คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องของเจ้าหนูฟลุค
เรื่องของเจ้าหนูฟลุ๊ค
Lonelylady
ฉันเจอฟลุ๊คครั้งแรกในคลาสเต้นรำ ฟลุ๊คเต้นอยู่ด้านหลังฉันไปหนึ่งแถว เป็นเด็กหน้าใหม่ที่เต้นได้สวยมาก ตอนนั้นฉันไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวของฟลุ๊คเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเจ้าเด็กคนนี้ เป็นคนที่หน้าตาน่ารัก และเท่ห์ดี ฉันชอบทรงผมของฟลุ๊คที่ไถด้านข้างและด้านหลังออกจนหมด แล้วเลี้ยงผมด้านบนไว้ยาวพอที่ผูกได้ ตัวสูงยาว ผิวขาว และผอมเพรียว ช่วงแรกๆฟลุ๊คจะดูเก้งก้างและเต้นไม่ค่อยจะได้ เนื่องจากว่า คลาสเต้นรำตอนนั้น ครูที่สอนคือบอล ซึ่งเต้นไปในสไตล์สตรีทแจม และ บอดี้มูพ ซึ่งเคลื่อนไหวเร็ว และมีหลายท่า ฉันเองก็เต้นได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทั้งๆที่เข้าคลาสเต้นรำมาหลายครั้งแล้ว ฉันมักจะมองผ่านกระจกไปทางด้านหลังเพื่อดูคนอื่นๆเต้นเสมอเพื่อดูว่าเขาเต้นได้สวยงามขนาดไหน มีใครเต้นได้ทุเรศเหมือนฉันไหม เวลาที่มองไปที่ฟลุ๊คจะเห็นลายที่สวยงามเขามีช่วงแขนช่วงขา และความอ่อนตัวที่เหมาะกับการเต้นรำมาก ฉันนึกชมเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ในใจ พอคลาสเลิกต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมของตนเอง ฉันได้แต่ยิ้มทักทายให้ฟลุ๊คในคลาสเท่านั้น หลังจากนั้น ฟลุ๊คก็หายไป ไม่มาเข้าคลาสนานหลายเดือน ในขณะที่ฉันก็ยังคงมีกิจกรรมออกกำลังกายและเต้นรำตามปกติ โดยไม่ได้มีเรื่องของฟลุ๊คเข้ามาอยู่ในสมองเลย
เนื่องจากฉันเป็นคนที่น้ำหนักตัวค่อนข้างมาก กระเปิ๊บกระป๊าบ อายุมากกว่าคนอื่นๆ และห่างไกลคำว่าหน้าตาดี แถมซ้ำยังมีความคิดแตกต่างจากคนอื่นสุดขั้ว ทำให้ฉันมีเพื่อนสนิทค่อนข้างน้อย ฉันรู้สึกขัดเขินในการที่จะเข้ากลุ่มเข้าพวกกับคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าฉันจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนมากมาย รู้จักใครต่อใครหลายคน แต่บ่อยครั้งที่ฉันจะรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยว ท่ามกลางผู้คนที่รายล้อมรอบตัว พวกเขาคุยกันในเรื่องที่ฉันไม่รู้ หรือ บางครั้งแสดงความคิดเห็นในบางเรื่องที่ฉันไม่เห็นด้วย หลายครั้งหลายคราวที่ฉันดูกลายเป็นคนนอก ดูโง่เง่า เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดกัน ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความผิดของฉันหรือเปล่า ที่ไม่เข้าใจเรื่องราวเหล่านั้น ฉันไม่เข้าใจว่า การที่ฉันไม่มีประสบการณ์ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป มันจะกลายเป็นความแตกต่างที่คบกันไม่ได้ นอกจากนี้ฉันยังไม่รู้อีกว่า ตรงไหนจะเป็นพื้นที่ที่ฉันควรจะยืนอยู่ ฉันควรจะทำในเรื่องที่เหมาะสมกับวัยของฉัน หรือฉันควรจะทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ
