ซีรีส์ชุดผีผลัก ภาค 1 : กลิ่นรักกรุ่นใจ Best Seller - นิยาย ซีรีส์ชุดผีผลัก ภาค 1 : กลิ่นรักกรุ่นใจ Best Seller : Dek-D.com - Writer
×

    ซีรีส์ชุดผีผลัก ภาค 1 : กลิ่นรักกรุ่นใจ Best Seller

    เธอต้องตายเพราะยมทูตมือใหม่ทำซวย แต่ถ้าได้ร่างใหม่ที่ สวย ผอม รวย ฉันพอจะให้อภัยได้ แต่ไอ้เรื่องฟื้นมาแล้วแต่งงานกับคุณหลวงยุครัชกาลที่ 5 นี่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงนะเว้ย เรื่องมีผัวข้าแถมให้ สมิงกล่าว

    ผู้เข้าชมรวม

    11,469

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    22

    ผู้เข้าชมรวม


    11.46K

    ความคิดเห็น


    88

    คนติดตาม


    202
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  25 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.พ. 65 / 13:08 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

              เฌอเอม วิศวกรเครื่องกลเก็บอุปกรณ์ซ่อมบำรุงหุ่นยนต์แขนกลลงกล่องอลูมิเนียมอย่างทะนุถนอม แล้วที่เธอต้องประคับประคองชุดอุปกรณ์นี้ด้วยความระมัดระวังเหมือนไข่ในหิน เพราะมันเป็นอุปกรณ์พิเศษที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อซ่อมบำรุงหุ่นยนต์แขนกลในโรงงานอุตสาหกรรมหนักโดยเฉพาะ

                หญิงสาวเดินลากกล่องอลูมิเนียมขนาดเท่ากระเป๋าเดินทาง ออกจากตัวโรงงานชั้นในมาที่ประตูชั้นกลางเพื่อแลกบัตรคืน

                “กลับแล้วหรือช่าง” ลุงยามหน้าประตูรับบัตรผู้ติดต่อคืนมาแล้วรีบกดเปิดประตูให้

                “เอ้างานเสร็จแล้วจะอยู่ทำไมล่ะลุง กว่าจะถึงบ้านก็ค่ำพอดี”

                “อุตส่าห์มาถึงระยอง ไม่แวะเที่ยวสักหน่อยเหรอช่าง”

                “ก็อยากเที่ยวอยู่นะ แต่วันนี้ต้องรีบกลับไปกินหมูกระทะกับแม่ ไปก่อนนะลุง” เฌอเอมโบกมือลาลุงยามแล้วรีบลากกระเป๋าอุปกรณ์ไปที่รถ ด้วยท่วงท่าเหมือนแอร์โฮสเตสยามเยื้องย่างอยู่ในสนามบิน แม้จะไม่สวย ไม่ผอมเท่าแล้วยังแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดหมีสีน้ำเงินของแผนกซ่อมบำรุง แต่คนมันมั่นใจจะเดินท่าไหนก็สวย

                “นี่เราก็เพี้ยนได้ที่เหมือนกันนะ” หญิงสาวหัวเราะกับความมั่นหน้าของตัวเอง ก่อนจะสตาร์ตรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ

                บนเส้นทางที่คุ้นเคยและมีรถผ่านไปมาไม่มาก ทำให้เฌอเอมเอื้อมมือไปหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม เสียงเพลงในรถกับแอร์เย็น ๆ ช่วยคลายความร้อนจากเปลวแดดยามบ่ายที่กำลังแผดเผาถนน จนต้องหยิบแว่นตากันแดดมาสวม ก่อนจะหรี่เสียงเพลงในรถเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงของชุดหมี หญิงสาวล้วงมือลงไปหยิบโทรศัพท์ที่กระเป๋าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองถนน แต่ต้องเหยียบเบรกเต็มแรง! เมื่ออยู่ ๆ ก็มีคนตัวดำ โผล่พรวดขึ้นมาจากพื้นถนน!

                วินาทีนั้นสองมือของเฌอเอมกระชากพวงมาลัยหักหลบเต็มแรง แล้วสิ่งสุดท้ายที่เห็นคือ เสาไฟฟ้า!

                “โอ้ย....ไอ้บ้าเอ้ย” หญิงสาวใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มีพาตัวเองออกมาจากหลังพวงมาลัย ปีนออกทางกระจกหน้าที่แตกละเอียดเมื่อประตูรถเปิดไม่ได้

                แต่คนที่สมควรตกใจกับอุบัติเหตุกลับไม่ใช่เฌอเอมแต่เป็นสมิง! ที่สงสัยว่าผู้หญิงร่างอวบระยะสุดท้ายที่กำลังงัดตัวเองออกมาจากหลังพวงมาลัย แล้วปีนออกมาทางหน้าต่างที่แตกละเอียดเป็นใคร! ในเมื่อผู้ที่ตนต้องมารับวิญญาณไปชื่อนายบันลือ ผู้ต้องชะตาตายโหงคารถคันนี้ “นี่เอ็งชื่ออะไร!

