ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo] katerekun's short fic :D

    ลำดับตอนที่ #5 : HunHan . Indy Inlove . Begin .

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 56


    Indy Inlove

    Sehun Luhan

    EXO-K Short fiction by katerekun



    มันก็เป็นแค่ความรักแบบอินดี้ๆ..ที่กินใจเป็นบ้าเลยครับ ^^

     

     

     

    *

     

     

     

     

    | BEGIN PART

     

     

     

     

    เมื่อคืนผมเมาเละ..

     

    นั่นคือความทรงจำเดียวที่หลงเหลืออยู่

     

     

     

     

    ไอเย็นจากแอร์คอนดิชันเนอร์กำลังรบกวนคนตัวยาวที่นอนม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มเหมือนโรตีใส่ไข่ โอ เซฮุนหดขายาวๆที่โผล่พ้นนวมผ้าอุ่นๆกลับเข้าไปแล้วซุกตัวอยู่อย่างนั้นไม่ยอมตื่น กระทั่งเสียงริงโทนเพลงร็อคที่เจ้าตัวเป็นคนตั้งเองกับมือจะดังขึ้นมาสะเทือนเลือนลั่น

     

    โครม!!

     

    ในที่สุดมันก็ตื่น...

     

    คนตัวยาวต่อสู้กับโปงผ้าห่มที่แทบจะรัดคอตัวเองตาย ไม่นานก็ตะเกียกตะกายออกไปรับโทรศัพท์เจ้ากรรมจนได้ “โหล~

     

    “ไอ้เซฮุน รีบมาด่วน วันนี้มีควิสท้ายคาบ!” คิม จงอินคือบุคคลปลายสาย เซฮุนฟังคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมสาขาด้วยสมองที่ยังไม่ได้ผ่านการรีสตาร์ท ก่อนที่นิ้วยาวๆซึ่งกำลังขยี้เปลือกตาอยู่นั้นจะเปลี่ยนไปกดปุ่มวางสาย

     

    มันพูดเหี้ยไรเนี่ย?

     

    ตาเรียวที่ไอ้แบคมันชอบด่าว่า หัดแหกตาดูทางบ้างเด้ะ!’ เบนไปทางเตียงนอนกลางห้อง เขาเห็นผ้าห่มหล่นกองอยู่กับพื้นก็เลยเข้าใจได้ว่าเมื่อกี๊เขาเพิ่งจะกลิ้งตกเตียง โอเซฮุนเดินโซซัดโซเซหวังจะนอนต่อให้หายปวดหัว แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว...

     

    ใบหน้าหล่อเหลาของคนเมายังไม่สร่างหันไปมองรอบตัว

     

    บนโต๊ะทำงานนั่นมีเสื้อยืดสีน้ำเงินที่ใส่เมื่อคืนกองอยู่

    ปลายเตียงนั่นก็มีกางเกงยีนส์พาดทิ้งไว้

    ตรงหัวเตียงเหมือนจะมีบ็อกเซอร์ซุกอยู่

    ตรงพื้นนั่นคงเป็นกกน....

     

     

     

    ส่วนตัวกูนั้นคือชีเปลือย

     

     

     

     

    เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!

     

     

     

     

     

    “เกิดอะไรขึ้นวะ????”

     

     

     

     

     

     

    คำอธิบาย: D:\01_MyPhoto\06_Art\Icon\55-1.gif

     

     

     

     

    ตอนนี้สิ่งที่โอเซฮุนต้องการมากที่สุดเห็นจะเป็น โดราเอม่อน !

     

    เฮ้ย!! จริงจังนะเนี่ย

     

    กูอยากได้ไทม์แมชชีน !!!

     

     

    ร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงวอร์มสีเทาตัวเดียวเดินวนไปมาอยู่ภายในห้องเล็กๆ อันที่จริงไม่ต้องมีโดเรม่อนเขาก็พอจะเดาอะไรๆออกได้ เมื่อคืน..เพราะเห็นไอ้ชานยอลกับพี่ลูฮานเต้นด้วยกัน ก็เลยเผลอกระดกเหล้าแบบไม่คิดชีวิต ไม่ได้หึง!! แต่แบบ..อารมณ์กึ่มๆไง เห็นเพื่อนได้ควงคนสวยแต่ตัวเองแดกแห้วก็เฮิร์ทบ้างเป็นธรรมดา T T ...เหตุผลฟังไม่ขึ้นเหรอ?

