คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
Chapter 3:
“อ๊า เงินหมดอ่ะย็อก” ซองมินวิ่งโวยวายลงมาจากบนบ้าน ก่อนจะถลาเข้ามาหาฮยอกแจที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้านล่างเพราะวันนี้เป็นวันหยุด อาทิตย์ที่แล้วซองมินก็เอาแต่สรรหาของกินไปให้คยูฮยอนฝากดงเฮไปให้บ้างเอาไปให้เองบ้าง จนตอนนี้เงินเดือนทั้งเดือนหมดลง
“ก็สมควร” อีกคนตอบกลับเหมือนไม่ใส่ใจ
“แง๊ ย็อกอย่าทำกับมินแบบนี้” ซองมินอ้อนต่อก่อนจะเอาหัวกลมๆไปคลอเคลียกับไหล่บอบบางของเพื่อน
“ฉันไม่ได้ทำ แกทำตัวเองต่างหากเล่า” ฮยอกแจเถียงกลับ
“พามินไปหาไรกินหน่อยน๊า” กระต่ายน้อยยังคงอ้อนเพื่อนต่อไป ฮยอกแจเลยหันมามองขำๆก่อนจะพยักหน้ารับแล้วบอกให้ซองมินไปตามเรียวอุคลงมา ก็วันนี้ดงเฮออกไปเที่ยวกับซีวอนแต่เช้า แถมยังใจดีเก็บรถเอาไว้ให้เพื่อนใช้อีก น่ารักจริงๆ
“ไปไหนดีอ่ะ” ฮยอกแจที่ขับรถอยู่หันมาถามเพื่อน
“ก็ห้างของคยูฮยอนไง อิอิ” ซองมินตอบทันที เรียวอุคกับฮยอกแจเลยได้แต่ส่ายหน้าเซงๆ แต่ก็ไปห้างที่ซองมินต้องการ
“ไปดิเร็วหิว” ฮยอกแจเร่งซองมินที่เดินดูรอบๆไปด้วยทำท่าเหมือนไม่เคยมา
“เออๆ ย็อกเลี้ยงน๊า” ซองมินอ้อนทันทีก่อนจะเดินเข้าร้านอาหารร้านหรูที่เคยเข้าเป็นประจำ ถึงเงินเดือนจะเหลือหนึ่งในสี่ก็ยังพอที่จะกินร้านหรูนี้ได้แค่งดออกไปชอปปิ้งต่างประเทศแค่นั้นเอง ที่เหลือในประเทศทำตัวเหมือนเดิมได้ สายตาซุกซนของกระต่ายน้อยหยุดอยู่ที่โต๊ะวีไอพีด้านใน
“ด็องนี่หว่า” ซองมินพูดขึ้นก่อนจะชี้เข้าไป เป็นจังหวะเดียวกับที่ดงเฮหันมาเห็นพอดีเลยรีบลุกพรวดออกมาหาเพื่อน
“ว่าแล้วเชียวว่าพวกแกต้องมา” ดงเฮพูดเสียงใส
“แกมากับพวกไอดอลเหรอ” ซองมินถามกลับก่อนจะพยายามชะเง้อมองคนในห้องให้ได้
“ใช่ๆ มากันครบเลยพวกนั้นมาดูหนังกัน ไปนั่งด้วยกันสิ” ดงเฮเอ่ยชวนแต่ฮยอกแจกับเรียวอุคส่ายหน้าทันที
“ไม่แกอยากไปก็ไปเถอะฉันอยู่กับย็อกได้” เรียวอุคบอกทันทีก่อนจะเดินนำฮยอกแจไปที่โต๊ะตัวอื่นที่ไกลพอจะมองไม่เห็นห้องวีไอพี แต่ทว่า
“เรียวอุค นายมาด้วยเหรอ” เยซองนั่นเองที่วิ่งออกมาจากห้องวีไอพีก่อนจะจับมือเรียวอุคไว้ ร่างบางได้ยืนส่ายหน้าจะเอามือออกก็ไม่ได้ ดันเป็นคนไปขอคบก่อนแท้ๆ ไปๆมาๆกลายเป็นเยซองเป็นคนตามเรียวอุคทุกอย่าง
“ก็เห็นไม่ใช่เหรอไง” ร่างบางตอบกลับก่อนจะมองไปทางฮยอกแจอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีประโยชน์เพราะฮยอกแจได้แต่ยืนส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้ แล้วมองไปทางอื่นให้เพื่อนรักได้เคลียร์ปัญหาของตัวเองต่อไป
