ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I'm not a boy ขอโทษที พอดีผมเป็นผู้หญิง

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 56


    Chapter 2

     

    TEA CLUB

    ตัวอักษรจากป้ายไม้ที่แขวนอยู่หน้าร้านทำให้ฉันพอจะประมวลผลอะไรได้บ้าง หลังจากโดนลากมานานร่วม15นาที นี่คงเป็นการเข้าใจผิด พี่ชายหน้าตาไม่น่าไว้วางใจคนนี้(ไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนวิ่งหนี หน้าพี่แกเจ้าเล่ห์สุดๆ)คงเข้าใจว่าฉันจะมาสมัครงานที่ร้านตามใบปลิวที่เก็บได้ และพอดีกับที่ร้านกำลังขาดคนฉันเลยต้องเข้าทำงานวันนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเนี่ยนะ!!

    แล้วดูสิ แค่ช่วงที่ฉันคิดและเรียบเรียงเหตุการณ์ พี่ท่านก็พาฉันเข้ามาถึงห้องแต่งตัวแล้ว!!

    “เอาล่ะ อืม หน่วยก้านใช้ได้ แถมหน้าหวานๆแบบนี้อืม ต้องออกมาดูดีมากแน่ๆ! เอาล่ะ ถอดเสื้อผ้าสิ!

    “หา!!

    “ถอดเสื้อผ้าออกสิ ฉันจะเลือกชุดให้”

    ให้ตายสิ!! นี่มันบ้าอะไรกัน ฉันเชื่อเลยว่าไอ้คนที่วิ่งหนีไปเมื่อกี้จะต้องเจออะไรอย่างนี้แน่ๆ เป็นใครใครก็วิ่ง โดนไอ้แก่(ถึงจะไม่มากก็เถอะ)หน้าตาเจ้าเล่ห์มองด้วยสายตาสำรวจไปทั่วตัว แถมจู่ๆก็สั่งให้แก้ผ้า จะบ้ารึไง นี่มันร้านประเภทไหนเนี่ย!! ดูจากภายนอกเหมือนจะเป็นร้านขายชากาแฟและเบเกอรี่อยู่หรอก แต่คนที่ดูจะเป็นผู้จัดการร้านนี่ไม่ให้อารมณ์แบบนั้นเลย!

    “เร็วๆสิ ร้านเปิดตอนสามทุ่มนะ นี่ก็สองทุ่มกว่าแล้ว เดี๋ยวจะแต่งตัวแต่งหน้าไม่ทัน”

    แต่งตัว? แต่งหน้า? แล้วร้านขายชากาแฟที่ไหนเค้าเปิดกันสามทุ่มวะ!! จะมีคนสักกี่คนที่มากินกาแฟดึกดื่นป่านนี้ ไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี!!!

    “เดี๋ยวนะ นี่มันเรื่องเข้าใจผิด ฉันไม่ได้จะมาสมัครงาน แค่เก็บไอ้นี่ได้จากคนที่วิ่งหนีคุณไปเมื่อกี้!”ฉันชูใบปลิวให้ดูเป็นหลักฐานประกอบ นี่ครั้งแรกในรอบปีเลยมั้งที่ฉันกระแทกเสียงใส่คนอื่น-_-

    “ไม่ต้องอายน่า ฉันรับนายเข้าทำงานแล้ว ที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก รายได้ดีด้วย”ดูพี่แกจะไม่สนใจคำพูดฉันเลย ก็เล่นเต๊ะท่าสบายๆซะขนาดนี้ อย่างกับปลอบสาวๆเวลาจะถ่ายหนังโป๊แหนะ ว่าแต่มีอะไรแปลกๆในประโยคเมื่อกี้นะ

    “นายหรอ-_-

    “ก็ใช่น่ะสิ นายเป็นผู้ชาย จะให้ฉันเรียกว่าอะไรล่ะ เอ้อ ต่อไปเรียกฉันว่ามาสเตอร์นะ คนที่นี่เค้าก็เรียกกันแบบนี้แหละ”

