คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 :: กษัตริย์ แห่ง ซารอค ( ดองอยู่ เอ่อ....ไม่ว่าใช่มั้ย )
เสียงมีดกระทบจานกระเบื้องดังเป็นระยะ ในห้องอาหารอันเงียบเชียบราวกับไร้สิ่งมีชีวิต
" ทูตที่เราส่งไป โดนตัดลิ้นกลับมาเพราะไปพูดอะไรขัดใจกับทางนั้นอย่างนั้นน่ะหรือ " ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เอ่ยเสียงเรียบแต่ก้องกังวาลไปทั่วห้องอาหาร ชายชราผวาเฮือกด้วยความตกใจระคนเกรงกลัว
" พะยะค่ะ "
" ถ้าอย่างนั้น ก็แสดงว่าทูตของเราก็หมดประโยชน์แล้วสินะ "
" หมายความว่าอย่างไรกระหม่อม "
" ข้าไม่ต้องการทูตลิ้นขาด " ผู้สูงศักดิ์พูดเสียงขุ่น ดวงตาสีอำพันเหลือบไปทางชายวัยกลางคนที่คุกเข่าลงกับพื้นตัวสั่นระริก
" เอ่อ....ข้าอยากให้ท่านเห็นแก่ ความจงรักภักดีที่เขามีให้แก่ซารอค อย่างน้อยนิดเขาก็เคยทำงานให้แก่ราชวงศ์มานานปี..... " ไม่ทันที่ชายชราจะได้อุทรณ์จบ ชายหนุ่มร่างสูงก็แสยะยิ้มนิดๆ
" ก็ถึงอย่างนั้น ข้าถึงปราณี ไม่อยากให้มีชีวิตอยู่ด้วยสภาพอย่างนั้น " ผู้สูงศักดิ์ผุดลุกขึ้นอย่างสง่างาม แล้วสาวเท้าไปทางทูตวัยกลางคนในโซ่ตรวนที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
มือใหญ่เงื้อมีดเหล็กเล่มเล็กขึ้นแล้วปล่อยให้ร่วงกลางศรีษะของทูตแห่งซารอค
ฉึก!!
เลือดสีแดงฉานพรุ่งเปรอะเปื้อนพื้นพรมเป็นหย่อมๆ
" เดี๋ยววันรุ่ง ข้าจะเป็นทูตแห่ง ซารอค เอง " กษัตริย์หนุ่มเอ่ยพลางหมุนตัวกลับไปทานอาหารดังเดิม ปล่อยให้สาวใช้ค่อยๆเดินเข้ามาทำความสะอาดร่างไร้ลมหายใจออกจากห้องไป ด้วยสีหน้าเฉยชา
...................................................................................................................................
" ทูตอีกแล้วเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก " แดเนียลสะบัดเสียงดื้อดึง มือเล็กดึงหมอนสีขาวปุกปุยขึ้นมาปิดหู ให้ราล์ฟต้องดึงหมอนออกอย่างยากลำบาก
" ก็เพราะมีทูตมาน่ะสิขอรับ ท่านถึงต้องไปแก้ตัว คราวก่อนท่านทำเรื่องซะ.... "
" ก็มันมาว่าข้าน่ะ ข้าจะไม่ไปพงไปพบแล้วไอ้พวกทูตน่ะ ปล่อยข้านะ!!! " ผู้สูงศักดิ์ตัวน้อยแหกปากพลางดิ้นขลุกขลัก เมื่อราล์ฟก็ดึงตัวเขามาพาดบ่าเสียเฉยๆ มือเล็กทึ้งเส้นผมสีสวยของขุนนางหนุ่มจนเสียวจะแหว่งเป็นกระจุก
" หัดทำให้ข้าสบายใจบ้างสิ ท่านแดเนียล "
" เจ้าสบายใจ แต่ข้าไม่ชอบนี่!! " แดเนียลร้องโวยวายเสียงดังลั่น ก่อนจะแหกปากร้องอีกครั้งทันทีที่ราล์ฟโยนเขาลงอ่างน้ำทั้งๆที่ยังใส่ชุดนอนอยู่ มือเรียวเอื้อมไปคว้าขอบอ่างน้ำพลางเอามือลูบใบหน้าเปียกน้ำจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น แล้วชี้สุ่มๆไปทางราล์ฟคล้ายกำลังจะโกรธเกรี้ยว
" เจ้า....เจ้าแกล้งข้า!! "
" อาบน้ำเงียบๆไปเถอะขอรับ ท่านแดเนียล "
