เรื่องควรรู้สำหรับนักเขียนแนวอีโรติก - นิยาย เรื่องควรรู้สำหรับนักเขียนแนวอีโรติก : Dek-D.com - Writer
×

    เรื่องควรรู้สำหรับนักเขียนแนวอีโรติก

    เป็นบทความที่นักเขียนนิยายแนวอีโรติกหรือแนวบอยเลิฟควรได้เรียนรู้และศึกษาเอาไว้ ซึ่งนำมาจากบทความที่น่าสนใจจากนักเขียนต่างๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,374

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    2.37K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ค. 51 / 01:44 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ปัจจุบันนี้ การเขียนนิยายวาย หรือนิยายแนวชายรักชาย กับการเขียนนิยายทั่วไปที่ฉากอีโรติก เริ่มจะเห็นได้ในงานเขียน
    มากขึ้น แต่ที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะแต่เดิมก็มีนักเขียนที่เขียนนิยายที่มีฉากอีโรติกสอดแทรกอยู่ในหนังสืออยู่หลายท่าน แต่กลวิธีการเขียนก็ละมุนละไม แตกต่างจากคำว่าอนาจาร ทว่าในปัจจุบันนี้ การเขียนนิยายวาย และการเขียน
    นิยายที่มีฉากอีโรติก กลายเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะถูกมองว่ายั่วยุให้เกิดพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรง มั่วสุม ทั้งที่จริงๆแล้ว
    นิยายวาย หรือนิยายอีโรติกอาจจะไม่ใช่ต้นตอของปัญหา เพราะคนที่อ่านนิยายพวกนี้ ก็ไม่ค่อยมีข่าวว่าไปก่ออาชญากรรม
    ทางเพศ ในขณะที่คนที่ก่อ ก็อาจจะไม่เคยอ่านก็ได้

    อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนเขียนหนังสือ ควรจะศึกษาข้อมูลเอาไว้ เพื่อที่จะได้รู้ว่า สังคมและคนที่ดูแลกฏหมายมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร และคนอื่นๆ มองอย่างไร กระทู้นี้จึงจะพยายามรวบรวมบทความที่มีประโยชน์ต่องานเขียนแนวชายรักชาย
    และแนวอีโรติกมาให้ได้ศึกษากัน


    1.รัฐแทรกแซงเซ็กส์


    เนื้อหา :
    เมื่อวันที่: 23-09-2007 09:14  ความคิดเห็น:  (0)
    คะแนน:  

    บทความ จากคอลัมน์ หมายเหตุการณ์
    นิตยสาร เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 612 วันที่ 23 - 29 ก.พ. 2547
    โดย ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์

    สังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ให้ที่ทางกับความเชื่อความเห็นที่แตกต่างมากขึ้นในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นการแลกเปลี่ยน/โต้เถียงของคนหลากหลายกลุ่มในประเด็นต่างๆในอาณาบริเวณทางสังคมอย่างสถาบันการศึกษา และสื่อมวลชน

    บางกลุ่มที่ไม่ได้ออกมาแลกเปลี่ยนความเห็นตรงๆในเรื่องสิทธิหรือการปลดปล่อยอาจจะแสดงการดำรงอยู่ของตัวตนที่ แตก ต่างออกมาในรูปของพาเหรด / คานิวาล / เฟสติวัล (ที่รูปแบบคล้ายๆกับพาเหรดแฟชั่นที่รัฐไทยทุ่มทุนจัดเพื่อ ผลักดันให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางแฟชั่นเลยละ) หรือภาพยนตร์ละครที่หลายคนชอบและชื่นชม แต่ก็ขัดตาขัดใจอีก หลายๆ คน

    เรื่องหนึ่งที่โต้แย้งต่อรองกันมาโดยตลอดก็คือเรื่องเซ็กซ์ โดย 'กรอบ' ที่เชื่อกันว่าถูกต้องดีงามได้ถูกท้าทาย โดยวิถีปฏิบัติและรสนิยมที่ต่างไป

    เซ็กซ์หลุดออกจากการกักกันให้อยู่ในสถาบันการแต่งงานและครอบครัวคนมีเซ็กซ์นอกการแต่งงานอย่างเป็นล่ำเป็นสันและ เริ่มต้นกันที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ มีประสบการณ์กับคู่นอนคู่รักหลายคนทีละคนหรือในรูปเซ็กซ์หมู่หรือรูปแบบเอื้ออาทร อะไรประมาณนั้น