“อ่า ไปนั่งกินข้าวด้วยกันสิ เราเป็นแฟนกันแล้วน๊า” เยซองพูดจบก็จับมือเรียวอุคเดินออกไป ปากก็เล่าเรื่องต่างๆไปด้วย เรียวอุคไม่ลืมที่จะดึงฮยอกแจให้ตามไปด้วยเพราะซองมินเดินเข้าไปกับดงเฮก่อนแล้ว
“อ้าว เรียวหวัดดีๆ” ฮันกยองทักขึ้นทันทีที่เรียวอุคเดินเข้าไป คนในกลุ่มรู้จักเรียวอุคแล้วเพราะบางวันเยซองก็มารับเรียวอุคไปทานข้าวแม้เรียวอุคจะไม่เต็มใจก็ตาม
“หวัดดีฮัน” ร่างบางตอบกลับแต่ว่าฮันกยองกลับมองเลยไปยังอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเรียวอุคแทน
“นั่งสิ” เยซองกระตุกมือเรียวอุคให้นั่งลงข้างๆ เรียวอุคเลยจำใจนั่งลงก่อนจะดึงมือฮยอกแจให้นั่งลงด้วยอีกข้างของฮยอกแจก็เป็นคิบอมพอดี และตรงข้ามก็เป็นฮันกยอง
“ซองมิน เรียวอุคนี่นำนายไปเยอะแล้วน๊า” ดงเฮที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ซองมินเลยยิ้มน้อยๆ โดยที่ไม่ลืมจะเผื่อแผ่ไปยังคยูฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วย แต่คยูฮยอนกลับตีหน้านิ่งผิดกับอาทิตย์ที่แล้วโดยสิ้นเชิง จนซองมินอดไม่ได้ที่หันไปมองเพื่อนอย่างต้องการคำตอบแต่ที่ดงเฮตอบมาได้คือการส่ายหน้าน้อยๆ
“พวกแกอยากดูเรื่องอะไร” ซีวอนถามขึ้นเมื่อเห็นหลายๆคนเริ่มอิ่มกันแล้ว
“ฉันอยากดูหนังผี” คยูฮยอนตอบขึ้น
“ไม่อ่ะ ฉันอยากดูบู๊ล้างผลาญ” ฮันกยองเถียงมีคิบอมพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันอยากดูหนังรัก” เยซองบอกบ้างก่อนที่เพื่อนๆจะหัวเราะออกมา
“อ้าวเวน อยากดูกันคนละแนวอีก” ซีวอนถึงกับกุมขมับที่ได้ยินคำตอบ
“ก็แยกกันดูไปสิ เรื่องง่ายๆ” คิบอมพูดขึ้น คนอื่นๆเลยหาคนไปดูหนังแนวตัวเองเป็นเพื่อนทันที
“นี่คยู ซองมินเขาชอบดูหนังผีอ่ะนายไปดูกับซองมินสิ” ดงเฮพูดขึ้นก่อนจะแอบเอาศอกกระทุ้งซองมิน กระต่ายน้อยหันมามองเพื่อนอย่างหวาดๆ ถ้าเป็นเรื่องผีขอให้บอกซองมินขอวิ่งคนแรกเลยให้ตาย นี่จะให้ไปดู แต่ก็เป็นโอกาส ซองมินเลยพยักหน้ารับ
“อ่า ก็ได้” ร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นเดินนำไป ซองมินเลยลุกตามออกไปทันที
“เย แกก็ไปดูกับแฟนแกแล้วกัน” ซีวอนหันไปพูดทำให้เยซองยิ้มหน้าบานก่อนจะลากเรียวอุคไป
“ย็อก เดี๋ยวโทรหานะ” เรียวอุคหันมาบอกเพื่อนอีกคนก่อนจะถูกลากหายไป
“งั้นฉันไปเดินเล่นรอพวกนั้นแล้วกัน” ฮยอกแจพูดขึ้นก่อนจะเดินไปวางบัตรเครดิตเอาไว้ที่ดงเฮ
“จะไปไหนน่ะ” เสียงของใครบางคนถามขึ้นทำให้ร่างบางหันไปมองทันที
“ฉันต้องบอกนายด้วยเหรอไง” เสียงหวานตอบกลับมา ทำให้ฮันกยองยิ้มออกมาน้อยๆกับคำพูดกวนประสาท
