คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Chapter 1]My Mafia's Love........
เวลา 13.00 น. ณ สนามบินกรุงโซล
ความวุ่นวายยังคงมีให้เห็นตลอดทั้งวัน วันนี้ก็เช่นกัน ร่างบางเดินไปรอบๆอย่างไม่มีอะไรทำก่อนที่เจ้าตัวจะยกนาฬิกาขึ้นมาดู
“เพิ่งจะบ่ายเองเหรอเนี่ย จะรีบมาทำไมหว่าเรา” เสียงใสบ่นอุบอิบกับตัวเองก่อนจะเดินเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมายไปเรื่อยๆ จนมองเห็นความวุ่นวายที่มีมากผิดปกติของสนามบินกับคนกลุ่มใหญ่ที่มุงดูอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่อาจเห็นได้ ขณะที่เจ้าตัวกำลังยืนมองอย่างสนใจก็เห็นใครคนหนึ่งวิ่งออกมาอย่างเร็วจากกลุ่มคน ทำให้ชนกันอย่างจัง
“โอ๊ย ไอ้บ้าไอ้อ้วน ไอ้ดำ มองไม่เห็นคนหล่อเหรอไงวะ” ฮยอคแจโวยวายเสียงดังลั่น ในขณะที่ล้มลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนพื้นทำให้กลายเป็นจุดสนใจจุดใหม่ของสนามบินอย่างรวดเร็ว แถมไอ้ดำที่วิ่งชนก็หนีไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไม่มีท่าทีจะหันกลับมามองแม้แต่น้อย
“มองอะไรกัน ไม่เคยเห็นคนโดนชนเหรอไง” เสียงใสแหวคนที่มามุงอยู่รอบๆ อย่างพาลๆ ก่อนจะมีมือของใครบางคนยื่นมาให้ ฮยอคแจเงยมองหน้าเจ้าของมือก่อนจะเอื้อมมือไปจับอย่างอัตโนมัติแล้วดึงตัวเองลุกขึ้น
“ขอบใจนะ” เสียงหวานเอ่ยออกไปก่อนจะสบตาสีนิลที่ไร้ความรู้สึกใดๆ นั้นอย่างหวาดๆ แต่ก็ยังใจดีสู้เสือยิ้มไปให้
“นายเพิ่งลงเครื่องเหรอ” ฮยอคแจถามคนที่ยืนเงียบข้างๆ มาได้ซักพัก ก็ต่างไม่มีใครเดินไปไหนยังคงยืนอยู่ที่เดิมทั้งคู่แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน
“ใช่” เสียงทุ้มตอบกลับมาไม่มองหน้าคนถามเลยซักนิด จนฮยอคแจเริ่มจะเคืองๆ กับไอ้ปฏิกิริยาตอบสนองแบบนั้น
“นี่ทำไมนายไม่มีกระเป๋าเดินทางมาด้วยล่ะ” แล้วก็ยังคงพยายามชวนคนข้างๆ คุยไปเรื่อยๆ เอาน่า ยังไงก็ยังดีกว่ายืนรอคนเดียว ถึงแม้ว่าอีตานี่จะไม่มีความรู้สึกก็เถอะ
“ก็ไอ้คนที่ชนเธอเมื่อกี้ มันขโมยไปน่ะสิ” เสียงทุ้มตอบราบเรียบไม่มีการแสดงอารมณ์โกรธใดๆ จนคนฟังเริ่มงง นี่ถ้าเป็นเขานะจะให้คนจับกลับมาอัดให้น่วมเลย ถึงจะสงสัยที่คนด้านข้างเรียกว่าเธอ แต่ก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะเจ้าตัวชินซะแล้วที่มีคนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงบ่อยๆ
“แล้วนายจะทำยังไงอ่ะ น่าสงสารจัง” เสียงหวานตอบกลับมาก่อนจะยิ้มน้อยๆไปให้ คิบอมหันมามองคนข้างๆเป็นครั้งที่สองของวัน ฮยอคแจกำลังยืนใช้ความคิดเลยไม่ทันได้สนใจว่าไอ้คนที่เขาว่าไร้ความรู้สึกกำลังยิ้มบาง