    ฉันมองสำรวจคนตรงหน้าบ้าง ชายหนุ่ม น่าจะรุ่นเดียวกับพี่ชายคนรองของฉันหรือไม่ก็อ่อนกว่าไม่กี่ปี หน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ถ้าไม่ติดที่สายตาเจ้าเล่ห์นั่นคงเป็นคนที่ดูดีมากทีเดียว ถึงจะพูดจาสองแง่สองง่าม และดูไม่น่าไว้ใจ แต่ฉันเคยเจอคนที่พูดด้วยไม่รู้เรื่องแถมถือตัวเองเป็นใหญ่แบบนี้มาตลอดชีวิต ใครน่ะหรอ? พี่สาวฉันไง! เอาล่ะ จะสนทนาให้เป็นเรื่องเป็นราวสักทีก็แล้วกัน

    “มาสเตอร์ช่วยหยุด แล้วฟังหน่อยนะ”

    คนตรงหน้ามีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย นั่นล่ะ เหมือนพี่สาวฉันเด๊ะ พอลองเว้นวรรคให้อะไรๆช้าลงหน่อย ก็จะเริ่มสงบ

    “อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ แต่ดูคุณจะไม่ได้ฟังเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาสมัครงาน แต่บังเอิญเก็บไอ้นี่ได้เท่านั้น แต่ดูจากท่าทางร้อนรนของคุณแล้ว เหมือนคุณกำลังขาดคนอย่างมาก ถ้าคุณจะช่วยอธิบายรายละเอียดของร้าน ซึ่งฉันไม่รู้อะไรเลยให้ฟัง อย่างช้าๆล่ะก็ ถ้าฉันสนใจ ก็จะช่วยงานคุณได้เลยไม่มีปัญหา แต่อาจจะแค่วันนี้เท่านั้น ในกรณีที่ลองทำแล้ว ฉันไม่ชอบ”

    “อ่าเอ่อ งั้นหรอ ขอโทษทีนะ ฉันกำลังรีบหาคนจริงๆ พอชวดหลายๆคนเข้าก็เลยสติแตกน่ะ ว่าแต่ นายไม่ได้โกรธใช่มั้ย นายดูไม่ค่อยสบอารมณ์”หน้าฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด โทษทีนะ-_-

    “ไม่ได้โกรธหรอก-_-^”แค่ปวดหัวสุดๆเลยแค่นั้นแหละ

    “หรอ-O-;; เอาเถอะ ถึงฉันจะรีบ แต่จะอธิบายให้ฟังก็ได้ เพราะต่อให้ออกไปเดินหาคน ก็คงไม่ทันแล้ว ถ้าได้นายมาทำงานด้วยก็ถือว่าโชคดีล่ะ ที่นี่มีชื่อว่า TEA CLUB ตอนช่วงเช้าที่ชั้นบนของเราเปิดเป็นร้านกาแฟ ชา และเบเกอรี่ทั่วไปๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เหมือนร้านกาแฟอื่นๆนั่นแหละ จนถึงช่วงห้าโมงเย็น เราจะปิดชั้นบน และเตรียมตัวสำหรับเปิดร้านชั้นล่าง”

    -_-

    “มาถึงตรงนี้ คนส่วนใหญ่จะงงกันนะ นายนี่เข้าใจอะไรง่ายดีจัง ไม่งงเลย^O^

    นี่ฉันกำลังทำหน้างงที่สุดในชีวิตอยู่นะ หมอนี่แกล้งมองไม่เห็นรึไง -_- (นี่หน้างงของแกหรอ? : ผู้แต่ง)

    “ขอโทษนะ ฉันงงตั้งแต่ชั้นบนชั้นล่างแล้ว เพราะตอนเดินเข้ามา ฉันเห็นว่าที่นี่มันเป็นอาคารชั้นเดียวไม่ใช่รึไง?”แถมเป็นชั้นเดียวเหมือนร้านกาแฟทั่วๆไป ที่ดูยังไงก็ไม่เห็นว่ามันจะมีชั้นล่างอย่างที่พี่แกบอก

     

    “อ้อ! นั่นสินะ ชั้นนี้คือชั้นบน เธอคงเห็นแล้วตอนเดินเข้ามาว่ามันเป็นร้านกาแฟ ส่วนชั้นล่าง คือข้างล่างนี่(ชี้มือลงพื้นประกอบคำพูด) ชั้นใต้ดินน่ะ^^

    “อ่าฮะ”

    “ชั้นล่างของเราจะเปิดตอนสามทุ่มอย่างที่บอกไปแล้ว เป็นลักษณะของคลับและบาร์ มีเครื่องดื่ม มีวงดนตรีมาเล่นเพลงให้ฟังสดๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงสบายๆล่ะนะ อาจมีให้โยกกันบ้างตอนดึกๆ ก็ทั่วๆไปแหละ แต่เราจะพิเศษก็ตรงที่ พนักงานของเราคอสเพลย์สลับเพศ!!