“ยังไงนายก็ต้องรอเพื่อนนายดูหนังไม่ใช่เหรอไง ไปดูหนังบู๊กับพวกฉันแล้วกัน” ฮันกยองพูดขึ้นก่อนจะดันฮยอกแจออกไป มีคิบอมเดินตามไปเงียบๆ ซีวอนกับดงเฮเลยหันไปยิ้มให้กันน้อยๆ
“เพื่อนฉันดูแปลกไปนะ” ซีวอนเอ่ยขึ้น
“แต่เพื่อนฉันปกติ” ดงเฮบอก
“อืม แต่ไอ้ฮัน กับไอ้บอมมันไม่เคยชอบดูหนังกับคนอื่นเลยนะน่าแปลก ไอ้เยก็อีกคนตามไปเหมือนลูกหมาน้อยๆเลย ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าตกลงใครขอใครคบเนี่ย” ซีวอนร่ายยาวขำๆก่อนจะดึงดงเฮออกไปบ้าง จะจ่ายเงินทำไมในเมื่อร้านนี้เป็นเครือของตระกูล ชเวอยู่แล้ว
“ซองมินทำไมนายปิดหน้าปิดตาอย่างเดียวเลยอ่ะ” คยูฮยอนถามคนที่นั่งข้างๆ ขณะที่หนังฉายไปได้เพียงแค่ห้านาทีคนด้านข้างก็ทำท่าเหมือนจะขาดใจ
“ก็ ผีมันออกแล้วอ่ะ” เสียงใสตอบกลับมา ก่อนจะหันไปมองหน้าคยูฮยอนแต่มือยังคงยกปิดหน้าไว้เหมือนเดิม คยูฮยอนลอบยิ้มกับท่าทางน่ารักนั่นแต่ก็ไม่ได้แสดงออก
“แล้วไหนบอกชอบดูหนังผี” ร่างสูงถามต่อไม่ได้สนใจหนังตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ก็ เอาเหอะน่า”
“แล้วนายซื้อป๊อปคอร์นมาไม่กินเหรอไง” คยูฮยอนถามต่อเมื่อมองเห็นปริมาณข้าวโพดคั่วยังเลหือเท่าเดิมเพราะเจ้าของกินไปได้สองคำก็เอามือมาปิดหน้าแทน
“ฉันก็อยากกิน แต่มันกินไม่ได้มือไม่ว่าง” ร่างบางตอบออกไปก่อนจะมองไปที่ป๊อปคอร์นอย่างโหยหา คยูฮยอนมองตามไปก่อนจะหยิบขึ้นมาถือไว้ นิ้วเรียวหยิบป๊อปคอร์นมาจ่อที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคน ทำให้ซองมินตาโตขึ้นอย่างตกใจ
“กินสิ ฉันป้อนให้นายก็เอามือปิดตาไป” ร่างสูงบอกเมื่อเห็นซองมินทำหน้างงๆ ร่างเล็กเลยอ้าปากรับก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆแล้วหันมายิ้มให้
“ขอบใจนะ” ฟักทองน้อยบอกก่อนที่ใบหน้าใสจะแดงเรื่อแต่โชคดีที่เป็นโรงหนังทำให้มืดจนคนด้านข้างมองไม่เห็น ร่างสูงก็ยังคงทำหน้าที่ไปเรื่อยๆจนป๊อปคอร์นหมดก็จัดแจงยกแก้วน้ำมาให้อีกคนดูด
“อิ่มแล้วใช่มะ” เสียงทุ้มก้มลงมาถามชิดริมใบหู
“อื้อ” อีกคนก็ตอบทันที คยูฮยอนเลยจัดการเอามือของตัวเองไปจับมือของซองมินไว้แล้วดึงมือที่ปิดหน้าอยู่ออกทันที ทำให้ซองมินที่ไม่ได้ตั้งตัวมองเห็นภาพผีที่กำลังฉายชัดอยู่ในจอสี่เหลี่ยมใหญ่ยักษ์อย่างชัดเจน คยูฮยอนมองปฏิกิริยาของคนข้างๆก่อนจะขำออกมาเสียงดัง แต่ซองมินไม่ขำด้วยร่างบางตัวสั่นก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนคยูฮยอนตกใจ
“นายร้องไห้ทำไม”
“ฮือๆๆ กลัวผี” ซองมินบอกออกมาก่อนจะร้องไห้ไปด้วย ร่างสูงเลยดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด ก่อนจะเอามือของตัวเองปิดตาของซองมินไปด้วย เกิดรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่เห็นน้ำตาของคนด้านข้าง