    การเที่ยวเตร่ซื้อบริการทางเพศและการมีความสัมพันธ์ซ้อน (ที่เรียกกันว่าการมีเมียน้อย) ถูกมองว่าเป็นปัญหาและ ความเสื่อม แต่ก็ถูกปฏิบัติอย่างเป็นเรื่องธรรมดา

    ความแตกต่างที่หลุดออกไปนอกกรอบเหล่านี้หลายประการได้ออกจากการหลบซ่อนในห้องนอนหรือในบ้านมาอาศัยพื้นที่ ทางสังคม เป็นเวทีในการโต้เถียงและเรียกร้องที่ทางและการยอมรับในสังคมมากขึ้น แม้ว่าการโต้เถียงจะมีลักษณะ เหมือนการชกมวยข้ามรุ่นที่แต่ละฝ่ายเสียงดังไม่เท่ากัน

    ดูเหมือนบางคนบางกลุ่มจะไม่ยอมให้คนกลุ่มเดียวผูกขาดมาตรฐานการถูกผิดและวิถีปฏิบัติในเรื่องเซ็กซ์อีกต่อไป
    มีการตั้งคำถามว่ากรอบที่สังคมยึดถือว่าดีเป็นเพียงภาพลวงตาที่คนไม่ได้ปฏิบัติตามกันอยู่แล้ว

    ในขณะที่คนที่เห็นว่าการมีกรอบเป็นเรื่องสำคัญสำหรับระบบระเบียบอันดีงามในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมก็พยายาม จะหาทางเรียกร้องบีบบังคับให้บรรดาขบถเรื่องเซ็กซ์และคนอื่นๆ อยู่ในร่องในรอย และรักษากรอบที่ถูกเชื่อมโยงกับ ศีลธรรม อันดีงาม

    การโต้เถียงทำนองนี้ดำเนินมาเนิ่นนานโดยไม่มีใครยึดกุมเกณฑ์ความถูกต้องเหมาะสมได้เด็ดขาดเหมือนในช่วงเวลาก่อน หน้านี้


    ประเด็นเรื่องเซ็กซ์ที่สร้างความวิตกกังวลและโต้เถียงกัน เริ่มจะมีแบบแผนที่แน่นอนสอดคล้องกับเทศกาล อย่าง วาเลนไทน์ก็ต้องพูดกันถึงเรื่องวัยรุ่นกับเซ็กซ์ เพราะเทศกาลแห่งความรักแบบอิมพอร์ตนี้ กลายเป็นโอกาสที่สาวน้อย หนุ่มน้อยหลายคนจะเสียพรหมจรรย์ หรือได้ร่วมเพศกัน จนกลายเป็นเทศกาลที่โรงแรงม่านรูด และคนขายดอกไม้ รายได้ดีไป

    ปีนี้ความกังวลของผู้ใหญ่เกี่ยวกับความประพฤติเรื่องเซ็กซ์ของวัยรุ่นปะปนกับความกลัวอันเกิดจากกระแสมั่วสุมรุมโทรม ที่บรรดาวัยรุ่นชายกระทำกับหญิงสาว ความห่วงใยในสวัสดิภาพและพรหมจรรย์ของวัยรุ่น ทำให้มีการเรียกร้อง ให้รัฐเข้มงวดจริงจังเพื่อปกป้องวัยรุ่นจากภัยอันตรายหลากหลายรูปแบบที่สะเทือนใจสะเทือนขวัญผู้ใหญ่โดยเฉพาะพ่อแม่ ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูกของตนดี

    อันที่จริงรัฐไทยได้ทำอะไรหลายอย่างเพื่อจะจัดการกับปรากฏการณ์ที่ถูกมองว่าเป็นปัญหาของวัยรุ่นอย่างการกำหนดเวลา เคอร์ฟิวเด็กหรือการควบคุมตรวจตราสถานบันเทิงและเลยไปครอบคลุมสถานที่สุ่มเสี่ยงอย่างตึกร้างและโรงแรมม่านรูด ที่ถูกตรวจอย่างเข้มงวดในช่วงวาเลนไทน์

    มาตรการหลายประการในกระแสของการจัดระเบียบสังคมของรัฐกระทบกับเสรีภาพของพลเมืองในสังคมอย่างน่าตระหนก
    แต่ชนชั้นกลางไทยจำนวนมากดูจะนิยมชมชอบและสรรเสริญรัฐว่าแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจังและถูกจุดโดยเฉพาะชนชั้น กลางไทยที่ไม่รู้จะกำกับควบคุมลูกของตนอย่างไรในเวลาที่วิถีปฏิบัติและระบบความเชื่อของลูกแตกต่างจากสิ่งที่ตนเองเคย ถูกปลูกฝังสั่งสอนว่าดีงาม

