คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : !!POINT 11!!
“ปล่อยน๊า” ผมแหวเสียงดังก่อนที่จะพยายามดันตัวออก
“เพราะนายไงเล่าฉันเลยอดนอนสองวันเต็มๆ” เสียงทุ้มพูดขึ้นผมมองหน้าหล่อนั่นอย่างไม่เข้าใจ
“มันเกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ ฉันไม่ได้เอามือไปถ่างตานายไว้ซะหน่อย”
“มันยิ่งกว่านั้นต่างหากเล่า”
“ปล่อยฉันก่อนเลยนะ ฉันอาย” ผมเลิกสนใจเรื่องที่นายนั่นพูดก่อนที่จะหันมาดันตัวออกจากอกกว้าง โดยที่มีรุ่นพี่คยูฮยอนมาดึงตัวผมขึ้นจนสำเร็จ แม้นายนั่นดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจก็ตามเถอะ
“คยูฮยอน นายจะขัดขวางความสุขของฉันทำไม” ดงเฮถามอย่างไม่พอใจแล้วลุกขึ้นมานั่งตาม
“ฉันทนเห็นนายกอดฮยอกแจไม่ได้” รุ่นพี่คยูฮยอนตอบทั้งผมและซองมินหันไปมองตาค้าง
“นายอย่าบอกนะว่านายชอบหมอนี่น่ะ” ดงเฮถามออกไปตรงๆ
“ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ”
“ฉันไม่มีทางปล่อยหมอนี่ไปแน่” ผมดูการสนทนาตรงหน้าอย่างตกใจไม่แพ้ซองมินแม้แต่น้อย
“งั้นเราก็มาลองดูกัน” รุ่นพี่คยูฮยอนพูดอย่างมาดมั่น
“แต่ตอนนี้ ฉันขอเอาตัวฮยอกแจของฉันไปก่อนล่ะ” ดงเฮพูดจบก็คว้าตัวผมพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกไปจากห้อง ผมได้แต่เดินตามออกไปอย่างทำอะไรไม่ถูกทุกคำพูดของการสนทนายังคงวนเวียนอยู่ในสมองผม
กลับมาที่ซองมินกันดีกว่า….
ร่างบางมองสองคนที่หายออกไปจากห้องแต่ยังคงทิ้งปัญหาไว้อย่างงงๆ ก่อนที่จะหันมาเห็นร่างสูงข้างกายกำหมัดแน่นอย่างระงับอารมณ์โกรธ
“นี่นาย” เสียงใสตัดสินใจเรียกเบาๆ
“ทำไม ทำไมต้องเป็นดงเฮทำไม” ร่างสูงพูดก่อนที่จะทรุดตัวลงไปนั่งบนเตียง
“ใครๆก็ชอบฮยอกแจทั้งนั้นแหละ คนที่น่ารักตรงไปตรงมา ไม่วางฟอร์ม” ร่างบางพูดในขณะที่นั่งลงข้างๆ
“แล้วทำไมต้องเป็นเพื่อนสนิทของฉัน” ใช่…แล้วทำไมต้องเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ซองมินได้แต่คิดในใจ
“เรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้นี่นา แต่ว่าทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับฮยอกแจ”
“ฉันไม่มีทางเทียบดงเฮติด” คยูฮยอนพูดเสียงสั่นก่อนจะยกมือขึ้นมากุมขมับ ซองมินเห็นดังนั้นเลยยกมือเรียวขึ้นไปจับบ่ากว้างไว้เป็นการปลอบใจ
“ใช่ ฉันก็ไม่มีทางเทียบฮยอกแจติด” ซองมินพูดเสียงเบาคล้ายจะตอกย้ำตัวเอง
“นายว่าไงนะ”
“เปล่านี่”
“นายชอบดงเฮเหรอ” คยูฮยอนถามขึ้น
“ไม่ใช่” ซองมินหันไปตอบอย่างตกใจ
“ทำไมใครๆต้องชอบดงเฮด้วย” คยูฮยอนยังคงพูดต่อโดยที่ไม่รับรู้เลยว่าคนด้านข้างกำลังร้องไห้อย่างกลั้นไม่อยู่ ก่อนที่ร่างบางจะลุกขึ้นเดินหายออกไปจากห้อง ซองมินเพิ่งรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดของการรักข้างเดียวเป็นยังไง คนเข้มแข็งอย่างนายกลับต้องมานั่งเสียน้ำตาให้กับคนคนเดียว คนที่แค่กระดิกนิ้วใครๆต่างพากันเข้ามารุมล้อมกลับไปชอบคนที่เขาไม่เห็นค่า ซองมินปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมาท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอย่างหนัก
