คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : !!POINT 18!!
“ฮยอกแจ แกบอกข่าวดีมาเดี๋ยวนี้น๊า” ซองมินวิ่งถลามาหาผมทันทีที่ผมลงจากรถ
“อะไร แกก็รู้แล้วนี่” ผมตอบเบี่ยงๆ
“ไม่เอาแกต้องบอกฉันกับปากแกเอง” ซองมินยังคงคาดคั้นต่อไป
“ซองมิน ฮยอกแจคงเขินน่ะ” เสียงหวานของเรียวอุคดังขึ้นเบื้องหลังผมหันไปยิ้มรับเขินๆ
“เออ เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วและกัน อิอิสละโสดซะทีเพื่อนฉัน” ซองมินพูดเสียงดังแต่เรียวอุครีบเอามือปิดปากผม ก่อนเหลียวมองด้านหลังจึงพบว่าดงเฮเดินมาพร้อมกับคีย์ ฮึ่ม!! บาร์บี้ผีสิงแกเอาแขนของแกออกจากแขนแฟนฉันเดี๋ยวนี้น๊า -_-*
“ฮยอกแจแกเก็บอาการไหวนะ” ซองมินรีบถอยทัพมายืนอยู่หลังผมทันที
“เออ ไหว” ผมกัดฟันตอบทั้งที่ผมอยากจะฉีกอกของบาร์บี้นั่นแทบขาด
“วันนี้เป็นวันกิจกรรมเข้าชมรมเลยไหม” เสียงใสที่ผ่านการดัดมาอย่างดีถามขึ้นแถมหมอนั่นยังเอาอกเบียดไปที่แขนของดงเฮอีก นายนั่นมองผมแล้วแอบขมุบขมิบปากจับใจความได้ว่า อย่าหึงนะ ^_^
“คงจะเข้าเลยแหละว่าจะไปหาพี่ฮีชอลซักหน่อย เห็นพี่ฮีชอลบอกจะจับหนอนอะไรทำนองนั้นแหละ” ผมตอบแล้วเดินเลี่ยงออกมามีซองมินและเรียวอุคเดินตาม
“ฮยอกแจนี่เก่งจังเลย ไม่หึงเลย” เรียวอุคกล่าวขึ้น ใครบอกว่าไม่หึง ผมหึงจนผมจะฆ่าคีย์ได้อยู่แล้วนะ
“ใครบอกจ้ะเรียวอุค มันหึงจนบ้าไปแล้วต่างหาก” ไอ้เพื่อนซี้มันรู้ใจผมจริงๆ เรียวอุคหัวเราะรับน้อยๆไม่นานนักเราก็มาถึงห้องชมรมสีขาว โดยที่มีดงเฮเดินมาส่งคีย์หน้าประตูห้อง
จุ๊บ….
หมับ…
คีย์จุ๊บแก้มแฟนผมต่อหน้าผม ส่วนซองมินกับเรียวอุคไวกว่าคว้าแขนผมไว้ทั้งสองข้าง
“ฉันจะฆ่ามัน” ผมพูดแต่พี่ฮีชอลเดินมาดึงผมนุ่มของผมก่อน
“นี่ชิคกี้ อย่าทำเสียแผนสิ” พี่ฮีชอลกระซิบบอกทำให้ผมนึกขึ้นได้ก่อนที่พี่ฮีชอลจะปลีกตัวเดินไปหาคีย์
“นับตั้งแต่วันนี้เราจะงดงานประเพณีจับผิดเอาไว้ก่อนจนกว่าจะถึงเดือนหน้าที่ชมรมดาร์กไอซ์แข่งบาสเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะหันมากัดเอ๊ยหา bad point ของแต่ละฝ่ายต่อซึ่งตอนนี้เราจะทำงานเพื่อมหาลัยของเราก่อน” พี่ฮีชอลหันมาพูด ไม่นานนักก็มีเสียงครืนดังขึ้นแล้วผนังที่เคยกั้นห้องของทั้งสองชมรมก็ถูกเปิดออก ไฮเทคโคตรๆ ทำให้ผมเห็นว่าห้องของดาร์กไอซ์เรียบร้อยกว่าที่ผมคิดซะอีก แต่อีกหกคนที่เหลือนี่สิหล่อไม่ไหวแล้ว น้ำลายจะไหลผมต้องหาทางตีสนิทให้ได้คอยดู
ครืด…ครืด เสียงโทรศัพท์มือถือผมสั่นผมหยิบขึ้นมาดูพบว่ามีข้อความเข้า
‘ห้ามมองคนอื่นนอกจากฉันนะยัยบ๊อง’
อ่านจบผมก็แอบยิ้มกับตัวเองจนซองมินล้อ
“เริ่มซ้อมได้แล้ว” เสียงของพี่อีทึกดังขึ้นผมถึงกับหน้าเหวอไปเลย