     

    ผมไม่ได้หึงจริงจริ๊งงงง!!

     

    ก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันหนิ จะเอาสิทธิ์อะไรไปหึง =_=

     

    แล้วไงต่อ...อ้อ เท่าที่เดาก็คือ ผมคงเมาไม่รู้เรื่องจนต้องให้ใครซักคนแบกกลับมาที่ห้อง แล้วไอ้ ใครซักคนเนี่ยแหละที่ทำให้ผมไม่อยากคิดต่อ ไอ้ชานกะไอ้แบคมันเป็นรูมเมทกัน มันก็คงกลับด้วยกัน แล้วคนที่พาผมกลับห้อง....

     

     

    พี่ลูฮานแน่ๆ T T!

     

     

    ว่าแล้วก็ทิ้งก้นมันลงกระแทกกับเก้าอี้ มือทั้งสองยกขึ้นมากุมขมับ ทำไมนึกยังไงก็นึกไม่ออก ไม่มีแม้แต่ภาพลางๆสะกิดปลายเส้นประสาทส่วนความจำซักนิด นึกสิวะเชี่ยเซฮุน นึกๆๆๆๆ

     

    มึงแอ้มเค้านะเมื่อคืน แล้วทำไมมึงดันจำไม่ได้

     

     

     

    เสียดายครับเว้ย!

     

     

     

     

    จนแล้วจนรอดก็นึกไม่ออกอยู่ดี ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมซึ่งอวนไปด้วยความทรงจำที่ถูกลืมเลือน คนหน้าหล่อที่ชอบทำตัวไม่หล่อบึ่งแมงกะไซด์คู่ใจเข้าคณะด้วยเพราะไม่รู้จะไปหมกตัวอยู่ที่ไหน ตึกของเอกนิเทศอยู่ด้านหลังคณะ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากเข้ามาทางหน้าคณะ...เอ่อ..รู้ก็ได้

     

    ผมก็แค่อยากผ่านเอกประติมากรรมก็แค่นั้น...

     

    ร่างสูงในชุดนักศึกษาลอยชายกับกางเกงยีนส์สีซีดเดินเรื่อยไปตามทางซึ่งตัดผ่านเอกต่างๆภายในคณะ ก่อนจะหยุดฝีเท้าเอาไว้เมื่อผ่านห้องเวิร์คช้อป ไม่ได้ตั้งใจเหลือบมองเข้าไป แค่บังเอิญเห็นแผ่นหลังบางของใครบางคนที่คุ้นตาจนเผลอมองตามต่างหาก เซฮุนหลบเข้ามุมเพื่อแอบดูอิริยาบถของใครคนนั้น ..ร่างสูงโปร่งทว่าดูบอบบางของรุ่นพี่ลูฮานกำลังบรรจงทำลวดลายให้กับหุ่นปั้นรูปคน

     

    ไม่อยากจะบอก ว่าไอ้คนปั้นน่ะ..สวยกว่ารูปปั้นนั่นซะอีก

     

    ไม่ว่าจะเป็นเอวบางที่คอดเล็กรับกับสะโพกและช่วงขาเรียวยาว ไหนจะผิวเนื้อขาวละเอียดที่แทบจะกลืนเป็นสีเดียวกันกับชุดนักศึกษาสีขาวที่ถูกถลกแขนเสื้อมากองตรงข้อศอก ไม่ต้องพูดถึงรูปหน้าที่สวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิงและริมฝีปากสีสวยที่มักจะยิ้มบางๆอยู่เสมอ...ทุกอย่างดูเข้ากันราวกับพระเจ้าท่านปั้นคนๆนี้มาเองกับมือ

     

     

    !!

     

    กูแอ้มเค้าแล้วจริงเหรอวะ?