    “อ้อ-_-“เคยได้ยินมาเหมือนกันนะ ว่ามีร้านที่ทำอะไรประมาณนี้อยู่ด้วย

    “อุก! นี่ฉันอุตส่าห์บิวท์ให้ตื่นเต้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นคงอุทานด้วยความตกตะลึงไปแล้ว!!

    “อ้อหรอ-_-“ แต่ฉันไม่เหมือนคนอื่นนี่

    -_- นี่นายมีอารมณ์ความรู้สึกบ้างมั้ยเนี่ย ว่าแต่ สนใจรึยัง>_<

    “ขอรายละเอียดมากกว่านี้ได้มะ? แค่บอกว่าคอสเพลย์สลับเพศน่ะ ไม่ช่วยให้ตัดสินใจได้หรอกนะ”

    “รายละเอียดหรอ? อืมก็ ทำงานตั้งแต่สามทุ่ม ถ้าเป็นเด็กมหาลัยอย่างนายก็จะเลิกงานให้ตอนเที่ยงคืน ทำงานเหมือนเด็กเสิร์ฟทั่วไป คอยรับออร์เดอร์แล้วก็เอาของไปเสิร์ฟให้ลูกค้า จุดขายของร้านนอกเหนือจากความแปลกที่ร้านอยู่ชั้นใต้ดินแล้วก็เรื่องที่พนักงานคอสเพลย์สลับเพศนี่ล่ะ ผู้ชายจะแต่งตัวเป็นผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจะแต่งตัวเป็นผู้ชาย ได้รับความนิยมมากทีเดียว คงเพราะมันดูขัดๆแต่ก็ลงตัวล่ะนะ เพราะก่อนจะรับเข้าทำงานเราก็คัดกันหนักพอสมควร ว่าแต่งออกมาแล้วจะดูดีรึเปล่า แต่หนุ่มหล่ออย่างนายนี่ไม่ต้องห่วงเลย แต่งแล้วต้องเป็นสาวสวยแน่ๆ!! เรากำลังขาดพนักงานชายอยู่พอดีเลยล่ะ!! อ้อ! แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะที่นี่ไม่ใช่โฮสต์คลับ ไม่มีนโยบายให้เด็กนั่งดริ๊งหรือหิ้วกลับบ้าน^^

    “เหมือนเป็นคลับของพวกโฮโมเลยแฮะ”ฉันพึมพำเบาๆแบบลืมตัว

    “ไม่ใช่นะเว้ย! พูดแบบนั้นเดี๋ยวตีปากแตก ลูกค้าที่นี่ไม่ได้มีแต่พวกโฮโมซะหน่อย แล้วพนักงานก็มีชายแท้หญิงแท้อยู่ด้วยตั้งเยอะแยะ! มันเป็นจุดขาย เหมือนพวกร้านอาหารจีนที่ให้พนักงานแต่งชุดกี่เผ้าหวิวๆนั่นแหละ!!

    ตัวอย่างที่ยกมาก็ยังดูเป็นรสนิยมแปลกๆอยู่ดีนั่นล่ะ-_- แต่ช่างเหอะ คนเราก็อยากเสพอะไรที่แปลกใหม่กันเป็นธรรมดาล่ะนะ ฉันเองฟังแล้วยังอยากลองมานั่งที่ร้านนี้สักครั้งเลย อยากรู้ว่าไอ้คอสเพลย์สลับเพศนี่มันจะดูดีสมที่โม้ไว้รึเปล่า แต่เรื่องที่จะให้ทำงานนี่คงจะไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่ามาสเตอร์จะเข้าใจอะไรผิดอยู่หลายอย่าง-_-

    “ที่นี่รับเด็ก ม.ปลายเข้าทำงานมั้ย?”

    “เฮ้ย! ไม่เอาหรอก ทำงานกลางคืนห้อมล้อมไปด้วยแอลกอฮอล์แบบนี้ รับเด็กมาทำงานก็ติดคุกหัวโตสิวะ!!

