คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #133 : Story 40 : Love on fire 2 (KyuHyuk , HaeEun)
เคร้ง...เคร้ง...อ๊าก
เสียงเหล็กกระทบกันสลับกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
ฉุดให้คนที่หลับลึกด้วยความอ่อนเพลียปรือตาขึ้นมามอง
ตาเรียวเล็กกระพริบถี่มองเพดานไม่คุ้นตา จะเรียกเพดานเสียทีเดียวก็ไม่ใช่
เพราะเป็นหลังคากระโจมเสียมากกว่า
ร่างเล็กผุดลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบๆ
พบกับเสื้อคลุมคุ้นตาของคนที่พาเขามาที่นี่แขวนอยู่อีกมุมหนึ่ง
แต่เจ้าของไม่ได้อยู่ในนี้ด้วย เสียงที่ดังอึกทึกด้านนอกทำให้กายบางรีบลุกขึ้นเดิน
ตากลมกวาดมองหาอะไรที่พอจะเป็นอาวุธติดมือได้แต่ก็ไม่มี
ทันทีที่โผล่ออกไปด้านนอกก็พบเห็นการปะทะกันอย่างดุเดือด
ตาเรียวหรี่มองอย่างพิจารณา
ไม่มีทางที่จะเป็นคนของดินแดนตัวเอง
เพราะองค์ชายฮีชอลไม่ใช่คนผลีผลามไม่มีทางตามมาชิงตัวทั้งๆที่ทหารอ่อนแรงขนาดนั้น
แล้วใคร....
“ออกมาทำไมเข้าไปเดี๋ยวนี้”
เสียงห้าวตะโกนฝ่าขึ้นมา ก่อนที่ร่างโปร่งจะวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“เกิดอะไรขึ้น” ร้องถามอย่างไม่เข้าใจ
ตามเนื้อตัวขององค์ชายรองมีบาดแผลฟกช้ำให้เห็น
“กลับเข้าไป อย่าออกมา”
ทงเฮเลือกที่จะไม่ตอบคำถาม มือกว้างพยายามหมุนตัวอาคันตุกะกลับเข้าไปด้านในกระโจม
“เดี๋ยว..” ยังไม่ทันเอ่ยจบ ร่างหนาก็หันไปต่อสู้กับผู้บุกรุกที่รุมกันเข้ามาห้าคน
ร่างบางได้แต่ยืนมองนิ่งอย่างสับสน ตากลมปรายมองดาบที่ตกอยู่ข้างตัว
กับมองร่างของทงเฮที่ถูกรุมอยู่กลางวงล้อม และที่อยู่ไกลออกไปคือคยูฮยอนที่ต่อสู้เคียงข้างกับแม่ทัพของตัวเองและศพมากมายของเหล่าทหารที่ตายเกลื่อน
ใจนึงก็อยากจะฉวยโอกาสนี้หนีไป
แต่อีกใจกลับบอกให้ทำอีกอย่าง
“โธ่เว้ย!” ได้แต่สบถกับตัวเองอย่างหัวเสีย
มือขาวตวัดดาบข้างตัวขึ้นมาถือก่อนจะยื่นดาบออกไปกันดาบของโจรที่มาบุกรุกห่างจากใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังเพลี่ยงพลั้งเพียงแค่ฝ่ามือคั่น
ทักษะฝีมือของคนตัวเล็กกอปรกับการที่ได้พักเต็มอิ่มทำให้กองโจรพลาดท่าและถูกทงเฮแทงเข้ากลางอกไปหลายคน
มือเล็กเอื้อมคว้าเอาโจรที่อยู่ใกล้ตัว พร้อมกับดาบที่จ่อที่คอหอย
“พวกแกเป็นใคร” เสียงหวานตวาดก้อง
ปากแดงระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
พร้อมๆกับที่ตาเรียวเล็กมองเห็นสัญลักษณ์ที่ห้อยอยู่ที่คอของตัวประกัน
พรึ่บ
มือขาวกระตุกเอาไว้ในอุ้งมือ แล้วผละออก