     

     

     

     

     

     

    อั่ก!

     

    “ไอ้เซฮุน!! มาหลบอยู่นี่นี่เอง กูบอกมึงแล้วนะว่าวันนี้มีควิส” ไอ้จงอินนั่นเอง..แต่แม่ง ทักกูเบาๆเป็นมั้ยเนี่ย ฟาดมาเมื่อกี๊ไหล่กูแทบหลุด T T

     

    “อ้าว มึงโทรหากูเหรอ?” จำไม่ได้จริงๆจุดนี้ โอย..สมองผม อัลไซเมอร์จะแดกปะวะเนี่ย?

     

    “อื้อหือ สภาพนี้ หนักล่ะสิเมื่อคืน” จงอินแม่งรู้ทัน “เฮ้ย กูหมายถึงกินเหล้าหนัก ทำไมต้องทำหน้าแดงงั้นด้วยวะ?”

     

    ห้ะ? หน้าผมแดงเหรอ?

     

    ตะปบมือเข้าที่แก้มตัวเองอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกว่ามันอุ่นๆอยู่นะ

     

    “หรือว่ามึงจะหนักอย่างอื่น~” ไอ้จงอินมันคงกำลังคิดเรื่องลามกอยู่แน่ๆ ดูแค่ตามันก็รู้แล้ว!

     

    “ห่า! กูจะหนักอะไรแอ้มใครมันก็เรื่องของ...”

     

    “อ้าว เซฮุน!

     

    เสียงคุ้นๆ...

     

    “จงอินก็อยู่ด้วยเหรอ มีอะไรป่าวเนี่ยถึงมาแถวนี้?”

     

    o_O!

     

    พ..พี่ลูฮานนี่หว่า!!!

     

     

    “...............”

     

    “อ้าวพี่ แบกอะไรเนี่ย มาๆเดี๋ยวผมช่วย” จงอินมันตาไว เห็นพี่ลูฮานยกเครื่องปั้นดินเผาเต็มมือก็รีบขันอาสา ผิดกับผมที่อึ้งรับประทาน..หวังว่าไอ้ที่พูดไปเมื่อกี๊พี่เขาจะไม่ได้ยินนะ

     

    “เป็นไง ฟื้นแล้วเหรอ?” พอจงอินมันยกของไปเก็บตามที่พี่ลูฮานบอกแล้ว ตอนนี้ก็เลยเหลือเพียงผมกับพี่เขาเผชิญหน้ากัน

     

    “ที่ยืนหัวโด่อยู่นี่....ยังไม่ฟื้นมั้ง” แน่ะ..ยังไปกวน

     

    ผมยักคิ้วปิดท้ายตามประสา ยืนแกว่งแขนไปมาได้ซักพักก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ทำไมพี่ลูฮานเงียบจังวะ? ด่าว่าผมกวนตีนก็ได้ ไม่โกรธนะเนี่ย

     

    “เอ่อ....” กลายเป็นเขาเองที่รู้สึกอึดอัดจนต้องส่งเสียงทำลายความเงียบ พี่ลูฮานเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยเหมือนจะถามว่ามีอะไร

     

    “ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย?”

     

     

     

     

     

     

    อารมณ์ไหนของเอ็งวะ โอเซฮุน?

     

     

     

     

     

    พี่ลูฮานบอกว่าเขาทานมาแล้วก็เลยสั่งเพียงแค่น้ำผลไม้ปั่น ปล่อยให้คนท้องว่างอย่างผมสั่งข้าวแกงกระหรี่กินอยู่คนเดียว รู้มั้ยเนี่ยว่าคนมันเขิน ต้องมาตักข้าวยัดปากต่อหน้าคนน่ารักเนี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ

     

    “เลอะหมดแล้ว”

     

    ผมรีบยกมือขึ้นปาดปากแทบจะทันทีที่ได้ยิน ทว่ากลับได้ยินเสียงหัวเราะมาจากคนฝั่งตรงข้าม “หมายถึงโต๊ะน่ะ กินหกจนโต๊ะเปื้อนไปหมดแล้ว”