" หนอย เจ้าคนอวดดี ข้าไม่ยอมเปียกคนเดียวหรอกนะ!!! " มือขาวๆเอื้อมไปดึงชายเสื้อของขุนนางหนุ่มจน ราล์ฟเสียงหลักหงายหลังลงอ่างน้ำ ชายหนุ่มลูบหัวป้อยๆ แล้วหันไปมองแดเนียลที่กำลังหัวเราะคิกคักตาขุ่น
" ท่านแดเนียล!! "
" เจ้าผิด.....จบ " ผู้สูงศักดิ์เอ่ยเสียงหนักแน่นคล้ายคำประกาศิต ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโตฉายแววสนุกสนาน ก่อนจะวักมือปัดน้ำใส่หน้าราล์ฟ จนผู้ต่ำศักดิ์กว่าต้องรีบเอามือกัน
" ไม่เอาแล้วนะ ท่านแดเนียล " ราล์ฟสะบัดน้ำใส่หน้าชายหนุ่มหน้าหวานคืนจนแดเนียลรีบถอยหลังด้วยความตกใจ
" อุ้ย.... " แดเนียลค่อยๆเอามือขยี้ตา จนราล์ฟเริ่มใจเสีย ร่างสูงค่อยๆเคลื่อนตัวไปดูนายเหนือหัวใกล้ๆ
" มีอะไรหรือขอรับ "
" ไม่รู้.....เหมือนมีอะไรเข้าตา " ขุนนางหนุ่มก้มหน้ามองใบหน้าหวานสวยใกล้ๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อแดเนียลเขย่งขาจนริมฝีปากสีสวยชนกับริมฝีปากของเขาชั่วพริบตา
" แบร่....โดนหลอกแล้ว "
" นี่ท่านเล่นอะไรของท่านน่ะ " ใบหน้าหล่อคมคายขึ้นสีแดงซ่าน นิ้วมือเรียวค่อยๆแตะริมฝีปากเบาๆ
ถึงมันจะแค่ชั่วพริบตา เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่ารสหวานประหลาดนั่นก็แผ่ซ่านไปทั่วปาก
" ราล์ฟหน้าแด๊งแดง แหนะ " แดเนียลหยอกเย้ากลั้วเสียงหัวเราะ นิ้วมือเรียวสวย จิ้มใบหน้าของคนขี้อายเบาๆ จนราล์ฟต้องรีบก้าวขาออกจากอ่างน้ำใหญ่ๆอย่างยากลำบาก ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้าให้สาวใช้ที่กำลังมองดูอยู่ข้างนอกอย่างขำๆเจือเอ็นดูเข้ามา
" รีบๆอาบน้ำแล้วรีบๆไปต้อนรับทูตเลยนะขอรับ.....ไม่ต้องมาหัวเราะ " ขุนนางหนุ่มเหลียวหลังมากำชับอีกครั้ง จนแดเนียลเผลอกรอกตาขึ้นมาหน่อยๆด้วยความเบื่อหน่าย
...................................................................................................................................
" อื้อหือ.....นั่นน่ะเหรอทูต ท่าทางน่าเกรงขามไม่หยอกแหนะ " แดเนียลอุทานอย่างไร้เดียงสา พลางชะเง้อคอมองไปยังทูตที่อยู่ในท้องพระโรงผ่านผ้าม่านแดง แต่ขุนนางหนุ่มกลับขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างหวาดระแวง
" ข้าคิดว่า ท่านควรจะระวังตัวมากกว่านะขอรับ "
" เหรอ งั้นจะพยายามแล้วกัน " ผู้สูงศักดิ์ฉีกยิ้มอย่างร่าเริงก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อราล์ฟคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ แล้วยื่นหน้ากากสีขาวเรียบๆให้
" หน้ากาก? "
" ขอรับ คิดซะว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยเดิม " แดเนียลเบ้หน้าขึ้นมาอีกรอบ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ มือเล็กคว้าหน้าหน้ากากขึ้นมาสวม แล้วสาวเท้าเข้าสู่ท้องพระโรง
...................................................................................................................................