“ซ้อมอะไรอ่ะ” เรียวอุคถามขึ้น
“ซ้อมหรีด ดาร์กไอซ์ที่ไม่ได้เป็นนักบาสอีกหกคนก็จะเป็นหรีดเช่นกัน ส่วนฝ่ายเราจะเป็นพวกปีหนึ่งทั้งหมด” พี่แจจุงกล่าวขึ้น ผมเพิ่งจำชื่อตระกูลได้ไม่กี่คนหรอก
“ฉันไม่ต้องใช่ไหมฉันเป็นผู้จัดการนี่” ผมรีบถามขึ้น ^_^
“ต้อง นายด้วยซองมิน” ผมเหวอแต่ซองมินเอ๋อไปเลย
“ฉันไม่ได้อยู่นชมรมนายนะ” ซองมินเถียง
“นั่นสิทำไมนายต้องเอาผู้จัดการส่วนตัวฉันไปซ้อมด้วยแล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลฉันล่ะ” รุ่นพี่คยูฮยอนช่วยเถียงอีกแรง
“คีย์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ต้องเป็นหรีดเพราะต้องดูแลกัปตันทีม” พี่ฮีชอลเอ่ยขึ้นผมกับดงเฮหันขวับไปมองหน้ากันทันที ป้านี่มันบ้าไปแล้ว
“เอาล่ะ แยกย้ายกันได้แล้ว” สิ้นเสียงพวกนักบาสก็แยกออกไปซ้อมอย่างห่อเหี่ยว ผมมองตามร่างสูงที่โดนปลิงบาร์บี้เกาะไปจนลับตา
“เอาล่ะเข้าแผนเราได้แล้ว” พี่ฮีชอลพูดขึ้น ทันใดก็มีโต๊ะกลมตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมากลางห้อง จะมีอะไรให้ผมอัศจรรย์ใจอีกไหมเนี่ย ทุกคนเข้าประจำที่โดยมีเก้าอี้ตามจำนวนทำให้ผมรับรู้ว่าเป็นแผนการกำจัดคีย์ออกไปห่างๆ การซ้อมหรีดเป็นงานอย่างนึงก็จริงแต่ทุกคนล้วนมีประสบการณ์กันมาหมดแล้ว ทำให้การซ้อมไม่ยากอย่างที่คิด พอตกเย็นชมรมบาสก็เดินกันกลับเข้ามาโดยที่ก่อนที่จะกลับรุ่นพี่คยูฮยอนได้โทรมาบอกกับซองมินก่อนทำให้เราสร้างภาพได้ทัน ผมเต้นอยู่หน้าสุดคู่กับรุ่นพี่ยงฮวาที่เป็นหรีดของมหาวิทยาลัย แต่ละท่าของป้านั่นมันยั่วทั้งนั้นไหนจะถลกเสื้อขึ้นมาให้สั้นแบบปิดของสำคัญนิดเดียว ไหนจะท่าที่เซเมะมาโอบรอบเอวด้านหลัง ไหนจะมีอุ้มหมุนอีก แต่ผมก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะรุ่นพี่ยงฮวาคอยสอน หล่อออออออ ได้อีกคนอะไรเนี่ย*_*
“โอเค เรามาเริ่มเพลงแรกเลยนะ” เสียงพี่ฮีชอลดังขึ้นเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกพวกเราเต้นได้พร้อมเพรียงกันอย่างสวยงามแต่ว่าท่าจบเพลงนี้เซเมะต้องโอบจากด้านหลังนี่ แล้วนั่นดงเฮกำลังยืนจ้องอยู่
หมับ…
รุ่นพี่ยงฮวาโอบเอวผมไว้จากด้านหลังตามท่าที่พี่ฮีชอลสอน ผมเลยปล่อยเลยตามเลย มันอยู่ในกิจกรรมนะดงเฮ นายห้ามโกรธฉันนะ แม้ฉันจะเต็มใจก็เถอะ o_0 โฮะๆ
“โอเควันนี้พอแค่นี้ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” พี่ฮีชอลพูดทำให้ทุกคนแยกย้ายผมรีบเดินหนีออกมาด้านนอกทันทีพร้อมกับซองมินที่ถูกรุ่นพี่คยูฮยอนเรียกไปต่อว่า เมื่อกลับถึงหอเลยได้เวลาซอกแซกของผมบ้างล่ะ ตอนนี้ผมกับเรียวอุคเลยนั่งอยู่บนเตียงของซองมิน