“อ่อ แล้วมันเกี่ยวกับฉันยังไงล่ะ” ผมถามเหมือนนึกขึ้นได้เมื่อเรากำลังเดินมาที่รถ
“เพราะว่าฉันต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ทำอะไรนายมากกว่ากอดน่ะสิ เวลามีคนน่ารักมานอนข้างๆใครที่ไหนจะทนได้ ฉันต้องบังคับตัวเองแทบตายกว่าจะได้นอนก็ตีสี่ตีห้า สองคืนติด” ดงเฮตอบแต่ผมนี่เขิน เขินมาก >///<
“งั้นนายก็ยกเลิกข้อตกลงของเราสิ” ผมพยายามหาทางหนีเฮือกสุดท้าย
“ไม่มีทาง เพราะฉันควบคุมตัวเองได้แล้ว”
“ให้มันจริง” ผมบอกแล้วค้อนคนที่เดินถือกระเป๋าตามหลังไปวงใหญ่
“คืนนี้ก็รู้” นายนั่นพูดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทำเอาผมเสียววาบ
“ฉันกั้นเขตแล้วนายห้ามเกินหมอนข้างใบนี้มานะ” และแล้วก็ถึงตอนกลางคืนจนได้ ผมหาทางออกโดยการเอาหมอนข้างที่มีอยู่ใบเดียวมาวางไว้กลางเตียง ร่างสูงมองผมงงๆขณะที่กำลังเช็ดผมที่เปียกน้ำ ผมเผลอมองนายนั่นนิ่ง คนอะไรสถานการณ์ไหนก็หล่อ
“บ้ารึเปล่า” ดงเฮถามขึ้นแล้วหยิบหมอนข้างออก
“นายหัดฟังความเห็นของคนอื่นบ้างสิ” ผมเถียงก่อนจะดึงมันกลับแต่นายนั่นกลับดึงคืน
“ความเห็นของนายมันไร้สาระจะตายไป”
“เอาหมอนคืนมาน๊า” ผมพูดแล้วออกแรงดึงเต็มที่ทำให้ ไอ้ปลาที่ถืออยู่อีกด้านเสียหลักเพราะไม่ทันตั้งตัวล้มลงมาด้วย แต่ว่าตอนนี้ผมถูกนายนั่นทับอยู่โดยมีหมอนข้างกั้นอยู่ตรงกลางแค่ใบเดียว 0///0 หยดน้ำจากผมของนายนั่นไหลลงมาบนหน้าผมอย่างไม่ตั้งใจ นิ้วเรียวของดงเฮถูกยกขึ้นมาเช็ดให้ผมอย่างแผ่วเบา
“ลุกออกไปซักทีสิ ฉันหนัก” ผมโวยวายและพยายามดันอกที่เหมือนภูเขาของนายนั่นออก ก่อนที่ผมจะเคลิ้มไปกับการกระทำของเขา
“นายดึงฉันลงมาเองนะ”
“ฉันเปล่า” >..<
“ช่วยไม่ได้นะ ฉันบอกนายแล้วว่าฉันยิ่งบังคับตัวเองไม่ได้อยู่” ดงเฮพูดแล้วดึงเกราะป้องกันชิ้นเดียวที่มีอยู่เขวี้ยงออกไปอีกทางทำให้ตอนนี้ตัวของผมกับนายนั่นแทบจะสัมผัสกันทุกส่วน
“ไอ้หื่น ลุกเดี๋ยวนะ” ผมเสียงแข็งแต่ดูเหมือนว่านายนั่นจะไม่รู้สึกอะไรเลยกลับก้มหน้าลงมาซุกที่ซอกคอผมอีก
“อ๊ากกก! ไอ้บ้าเอาหน้าออกไปน๊า” ผมกรีดร้องเสียงดัง >///<
“ปล่อยให้โง่สิ“
“ไม่ปล่อยสิโง่ ปล่อยน๊า ไอ้โรคจิต” 0_o
“นายรังเกียจแเหรอไง” นายนั่นเงยหน้าขึ้นมาถามผม
“มันไม่เกี่ยวว่ารังเกียจหรือไม่รังเกียจนี่”
“นายรังเกียจฉัน” นายนั่นสรุปเอาเองเสร็จสรรพก่อนที่จะลุกขึ้นไปยืนเช็ดผม ทำให้ผมหายใจได้ทั่วท้อง แต่ก็แอบใจหายที่อยู่ดีๆคนกวนประสาทอย่างนายนั่นก็เงียบไปเสียเฉยๆ ผมมองคนที่นั่งหันหลังอยู่อีกฝั่งของเตียงอย่างกล้าๆกลัวก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปนั่งข้างๆ ดงเฮหันมามองนิดนึงอย่างเฉยชาก่อนที่จะหันกลับไปเหมือนผมไม่มีตัวตน
“นี่” ผมดึงแขนเสื้อของคนด้านข้างก่อนจะเอียงคอมอง
“โกรธเหรอ” ผมถามเสียงหวาน
“เปล่า” ดงเฮตอบเสียงเย็นชา
“ไม่เอาสินายโกรธฉันเรื่องอะไรล่ะ” ผมถามแล้วกอดแขนเขาอย่างประจบ
“นายรังเกียจฉัน”
“เฮ้ ก็ฉันบอกแล้วไงว่ามันไม่เกี่ยวกัน” มันเกี่ยวกันตรงไหนล่ะเนี่ย
“ใช่สิ นายจะไปรู้สึกอะไรนายไม่เคยโดนปฏิเสธนี่” โอ๊ย จะบ้า คนเสียหายมันผมนะ!!