     

    ไอ้คนหน้าแตกก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนกลับไป ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาจ้วงเม็ดข้าวยัดเข้าปากต่อไปอย่างเก้ๆกังๆ..สรุปคือมื้อนั้นผมใช้เวลาในการกินไปเยอะกว่าปกติถึง 20 นาที นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่สำลัก

     

    พี่ลูฮานนั่งมองผมกินบ้าง หันมองออกไปรอบตัวบ้าง มันเป็นช่วงเวลาเงียบๆที่เหมือนจะอึดอัดแต่ก็ไม่ได้มากมาย ถึงจะไม่ได้พูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ผมก็รู้สึกดีที่ได้นั่งมองหน้าพี่เขา

     

    “อิ่มแล้วเหรอ?”

     

    พยักหน้าแล้วก็คว้าเอาแก้วน้ำมาดื่ม

     

    ผมควรจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนดีมั้ยนะ? ใจนึงผมว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะ ผมจะได้รู้ว่าควรจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง แต่อีกใจมันก็ยังเถียงอยู่นี่สิครับ มันห้ามไม่ให้ผมถาม เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการไปตอกย้ำจิตใจพี่ลูฮาน บางทีที่พี่เค้าไม่พูดอะไรนั่นก็อาจจะเป็นเพราะอยากลืมๆมันไปก็ได้

     

    แล้วผมควรทำไงดี?

     

    “เอ่อ..พี่ลูฮาน...”

     

     

    Rrrrrrrr!!

     

     

     

    โทรศัพท์แม่งดังได้ถูกจังหวะจริงๆให้ตาย...

     

    พี่ลูฮานละความสนใจจากผมเพื่อกดรับสาย ผมไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่พี่ลูฮานพูดกับปลายสายและหันเหมองผู้คนรอบตัวแทน ตอนนี้โรงอาหารค่อนข้างโล่งเพราะเวลาล่วงเลยมาบ่ายแก่ๆแล้ว ร้านอาหารที่ผมเพิ่งอุดหนุนไปก็เก็บของไปแล้วด้วย

     

    “พี่ต้องไปแล้วล่ะ อาจารย์เรียกพบเรื่องโปรเจ็ค”

     

    ผมสะดุ้งตอนที่ได้ยิน แต่ก็รีบลุกขึ้นตามอีกคนที่ดูเหมือนจะรีบร้อนอยู่กลายๆ

     

    “ไปแล้วนะเซฮุน”

     

    พี่ลูฮานโบกมือให้ก่อนจะรีบวิ่งออกไป ผมได้แต่มองตามก่อนจะต้องมานั่งคอตกต่อ การตัดสินใจเมื่อครู่กลายเป็นโมฆะทันทีที่ผมไม่มีโอกาสได้ถามมันออกไป หรือว่าผมควรจะทำเป็นลืมๆไปซะ...อ้างว่า เมาจนจำอะไรไม่ได้คงไม่ผิดใช่มั้ย?

     

     

     

     

     

    คำอธิบาย: D:\01_MyPhoto\06_Art\Icon\55-1.gif

     

     

     

     

    แต่ให้ตายเหอะ ถึงผมจะดูกวนตีน ไร้สาระไปวันๆแบบนี้ผมก็มีสำนึกด้านดีๆกับเค้าเหมือนกันนะ จะให้นิ่งดูดายแบบนี้จริงๆเหรอ? ผมทำไม่ลงว่ะ...

     

    ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือคู่ใจขึ้นมากดเข้าเมนูข้อความ

     

     

    พี่ลูฮานมาเชียร์ผมแข่งบาสหน่อยสิ มีแข่งเย็นนี้

     

     

    เหมือนไปบังคับเค้ายังไงก็ไม่รู้แฮะ

     

     

    เย็นนี้ผมมีแข่งบาส มาเชียร์ผมมั้ย?

     

     

    แล้วถ้าพี่เค้าตอบว่าไม่...

