ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ Yaoi] Katomnam's Short Fiction{ HaeEun,KyuHyuk,BumHyuk,Wonhyuk} On Air

    ลำดับตอนที่ #133 : Story 40 : Love on fire 2 (KyuHyuk , HaeEun)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 313
      4
      16 ก.พ. 61

    เคร้ง...เคร้ง...อ๊าก

    เสียงเหล็กกระทบกันสลับกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ฉุดให้คนที่หลับลึกด้วยความอ่อนเพลียปรือตาขึ้นมามอง ตาเรียวเล็กกระพริบถี่มองเพดานไม่คุ้นตา จะเรียกเพดานเสียทีเดียวก็ไม่ใช่

    เพราะเป็นหลังคากระโจมเสียมากกว่า

    ร่างเล็กผุดลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบๆ พบกับเสื้อคลุมคุ้นตาของคนที่พาเขามาที่นี่แขวนอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่เจ้าของไม่ได้อยู่ในนี้ด้วย เสียงที่ดังอึกทึกด้านนอกทำให้กายบางรีบลุกขึ้นเดิน ตากลมกวาดมองหาอะไรที่พอจะเป็นอาวุธติดมือได้แต่ก็ไม่มี

    ทันทีที่โผล่ออกไปด้านนอกก็พบเห็นการปะทะกันอย่างดุเดือด ตาเรียวหรี่มองอย่างพิจารณา

    ไม่มีทางที่จะเป็นคนของดินแดนตัวเอง

    เพราะองค์ชายฮีชอลไม่ใช่คนผลีผลามไม่มีทางตามมาชิงตัวทั้งๆที่ทหารอ่อนแรงขนาดนั้น

    แล้วใคร....

    “ออกมาทำไมเข้าไปเดี๋ยวนี้” เสียงห้าวตะโกนฝ่าขึ้นมา ก่อนที่ร่างโปร่งจะวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า

    “เกิดอะไรขึ้น” ร้องถามอย่างไม่เข้าใจ ตามเนื้อตัวขององค์ชายรองมีบาดแผลฟกช้ำให้เห็น

    “กลับเข้าไป อย่าออกมา” ทงเฮเลือกที่จะไม่ตอบคำถาม มือกว้างพยายามหมุนตัวอาคันตุกะกลับเข้าไปด้านในกระโจม

    “เดี๋ยว..” ยังไม่ทันเอ่ยจบ ร่างหนาก็หันไปต่อสู้กับผู้บุกรุกที่รุมกันเข้ามาห้าคน ร่างบางได้แต่ยืนมองนิ่งอย่างสับสน ตากลมปรายมองดาบที่ตกอยู่ข้างตัว กับมองร่างของทงเฮที่ถูกรุมอยู่กลางวงล้อม และที่อยู่ไกลออกไปคือคยูฮยอนที่ต่อสู้เคียงข้างกับแม่ทัพของตัวเองและศพมากมายของเหล่าทหารที่ตายเกลื่อน

    ใจนึงก็อยากจะฉวยโอกาสนี้หนีไป

    แต่อีกใจกลับบอกให้ทำอีกอย่าง

    “โธ่เว้ย!” ได้แต่สบถกับตัวเองอย่างหัวเสีย มือขาวตวัดดาบข้างตัวขึ้นมาถือก่อนจะยื่นดาบออกไปกันดาบของโจรที่มาบุกรุกห่างจากใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังเพลี่ยงพลั้งเพียงแค่ฝ่ามือคั่น ทักษะฝีมือของคนตัวเล็กกอปรกับการที่ได้พักเต็มอิ่มทำให้กองโจรพลาดท่าและถูกทงเฮแทงเข้ากลางอกไปหลายคน มือเล็กเอื้อมคว้าเอาโจรที่อยู่ใกล้ตัว พร้อมกับดาบที่จ่อที่คอหอย

    “พวกแกเป็นใคร” เสียงหวานตวาดก้อง ปากแดงระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยหอบ พร้อมๆกับที่ตาเรียวเล็กมองเห็นสัญลักษณ์ที่ห้อยอยู่ที่คอของตัวประกัน