“เอ่อ ยังไงนายก็ไม่มีที่จะไปแล้วใช่ป่ะ งั้นเดี๋ยวฉันคุยเป็นเพื่อนและกันนะ” ฮยอคแจพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองคนข้างๆที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“…” คิบอมหันมามองคนข้างๆ ด้วยความงง
“ไปกินไอติมกัน ไม่ต้องมาทำหน้างง รู้แล้วว่าไม่มีเงินเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง ฉันเป็นคนดีอ่ะ” พูดเองเออเองเสร็จสรรพก่อนจะจูงมือคนข้างๆเดินไปร้านไอติมที่เจ้าตัวหมายตาไว้แล้ว ร่างสูงก็เดินตามอย่างว่าง่ายทั้งที่นัดคนมารับไว้ตรงนั้นแต่ก็ยังแปลกใจตัวเองที่เดินตามคนตัวเล็กไป
“นี่ๆ นายทำงานป็นบอร์ดี้การ์ดเหรอไง ดูแต่งตัวเข้าสิ หมวกไหมพรมปิดมาครึ่งหน้า ไหนจะแว่นกันแดดอีก ที่ฉันเห็นเนี่ยรู้สึกว่าจะโผล่ออกมาแต่ปาก” ร่างบางบรรยายการแต่งตัวของร่างสูงพร้อมกับจับสิ่งที่พูดถึงไปด้วย ถ้าเป็นคนอื่นคิม คิบอมบอกได้เลยว่าใครได้แตะตัวเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อไหร่ เขารับรองคนๆนั้นได้ลงไปหายมทูตแน่ แต่กับคนตัวเล็กหน้าตาน่ารักเขากลับทำแค่ยืนยิ้มน้อยๆแทน
“เอาเถอะๆ ฉันว่านายคงจะลืมเอาปากกลับมาเกาหลีใช่มะ เดี๋ยวฉันสั่งให้และกัน ไม่ต้องมองฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นคนดี” และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ฮยอคแจไม่รอความเห็นจากคนที่นั่งตรงข้ามเจ้าตัวสั่งไอศครีมรสที่ตัวเองชอบมาสองที่กับบริกรก่อนจะหันมายิ้มให้คิบอม
“นี่ๆ แล้วนายจะกลับบ้านนายยังไงอ่ะ” ตักไอติมไปได้คำเดียวเสียงใสก็ถามออกมาอีกครั้ง
“ตอนนี้ยังไม่รู้” คิบอมตอบกลับมาก่อนจะค่อยตักไอติมเข้าปากบ้างแต่ก็ต้องเบ้หน้าเพราะเจ้าตัวไม่ชอบของหวานเอาซะเลย ฮยอคแจพยักหน้ารับไม่มีบทสนทนาต่อเพราะเจ้าตัวกำลังมีความสุขกับของกินตรงหน้ามากกว่า
“ทำไมนายไม่กินอ่ะ” พอหมดแก้วปุ๊บก็ถามปั๊บ
“ฉันไม่ชอบของหวาน”
“นายนี่ยังไง เอามาๆ กินเอง” พอเงยหน้ามามองเห็นปริมาณไอติมของคนตรงข้ามเท่าเดิมมือเรียวก็เอื้อมไปคว้าแก้วมาก่อนจะนั่งกินต่ออย่างมีความสุข คิบอมมองอึ้งๆ ตัวก็แค่นี้ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ไหนหมด พอหมดแก้วร่างบางก็เรียกบริกรมาเก็บเงินแล้วลากคิบอมออกมาจากร้าน