ตากลมจ้องนิ่งมองสัญลักษณ์ที่เคยเห็นอย่างงุนงง
“ระวัง!” และไม่ทันตั้งตัวคนที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ
ล้วงเอามีดพกหมายจะแทง ทงเฮถลาพรวดเข้ามาผลักร่างบอบบางไปด้านหลัง
ฉึก
“อ๊าก!!!” ร่างขององค์ชายรองทรุดลง
เลือดเป็นลิ่มทะลักออกมาจากไหล่ซ้าย ไม่มีเวลาให้ลังเล
ดาบในมือของฮยอกแจก็พุ่งไปปักลงตรงหน้าท้องของคนร้ายทันที
“เป็นอย่างไรบ้าง” เสียงหวานเอ่ยถามระคนห่วงใย
ตากลมมองบาดแผลลึกอย่างครุ่นคิด
องค์ชายรองช่วยเขาทำไม
“เจ้าล่ะบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
ตาคมสอดส่องไปทั่วเรือนกายบอบบางแล้วก็พบว่าอีกคนใส่เพียงแค่ชุดคลุมบางเบาสีขาว
ที่แทบจะมองเห็นไปทุกสัดส่วน
“ข้าไม่บาดเจ็บตรงไหน
ค่ายทหารของท่านมีหมอหลวงเดินทางมาด้วยหรือไม่”
“มี แต่คงช่วยทหารบาดเจ็บอยู่”
“ลุกไหวไหม ข้าจะทำแผลให้”
แขนเรียวเล็กสอดเข้าใต้ไหล่ของอีกคนเป็นการประคองเดินเข้าไปด้านใน
เสียงต่อสู้เงียบลงพร้อมกับกระโจมที่เปิดออกอีกครั้ง
“แทคฮยอนเจ้าไปดูแลด้านนอก ข้างในเราจัดการเอง”
น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยบอกแม่ทัพตัวใหญ่ที่เดินตามมา ร่างใหญ่โค้งลงทำความเคารพรับคำก่อนจะผลุบหายออกไป
“เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า”
ทันทีที่ลับร่างของแม่ทัพใหญ่ องค์รัชทายาทก็แทบจะถลาเข้ามา
ตาคมเข้มไล่มองไปทั่วลำตัวบอบบางนอกจากเศษฝุ่นและคราบเลือดของคนอื่นที่กระเด็นมาโดนตัวก็ไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด
เมื่อสำรวจจนพอใจจึงถอนหายใจหนักอย่างโล่งอก
“น้องชายท่านต่างหากที่บาดเจ็บ”
ตอบกลับโดยไม่มองหน้า มือเล็กสาละวนอยู่กับการห้ามเลือด
ในขณะที่คนเจ็บกัดปากจนเป็นสีซีด
“ทงเฮไหวหรือเปล่า” น้ำเสียงอาทรเอ่ยถาม
มองไปยังบาดแผลของผู้เป็นน้องไปด้วย
“ไกลหัวใจกระหม่อม” พอเห็นว่าอีกคนยังมีรอยยิ้มอ่อนๆก็เบาใจได้บ้าง
“แผลลึกมาก เจ็บหน่อยนะ” คนนอกหนึ่งเดียวเอ่ยขึ้น
มือเล็กเตรียมเข็มกับด้ายพร้อมไว้ในมือ ทงเฮเหล่ตามองก่อนจะพยักหน้ารับ
หนักหนากว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว
คยูฮยอนมองคนตัวเล็กที่ขะมักเขม้นกับการทำแผลให้น้องชายด้วยหัวใจอุ่นวาบไปทั้งดวง
แม่ทัพของดินแดนสีเพลิง นอกจากดื้อ
แล้วยังจิตใจดี
“อึก...” ดงเฮกัดปากตัวเองแน่นกันเสียงร้อง
มือกว้างเลื่อนขึ้นจับมือนุ่ม จนคนทำแผลต้องหยุดมือลง
“ให้ตามหมอไหม”
“มะ ไม่เป็นไร” เสียงตอบกระท่อนกระแท่น
คยูฮยอนเดินมาแตะไหล่บางเบาๆเรียกให้ใบหน้างามเงยขึ้นมอง แล้วผุดลุกออกจากที่นั่งไปนั่งเคียงข้างบนเตียงของคนเจ็บแทน