“ขอโทษๆ” คยูฮยอนก้มลงพูดก่อนจะกดหัวกลมๆของซองมินแนบอกแล้วลูบผมนิ่มไปด้วย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างเล็กในอ้อมกอดจะหยุดร้องไห้ง่ายๆ คยูฮยอนมองคนที่เริ่มร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆอย่างกลุ้มใจคนในโรงหนังคนอื่นก็เริ่มหันหาต้นตอของเสียงแล้วด้วย ร่างสูงไม่รู้จะจัดการเก็บเสียงสะอื้นของคนในอ้อมกอดยังไง เลยจัดการช้อนใบหน้าหวานขึ้นก่อนจะกดจูบลงที่ริมฝีปากอิ่ม ซองมินหยุดร้องไห้ทันทีก่อนจะมองคยูฮยอนตาค้าง สติล่องลอยไปชั่วขณะจนร่างสูงถอนริมฝีปากออก
“นายเลิกร้องไห้แล้ว ดีจัง”
“นายทำบ้าอะไรน่ะ” ซองมินถามเสียงสั่นก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปจากโรงหนังทันที คยูฮยอนเลยรีบวิ่งตาม
“ก็นายร้องไห้แล้วเสียงมันดัง” ร่างสูงที่เดินมาเคียงคู่เอ่ยขึ้น
“นายก็เอามือปิดปากฉันเซ่” ร่างบางว่า
“ก็มือฉันปิดตานายอยู่นี่ อีกข้างก็โอบนายอยู่” อีกคนตอบกลับ
“…” ซองมินถึงกับเงียบเพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง
“นี่ซองมินนายกำลังตามจีบฉันอยู่ใช่ไหม” คยูฮยอนถามขึ้นเสียงจริงจังก่อนจะหยุดยืนมองตาซองมินตรงๆ
“ใช่” ร่างบางก็ตอบกลับแบบงงๆ
“ฉันจะเป็นแฟนกับนาย ถ้านายทำตามที่ฉันขอได้ห้าข้อ” ร่างสูงเสนอเงื่อนไข ซองมินขมวดคิ้วมุ่นมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็พยักหน้ารับ แค่ห้าข้อ ทำไมคนอย่างลีซองมินจะทำไม่ได้
“โอเค ตกลงตามนี้” พูดจบก็จับมือซองมินเป็นการสัญญา แต่ซองมินกำลังคิดว่าคยูฮยอนจะให้ทำอะไรกันแน่เลยไม่ได้สนใจว่าคยูฮยอนกำลังจับมือของตัวเองไปเดินเล่นเพราะออกมาก่อนที่หนังจะจบ ทำให้มีเวลาเหลืออีกเป็นชั่วโมงเพื่อรอเพื่อนคนอื่นๆ
“ฮยอกแจ ทำไมนายทำหน้าแบบนั้นล่ะ” ฮันกยองถามเมื่อเห็นใบหน้าหวานของคนที่ลากมาด้วยบึ้งตึง
“เวลานายโดนบังคับนายยิ้มได้เหรอไง” เสียงใสตอบกลับทันที ก่อนที่คิบอมจะหัวเราะออกมาน้อยๆ มองร่างบางที่ยืนอมลมไว้ในแก้มจนกลม ฮันกยองหันมามองเพื่อนตัวเองทันที คิมคิบอมหัวเราะ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
“นายไม่อยากดูหนังบู๊เหรอ” ฮันกยองถามอีกครั้ง
“ก็ไม่เชิง แต่ เอาเถอะๆนายไปซื้อตั๋วมาไป” พอจะบอกว่าไม่ชอบแต่เห็นสายตาเศร้าๆของหนุ่มจีนเลยพูดไม่ออกได้แต่ไล่ให้อีกคนไปซื้อตั๋วมา พอเดินออกไปประชาชนคนเกาหลีก็มองกันไม่วางตา ก็ฮันกยองเป็นถึงนายแบบดังนี่นา ใครๆก็รู้จัก
“นี่ นายไม่คิดจะพูดบ้างเหรอไง” ฮยอกแจหันมาถามคนที่เอาแต่เงียบทันที