ฉันไม่ค่อยรู้สึกแย่กับการที่จะมีเพื่อนน้อยๆ ฉันพึงพอใจกับการมีเพื่อนที่รู้ใจเพียงไม่กี่คนมากกว่า ฉันเสาะแสวงหาคนที่ฉันคิดว่าใช่ แล้วฉันก็รักพวกเขา แต่หลายครั้งที่ฉันต้องแอบเสียน้ำตา มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉันเกิดไปมีความรู้สึกดีกับน้องคนหนึ่ง ฉันรักเขา และพยายามทำสิ่งดีๆให้กับเขา แต่ฉันอาจจะทำอะไรที่มันมากไป โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้ตัว น้องคนนั้นเขาเลยไม่ชอบ แล้วเขาก็พูดหรือแสดงให้รู้ว่า เขาไม่สามารถปฏิบัติตัวต่อฉันได้เท่าที่เขาปฏิบัติต่อคนอื่นๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันเสียใจ แต่ก็ต้องพยายามเข้าใจ ว่าฉันไม่สามารถจะบังคับความรักจากใครได้ มันอยู่ที่ว่า ฉันจะวางตนเองไว้แค่ไหน ถ้าฉันรักเขาอย่างแท้จริง ฉันก็ควรจะให้เขาเป็นอย่างที่เขาอยากเป็น ฉันวุ่นวายสับสน และเสียใจมาก และแล้วในช่วงเวลาโดดเดี่ยวนั้น ฟลุ๊คก็กลับเข้ามา
การกลับมาคราวนี้ ฟลุ๊คทำให้ฉันทั้งสบายใจ และปวดหัว เพราะบางครั้งฟลุ๊คก็นำเรื่องที่ไม่พอใจมาให้ ในช่วงต้นๆของการไปไหนด้วยกัน ฉันก็รู้สึกดีที่มีคนอยู่ข้างๆ เพราะฟลุ๊คเป็นคนตลก ช่างเหน็บแนม และชอบทำบ้าบอให้ฉันได้หัวเราะประจำ แต่พอฟลุ๊คเริ่มสนิทกับเพื่อนๆของฉัน ก็เริ่มตั้งวงมาเม้าท์แตกฉัน ซึ่งฉันไม่ชอบเลย โกรธด้วยซ้ำ เพราะบางทีมันก็กลายเป็นเรื่องของ สอง หรือ สามรุมหนึ่ง ซึ่งแน่ล่ะ ฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ถูกเมาท์ถูกกัดโดยหนุ่มใจสาวสามคน ฉันเถียงไม่ทัน สู้ไม่ได้ ก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา นอกจากนี้ฟลุ๊คยังชอบชวนไปกินข้าว แล้วให้ฉันเป็นคนจ่ายให้ทุกที ซึ่งบางทีฉันก็ไม่มีตังส์ในกระเป๋ามากพอที่จะจ่ายให้ แต่ในเมื่อฟลุ๊คไม่จ่าย แล้วฉันเป็นพี่ฉันก็ต้องจ่าย บางทียืมเงินก็ไม่คืนด้วย แรกๆฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก เพราะฉันทำงานแล้ว และมีรายได้มากกว่า และน้องก็ยังเป็นเด็กนักศึกษาที่ยังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ แต่ช่วงหลังๆฉันนึกโมโหเพราะว่า