“ว่าไง เป็นอะไรกัน” ผมคาดคั้นคำถามเดิมรอบที่สามแต่เพื่อนบ้าดันเอาแต่เงียบ
“แกจะไม่บอกฉันใช่ไหม” ผมถามย้ำ
“งั้นฉันกับเรียวอุคจะโกรธแก” ผมพูดแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเรียวอุค
“เป็นแฟนกันแล้ว”
“ห๊า” ผมกับเรียวอุคร้องเสียงหลง ส่วนซองมินก็เอาแต่นั่งหน้าแดง 0_0! พระเจ้ามันไปเป็นแฟนกันตอนไหนเนี่ย
“เออน่าแกอ่ะ อย่าล้อดิฉันเขินนะ” เสียงซองมินดังขึ้นพร้อมกับหน้าที่แดงจัดบ่งบอกว่าเขินจริงๆ ผมกับเรียวอุคเลยเอาแต่หัวเราะ
‘รู้ตัวว่าสวยก็รับโทรศัพท์สิ…’
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นผมเด้งทีเดยวถึงเตียงนอนเลย ไม่ปล่อยให้มันดังเกินหนึ่งทีเด็ดขาดพร้อมกับเห็นชื่อคุ้นตาปรากฏบนหน้าจอ
“ว่าไง” ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย
“นายให้ไอ้ยงฮวามันกอดได้ไงฮะ” เสียงทุ้มตวาดมาตามสาย
“นี่มันงานนะ นายห้ามหึงฉันเข้าใจ๋”
“ไม่เข้าใจ ท่าเต้นบ้าอะไรของพี่ฮีชอลวะ”
“เอาน่า ทีนายยังยืนเฉยๆให้คีย์หอมแก้มต่อหน้าฉันได้เลย”
“หมอนั่นมันหอมเองต่างหาก”
“ก็นั่นแหละ นายไม่คิดว่าฉันหึงบ้างเหรอไง” ผมเถียงแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไป
“ก็แค่นั้นแหละ ฉันแค่อยากรู้ว่านายหึงฉันบ้างรึเปล่า” ^_^
“หึงสิ ไม่น่าถาม” ผมพูดออกไปตรงๆเป็นครั้งแรก
“ฉันอยากกอดนายจัง” ดงเฮเงียบไปซักพักแล้วพูดขึ้น >///<
“นายอยู่บ้านแล้วใช่ไหม” ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องมันเขินนี่นา
“อืม”
“ฉันอยากเดินจับมือนายในมหาลัยจัง” ไอ้ปลามันไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง
“อืม”
“นายอยากเดินจับมือฉันรึเปล่าฮยอกแจ” หมอนี่เรียกชื่อผม เขินเป็นบ้าเลย ^///^
“อื้ม”
“ฉันจะฝันถึงนายนะ ห้ามนอกใจฉันเด็ดขาดถ้านายนอกใจฉัน ฉันจะฆ่าไอ้บ้าคนนั้นให้ตายเลย”
“นายจะฆ่าตัวเองรึเปล่าล่ะ” ผมถาม
“ทำไมฉันต้องฆ่าตัวตายด้วยล่ะ”
“ก็เพราะว่าฉันชอบแต่นายไงเล่า” ผมตอบ ปลายสายเงียบไปเลย
“นายทำให้ฉันเขินนะยัยบ๊อง” เสียงทุ้มหัวเราะน้อยๆขณะพูด
“ไปนอนไป พรุ่งนี้ต้องซ้อม”
“นายไม่อยากคุยกับฉันใช่ไหม”
“อย่ามาหาเรื่องนะ ฉันเป็นห่วงต่างหากเดี๋ยวก็เหนื่อยตายพอดี” -_-!
“จ้ะที่รัก”
“อื้ม” ผมกดวางสายทันที
“นายจะฆ่าตัวเองรึเปล่าล่ะ”
“ก็เพราะว่าฉันชอบนายคนเดียวไงเล่า” เสียงล้อเลียนของซองมินกับเรียวอุคดังขึ้นด้านหลัง
“นี่แอบฟังเหรอ” ผมไล่ปาหมอนใส่ซองมินกับเรียวอุคไปรอบห้อง ผมชักชอบมหาลัยแปลกๆนี่แล้วสิ
--------------------------------------Katomnam Talk
ยาวมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆ
อัพให้คนที่ไม่ได้ซื้ออ่านค่ะ
รักคนอ่านทุกคนนนนนนนน
ความคิดเห็น