ในขณะที่ร่างของรัชทายาทลงนั่งแทนที่
“อดทนนะทงเฮ” เสียงนุ่มตรัสออกมา
ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดขยับขึ้นลงรับรู้
มือกว้างเกาะเกี่ยวนิ้วเล็กเอาไว้เป็นหลักยึดพร้อมๆกับเข็มในมือองค์ชายใหญ่ที่ฝังเข้าผิวเนื้อ
ฮยอกแจได้แต่มองหน้าคนเจ็บอย่างให้กำลังใจ
ถ้าทงเฮไม่เข้ามาช่วย
เขาอาจจะตายไปแล้วเหมือนเมื่อเช้าที่ถ้าองค์รัชทายาทคยูฮยอนไม่ช่วย เขาคงตกจากม้าลงไปด้านล่างที่มีคมหอกและคมดาบรอฟันเขาอยู่
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่องค์ชายคยูฮยอนคว้าเอาเขาขึ้นหลังม้าเสียก่อน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดความรู้สึกอคติในตัวขององค์ชายต่างแดนสองพระองค์นั้นเบาบางลงกว่าทีแรกมากนัก
“ยังไม่ง่วงหรือ” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังขึ้น
เรียกให้คนที่นั่งมองความวุ่นวายตรงหน้าเหลียวกลับไปมอง จนร่างสูงสง่าของอีกคนทรุดลงนั่งเคียงข้าง
“ยังหรอก” ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
องค์รัชทายาทมองคนที่ห่อตัวเข้าหากันด้วยความหนาวอย่างชั่งใจ ก่อนแขนยาวจะเอื้อมรั้งร่างของคนตัวขาวให้เข้ามาแนบอก
กอดกระชับเอวบอบบางแน่น ตากลมฉายแววตระหนกและพยายามขืนตัวออกห่าง พลางมองบรรดาเหล่าทหารด้วยแววตาหวาดระแวง
มีเพียงแค่บางคนเท่านั้นที่หันมามองดูแล้วกลับไปทำกิจกรรมของตนเองต่อ
“เจ้าหนาวมิใช่หรือ”
“ข้าไม่ได้พูด”
“แต่เจ้าตัวเย็นเฉียบ” พูดพร้อมกับไล้มือไปตามปลายนิ้วของคนในอ้อมกอด
“...”
“ทำไมเจ้าถึงดื้อนักนะ ปากไม่เคยตรงกับใจ”
เอ่ยเหย้าแต่ก็กระชับกอดให้แน่นขึ้น จนอีกคนแทบจะจมไปกับอกกว้าง แม่ทัพต่างถิ่นจึงเลิกขัดขืนและนั่งนิ่งแทน
“อยู่กับศัตรู ทำไมต้องทำตัวดี”
ปากแดงยื่นเถียงอย่างไม่รู้ตัว
องค์ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอมองคนในอ้อมอกด้วยความเอ็นดู
คนของดินแดนเขาช่วยชีวิตไว้ถึง 2 ครั้งยังไม่มีความดีความชอบอีกหรือนี่
“เจ้าไม่ใช้ราชาศัพท์กับข้า ข้ายังไม่ดุเจ้าซักคำอย่างนี้ยังกล้าบอกว่าข้าเป็นศัตรูอีกหรือ”
องค์รัชทายาทตรัสออกมาอีกครั้ง เรียกให้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มตวัดมอง
“ก็ท่านไม่ใช่องค์เหนือหัวของข้าเสียหน่อย”
ถ้อยคำเถียงดังออกมาแทบจะทันที ใบหน้าคมยกยิ้มเบาบางที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี
“งั้นข้าเป็นอะไรล่ะ”
“ยังไงท่านก็เป็นศัตรู เป็นศัตรูที่เจ้าเล่ห์เพทุบายที่สุด”