    “แล้วพนักงานหญิงยังขาดอยู่มั้ย?”

    “พนักงานหญิงน่ะเกินอัตราแล้ว ตอนนี้ในร้านเลยมีแต่หญิงแต่งชาย ส่วนพนักงานชายที่แต่งหญิงก็เหลือน้อยเต็มที ถึงได้ต้องประกาศรับสมัครงานนี่ไง ผู้ชายที่จะยอมแต่งหญิงมันมีน้อยน่ะ! แถมเรายังอยากได้ชายแท้ๆซะด้วยสิ เฮ้อ”

    “งั้นหรอ งั้นฉันคงช่วยอะไรมาสเตอร์ไม่ได้หรอก”

    “ห๊า!!O[]O หลอกให้อธิบายซะยาวเหยียด แล้วจะทิ้งกันไปแบบไม่ใยดีแบบนี้เนี่ยนะ โหดร้ายยยย”

    “ฉันเป็นเด็ก ม.ปลาย ปีนี้อยู่ ม.5

    O[]O” ฉันเห็นคำว่า คุก แปะอยู่กลางหน้าผากของมาสเตอร์เลยแฮะ -_,- ที่มาสเตอร์ไม่รู้ว่าฉันเป็นเด็ก ม.ปลายเพราะฉันเดินกลับบ้านด้วยชุดที่ใส่ซ้อมบาสน่ะสิ

    “และฉันเป็นผู้หญิง เป็นผู้หญิงแท้ๆโดยกำเนิด ไม่เชื่อจะดูบัตรประชาชนก็ได้นะ”

    TOT อ๊ากกกกกกก พังแล้วชีวิต วันนี้ก็ยังหาพนักงานไม่ได้หรอเนี่ย ทั้งที่โดนยัยแก่เจ้าของร้านกำชับมาว่าวันนี้จะต้องหาพนักงานชายให้ได้แท้ๆ”

    ฉันล่ะรู้สึกสมเพช เอ้ย! สงสารคนตรงหน้าจริงๆ คนหน้าตาดีๆพอมาแหกปากแบบนี้ก็หมดสภาพไปเลยแฮะ

                “ว่าใครเป็นยัยแก่กันฮึ? ไอ้จิ้งจอก”เสียงหวานดุที่ดังขึ้นด้านหลังบวกกับหน้าตาช็อคสุดชีวิตของมาสเตอร์ทำให้ฉันหันไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว

                โอ้! แม่! เจ้า!! สาวสวยทรงสะบึมนางนี้เป็นใครกัน ไหนจะชุดสุดหวิวรัดติ้วไปทั้งตัวนั่นอีก นี่ถ้าฉันเป็นผู้ชายจริงๆคงตายแทบเท้านางไปแล้วนะ ไหนจะหน้าตาเชิดๆเริดๆที่กำลังใช้หางตามองมาสเตอร์อย่างเหยียดๆนั่นอีก กระตุ้นต่อมมาโซซะจริงๆเลย-..-

                “จเจ้าของร้าน เปล่านะครับ ผมไม่ได้พูดนะ ไม่ได้พูด!!”ถ้ามาสเตอร์ก้มกราบได้คงทำไปแล้วล่ะ ฉันมองมาสเตอร์แล้วหันไปมอง เจ้าของร้านอีกครั้ง สมองประมวลผลได้ว่า สาววัยกลางคนที่ยังสวยเซี๊ยะตรงหน้านี่เป็นเจ้านายของมาสเตอร์ และเป็นเจ้าของร้านนี้ด้วย

                “ฉันได้ยินทุกอย่างละ รวมถึงเรื่องที่เธอเป็นผู้หญิงแถมเป็นเด็ก ม.ปลายซะด้วย ไม่น่าเชื่อเลยนะ หล่อแถมสูงขนาดนี้”เจ้าของร้านพูดไปก็มองสำรวจฉันไปด้วย เมินมาสเตอร์ที่กำลังก้มหน้างุดๆจนดูน่าสงสาร

                ว่าแต่คำพูดจี้ใจดำกันเกินไปรึเปล่าTT

                “เธอร้องเพลงได้รึเปล่า”คำถามของเจ้าของร้านทำเอาฉันขมวดคิ้วด้วยความงง อะไรอีกล่ะเนี่ย