                “เฌอเอม”

                ชะเอม?....ชะเอมไหนว่ะ ก็ตอนรับงานมาท่านสุวรรณบอกว่าเป็นผู้ชายชื่อบันลือนี่หว่า แต่ไอ้ที่เห็นอยู่ตรงหน้ามองยังไงก็ผู้หญิง หรือว่า......ตายห่าแล้ว!

                “เออ ข้าขออภัยด้วย ข้ามารับวิญญาณนายบันลือ ไม่ใช่เอ็ง ข้าลาล่ะ”

                เฌอเอมตาเบิกโพลงเมื่อชายตัวดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง ตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอเกิดอุบัติเหตุทำท่าจะชิ่งหนีแบบไม่รับผิดชอบ “อ้าวเฮ้ย! ทำไมพูดหมา ๆ อย่างนั้นวะ! อยู่ ๆ พรวดพราดโผล่มากลางถนน ทำให้รถฉันพังทั้งคันแล้วจะหนีเลยเหรอพี่!

                “ข้าไม่ได้หนี แต่ข้ามีงานด่วน”

                “ไม่ต้องมาอ้าง! นายทำรถฉันพัง นายต้องจ่าย! ไม่งั้นก็ไปโรงพัก” เฌอเอมล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าจะโทร.หาตำรวจแต่ทำไมมันไม่มี สงสัยจะตกอยู่ในรถ “ขอยืมโทรศัพท์หน่อย”

                สมิงขมวดคิ้วแน่นเมื่ออยู่ ๆ นางมนุษย์ผู้นี้ก็ยื่นมือมาตรงหน้า “ขออะไร”

                “ก็โทรศัพท์ไง ขอยืมโทร.หาประกันหน่อย!

                “ข้าไม่รู้จักสิ่งที่เอ็งพูด”

                เฌอเอมยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างไม่รู้จะทำยังไงดีกับไอ้ดำหน้ามึนตรงหน้า ที่ไม่รู้เป็นคนบ้าหรือเป็นคนกวน “ที่บ้านน้ำไฟยังไม่มีเหรอ ถึงไม่รู้จักโทรศัพท์”

                “บ้านข้ามีน้ำ มีไฟ แต่ข้าหาได้รู้จักอันใดสับ ๆ”

                “เขาเรียกโทรศัพท์ นี่บ้านอยู่หลังเขาหรือไง!

                “บ้านข้าอยู่กรุงศรีอโยธยา มิได้อยู่หลังเขา แลข้าว่าถึงเพลาที่เอ็งต้องหยุดพูดเสียที รู้หรือไม่ว่าตัวเองตายแล้ว”

                ตายเหรอ....ไอ้บ้านี่พูดอะไร ใครกันที่ตาย....เธอเหรอ....เฌอเอมก้มลงมองตัวเองก่อนจะมองหน้าคนกรุงศรีอโยธยา ที่นึกบ้าอะไรมานุ่งโจงสีแดงยืนอยู่กลางถนนกลางวันแสกๆ “นี่นายว่าไงนะ นายว่าฉันตายแล้วเหรอ”

                ใบหน้าฉงนของแม่หญิงผู้นี้ทำเอาสมิงทำหน้าไม่ถูก เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดของตนเองหรือเปล่า “ใช่ เอ็งตายแล้ว ข้าชื่อสมิง เป็นยมทูตมารับวิญญาณนายบุญลือผู้ขับรถคันนี้....ข้าเองก็ว่าดูดีแล้วว่าใช่รถคันนี้แน่ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนขับจึงเป็นเอ็งไปได้”

                “ยมทูตเหรอ!” เฌอเอมรู้สึกหนาวยะเยือกไปทั้งตัว เมื่อผู้ที่ยืนปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงหน้าบอกว่าเป็นยมทูต เขามารับน้าบุญลือผู้ขับรถคนนี้! นี่มันหมายความว่าไอ้ยมทูตดูแต่รถ ไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนขับ!

                “ไอ้หอก! วันนี้น้าบุญลือเขาท้องเสียโว้ย! ฉันเลยต้องขับรถคันนี้มาระยองเอง แล้วรู้ไหมทำไมถึงเป็นฉันที่ต้องตาย เพราะนายไง! อยู่ๆ นายก็โผล่มากลางถนน! ฉันหักหลบไปชนเสาไฟฟ้าจนต้องตาย เข้าใจหรือยัง!

                “ข้าขอโทษ ข้ามิได้ตั้งใจให้เอ็งต้องมาตายอนาถเช่นนี้ ด้วยข้าอยู่นรกเป็นนาน เพิ่งได้ขึ้นมาเมืองมนุษย์เป็นครั้งแรก แลนี่เป็นงานแรกของข้าด้วย ข้าเลยตื่นเต้นมากไปหน่อย”

                เฌอเอมไม่เคยโกรธจนอยากทึ้งหัวใครให้หลุดเท่าหัวไอ้ดำหน้ามึนนี่เลย “ตื่นเต้นเหรอ ขอโทษเหรอ นายทำให้ฉันต้องตาย แล้วแค่พูดว่าขอโทษฉันจะฟื้นไหม! แล้วสะพานลอยก็มีทำไมไม่ข้าม มาเดินกลางถนนทำไม!