     

    โอ๊ย! ผมเพิ่งรู้แฮะว่าการส่งข้อความหาพี่ลูฮานมันยากขนาดนี้ สุดท้ายสมองกลวงๆของผมก็ไม่สามารถคิดหาคำดีๆได้ เลยจำต้องล้มเลิกความคิด

     

    “เชี่ยเซฮุน มึงยังไม่เปลี่ยนชุดอีกเหรอวะ!?” เสียงโหดๆดังๆเหมือนจิ๊กโก๋ปากซอยมีอยู่คนเดียว นั่นก็คือโค้ชทีมบาสเก็ตบอลของพวกผมนั่นเอง

     

    “อ้าวเฮีย มีตาทำไมไม่มองอะ ก็เห็นอยู่ว่ายังไม่ได้เปลี่ยน” สันดานผมไง..ไม่ได้กวนตีนจะลงแดงตาย

     

    ผลคือโดนฝ่ามืออรหันต์ของซูเปอร์รุ่นเดอะฟาดกบาลไปที คนที่เพิ่งโดนทำร้ายร่างกายหัวเราะลั่นล้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วถึงค่อยไปจัดการตัวเองตามที่รุ่นพี่สั่ง พอดีกับที่ชานยอลกลับเข้ามาในห้องพัก

     

    มองไปรอบๆเห็นพวกรุ่นน้องกำลังจับกลุ่มคุยกันเรื่องแมตท์ที่เพิ่งผ่านไปอย่างออกรส แต่เขาไม่ได้สนใจจะเข้าร่วมวงก็เลยนั่งลงตรงม้านั่งกลางห้อง กำลังจะล้วงเอามือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา พลันสายตาก็ไปเจอกับมือถืออีกเครื่องที่วางอยู่ข้างตัว

     

    เย็นนี้ผมมีแข่งบาส มาเชียร์ผมมั้ย?

     

    ไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท แค่ทัชปลดล็อกแล้วหน้าจอมันดันขึ้นหน้าข้อความที่ถูกพิมพ์ทิ้งไว้ขึ้นมาเฉยๆ ชานยอลขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่พอเหลือบไปเห็นเบอร์ที่จะส่งออกรอยยิ้มก็ผุดพรายขึ้นมา

     

     

     

     

    คำอธิบาย: D:\01_MyPhoto\06_Art\Icon\55-1.gif

     

     

     

     

    เสียงกองเชียร์แต่ละคณะราวกับตั้งใจมาถล่มโรงยิมก็ไม่ปาน เซฮุนที่ตามมาสมทบกับทีมเป็นคนสุดท้ายแทบไม่ได้หันมองรอบตัวเลย หนึ่งก็คือรำคาญไอ้เสียงดังๆนี่ สองคือเบื่อที่จะต้องสบตากับบรรดาแฟนคลับที่ไม่รู้จะคลั่งไคล้อะไรมากมาย...รู้ตัวว่าหล่อไม่ต้องตอกย้ำ

     

    “กำลังใจอื้อเลยสิมึง มีคนมาเชียร์เยอะขนาดนั้น” ชานยอลแซว แต่คนอย่างเซฮุนมีเหรอจะสนใจ เขาก็แค่ส่ายหัวระอาๆอย่างไม่ใส่ใจ

     

    “กูลืมไป คนเยอะน่ะไม่สำคัญเท่าคนนั้นคนเดียวใช่มั้ยวะ?” เซฮุนร่นหัวคิ้วเข้าติดกันตอนที่ชานยอลมันพูดต่อ พอเงยหน้าขึ้นมองมัน ฝ่ายนั้นก็เพยิดหน้าไปทางอัฒจันทร์ เขาทำหน้าเบื่อโลกแต่ก็ยอมหันไปมองตาม

     

    “เฮ้ย!!

     

    “ตกใจทำไมวะ มึงไม่ได้เป็นคนชวนพี่เค้าเหรอ?”