“อ๊ะ บ่ายสองแล้ว” ร่างบางร้องอย่างดีใจหลังจากมองนาฬิกาก่อนจะเดินนำมายืนรอใครบางคนที่ประตูฝั่งผู้โดยสารขาออก คิบอมก็ตามมาด้วยเพราะยังไม่รู้ว่าจะกลับบ้านยังไง เบอร์บ้านที่นี่ก็ไม่เคยจำได้ นัดคนให้มารับก็ดันไปกับเจ้าตัวยุ่งที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ซะก่อนเลยคลาดกัน รู้งี้หยิบปืนมายิงไอ้หัวขโมยกระจอกนั่นซะตั้งแต่ต้นก็หมดเรื่อง รู้ถึงไหนอายถึงนั่นลูกชายมาเฟียใหญ่ไม่กล้ายิงหัวขโมยกระจอกกลางสนามบินเพราะกลัวกระสุนปืนพุ่งไปชนใครบางคนเข้า
“มาแล้ว” ร่างบางร้องอย่างดีใจเมื่อเห็นคนที่กำลังรอคอย พอเห็นพี่ชายของตัวเองเดินมาก็จัดการหาของเล่นใหม่ทันที พอมองเห็นเหยื่อปุ๊บร่างบางก็จัดการทันทีโดยการขัดขาของผู้ชายร่างยักษ์คนหนึ่งอย่างจงใจ จนผู้ชายคนนั้นล้มคว่ำไม่เป็นท่า พอมองฝีมือตัวเองเจ้าตัวก็ขำคิกๆ คักๆ คิบอมหันมามองคนข้างๆ งงเข้าไปอีกตัวก็เท่าลูกหมาหาเรื่องคนตัวใหญ่กว่าตัวเองเป็นสิบเท่า
“เฮ้ย นี่เธอจงใจหาเรื่องเหรอไงสาวน้อย” พอลุกขึ้นมาได้ก็ชี้หน้าฮยอคแจทันทีพลางก้าวเท้าเข้ามาหาเรื่องเต็มที่ แต่ฮยอคแจยังคงยิ้มเยาะอยู่กับที่ไม่ถอยไปไหน
“พูดมาก ยังจะมองหน้าอีกเดี๋ยวก็เตะให้เตี้ยเลย” พอด่าเสร็จก็ยิ้มเหยียดๆ จนคิบอมอดไม่ได้ที่จะดึงคนข้างๆ อย่างห้ามปราม ยังไงคิบอมก็ยังไม่อยากเปิดเผยตัวตอนนี้ คราวที่แล้วกลับมาก็กระหน่ำลงหนังสือพิมพ์ยังกับเขาเป็นสินค้าลดแลก แจก แถม!
ปึ๊ก…
“อ๊ากกกกกกก เธอ” ซองมินที่เดินมาด้านหลังพร้อมกับดงเฮยกขาเรียวเตะผ่าหมากไอ้ยักษ์ที่กำลังปรี่เข้าไปหาน้องตัวเองอย่างแรง จนต้องล้มลงไปนอนกุมของรักหน้าม่วงก่อนจะชี้หน้าหาเรื่องซองมิน
“โอ๊ะ ขอโทษทีขามันชักกระตุกน่ะ” ซองมินพูดไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ ดงเฮก็เอาแต่ยืนยิ้มน้อยๆ เพราะเห็นเป็นเรื่องปกติ คนที่ลงเครื่องมาพร้อมกันก็เริ่มมุงดูอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน คิบอมได้แต่มองคนมาใหม่อึ้งๆ
“อ่อ นี่น้องชายฉันนะไม่ใช่น้องสาวทีหลังอย่ามาเรียกว่าเธอ แล้วนี่ก็พี่ชายฉัน” ดงเฮบอกก่อนจะดึงฮยอคแจเข้ามากอดแล้วชี้ไปซองมินที่กำลังยืนยักคิ้วกวนประสาทไปให้ พอรู้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสามคิบอมก็คิดถึงคยูฮยอนเพื่อนรักเป็นคนแรก ทำให้ร่างสูงรู้วิธีกลับบ้านทันทีเริ่มอยากขอบคุณนางฟ้าสามคนแล้วนี่สิ แต่ไอ้ยักษ์ที่ล้มไปนอนที่พื้นกลับหยิบวัตถุสีดำมันวาวขึ้นมาซะก่อน แถมรอยสักรูปเหยี่ยวที่ต้นแขนยังเป็นเครื่องหมายบ่งบอกสังกัดอย่างดีเสียอีก ด้วยสัญชาตญาณคิบอมดึงฮยอคแจเข้ามากอดทันทีก่อนจะถอดแว่นกันแดดออกแล้วก็ใส่กลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็พอที่ไอ้ยักษ์นั่นจะเห็นหน้าของคิบอมอย่างชัดเจน