                “เอ็งอย่าเพิ่งด่าข้าให้มากไป ข้าว่าเอ็งรีบกลับเข้าร่างเถอะ ตอนนี้ยังทัน!

                บึ้ม! เสียงรถระเบิดที่ดังขึ้นทำเอายมทูตกับวิญญาณสาวหันหลังกลับไปมองที่รถ เปลวไฟที่ลุกโชนพวยพุ่งขึ้นเป็นลูกไฟดวงใหญ่ที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกอย่างจนเป็นเถ้าถ่าน รวมถึงความหวังของยมทูตและวิญญาณสาวก็ถูกไฟเผาวอดไปด้วย

                “เออ....ข้าว่าคงไม่ทันแล้ว”

                เฌอเอมมองหน้าไอ้ยมทูตที่ทำหน้าเหมือนคนไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย และลงท้ายด้วยไม่รู้จะทำยังไงดี เมื่อทุกอย่างวอดวายไปกับเปลวเพลิง “ไอ้ยมทูต! ร่างกูไหม้หมดแล้ว! มึงทำแบบนี้ได้ยังไง มึงทำกูตายก่อนเวลา กูไม่ยอม กูจะฟ้องท่านยม!

                “เดี๋ยว! ข้าว่าเราตกลงกันได้”

                “ตกลงห่าอะไร! ตอนนี้กูตายแล้ว! ร่างก็ไหม้หมดแล้วเพราะมึง ไอ้ยมทูตสะเพร่า! ไอ้ยมทูตไม่มีความคิด! คอยดูนะกูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด! เอาเรื่องให้ถึงท่านท้าวเวสสุวรรณ เอาเรื่องให้ถึงศาลไคฟง กูจะฟ้องให้ถึงเปาบุ้นจิ้น! มึงได้ตายซ้ำซากแน่ไอ้สมิง”

                เสียงวิญญาณสาวที่แผดลั่นดังกลางถนนด้วยความโกรธราวกับควายป่าตกมันทำเอาสมิงหันรีหันขวาง ด้วยกลัวว่าเกิดใครได้ยินเข้า เรื่องที่เป็นความลับจะแตกโพล๊ะเข้าเสียก่อน

                “เอาอย่างนี้ ข้าจะช่วยหาร่างใหม่ให้เอ็งอยู่ไปก่อนจนกว่าจะหมดอายุขัยดีไหม”

                “ร่างใหม่เหรอ! ไม่เอาโว้ย เดี๋ยวแกไปเอาร่างผีไม่มีญาติมาให้ฉัน”

                “ไม่หรอก เอ็งอยากได้แบบไหนบอกข้ามาเร็วเข้าเถิด ข้าจะช่วยตอนนี้ยังทัน ช้าไปเจ้าจะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเอาได้”

                เฌอเอมกำมือแน่นด้วยความโกรธ แม้จะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องตาย แต่การที่ตายแล้วต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนนั้นทำใจได้ยากกว่าเยอะ “แกหาร่างให้ฉันอยู่ก่อนได้จริงๆ ใช่ไหม”

                “จริง เอ็งจักเอาแบบไหนข้าจะหาให้”

                “สวย ผอม รวย ถ้าไม่ได้แบบนี้ เจอกันที่ศาลไคฟงแน่มึง!

                “ได้! สวย ผอม รวยใช่ไหม ข้าหาให้! แต่ถ้าเอ็งได้ดังปรารถนาแล้วต้องไม่เอาเรื่องข้าไปฟ้องตกลงไหม”

                “เออ! ก็รีบหาเข้าซิโว้ย”

                สมิงสะบัดมือเพียงนิด เชือกสีแดงก็พุ่งเข้ามาล่ามข้อมือคู่กรณีกับตัวเองเอาไว้ด้วยกัน ป้องกันไม่ให้วิญญาณมนุษย์ปากเสียผู้นี้หลุดหายไปไหน “เอ็งจงเร่งไปกับข้า!

    ...............................................

    ซีรี่ส์รักข้ามเวลาแบบไทย ๆ เมื่อจุดเริ่มต้นของความพินาศวายป่วงเกิดจาก ข้อตกลงเพี้ยน ๆ ของยมทูตมือใหม่กับวิศวกรสาวปากเสีย ที่ดูเหมือนข้อตกลงนี้จะทำให้ชีวิตของทั้งคู่มีแต่เรื่องไม่หยุดหย่อน

    อ่านต่อกัน 3 ภาค คือฟิน e-book ภาค 1-2 มีจำหน่ายที่ meb จ้า



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น