     

    เซฮุนหันขวับมาที่เพื่อนตัวโต แต่ทำได้แค่อ้าปากไอ้ชานยอลก็พูดตัดหน้า “พี่เค้าโบกมือให้มึงแน่ะ สนใจเค้าหน่อยดิ คนเค้าอุตส่าห์มาให้กำลังใจ”

     

    แล้วไง....แล้วผมก็ต้องหันหน้ากลับไปทางอัฒจันทร์นั่นไง

     

    พี่ลูฮานลุกขึ้นโบกมือให้ผมใหญ่เลย คงกลัวว่าผมจะมองไม่เห็น ตัวบางๆนั่นถึงได้กระโดดไปมาเหมือนเด็กซนๆ ...ผมโบกมือกลับไปให้ แล้วทำไมสาวๆที่นั่งข้างๆต้องกระดี๊กระด๊าแทนวะเนี่ย?

     

    ได้ยินเสียงชานยอลหัวเราะ ผมเลยหันหน้ากลับมามองมัน แต่บังเอิญสายตาดันไปเจอเข้ากับไอ้เพื่อนตัวเล็กของผมเข้าซะก่อน.. ก็ไอ้แบคฮยอนนั่นแหละ

     

    ร้อยวันพันชาติแม่งไม่เคยมาเหยียบโรงยิม แล้วทำไมวันนี้เสือกกระแดะมาวะ??

     

    ผมว่าผมรู้ละ...

     

    “กำลังใจมึงก็ใช่ย่อยนะ”

     

    ปาร์ค ชานยอลยักคิ้วให้ครับ “แหม รู้ๆกันอยู่ว่ากูน่ะระดับไหน”

     

    ระดับไหนอะไรของมึงวะเนี่ย??

     

    “ถ้ากำลังใจมึงมาตัวเป็นๆขนาดนั้นแล้วทำไมกำลังใจกูจะมามั่งไม่ได้?”

     

     

     

    เชี่ยละ โอ เซฮุนโดนเล่น!

     

     

     

     

     

     

    ซ่า!

     

    ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่ภายใต้ร่มสีเหลืองคันเล็กๆ

     

    เราสองคน..ก็...ก็จะเป็นใครล่ะครับถ้าไม่ใช่ผมกับพี่ลูฮาน!

     

    และที่ต้องมาหลบอยู่ใต้ร่มก็เพราะฝนมันดันตกไม่รู้เวล่ำเวลานี่ไงล่ะ...ผมมองออกไปสุดสายตาก็เห็นแต่เพียงสายน้ำฝนจนถนนข้างหน้าดูพร่ามัวไปซะหมด แน่นอนล่ะว่ามันไม่มีอะไรให้มอง แต่ผมก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตามองมันอยู่อย่างนั้น

     

    “เซฮุนเดินช้าๆหน่อยสิ พี่เดินตามไม่ทันแล้ว”

     

    ผมหันขวับแล้วก็ต้องรีบถอยหลังกลับเอาร่มไปกางให้รุ่นพี่ตัวเล็กที่ยืนตัวสั่นอยู่ รู้สึกผิดครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่มองหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามปลายเส้นผมและเงียบอยู่อย่างนั้น

     

    จนกระทั่งเป็นพี่ลูฮานเองที่เอื้อมมือมาจับชายเสื้อผมเอาไว้

     

    “ทำแบบนี้ล่ะกัน จะได้เดินตามนายทัน^^

     

    “อ...อ่า อื้ม” ถึงกับเกาต้นคอ..ทำตัวไม่ถูก “แย่หน่อยนะ ไม่รู้ว่าฝนจะตกตอนเย็น ผมก็เลยเอารถไปเก็บที่หอแล้วค่อยออกมาแข่ง”

     

    “ไม่เป็นไรหรอก ถ้านั่งรถมอไซต์อาจจะเปียกกว่านี้ก็ได้”

     

    “อ่า...”

