ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ Yaoi] Katomnam's Short Fiction{ HaeEun,KyuHyuk,BumHyuk,Wonhyuk} On Air

    ลำดับตอนที่ #128 : Story 38 Ugly Lovely 3 (HaeEun, KyuHyuk, BumHyuk, WonHyuk)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 412
      5
      2 ก.พ. 61

    Part Hyukjae

     

    ผมเกลียด!!!

    เกลียดไอ้พวกรวมเดือนสี่ตัวนั่นมากที่สุด เปลี่ยนชื่อผมเป็นขี้เหร่ แถมยังบังคับนู่นนี่ เอาแต่ใจ แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือทำไมต้องเป็นเฉพาะกับผมคนเดียว ซองมิน เรียวอุค ฮีชอลไม่เห็นโดนบ้างเลย

    แถมเมื่อวานยังตะโกนใส่หน้าผมแบบพร้อมเพียงกันอีก

    “ขี้เหร่จะตาย”

    เหอะ...

    แค่คิดน้ำตาก็รื้นมาที่ขอบตา จะบอกว่าชินก็ไม่เชิง แต่ที่ผมรู้สึกได้คือผม

    น้อยใจ...

    ผมกอดฮีชอลร้องไห้มาตลอดทางจนถึงบ้าน พอไปถึงบ้านผมก็ลากเพื่อนสนิทอีกสามคนให้ค้างที่บ้านพร้อมกับโทรตามช่างทำผมส่วนตัว และมีฮีชอลเป็นคนเลือกทรงผมและสีผมให้ พอๆกับที่ซองมินและเรียวอุคขับรถออกไปซื้อคอนแทคเลนส์มาให้ผม

    ตอนนี้ผมเลยต้องนั่งตัวลีบอยู่ที่โต๊ะใต้ตึกคณะ กับหัวสีแดงเข้มดัดหยิก กับคอนแทคเลนส์ใส คนที่ผ่านไปมาได้แต่มองหรือจ้องมาทางผม จนผมต้องยกมือขึ้นไปจับหัวจับหูตัวเองด้วยความสงสัย

    ก็ฮีชอลบอกว่าน่ารักมากแล้วนี่นา

    แถมพี่โซรายังชมออกหน้าออกตาขนาดนั้น แต่ทำไมคนในมหาวิทยาลัยมองผมเหมือนตัวประหลาดงี้ล่ะ ความมั่นใจที่พกมาตั้งแต่อยู่บ้านค่อยๆริดรอนจนแทบไม่เหลือ

    “เมื่อไหร่ พวกฮีชอลจะมาล่ะเนี่ย” ผมก้มหน้าบ่นกับตัวเองเบาๆ ไม่รู้ว่าพวกนั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันถึงไหน ถึงได้มาช้าแบบนี้

    “น้องฮยอกแจ” เสียงนุ่มๆดึงให้ผมเงยหน้าขึ้นจากสมาร์ทโฟนเพื่อมาสบตากับคนดังของมหาวิทยาลัย

    พี่ฮยอนจุง คณะแพทยศาสตร์ ปี 3

    หล่อ รวย เรียนเก่ง อ่อนโยน สุภาพ สารพัดจะมีแต่ข้อดีที่ทำให้ใครต่อใครต่างเต็มใจมอบตำแหน่งขวัญใจไปให้ครอง

    ว่าแต่ พี่ฮยอนจุงมาทำอะไรที่คณะวิศวะ

    “ครับ” ผมขานรับงงๆ ก็เห็นคนตัวสูงลงนั่งมาข้างๆพร้อมกับสายตาของนักศึกษาหลายคนที่แอบชำเลืองมองมาด้วยความอยากรู้ขั้นสุด

    “ทำผมสีนี้แล้วน่ารักมากเลยนะครับ” เสียงนุ่มตอบกลับ แถมด้วยรอยยิ้มบางๆที่ริมฝีปาก ผมกระพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง

    ผมไปสนิทกับพี่เค้าเมื่อไหร่ละเนี่ย

    “เอ่อ ขอบคุณครับ” ผมได้แต่มองไปรอบๆด้วยความอึดอัดเล็กๆ พี่ฮยอนจุงก็นั่งยิ้มหวานอยู่ข้างๆเท่านั้น ไร้บทสนทนาใดๆจากเราทั้งคู่ แต่ผมรู้สึกได้ว่าพี่เค้าจ้องผมไม่วางตา จนผมรู้สึกเขินขึ้นมาบ้างแล้ว

    “หน้าผมมีอะไรติดรึเปล่าครับ” ผมเป็นฝ่ายทนไม่ได้จนต้องออกปากถาม หนุ่มขวัญใจมหาชนขยับยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่มือกว้างจะยกขึ้นมาแตะที่แก้มผมแผ่วเบา

    แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกร้อนที่หน้าได้

    “มีความน่ารักเต็มไปหมดเลยครับ”

    “อ่า...” จะไม่เขินก็จะไร้อารมณ์ไปหน่อยแล้ว มีหนุ่มหล่อมานั่งชมขนาดนี้ คิดแล้วก็แค้นไอ้พวกสี่คนนั้น ขนาดพี่ฮยอนจุงยังชมว่าผมน่ารักเลยเหอะ

    มีแต่พวกนั้นที่เรียกผมว่า...

