ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ]Love Point สะดุดรัก...พิกัดหัวใจ{HaeEun ft. sj}

    ลำดับตอนที่ #21 : !!POINT 18!!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 661
      1
      3 มี.ค. 54

    “ฮยอกแจ แกบอกข่าวดีมาเดี๋ยวนี้น๊า” ซองมินวิ่งถลามาหาผมทันทีที่ผมลงจากรถ

    “อะไร แกก็รู้แล้วนี่” ผมตอบเบี่ยงๆ

    “ไม่เอาแกต้องบอกฉันกับปากแกเอง” ซองมินยังคงคาดคั้นต่อไป

    “ซองมิน ฮยอกแจคงเขินน่ะ” เสียงหวานของเรียวอุคดังขึ้นเบื้องหลังผมหันไปยิ้มรับเขินๆ

    “เออ เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วและกัน อิอิสละโสดซะทีเพื่อนฉัน” ซองมินพูดเสียงดังแต่เรียวอุครีบเอามือปิดปากผม ก่อนเหลียวมองด้านหลังจึงพบว่าดงเฮเดินมาพร้อมกับคีย์ ฮึ่ม!! บาร์บี้ผีสิงแกเอาแขนของแกออกจากแขนแฟนฉันเดี๋ยวนี้น๊า  -_-*

    “ฮยอกแจแกเก็บอาการไหวนะ” ซองมินรีบถอยทัพมายืนอยู่หลังผมทันที

    “เออ ไหว” ผมกัดฟันตอบทั้งที่ผมอยากจะฉีกอกของบาร์บี้นั่นแทบขาด

    “วันนี้เป็นวันกิจกรรมเข้าชมรมเลยไหม” เสียงใสที่ผ่านการดัดมาอย่างดีถามขึ้นแถมหมอนั่นยังเอาอกเบียดไปที่แขนของดงเฮอีก นายนั่นมองผมแล้วแอบขมุบขมิบปากจับใจความได้ว่า อย่าหึงนะ ^_^

    “คงจะเข้าเลยแหละว่าจะไปหาพี่ฮีชอลซักหน่อย เห็นพี่ฮีชอลบอกจะจับหนอนอะไรทำนองนั้นแหละ” ผมตอบแล้วเดินเลี่ยงออกมามีซองมินและเรียวอุคเดินตาม

    “ฮยอกแจนี่เก่งจังเลย ไม่หึงเลย” เรียวอุคกล่าวขึ้น ใครบอกว่าไม่หึง ผมหึงจนผมจะฆ่าคีย์ได้อยู่แล้วนะ

    “ใครบอกจ้ะเรียวอุค มันหึงจนบ้าไปแล้วต่างหาก” ไอ้เพื่อนซี้มันรู้ใจผมจริงๆ เรียวอุคหัวเราะรับน้อยๆไม่นานนักเราก็มาถึงห้องชมรมสีขาว โดยที่มีดงเฮเดินมาส่งคีย์หน้าประตูห้อง

    จุ๊บ….

    หมับ

    คีย์จุ๊บแก้มแฟนผมต่อหน้าผม ส่วนซองมินกับเรียวอุคไวกว่าคว้าแขนผมไว้ทั้งสองข้าง

    “ฉันจะฆ่ามัน” ผมพูดแต่พี่ฮีชอลเดินมาดึงผมนุ่มของผมก่อน

    “นี่ชิคกี้ อย่าทำเสียแผนสิ” พี่ฮีชอลกระซิบบอกทำให้ผมนึกขึ้นได้ก่อนที่พี่ฮีชอลจะปลีกตัวเดินไปหาคีย์

    “นับตั้งแต่วันนี้เราจะงดงานประเพณีจับผิดเอาไว้ก่อนจนกว่าจะถึงเดือนหน้าที่ชมรมดาร์กไอซ์แข่งบาสเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะหันมากัดเอ๊ยหา bad point ของแต่ละฝ่ายต่อซึ่งตอนนี้เราจะทำงานเพื่อมหาลัยของเราก่อน” พี่ฮีชอลหันมาพูด ไม่นานนักก็มีเสียงครืนดังขึ้นแล้วผนังที่เคยกั้นห้องของทั้งสองชมรมก็ถูกเปิดออก ไฮเทคโคตรๆ ทำให้ผมเห็นว่าห้องของดาร์กไอซ์เรียบร้อยกว่าที่ผมคิดซะอีก แต่อีกหกคนที่เหลือนี่สิหล่อไม่ไหวแล้ว น้ำลายจะไหลผมต้องหาทางตีสนิทให้ได้คอยดู