    เมื่อรัฐเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลให้ก็เลยพออกพอใจและยอมรับมาตรการเช่นนี้


    มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามาตรการหลายประการของรัฐเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของพลเมืองนอกจากเรื่องสิทธิแล้ว สิ่งที่คนไทยไม่ได้นึกถึงกันนักก็คือการเปิดช่องเชิญชวนให้รัฐเข้าควบคุมและแทรกแซงในแง่มุมส่วนตัวยิ่งของคนเช่นนี้จะส่ง ผลกระทบอย่างไรต่อชีวิตทางสังคมของคนบ้าง

    อย่างการตรวจตราโรงแรมม่านรูดซึ่งมีเป้าหมายหลักในการป้องกันเด็กจากการเกี่ยวข้องสัมผัสกับเซ็กซ์อาจจะเป็นการแทรก แซงเข้าไปในพื้นที่ที่ผู้ใหญ่หลายคนก้าวข้ามกรอบเรื่องเซ็กซ์ในรูปแบบต่างๆ ในสถานที่ที่ถูกมองว่าเป็นส่วนตัว

    สำหรับผู้ใหญ่บางคนอาจจะมองว่าการเข้มงวดตรวจตรานี้เป็นสิ่งที่ดีเพราะจะเป็นการกำกับให้คนในสังคมอยู่ในกรอบเรื่องเพศ แต่ปัญหาก็คือกรอบเรื่องเพศกรอบเดียวในสังคมไทยอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาและได้ถูกตั้งคำถามโดยคนหลายกลุ่มมาอย่าง ต่อเนื่อง

    การปล่อยให้รัฐแทรกแซงอาณาบริเวณส่วนตัวของพลเมืองได้เช่นนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มอำนาจในการบังคับควบคุมให้คนทำตาม กรอบเดียวกัน ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิในเรื่องส่วนตัว

    สำหรับคนที่เชื่อว่ากรอบเรื่องเพศกรอบเดียวนี้สะท้อนและตอกย้ำความไม่เท่าเทียมระหว่างชายหญิงและกดขี่เอารัดเอาเปรียบ ในเรื่องเพศโดยผู้หญิงถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อให้อยู่ในที่ทางการทำให้รัฐบังคับกะเกณฑ์คนให้อยู่ในกรอบเรื่องเพศเท่ากับ เป็นการรักษาสภาพของการกดขี่ไว้ด้วย

    การให้อำนาจรัฐควบคุมเรื่องเซ็กซ์เช่นนี้จะทำให้เสียงต่างๆที่สะท้อนความแตกต่างหลากหลายในความเชื่อเรื่องเซ็กซ์ เงียบงันไปในที่สุดหรือไม่?

    แต่สำหรับอีกหลายๆ คน การควบคุมของรัฐเป็นไปเพื่อการป้องกันเด็กหญิงชายจากการ ถูกกระทำความรุนแรงทาง เพศ ความปลอดภัยจากการถูกบังคับร่วมเพศก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่งสำหรับคนในสังคม

    เราจึงได้เห็นการปะทะกันอย่างจังของหลักการอย่างเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัยของคนซึ่งต่างก็ถูกมองว่ามีคุณค่าอย่าง สูงสุด

    การปกป้องเด็กในแง่มุมนี้เป็นเรื่องสำคัญแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปได้ด้วยการสละเสรีภาพโดยให้อำนาจรัฐแทรกแซง เรื่องส่วนตัวของคน ซึ่งดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเสียมากกว่า

    ในที่สุดแล้วคนในสังคมคงจะต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะรักษาหลักการที่มีคุณค่าอย่างเสรีภาพและความมั่นคง ปลอดภัยได้ โดยไม่ต้องสละสิ่งหนึ่งเพื่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างที่คุ้นเคยกันอยู่

    บางทีจุดเริ่มต้นที่ดีคือการช่วยกันคิดอย่างจริงจังว่าจะจัดการกับสิ่งที่เห็นว่าเป็นปัญหาได้อย่างไรที่ไม่ใช่ เพียงการอยู่เฉยๆ ให้รัฐเข้ามาจัดการแก้ปัญหาให้ โดยมักจะต้องแลกด้วยการสละเสรีภาพของคน ซึ่งเป็นราคา ที่แพงนัก

    [URL=http://www.goozaa.com/page.php?id=300]http://www.goozaa.com/page.php?id=300[/URL]

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น