“ขอโทษที ‘แฟน’ ฉันซนไปหน่อยน่ะ” เสียงทุ้มเน้นหนักที่คำว่าแฟนอย่างชัดเจน คนฟังถึงกับหน้าซีด มือสั่นชี้หน้าคิบอมก่อนจะทำปากพะงาบๆ ว่านั่นคิบอมจริงๆ เหรอ แล้ววิ่งหนีไปทิ้งความงุนงงไว้เบื้องหลัง
“เห อดเล่นของเล่นเลย” ฮยอคแจโวยวายเป็นเด็กๆ ก่อนจะหันมามองคิบอมแบบคาดโทษ
“เพราะนายเลย อดเล่นของเล่นใหม่เลยมีปืนซะด้วย” น้ำเสียงไม่ได้บ่งบอกความกลัวซักนิด นี่เขาผิดเหรอเนี่ยที่ช่วย
“เฮ้ ไอ้แก้มบวมปล่อยมือจากเอวน้องฉันด้วย” ซองมินพูดขึ้นก่อนจะเดินมาแกะมือของคิบอมออกจากเอวบอบบางของน้องชายสุดที่รัก
“แหมๆ ฮยอคแจกลับมาก่อนพี่ๆ ไม่ถึงสองเดือนมีแฟนซะแล้ว” แล้วก็หันมาแซวน้องชายยิ้มๆ คิบอมรีบจดจำชื่อของคนตัวเล็กด้านหน้าทันที ฮยอคแจ จะจำให้ขึ้นใจเลย
“ไม่ใช่ฮะพี่มิน เดี๋ยวฮยอคจะเล่าให้พี่มินพี่ด็องฟังทีหลัง ว่าแต่นายเหอะจะกลับบ้านยังไง” หันมาตอบคนเป็นพี่เสร็จก็หันมาถามบุคคลภายนอกอีกคน
“ขอยืมโทรศัพท์หน่อย” เสียงทุ้มบอกออกไป ก็เบอร์ที่เขาจำได้ก็มีแค่คนเดียว โจว คยูฮยอนเพื่อนที่สนิทที่สุด
“อะไรกัน แต่งตัวก็ดีไม่มีโทสับใช้เหรอไง” ฮยอคแจพูดก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แต่ช้ากว่าดงเฮที่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองส่งไปให้ก่อน ฮยอคแจเลยยืนเฉยๆ แทน
“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาก่อนจะกดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจทันที แล้วเดินแยกออกไปนิดหน่อยเพื่อคุยให้สะดวกขึ้น ไม่ถึงห้านาทีก็เดินเอากลับมาคืนให้ดงเฮแล้วยิ้มขอบคุณ แต่แค่นั้นก็ทำให้ใบหน้าสวยของดงเฮขึ้นสีเรื่อด้วยความเขิน
“งั้นไปล่ะนะ” พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่เหมือนนึกขึ้นมาได้ ร่างบางเดินกลับมาพร้อมกับดึงโทรศัพท์มือถือของดงเฮมาด้วยแล้วยื่นไปให้คิบอม
“เอาไปใช้ก่อนสิ” เสียงใสบอกขึ้นแถมยัดโทรศัพท์เข้าไปใส่มือใหญ่ไว้อีก “ไม่ต้องมองหน้า ฉันเป็นคนดี ฉันบอกนายไปแล้วไง เดี๋ยวนายจะติดต่อคนที่มารับไม่ได้ เงินก็ไม่มีนี่” ร่างบางบอกจุดประสงค์ก่อนจะยิ้มให้
“แล้วจะเอาไปคืนยังไง”
“โอ๊ย หน้าตาก็ดีไม่น่าโง่เลยนะนายน่ะ ก็หาเบอร์ที่เมมว่า Home น่ะแปลว่าบ้านแล้วก็โทรไป” ซองมินตอบแทนน้องชายก่อนจะพากันเดินออกไป ดงเฮหันไปยิ้มให้คิบอมน้อยๆ ก่อนจะวิ่งตามพี่ชายกับน้องชายออกไป
-----------------------------------------------------------------------------------------
Writer Talk:
อ่า ตอนนี้ยังมะมีคยูมินน๊า
แต่ต่อไปมีแน่นอน
อ่านกันวันละนิด จิตแจ่มใส นะจ๊ะ
ความคิดเห็น