    ครืดครืด เสียงโทรศัพท์มือถือผมสั่นผมหยิบขึ้นมาดูพบว่ามีข้อความเข้า

    ห้ามมองคนอื่นนอกจากฉันนะยัยบ๊อง

    อ่านจบผมก็แอบยิ้มกับตัวเองจนซองมินล้อ

    “เริ่มซ้อมได้แล้ว” เสียงของพี่อีทึกดังขึ้นผมถึงกับหน้าเหวอไปเลย

    “ซ้อมอะไรอ่ะ” เรียวอุคถามขึ้น

    “ซ้อมหรีด ดาร์กไอซ์ที่ไม่ได้เป็นนักบาสอีกหกคนก็จะเป็นหรีดเช่นกัน ส่วนฝ่ายเราจะเป็นพวกปีหนึ่งทั้งหมด” พี่แจจุงกล่าวขึ้น ผมเพิ่งจำชื่อตระกูลได้ไม่กี่คนหรอก

    “ฉันไม่ต้องใช่ไหมฉันเป็นผู้จัดการนี่” ผมรีบถามขึ้น ^_^

    “ต้อง นายด้วยซองมิน” ผมเหวอแต่ซองมินเอ๋อไปเลย

    “ฉันไม่ได้อยู่นชมรมนายนะ” ซองมินเถียง

    “นั่นสิทำไมนายต้องเอาผู้จัดการส่วนตัวฉันไปซ้อมด้วยแล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลฉันล่ะ” รุ่นพี่คยูฮยอนช่วยเถียงอีกแรง

    “คีย์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ต้องเป็นหรีดเพราะต้องดูแลกัปตันทีม” พี่ฮีชอลเอ่ยขึ้นผมกับดงเฮหันขวับไปมองหน้ากันทันที ป้านี่มันบ้าไปแล้ว

    “เอาล่ะ แยกย้ายกันได้แล้ว” สิ้นเสียงพวกนักบาสก็แยกออกไปซ้อมอย่างห่อเหี่ยว ผมมองตามร่างสูงที่โดนปลิงบาร์บี้เกาะไปจนลับตา

    “เอาล่ะเข้าแผนเราได้แล้ว” พี่ฮีชอลพูดขึ้น ทันใดก็มีโต๊ะกลมตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมากลางห้อง จะมีอะไรให้ผมอัศจรรย์ใจอีกไหมเนี่ย ทุกคนเข้าประจำที่โดยมีเก้าอี้ตามจำนวนทำให้ผมรับรู้ว่าเป็นแผนการกำจัดคีย์ออกไปห่างๆ การซ้อมหรีดเป็นงานอย่างนึงก็จริงแต่ทุกคนล้วนมีประสบการณ์กันมาหมดแล้ว ทำให้การซ้อมไม่ยากอย่างที่คิด พอตกเย็นชมรมบาสก็เดินกันกลับเข้ามาโดยที่ก่อนที่จะกลับรุ่นพี่คยูฮยอนได้โทรมาบอกกับซองมินก่อนทำให้เราสร้างภาพได้ทัน ผมเต้นอยู่หน้าสุดคู่กับรุ่นพี่ยงฮวาที่เป็นหรีดของมหาวิทยาลัย แต่ละท่าของป้านั่นมันยั่วทั้งนั้นไหนจะถลกเสื้อขึ้นมาให้สั้นแบบปิดของสำคัญนิดเดียว ไหนจะท่าที่เซเมะมาโอบรอบเอวด้านหลัง ไหนจะมีอุ้มหมุนอีก แต่ผมก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะรุ่นพี่ยงฮวาคอยสอน หล่อออออออ ได้อีกคนอะไรเนี่ย*_*

    “โอเค เรามาเริ่มเพลงแรกเลยนะ” เสียงพี่ฮีชอลดังขึ้นเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกพวกเราเต้นได้พร้อมเพรียงกันอย่างสวยงามแต่ว่าท่าจบเพลงนี้เซเมะต้องโอบจากด้านหลังนี่ แล้วนั่นดงเฮกำลังยืนจ้องอยู่

    หมับ

    รุ่นพี่ยงฮวาโอบเอวผมไว้จากด้านหลังตามท่าที่พี่ฮีชอลสอน ผมเลยปล่อยเลยตามเลย มันอยู่ในกิจกรรมนะดงเฮ นายห้ามโกรธฉันนะ แม้ฉันจะเต็มใจก็เถอะ o_0 โฮะๆ

    “โอเควันนี้พอแค่นี้ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” พี่ฮีชอลพูดทำให้ทุกคนแยกย้ายผมรีบเดินหนีออกมาด้านนอกทันทีพร้อมกับซองมินที่ถูกรุ่นพี่คยูฮยอนเรียกไปต่อว่า เมื่อกลับถึงหอเลยได้เวลาซอกแซกของผมบ้างล่ะ ตอนนี้ผมกับเรียวอุคเลยนั่งอยู่บนเตียงของซองมิน