ตอบแบบไม่ต้องคิด คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกว่าตัวเองใจอ่อนง่ายเกินไปก็ครานี้
“หืม ข้าเป็นศัตรูที่อบอุ่นที่สุดต่างหาก” ฮยอกแจอ้าปากค้างเมื่อได้ยินประโยคจากริมฝีปากหยักของคนที่ดูจะไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
แถมยังเลื่อนมือขึ้นมากดให้ศีรษะเล็กเอนซบไปบนไหล่กว้างเสียอีก
“ถ้าข้ามีโอกาส ข้าจะฆ่าท่าน”
เสียงขุ่นเคืองเปรยออกมาเบาๆ มือเล็กกำแน่นด้วยความสับสน
“ถึงเจ้ามีโอกาส เจ้าก็ไม่ทำหรอก”
ตรัสออกมาด้วยความมั่นใจ
“มั่นใจเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่นี่...” ตอบออกมาแล้วต่างคนต่างเงียบจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
.
.
“ข้าได้จี้อันนี้มาจากโจรที่บุกเมื่อพลบค่ำ”
หลังจากเงียบไปไม่กี่อึดใจ
มือเล็กก็ล้วงหยิบจี้มรกตสีเขียวที่สลักรูปมังกรสองตัวออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
องค์รัชทายาทรับมาถืออย่างพิจารณา
“ดินแดนมรกตงั้นหรือ” เสียงทุ้มครางลึกในลำคอ
“ดินแดนมรกตไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของดินแดนท่านหรือ”
คิ้วเรียวขมวดน้อยๆอย่างงุนงง ตากลมเงยขึ้นสบดวงตาคมเข้มเพื่อใคร่ขอคำตอบ
“ทำไมดินแดนมรกตถึงทำเยี่ยงนี้”
น้ำเสียงไม่มั่นใจเอ่ยออกมาเป็นครั้งแรก
คนตัวเล็กที่ทอดกายอิงแอบเผลอตัวยกมือขึ้นลูบเบาๆบนพระพักตร์เคร่งเครียด
ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอ่อนโยนแล้วประคองมือขาวลงมากุมเอาไว้
“ข้าว่าท่านควรจะกลับไปจัดการดินแดนภายใต้อาณัติของท่านมากกว่าดินแดนของข้าเสียอีก”
“ห่วงข้าหรือ” คำถามเข้าข้างตัวเอง
เรียกให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองพร้อมกับดึงมือออกจากการเกาะกุม แก้มใสซับสีเรื่อ
หัวใจเต้นเร็วจนเจ้าของยังไม่เข้าใจ
“แค่ความสงสัย”
“เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก” น้ำเสียงอบอุ่นทอดอ่อน
“...”
“นอนเถอะ ข้าอยู่ไม่ต้องกลัวอะไร”
องค์ชายหนุ่มเพียงแค่ยกยิ้มบางเบา ริมฝีปากได้รูปจูบลงเบาๆที่ข้างขมับขาว
มือเล็กทุบแรงๆไปที่ต้นขาคนฉวยโอกาสแต่ก็หนีออกจากพันธการแน่นหนาของคนตัวใหญ่ไม่ได้
ตากลมสวยค่อยๆปรือลงผ่อนกายแนบอิงกับเจ้าของอ้อมกอดมากขึ้น หัวใจที่เต้นหนักค่อยๆผ่อนลง
ด้วยความรู้สึกปลอดภัยในวงแขนของศัตรู
--------------------------------------
Katomnam Talk:
มันยาวนะคะ ขอกำลังใจหน่อยยยยย
โอ้ย แต่งยากกก พลอตมาเยอะไปหมดดด
น่ารักเนอะ คริ
ความคิดเห็น