้องเพลงหงุงหงิง ๆ ทำกับข้าวให้ลูก ๆ ในครัวอย่างมีความสุข
เมื่อพาเจ้าสองตัววิ่งรอบหมู่บ้านกลับมาแม่ทำกับข้าวเสร็จพอดีไพรพนากินเบคอน ไข่ดาว บิ๊กกี้กับบอมบ์นั่งตาเชื่อมสะกิดอยู่ปลายเท้า ตะกายก็แล้ว สะกิดก็แล้ว ยังไม่มีวี่แววจะได้กิน จึงส่งเสียงประท้วง แม่กำลังผสมอาหารหมาให้อยู่ เจ้าบอมบ์มองแบบเมินเสียเถอะจะกินในเมื่อมีอาหารคนแสนอร่อยอยู่ตรงหน้าส่วนบิ๊กกี้กินของคนเสร็จค่อยจัดการของหมาต่อถือเป็นโบนัสรอบแรกของวัน
“นี่เอ็กซ์บ้านยายมิลล์ทะเลาะกันเรื่องหมาอีกแล้วนะ
เสียงดังน่ารำคาญจังแพทเริ่มไม่ไหวแล้วนะ”
แพทหรือประภาวิไลภรรยาคนสวยของอารัณย์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสะบัด ๆ
“เอาน่าแพท
ใจเย็น ๆเดี๋ยวพรุ่งนี้เอ็กซ์จะไปคุยกับน้าหมอนให้เค้าคงไม่ตั้งใจรบกวนเราหรอกยิ่งรู้ว่าแพทท้องอยู่อย่างนี้ด้วย”
อารัณย์บอกอย่างใจเย็น
“ก็ไม่รู้ล่ะแต่ก่อนยายมิลล์ก็แอบชอบตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ เห็นวิ่งเข้าออกในบ้านตั้งนาน”ประภาวิไลยังคงอารมณ์คุกรุ่นอยู่
“แพทอย่าคิดมากสิมิลล์เค้าเป็นเพื่อนกับยายอาร์มสองคนนี้ก็วิ่งไปมาทั้งสองบ้านแหละ”อารัณย์ยังเอ่ยแบบรอมชอมให้ประภาวิไลอารมณ์ดีขึ้น
“ก็ไม่รู้ล่ะอย่าให้แพทรู้นะว่ายายอาร์มยังแอบเชียร์เพื่อนให้เอ็กซ์อยู่ไม่งั้นแพทหอบลูกกลับไปอยู่บ้านพ่อซะเลยแล้วเอ็กซ์ก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าลูกนะแพทจะให้พ่อจัดการขั้นเด็ดขาดเลย” เสียงประภาวิไลดังแว่วเข้าหูเหมือนจงใจให้ข้างบ้านได้ยิน
มิลล์พาอารมณ์อันขุ่นมัวไปทำงานด้วยยังดีที่ถึงแม้ทำงานหน่วยงานราชการก็ไม่ต้องพบปะประชาชนไม่อย่างนั้นคงโดนข้อร้องเรียนเป็นหางว่าวโทษฐานเจ้าพนักงานหน้าตูม
“เฮ้ยมิลล์เป็นไรวะหน้าบูดเป็นตูดลิง” พี่นาฟฉายาบุรุษปากปีจอทักขึ้นมา
“เบื่อน่ะพี่ อะไรไม่รู้โดนลูก ๆ ของแม่อำจนฝันร้ายทั้งคืนแล้ว ตอนเช้ายังโดนข้างบ้านหาว่าบ้านมิลล์เสียงดังด้วยอ่ะพี่ทีเค้าโมโหกรี๊ดลั่นจนหมาเห่าตาม มิลล์กับแม่ยังไม่เคยไปว่าเค้าเลย” มิลล์บอกด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด
“ไอ้เรื่องที่เอ็งเล่าเรื่องข้างบ้านน่ะยังพอเข้าใจ แต่ลูกๆของแม่เอ็งคือไรวะไหนว่าเป็นลูกสาวคนเดียว” นาฟเริ่มซักไซ้
“ก็เจ้าบิ๊กกี้กับบอมบ์แหละพี่เดี๋ยวนี้มันขึ้นมานอนบนเตียงแล้ว ถ้ามิลล์ตื่นสายขึ้นบนหัวเลยอ่ะพี่”
“เออ เจริญ ๆ
นะน้อง หมาให้พรแต่เช้าเลย ว่าแต่เอ็งอายุเท่าไหร่แล้วนี่”
"ฮั่นแน่ สมัยโบราณถ้าถามถึงอายุผู้หญิงนี่ เค้าจะเอาไปดูดวงแต่งงานนะพี่" มิลล์ตอบกลับ แต่แววตาเริ่มหวั่นไหวในคำถามพี่นาฟจะมาไม้ไหนกันนะ
ผลงานอื่นๆ ของ kaweethida ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ kaweethida
ความคิดเห็น