“งั้นฉันขอจูบนายหน่อยสิ” เฮ้ย!!! นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย
“เห็นไหม นี่ไงฉันโดนปฏิเสธแล้ว” ผมรีบพูดเมื่อเห็นคนด้านข้างหันมาทำตาโตอย่างตกใจ 0_0 ก่อนที่ผมจะรีบชิ่งไปอีกฝั่งของเตียงทันที(แหมเหมือนห่างมาก)
“ฉันยังไม่ได้ปฏิเสธเลยนะ” ดงเฮหันมาพูดกับผมที่ตอนนี้เอาผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าเพื่อป้องกันตัวเต็มที่
“นั่นแหละตอบช้า มันก็เหมือนกันนั่นแหละ เราหายกันแล้วนะ” ผมตอบเสียงอู้อี้อยู่ในผ้าห่ม
“อะไรนะ ฉันฟังไม่รู้เรื่อง” ดงเฮพูดจบก็ดึงผ้าห่มออกทันที แล้วผมก็พบว่าหน้าของเขาอยู่ใกล้ผมแค่คืบ
“หายกันเถอะนะ นะ” ผมส่งเสียงอ้อนวอนแล้วทำสายตาขอร้องสุดฤทธิ์
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวนายจะหาว่าฉันใจร้าย” พูดจบนายนั่นก็ใช้มือซ้ายรวบมือทั้งสองของผมไว้เหนือหัวทันที ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะก้มลงมาประกบปากผมไว้จนแนบสนิท ผมพยายามใช้แรงที่มีเพื่อหนีจากพันธนาการที่แข็งแกร่งแต่ไม่เป็นผล จากขัดขืนกลายเป็นตอบสนอง ตอนนี้หัวใจของผมกำลังตีกลองชุดอย่างสนุกสนาน นานกว่าห้านาทีดงเฮถึงยอมถอนริมฝีปากออก ผมเบือนหน้าไปอีกทางทันที >///<
“นายไม่เคยจริงๆด้วย” ดงเฮพูดขึ้นทั้งๆที่หน้ายังอยู่ใกล้ผมเหมือนเดิม
“ก็ใช่น่ะสิ ไอ้บ้า” ผมว่าก่อนจะหันมาจ้องหน้านายนั่น
“นายนี่น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้อีก” ดงเฮพูดก่อนจะก้มลงมาจุ๊บที่หน้าผากผมเบาๆ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปนอนด้านข้าง แล้วเขาก็ยกหัวผมขึ้นไปวางไว้บนแขนซ้าย ส่วนแขนขวาเอามาโอบรอบตัวผมอีกที
“ฉันไม่ใช่หมอนข้างนะ นอนดีๆเลย” ผมว่าแต่ก็ไม่พยายามที่แกะมือปลาหมึกนั่นออก
“เอาเป็นว่าหายกันแล้วไง”
“ฉันบอกว่าฉันจะจูบนาย ไม่ใช่นายมาจูบฉันซะหน่อย” ผมเถียง
“อ้าว งั้นก็เอาใหม่สิ ฉันจะนอนเฉยๆรอเลย” นายนั่นพูดขึ้นเล่นเอาผมหน้าแดงรอบที่ร้อยแปดของวันก่อนที่จะทุบเข้าที่อกกว้างนั่นอย่างหมั่นไส้
“ฮ่าๆๆๆ”
“ขำบ้าอะไรของนาย”
“ขำคนเขิน”
“ใครเขินไม่ทราบ” >//<
“งั้นขอดูหน่อยสิ” พูดจบนิ้วเรียวก็ประคองหน้าผมให้เงยขึ้น
“ไม่เขินไหงหน้าแดงล่ะ” นายนั่นล้อ
“บ้ามืดจะตายนายจะเห็นได้ไง โม้ชัดๆ” ผมเถียงแต่ก็เลือกที่จะก้มหน้าลงไปซุกกับอกกว้างซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อหลบหนีการจับผิดของคนตรงหน้า ดงเฮหัวเราะน้อยๆก่อนจะก้มลงมาจุ๊บศีรษะผมเบาๆแล้วใช้มือขวาโอบหลังผมไว้ ผมหลับไปอย่างง่ายดายพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
-------------------------------------
Katomnam Talk:
รู้สึกเหมือนจะยาวๆ
คิกๆๆ
หวานเนอะ
โมเม้นต์มาเยอะเหลิอเกินคู่นี้
ความคิดเห็น