    “ขี้เหร่!!!!!” เสียงประสานดังลั่น ทำให้ผมหันไปมองอีก 4 คนที่วิ่งเข้ามาตรงที่ผมนั่งอยู่ ผมมองนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ เรื่องเมื่อวาน

    ผมยังโกรธอยู่นะ

    “ขี้เหร่ ไปกินข้าวเช้ากัน” มาถึงซีวอนก็จับแขนผมให้ลุกขึ้นยืน คิบอมคว้าเอากระเป๋ากับหนังสือของผมไปถือไว้ ในขณะที่พี่ฮยอนจุงลุกขึ้นมามองงงๆ

    “ไม่ไป” ผมสะบัดตอบเสียงห้วน พร้อมกับดึงแขนออกจากมือของซีวอน

    “ขี้เหร่อ่า ยังงอนอยู่อีกเหรอ” ซีวอนถามผมเสียงเศร้า หน้าหล่อๆนั่นก็พลอยหมองไปด้วย

    “ไม่ได้งอน”

    “...”

    “แต่ไม่ไป” ผมพูดเรียบๆ จะบอกว่างอนก็ได้ ผมพาตัวเองไปยืนข้างพี่ฮยอนจุง อย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่ใกล้สี่คนนั้น พี่ฮยอนจุงลูบไหล่ผมไปมาคงเพราะเห็นว่าเหตุการณ์ดูไม่ปกติเท่าไหร่

    “ใครอนุญาตให้พี่แตะขี้เหร่” ดงเฮร้องขึ้นมาดังลั่น ตัวหนาๆก็แทบจะถลาเข้ามาแยกผมออกจากรุ่นพี่

    “แล้วนายเป็นอะไรกับฮยอกแจ” น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นอีกครั้งอย่างคนใจเย็น มือของพี่ฮยอนจุงยังวางนิ่งอยู่บนไหล่ผม ช่างแตกต่างกับหน้าของอีกสี่คนที่มองมา

    “เป็นเพื่อนร่วมคณะ” คยูฮยอนตอบออกมาแทบจะทันที ผมมองใบหน้าหล่อนิ่งงัน พร้อมๆกับที่หัวใจของผมมันเริ่มรู้สึกหน่วงๆขึ้นมา คิบอมตบหัวคยูฮยอนอย่างแรงก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยความเป็นห่วง

    “เป็นอะไรไม่สำคัญ แต่พี่ปล่อยขี้เหร่ได้แล้ว” คิบอมพูดออกมาเสียงเย็น แต่พี่ฮยอนจุงกับกระชับมือให้แน่นมากขึ้น ผมช้อนตามองคนด้านข้างด้วยความไม่เข้าใจ

    “ฮยอกแจยังไม่ว่าอะไรเลย พวกนายเดือดร้อนทำไม”

    “ถ้าพี่พูดไม่รู้เรื่องแบบี้ ผมต่อยคว่ำเลยนะ” ซีวอนเดินมาประจันหน้า ผมมองเหตุการณ์ที่เริ่มบานปลายอย่างวิตก ผมดันมือพี่ฮยอนจุงออกจากไหล่ มองคนสองฝั่งไปมาก่อนจะตัดสินใจเดินหนีออกมาจากตรงนั้น และทิ้งสายตาผิดหวังไว้ทางฝั่งคนที่มากกว่า

    เป็นเพื่อนร่วมคณะ

    แล้วมาหวงออกนอกหน้าทำไม...

     

     

    “กระเป๋าไปไหนน่ะฮยอกแจ” ฮีชอลทิ้งตัวลงนั่งข้างผมก่อนจะมองหากระเป๋าใบเก่งของผมไปด้วย ซองมินกับเรียวอุคเองก็นั่งไปยังเก้าอี้ที่เหลือด้วยความเหนื่อยจัด ก็คงจะตามหาผมไปทั่วเพราะผมไม่ยอมขึ้นเรียนแถมยังหลบมานั่งในห้องสมุดอีก

    “ไม่รู้สิ อยู่ที่ใครซักคน” ผมตอบ ไม่ได้ต้องการกวนประสาทแต่ไม่รู้จริงๆ ตั้งแต่เดินออกมาก็ไม่ได้เจอใครอีกเลย กระเป๋าสะพาย โทรศัพท์มือถือก็ไม่มี มีแต่ตัวจริงๆ

    “เป็นอะไร” ซองมินถามผมเสียงอ่อน ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบไหล่ผมไปมา

    “เปล่า”

    “โกหก” ร่างอวบสวนกลับทันควันจนผมได้แต่มองค้อนเคืองๆ

    “เป็นอะไรทำไมหลบมาอยู่นี่ ไอ้พวกบ้านั่นวิ่งหากันให้วุ่น”เรียวอุคพูดออกมาอีกคน ทำให้ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ

    “ไม่รู้สิ”

    “...”

    “อยู่ดีๆไอ้ความรู้สึกบ้าๆนี่ก็เกิดขึ้น อยู่ดีๆฉันก็น้อยใจ” และผมก็ต้องยอมรับกับเพื่อนสนิทเสียงอ่อย มีอีกสามคนมองมาด้วยความเข้าใจ

    “พวกมันก็แค่ปากหมาน่า” ฮีชอลเอ่ยออกมาคนแรก ผมเงยขึ้นไปสบตาเพื่อนนิ่งๆ

    “ใช่ ดูจากการกระทำพวกมันแทนสิ” ซองมินเสริม มีเรียวอุคยิ้มให้กำลังใจผม

    ดูจากการกระทำงั้นเหรอ



    -------------------------


    Katomnam Talk:


    มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววว


    ขี้เหร่มาแล้ววว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×