    “ว่าไง เป็นอะไรกัน” ผมคาดคั้นคำถามเดิมรอบที่สามแต่เพื่อนบ้าดันเอาแต่เงียบ

    “แกจะไม่บอกฉันใช่ไหม” ผมถามย้ำ

    “งั้นฉันกับเรียวอุคจะโกรธแก” ผมพูดแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเรียวอุค

    “เป็นแฟนกันแล้ว”

    “ห๊า” ผมกับเรียวอุคร้องเสียงหลง ส่วนซองมินก็เอาแต่นั่งหน้าแดง 0_0! พระเจ้ามันไปเป็นแฟนกันตอนไหนเนี่ย

    “เออน่าแกอ่ะ อย่าล้อดิฉันเขินนะ” เสียงซองมินดังขึ้นพร้อมกับหน้าที่แดงจัดบ่งบอกว่าเขินจริงๆ ผมกับเรียวอุคเลยเอาแต่หัวเราะ

    รู้ตัวว่าสวยก็รับโทรศัพท์สิ…’

    เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นผมเด้งทีเดยวถึงเตียงนอนเลย ไม่ปล่อยให้มันดังเกินหนึ่งทีเด็ดขาดพร้อมกับเห็นชื่อคุ้นตาปรากฏบนหน้าจอ

    “ว่าไง” ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย

    “นายให้ไอ้ยงฮวามันกอดได้ไงฮะ” เสียงทุ้มตวาดมาตามสาย

    “นี่มันงานนะ นายห้ามหึงฉันเข้าใจ๋”

    “ไม่เข้าใจ ท่าเต้นบ้าอะไรของพี่ฮีชอลวะ”

    “เอาน่า ทีนายยังยืนเฉยๆให้คีย์หอมแก้มต่อหน้าฉันได้เลย”

    “หมอนั่นมันหอมเองต่างหาก”

    “ก็นั่นแหละ นายไม่คิดว่าฉันหึงบ้างเหรอไง” ผมเถียงแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไป

    “ก็แค่นั้นแหละ ฉันแค่อยากรู้ว่านายหึงฉันบ้างรึเปล่า” ^_^

    “หึงสิ ไม่น่าถาม” ผมพูดออกไปตรงๆเป็นครั้งแรก

    “ฉันอยากกอดนายจัง” ดงเฮเงียบไปซักพักแล้วพูดขึ้น >///<

    “นายอยู่บ้านแล้วใช่ไหม” ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องมันเขินนี่นา

    “อืม”

    “ฉันอยากเดินจับมือนายในมหาลัยจัง” ไอ้ปลามันไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง

    “อืม”

    “นายอยากเดินจับมือฉันรึเปล่าฮยอกแจ” หมอนี่เรียกชื่อผม เขินเป็นบ้าเลย ^///^

    “อื้ม”

    “ฉันจะฝันถึงนายนะ ห้ามนอกใจฉันเด็ดขาดถ้านายนอกใจฉัน ฉันจะฆ่าไอ้บ้าคนนั้นให้ตายเลย”

    “นายจะฆ่าตัวเองรึเปล่าล่ะ” ผมถาม

    “ทำไมฉันต้องฆ่าตัวตายด้วยล่ะ”

    “ก็เพราะว่าฉันชอบแต่นายไงเล่า” ผมตอบ ปลายสายเงียบไปเลย

    “นายทำให้ฉันเขินนะยัยบ๊อง” เสียงทุ้มหัวเราะน้อยๆขณะพูด

    “ไปนอนไป พรุ่งนี้ต้องซ้อม”

    “นายไม่อยากคุยกับฉันใช่ไหม”

    “อย่ามาหาเรื่องนะ ฉันเป็นห่วงต่างหากเดี๋ยวก็เหนื่อยตายพอดี” -_-!

    “จ้ะที่รัก”

    “อื้ม” ผมกดวางสายทันที

    “นายจะฆ่าตัวเองรึเปล่าล่ะ”

    “ก็เพราะว่าฉันชอบนายคนเดียวไงเล่า” เสียงล้อเลียนของซองมินกับเรียวอุคดังขึ้นด้านหลัง

    “นี่แอบฟังเหรอ” ผมไล่ปาหมอนใส่ซองมินกับเรียวอุคไปรอบห้อง ผมชักชอบมหาลัยแปลกๆนี่แล้วสิ

    --------------------------------------

    Katomnam Talk


    ยาวมากๆๆๆๆๆๆๆๆ


    ฮ่าๆๆๆ


    อัพให้คนที่ไม่ได้ซื้ออ่านค่ะ

    รักคนอ่านทุกคนนนนนนนน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×