    พรึ่บ

    มือขาวกระตุกเอาไว้ในอุ้งมือ แล้วผละออก ตากลมจ้องนิ่งมองสัญลักษณ์ที่เคยเห็นอย่างงุนงง

    “ระวัง!” และไม่ทันตั้งตัวคนที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ ล้วงเอามีดพกหมายจะแทง ทงเฮถลาพรวดเข้ามาผลักร่างบอบบางไปด้านหลัง

    ฉึก

    “อ๊าก!!!” ร่างขององค์ชายรองทรุดลง เลือดเป็นลิ่มทะลักออกมาจากไหล่ซ้าย ไม่มีเวลาให้ลังเล ดาบในมือของฮยอกแจก็พุ่งไปปักลงตรงหน้าท้องของคนร้ายทันที

    “เป็นอย่างไรบ้าง” เสียงหวานเอ่ยถามระคนห่วงใย ตากลมมองบาดแผลลึกอย่างครุ่นคิด

    องค์ชายรองช่วยเขาทำไม

    “เจ้าล่ะบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า” ตาคมสอดส่องไปทั่วเรือนกายบอบบางแล้วก็พบว่าอีกคนใส่เพียงแค่ชุดคลุมบางเบาสีขาว ที่แทบจะมองเห็นไปทุกสัดส่วน

    “ข้าไม่บาดเจ็บตรงไหน ค่ายทหารของท่านมีหมอหลวงเดินทางมาด้วยหรือไม่”

    “มี แต่คงช่วยทหารบาดเจ็บอยู่”

    “ลุกไหวไหม ข้าจะทำแผลให้” แขนเรียวเล็กสอดเข้าใต้ไหล่ของอีกคนเป็นการประคองเดินเข้าไปด้านใน เสียงต่อสู้เงียบลงพร้อมกับกระโจมที่เปิดออกอีกครั้ง

    “แทคฮยอนเจ้าไปดูแลด้านนอก ข้างในเราจัดการเอง” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยบอกแม่ทัพตัวใหญ่ที่เดินตามมา ร่างใหญ่โค้งลงทำความเคารพรับคำก่อนจะผลุบหายออกไป

    “เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” ทันทีที่ลับร่างของแม่ทัพใหญ่ องค์รัชทายาทก็แทบจะถลาเข้ามา ตาคมเข้มไล่มองไปทั่วลำตัวบอบบางนอกจากเศษฝุ่นและคราบเลือดของคนอื่นที่กระเด็นมาโดนตัวก็ไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด เมื่อสำรวจจนพอใจจึงถอนหายใจหนักอย่างโล่งอก

    “น้องชายท่านต่างหากที่บาดเจ็บ” ตอบกลับโดยไม่มองหน้า มือเล็กสาละวนอยู่กับการห้ามเลือด ในขณะที่คนเจ็บกัดปากจนเป็นสีซีด

    “ทงเฮไหวหรือเปล่า” น้ำเสียงอาทรเอ่ยถาม มองไปยังบาดแผลของผู้เป็นน้องไปด้วย

    “ไกลหัวใจกระหม่อม” พอเห็นว่าอีกคนยังมีรอยยิ้มอ่อนๆก็เบาใจได้บ้าง

    “แผลลึกมาก เจ็บหน่อยนะ” คนนอกหนึ่งเดียวเอ่ยขึ้น มือเล็กเตรียมเข็มกับด้ายพร้อมไว้ในมือ ทงเฮเหล่ตามองก่อนจะพยักหน้ารับ

    หนักหนากว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว

    คยูฮยอนมองคนตัวเล็กที่ขะมักเขม้นกับการทำแผลให้น้องชายด้วยหัวใจอุ่นวาบไปทั้งดวง แม่ทัพของดินแดนสีเพลิง นอกจากดื้อ

    แล้วยังจิตใจดี

    “อึก...” ดงเฮกัดปากตัวเองแน่นกันเสียงร้อง มือกว้างเลื่อนขึ้นจับมือนุ่ม จนคนทำแผลต้องหยุดมือลง