" ขออภัย ที่ข้าเสียมารยาทให้ท่านรอ " แดเนียลค้อมตัวลงเล็กหน้าอย่างมีมารยาท เล่นเอาทหารยามแถวนั้น ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความงุนงง
" ข้าต่างหากก็ต้องขออภัย ที่ไม่ได้บอกให้ทราบล่วงหน้าก่อน อาจเป็นเพราะ ข้าเร่งร้อนจนเกินไป ข้า โนอาร์ ทูตแห่งซารอค " ดวงตาสีอำพันคมกริบเหลือบเงยขึ้นมองใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยหน้ากาก
" ทางนั้นไม่พอใจที่ข้าทำร้ายทูตแห่งซารอคหรือ "
" หามิได้ ข้าเพียงแค่ต้องการเจรจาเรื่องการค้า และ ต้องการเชื่อมสัมพันธไมตรีเท่านั้น "
" ..... " แดเนียลนิ่งงัน เมื่อจดหมายน้อยแถวๆแขนเสื้อที่ใช้ราล์ฟใช้เตี๊ยมเอาไว้ไม่ได้มีเขียนถึงคำพูดกรณีนี้ ใบหน้าใต้หน้ากากเริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลนขึ้นมาหน่อยๆ
" หากจะเป็นการให้เกียรติแก่ข้าสักนิด ข้าอยากขอให้ท่านถอดหน้ากากนั้นออก "
ทำไมคำพูดมัน ลิเกจังวะ
ผู้สูงศักดิ์จอมเอาแต่ใจก่นด่าในใจ เขาเริ่มแสดงอาการลังเลจนกษัตริย์หนุ่มเห็นได้ชัด ใบหน้าเข้มจนแลดูแทบจะเรียกได้ว่าน่ากลัวกระตุกยิ้มนิดๆ
อัปลักษณ์นักหรือไง ถึงได้กลัวจะเผยโฉมอย่างนั้น
โนอาร์บ่นพึมพัม หากใบหน้ากลับเรียบเฉย ราวกับไม่ได้หลุดพูดเรื่องอะไรออกไป พาลทำให้ทหารรักษาพระองค์พากันเหงื่อตก
" ท่านอาจจะไม่รู้ ที่ข้าทำร้ายทูตของท่าน มันเป็นเพราะใบหน้าของข้า "
" ข้าแค่หวังว่าท่านจะให้เกียรติข้าสักนิด "
" ถ้าอย่างนั้นข้าก็หวังว่าท่านจะให้เกียรติข้าเช่นกัน " นิ้วมือเรียวค่อยๆเอื้อมขึ้นไปถอดหน้ากากช้าๆ ดวงตากลมโตเหลือบมองดูอิริยาบทของอีกฝ่ายอย่างเงียบงัน
ฉับพลันดวงตาสีอำพันเบิกโพลงด้วยความที่คาดไม่ถึง ภาพเบื้องหน้ามันทำให้เขานิ่งงันราวกับต้องมนต์สะกด หัวใจพลันเต้นแรงเร็วอย่างไม่ทราบสาเหตุ
" ข้าพอจะทราบสาเหตุที่ทูตของเราถึงโดนทำร้ายกลับมา สมควรแล้วขอรับ "
เพียงเท่านั้น แดเนียลก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ และราล์ฟที่ยืนอยู่หลังม่านถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
" หากไม่เป็นการรบกวน ข้าจะขอพักในราชสำนักสักนิดได้หรือไม่ " แดเนียลเลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างหน้าเอ็นดู ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
" คงเพราะเป็นช่วงฤดูมรสุมสินะ ข้าเข้าใจ " โนอาร์ค่อนข้างตะลึงเล็กน้อยกับคำพูดขององค์กษัตริย์เบื้องหน้าก่อนจะกลั้วหัวเราะ ต่างกับราล์ฟ ที่แทบจะเอาหัวโขกเสาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มซะแล้วสิ
ก็ในเมื่อเมืองซารอคมันไม่ได้ติดทะเลซะด้วยซ้ำ จะต้องไปห่วงมรสุมทำไมเล่า.......
" เอาเถอะ พักในเมืองของข้าให้สำราญใจเถอะ "
แต่เข้าใจผิดอย่างนี้ก็ไม่เลวนักหรอก
.................................................................................................................................
ไอ้คนแต่งไม่มีสมองด้านการใช้คำพูดอย่างฉลาดแฮะบ่งบอกถึงภูมิความรู้ได้อย่างดี....คิดแล้วเศร้า
บทหน้า ว่าด้วยเรื่อง เจ้าชายมังกร ( บทก่อนยังดองทิ้งไว้อยู่ไม่ใช่เหรอง้าย!! )
ความคิดเห็น