                “ก็ได้นิดหน่อย”ฉันตอบตามความจริง อย่างน้อยฉันก็ไม่ใช่พวกเซนส์เรื่องเสียงติดลบ ที่ไม่รู้จักจังหวะ ไม่รู้จักคีย์ล่ะนะ

                “งั้นหรอ งั้นลองร้องเพลงนี้ดูสิ”ฉันได้ยินเสียงเหมือนลองเครื่องดนตรีดังมาจากชั้นล่าง น่าจะมีประตูลงชั้นล่างเปิดอยู่ที่ไหนสักแห่ง เสียงมันถึงได้ดังขึ้นมาแบบนี้ นักดนตรีกำลังเล่นทำนองเพลงฮิตที่ติดชาร์ตทุกคลื่นวิทยุอยู่ตอนนี้เพื่อจูนเสียงเครื่องดนตรี สีหน้าเจ้าของร้านเหมือนเร่งให้ฉันร้องก่อนที่การลองเสียงจะจบ

                         

    เผลอร้องจนจบเพลงซะได้ ถึงจะทำไปเพราะขัดสายตาบีบบังคับของเจ้าของร้านไม่ได้ก็เหอะ แต่เพลงนี้ก็เป็นเพลงโปรดที่ฟังบ่อยๆซะด้วยสิ เลยร้องเพลินซะจนไม่รู้ว่าดนตรีหยุดไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วดูสีหน้ามาสเตอร์สินั่น หรือว่าเสียงฉันมันสุนัขไม่รับประทาน? นี่เป็นเรื่องเดียวนอกเหนือจากเรื่องบาสที่ฉันมั่นใจเลยนะ!

                “โอเค ใช้ได้เลยล่ะนะ เอาล่ะ จัดชุดให้เด็กนี่ซะ เอาชุดผู้หญิงเท่ห์ๆหน่อยแล้วกัน ขอวิกผมยาวตรงที่เข้ากันด้วยนะ เผื่อจะมีแขกจำได้ เดี๋ยวจะติดคุกหัวโตกันหมด”เจ๊ทรงสะบึมพูดสบายๆแถมทำท่าจะเดินออกจากห้องไปซะเฉยๆ แต่ก่อนที่ฉันจะได้โวยวายอะไร มาสเตอร์ก็ชิงพูดขึ้นซะก่อน

                “อะไรกันครับ ผมงงไปหมดแล้ว!? จะให้เด็กทำงานหรอครับ แล้วๆ ถึงจะให้ทำงานจริงๆ ปกติต้องให้คอสเป็นผู้ชายสิครับ!

                “ก็ไม่ถือเป็นการทำงานหรอกนะ น่าจะเรียกว่าขอความร่วมมือมากกว่า ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ พี่ชายเธอดันหิ้วนักร้องนำของวงประจำร้านฉันไปไหนต่อไหนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แถมทำท่าว่าคืนนี้จะไม่เอามาคืนซะด้วย พอฉันโทรฯไปทวงคืน หมอนั่นก็บอกแค่ว่า เอาน้องสาวฉันไปแทนสิ ยัยนั่นร้องเพลงเพราะนะ แล้วก็วางสายไปน่ะ ก็เลยต้องให้เธอมาเป็นนักร้องนำให้สักคืน เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องแต่งเป็นผู้ชายเหมือนพนักงานเสิร์ฟ แต่จะขึ้นไปทั้งแบบนี้ก็กลัวจะมีคนจำได้แล้วไปแจ้งตำรวจ ถึงจะอ้างว่าพี่ชายเธออนุญาตแล้ว ก็คงไม่ช่วยอะไรล่ะนะ”

                “-O-;;;”มาสเตอร์เหวอไปแล้ว หลังจากโดนเจ๊อธิบายซะกระจ่างแจ้ง

                “ดเดี๋ยว แล้วพี่ฉันรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่” ไม่ต้องถามเลย ว่าพี่ชายคนไหน ทำอะไรพิเรนแบบนี้มีคนเดียวแหละ!

                “ระบบติดตามตัวในมือถือเธอไง”

                “ระบบติดตามตัว!!?”

                ไอพี่บ้านั่น! เป็นโรคจิตสตอล์กเกอร์รึไง!!?





    ตอนที่ 2 แล้ว เป็นยังไงบ้าง? ขอเม้นแนะนำหน่อยน๊าาาา 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×