    “ให้ตามหมอไหม”

    “มะ ไม่เป็นไร” เสียงตอบกระท่อนกระแท่น คยูฮยอนเดินมาแตะไหล่บางเบาๆเรียกให้ใบหน้างามเงยขึ้นมอง แล้วผุดลุกออกจากที่นั่งไปนั่งเคียงข้างบนเตียงของคนเจ็บแทน ในขณะที่ร่างของรัชทายาทลงนั่งแทนที่

    “อดทนนะทงเฮ” เสียงนุ่มตรัสออกมา ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดขยับขึ้นลงรับรู้ มือกว้างเกาะเกี่ยวนิ้วเล็กเอาไว้เป็นหลักยึดพร้อมๆกับเข็มในมือองค์ชายใหญ่ที่ฝังเข้าผิวเนื้อ

    ฮยอกแจได้แต่มองหน้าคนเจ็บอย่างให้กำลังใจ

    ถ้าทงเฮไม่เข้ามาช่วย เขาอาจจะตายไปแล้วเหมือนเมื่อเช้าที่ถ้าองค์รัชทายาทคยูฮยอนไม่ช่วย เขาคงตกจากม้าลงไปด้านล่างที่มีคมหอกและคมดาบรอฟันเขาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่องค์ชายคยูฮยอนคว้าเอาเขาขึ้นหลังม้าเสียก่อน

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดความรู้สึกอคติในตัวขององค์ชายต่างแดนสองพระองค์นั้นเบาบางลงกว่าทีแรกมากนัก

     

     

     

    “ยังไม่ง่วงหรือ” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังขึ้น เรียกให้คนที่นั่งมองความวุ่นวายตรงหน้าเหลียวกลับไปมอง จนร่างสูงสง่าของอีกคนทรุดลงนั่งเคียงข้าง

    “ยังหรอก” ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ องค์รัชทายาทมองคนที่ห่อตัวเข้าหากันด้วยความหนาวอย่างชั่งใจ ก่อนแขนยาวจะเอื้อมรั้งร่างของคนตัวขาวให้เข้ามาแนบอก กอดกระชับเอวบอบบางแน่น ตากลมฉายแววตระหนกและพยายามขืนตัวออกห่าง พลางมองบรรดาเหล่าทหารด้วยแววตาหวาดระแวง มีเพียงแค่บางคนเท่านั้นที่หันมามองดูแล้วกลับไปทำกิจกรรมของตนเองต่อ

    “เจ้าหนาวมิใช่หรือ”

    “ข้าไม่ได้พูด”

    “แต่เจ้าตัวเย็นเฉียบ” พูดพร้อมกับไล้มือไปตามปลายนิ้วของคนในอ้อมกอด

    “...”

    “ทำไมเจ้าถึงดื้อนักนะ ปากไม่เคยตรงกับใจ” เอ่ยเหย้าแต่ก็กระชับกอดให้แน่นขึ้น จนอีกคนแทบจะจมไปกับอกกว้าง แม่ทัพต่างถิ่นจึงเลิกขัดขืนและนั่งนิ่งแทน

    “อยู่กับศัตรู ทำไมต้องทำตัวดี” ปากแดงยื่นเถียงอย่างไม่รู้ตัว องค์ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอมองคนในอ้อมอกด้วยความเอ็นดู

    คนของดินแดนเขาช่วยชีวิตไว้ถึง 2 ครั้งยังไม่มีความดีความชอบอีกหรือนี่

    “เจ้าไม่ใช้ราชาศัพท์กับข้า ข้ายังไม่ดุเจ้าซักคำอย่างนี้ยังกล้าบอกว่าข้าเป็นศัตรูอีกหรือ” องค์รัชทายาทตรัสออกมาอีกครั้ง เรียกให้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มตวัดมอง

    “ก็ท่านไม่ใช่องค์เหนือหัวของข้าเสียหน่อย” ถ้อยคำเถียงดังออกมาแทบจะทันที ใบหน้าคมยกยิ้มเบาบางที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี

    “งั้นข้าเป็นอะไรล่ะ”

    “ยังไงท่านก็เป็นศัตรู เป็นศัตรูที่เจ้าเล่ห์เพทุบายที่สุด” ตอบแบบไม่ต้องคิด คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกว่าตัวเองใจอ่อนง่ายเกินไปก็ครานี้

    “หืม ข้าเป็นศัตรูที่อบอุ่นที่สุดต่างหาก” ฮยอกแจอ้าปากค้างเมื่อได้ยินประโยคจากริมฝีปากหยักของคนที่ดูจะไม่ทุกข์ร้อนใดๆ แถมยังเลื่อนมือขึ้นมากดให้ศีรษะเล็กเอนซบไปบนไหล่กว้างเสียอีก

    “ถ้าข้ามีโอกาส ข้าจะฆ่าท่าน” เสียงขุ่นเคืองเปรยออกมาเบาๆ มือเล็กกำแน่นด้วยความสับสน

    “ถึงเจ้ามีโอกาส เจ้าก็ไม่ทำหรอก” ตรัสออกมาด้วยความมั่นใจ

    “มั่นใจเกินไปหรือเปล่า”

    “ไม่นี่...” ตอบออกมาแล้วต่างคนต่างเงียบจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

    .

    .

    “ข้าได้จี้อันนี้มาจากโจรที่บุกเมื่อพลบค่ำ” หลังจากเงียบไปไม่กี่อึดใจ มือเล็กก็ล้วงหยิบจี้มรกตสีเขียวที่สลักรูปมังกรสองตัวออกมาจากกระเป๋าเสื้อ องค์รัชทายาทรับมาถืออย่างพิจารณา

    “ดินแดนมรกตงั้นหรือ” เสียงทุ้มครางลึกในลำคอ

    “ดินแดนมรกตไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของดินแดนท่านหรือ” คิ้วเรียวขมวดน้อยๆอย่างงุนงง ตากลมเงยขึ้นสบดวงตาคมเข้มเพื่อใคร่ขอคำตอบ

    “ทำไมดินแดนมรกตถึงทำเยี่ยงนี้” น้ำเสียงไม่มั่นใจเอ่ยออกมาเป็นครั้งแรก คนตัวเล็กที่ทอดกายอิงแอบเผลอตัวยกมือขึ้นลูบเบาๆบนพระพักตร์เคร่งเครียด ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอ่อนโยนแล้วประคองมือขาวลงมากุมเอาไว้

    “ข้าว่าท่านควรจะกลับไปจัดการดินแดนภายใต้อาณัติของท่านมากกว่าดินแดนของข้าเสียอีก”

    “ห่วงข้าหรือ” คำถามเข้าข้างตัวเอง เรียกให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองพร้อมกับดึงมือออกจากการเกาะกุม แก้มใสซับสีเรื่อ หัวใจเต้นเร็วจนเจ้าของยังไม่เข้าใจ

    “แค่ความสงสัย”

    “เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก” น้ำเสียงอบอุ่นทอดอ่อน

    “...”

    “นอนเถอะ ข้าอยู่ไม่ต้องกลัวอะไร” องค์ชายหนุ่มเพียงแค่ยกยิ้มบางเบา ริมฝีปากได้รูปจูบลงเบาๆที่ข้างขมับขาว มือเล็กทุบแรงๆไปที่ต้นขาคนฉวยโอกาสแต่ก็หนีออกจากพันธการแน่นหนาของคนตัวใหญ่ไม่ได้ ตากลมสวยค่อยๆปรือลงผ่อนกายแนบอิงกับเจ้าของอ้อมกอดมากขึ้น หัวใจที่เต้นหนักค่อยๆผ่อนลง

    ด้วยความรู้สึกปลอดภัยในวงแขนของศัตรู


    --------------------------------------


    Katomnam Talk:


    มันยาวนะคะ ขอกำลังใจหน่อยยยยย


    โอ้ย แต่งยากกก พลอตมาเยอะไปหมดดด


    น่ารักเนอะ คริ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×