“หือ จะให้พูดอะไร” เสียงทุ้มถามกลับเรียบๆ
“พูดแบบที่จะทำให้คนอื่นเขาไม่ต้องยืนเงียบอ่ะ” ร่างบางตอบกลับมา
“แล้วทำไมฉันต้องพูดล่ะ ในเมื่อนายก็กำลังหาเรื่องคุยกับฉันอยู่นี่” ร่างสูงพูดก่อนจะยิ้มออกมา ฮยอกแจมองรอยยิ้มของคนตรงหน้าอย่างเผลอไผล ถ้าอีตานี่ยิ้มบ่อยๆก็ดีสิเนอะ คนอะไรยิ้มแล้วหล่อชะมัด
“เออเนอะ” เสียงใสพูดอย่างเห็นด้วยก่อนที่ฮันกยองจะเดินกลับมาร่วมวงแต่กลับมีกลุ่มแฟนคลับกลุ่มใหญ่ล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้หมด และก็ดูว่าจะทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ารวมตัวกันได้ยังไงภายในเวลาเพียงนิดเดียว ฮันกยองก็พยายามจะดันตัวเองออกจากกลุ่มแฟนคลับอย่างสุภาพแต่ไม่เป็นผล เมื่อกลุ่มแฟนคลับขยายรัศมีมาจนถึงจุดที่ฮยอกแจยืนอยู่ทำให้ร่างบางถูกร่างยักษ์ของสาวคนหนึ่งชนเข้าอย่างจัง จนเซไปปะทะกับอกกว้างของคิบอม คิบอมก็คว้าตัวฮยอกแจไว้อย่างอัตโนมัติ
“ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม” คิบอมถามทันทีที่ร่างบางทรงตัวได้แล้ว ฮยอกแจส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอามือเล็กวางทาบที่ตำแหน่งของหัวใจตัวเองที่เต้นตึกตัก แล้วดันตัวออกจากอกกว้างแต่ว่าก็ถูกเบียดกลับเข้าไปใหม่
“ออกจากตรงนี้กันเถอะ” คิบอมพูดก่อนจะโอบคนตัวเล็กเดินฝ่าฝูงแฟนคลับของฮันกยองออกไป การกระทำของคิบอมทำให้ฮยอกแจหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ สุดท้ายก็ไม่ได้ดูหนังเพราะต้องมัวแต่คอยวิ่งหลบแฟนคลับของฮันกยอง พอไปเจอเพื่อนทุกคนก็แยกย้ายกันกลับมีเยซองที่แอบหอมแก้มเรียวอุคก่อนจะวิ่งหายไป
“อย่าลืมสัญญานะ ลีซองมิน” คยูฮยอนพูดก่อนจะเดินออกไป
“ฮยอกแจเดี๋ยวโทรหานะ” หนุ่มจีนหันมาบอกก่อนจะใส่แว่นกันแดดอันใหญ่แล้ววิ่งตามเพื่อนไป คิบอมที่กำลังจะเดินตามเพื่อนไป หันกลับมาเผชิญหน้ากับฮยอกแจก่อนที่จะก้าวเข้าไปยืนประชิด
“กลับบ้านดีๆนะ” ร่างสูงก้มลงมากระซิบชิดริมใบหูก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้คนฟังยืนนิ่งตกใจกับการกระทำเมื่อครู่ รวมถึงซองมินกับเรียวอุคด้วย
“ไหนแกบอกจะจีบฮันไง” เรียวอุคถามแต่ฮยอกแจก็ยังคงยืนนิ่งค้างท่าเดิม ซองมินเลยหันไปมองหน้ากับเรียวอุคงงๆ นี่เพื่อนเขาเป็นอะไรไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Writer Talk:
เนื่องจากเนตเน่ามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไรเตอร์เลยเอามาลงให้ก่อนนะคะ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆสำหรับคอมเม้นท์และคนอ่าน
รักทุกคนเสมอน๊า
ความคิดเห็น