ฟลุ๊คใช้เสื้อผ้า ข้าวของแพงมาก กระเป๋าใบละ สามสี่พัน เสื้อตัวละ 700-800 บาท ซึ่งฉันไม่มีปัญญาซื้อใส่หรอก ตั้งแต่มีปัญหาเรื่องบัตรเครดิต ฉันจะพยายามไม่ฟุ่มเฟือยมาก พอฉันเห็นฟลุ๊คใช้จ่ายเงินทั้งๆที่ตัวเองยังหาไม่ได้ แถมซ้ำยังโทรไปหลอกพ่อแม่ขอเงินมาให้ตัวเองซื้อข้าวของแพงๆอีก รวมถึงไม่ยอมจ่ายเงินค่าอาหารที่กินด้วยกัน ฉันก็ยิ่งโมโห นอกจากนี้ฟลุ๊คยังชอบรื้อข้าวของของคนอื่นมาดู และถือวิสาสะใช้ข้าวของคนอื่นตามอำเภอใจ เช่นโทรศัพท์มือถือ พูดคุยก็แรงมาก เสียงดัง และทำท่ามั่นใจเกินเหตุ เพื่อนๆหลายคนไม่พอใจ แต่ก็ไม่บอกเขาด้วยตนเอง ฉันก็เลยพูดแรงๆกับฟลุ๊คไปหลายครั้ง ฉันรู้ว่าฟลุ๊คอาจจะเสียความรู้สึกอยู่บ้าง แต่จริงๆแล้วฉันคาดหวังว่า ฟลุ๊คอาจจะได้สติ เพราะอันที่จริงตัวฟลุ๊คเองก็มีอะไรหลายๆอย่างที่ดี หากคงไว้ซึ่งความน่ารักที่มีอยู่ เพื่อนๆก็จะรักฟลุ๊คมากขึ้น
แต่ฟลุ๊คก็สอนบทเรียนให้ฉันได้รู้หลายอย่าง ว่าอย่ามองคนที่แค่เปลือกนอก ฟลุ๊คยังมีความเป็นเด็กอยู่มาก เพราะอายุน้อยเพียงแค่ 19 ปี ความคิดอ่าน หรือมุมมองอาจจะไม่เท่าเทียมผู้ใหญ่ การกระทำใดๆที่แสดงออกจึงเป็นแค่ความคึกคะนองของเด็กวัยรุ่นเท่านั้น ฟลุ๊คได้ทำให้ฉันได้รู้ว่า ฟลุ๊คก็มีจิตใจที่ดีและอ่อนโยนเหมือนกัน ฟลุ๊คอยู่เป็นเพื่อนฉันในยามที่ฉันไม่มีใคร ฟลุ๊คออกค่าข้าวให้ฉัน เลี้ยงหนังฉันตอนที่ฉันหมดเงินพอดี
เวลาที่ฉันถือของหนัก ฟลุ๊คจะเป็นคนเพียงไม่กี่คนที่ช่วยฉันถือข้าวของ ฟลุ๊คมีอ้อมแขนที่จะโอบกอดฉัน และมีเอวเล็กๆที่ฉันจะสอดแขนเข้าไปโอบตอบได้ คุยกับฉันดีๆก็เป็น และเห็นใจในยามที่ฉันเดือดร้อน ตอนที่ฉันถูกล้วงกระเป๋าในคืนหนึ่ง ฉันโทรหาบรรดาคนที่ฉันรักมากที่สุด เพื่อเล่าเรื่องราวของฉัน แค่อยากให้รู้ว่า ฉันกำลังเจอปัญหา ฉันไม่มีเงินเลย แต่ฉันกลับบ้านได้ ฉันเพียงแต่อยากให้ใครรับรู้ในเคราะห์กรรมของฉันเท่านั้น ไม่มีใครรับสายเลยสักคน ฟลุ๊คซึ่งฉันนึกถึงเป็นคนสุดท้าย กลับกลายเป็นคนที่รับสายฉันคนแรก พร้อมด้วยคำพูดที่ว่า มีเงินหรือเปล่า นั่งรถมาเอาเงินจากฟลุ๊คได้ แค่นี้เอง ก็เพียงพอแล้วกับความรู้สึกดีๆที่ฟลุ๊คมีให้ฉัน
ฉันอยากจะทำเรื่องราวดีๆให้กับฟลุ๊คบ้าง ด้วยการเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา หากมันได้ลง ก็จะเป็นเสมือนเป็นตัวแทนคำพูดจากใจฉันว่า ที่ผ่านมาฉันขอโทษที่ทำร้ายๆ และรู้สึกไม่ดีกับฟลุ๊ค แต่ ณ วันนี้ ฟลุ๊คได้ทำให้ฉันได้รู้ว่าตนเองยังมีค่าอยู่สำหรับเพื่อนๆอยู่ และขอขอบคุณในสิ่งดีๆที่ฟลุ๊คทำให้ฉัน ค่ำคืนนั้นมันทำให้ฉันได้รู้ว่า ฟลุ๊คก็มีคุณค่าแก่ฉันเหมือนกัน
ฉันรักเธอนะ น้องชาย
ความคิดเห็น