     

    “เดินแบบนี้ดีออก บรรยากาศดีด้วย”

     

    แต่ผมว่า..ถ้ามีคนน่ารักๆมานั่งซ้อนท้ายผม มันน่าจะดีกว่านะ ;)

     

     

     

    ผ่านไปประมาณ 20 นาทีที่เหมือนกับนานหลายชั่วโมงในความรู้สึกของเซฮุน เขากับพี่ลูฮานหยุดอยู่ตรงหน้าอพาร์ตเม้นที่พักอยู่ “พี่..จะกลับเลยเหรอ?” ถามออกไป เพราะเห็นว่าฝนยังคงตกลงมาไม่ขาดสายและทำท่าว่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆด้วย

     

    พี่ลูฮานพยักหน้า

     

    “ขึ้นไปรอที่ห้องผมก่อนเหอะ ฝนซาแล้วค่อยกลับก็ได้” แทบไม่รู้ตัวครับว่าพูดอะไรออกไป

     

    มึงกำลังชวนเค้าขึ้นห้องอยู่นะ...

     

     

    ห้องที่ดันมีความหลังซะด้วย!

     

     

     

     

    “ไม่เป็นไร..”

     

    “เป็นไรเหอะ”

     

    “จะดีเหรอ?”

     

    “ดีโคตร”

     

    “.....”

     

     

     

    “เอ่อ... หมายถึง ก็ดีกว่าให้พี่เดินตากละอองฝนกลับหอคนเดียวน่ะ”

     

     

     

    สุดท้ายแล้วผมก็ล่อลวง เอ๊ย ชวนให้พี่เค้าขึ้นมาหลบฝนบนห้องจนได้ เปิดห้องปุ๊บก็วิ่งหน้าตั้งเลยครับ กวาดเอาเศษซากความโสโครกทั้งหลายแหล่ไปซุกซ่อนไว้อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าจะช้าไป..เพราะผมเห็นพี่ลูฮานแอบขำ

     

    “ห้องหนุ่มโสดนี่หว่า” ได้แต่แก้ตัวน้ำขุ่นๆ

     

    “แล้วเมื่อไหร่จะไม่โสดล่ะ”

     

    เอ่อ...ยังไม่ได้ตั้งตัวเลยครับ -_-

     

    “ให้นั่งไหน?” พี่ลูฮานคงเห็นอาการเอ๋อแดกของผมก็เลยเปลี่ยนเรื่องให้ ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้เลยปราดไปดึงเอาเก้าอี้นวมเล็กๆทรงกลมออกมาจากใต้เตียง ตบปุๆสองสามทีก็ผายมือให้คนตัวบางนั่ง

     

    ห้องของผมเป็นแค่ห้องพักนักศึกษาธรรมดาๆ ไม่ได้กึ่งคอนโดฯแบบห้องของแบคฮยอน ก็เลยมีเพียงส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องนอนที่แบ่งมุมเล็กๆไว้ทำงานด้วย แต่ดูพี่ลูฮานก็ไม่ได้แสดงท่าทีอึดอัดอะไร ผมจึงทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียงบ้าง

     

    “ฝนตกแรงเนอะ?” พี่ลูฮานเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาภายในห้องเล็กๆที่เริ่มเข้าสู่สภาวะอึดอัด “ถ้าคืนนี้ฝนตกทั้งคืนจะทำไงอะ?”

     

    “ค้างที่นี่ไง”

     

    ชิบหายละ พูดอะไรออกไปเชี่ยเซฮุน???

     

    “เอ่อ..ผมหมายถึง...”

     

    “หมายถึง??”

     

    คนตัวยาวยกขาขึ้นไปนั่งขัดสมาธิ มือก็ทุบหัวตัวเองไปด้วย ลูฮานมองตามยิ้มๆจนกระทั่งเซฮุนเงยหน้าขึ้นมาอีกที “ก็คง...ต้องค้างที่นี่อะแหละ ให้ทำไงอะ?”

     

    “ก็ค้างที่นี่แหละ ไม่ทำไง” พี่ลูฮานตอบกลับมายิ้มๆ นั่นยิ่งทำให้แก้มผมร้อนฉ่ากว่าเดิม...ไม่รู้หรอกครับว่าทำไมจู่ๆหน้าก็ร้อน เออนั่นดิ ทำไมต้องร้อนด้วยวะ??

     

    “ฮัดชิ้ววว!

     

    “เฮ้ย กระหม่อมบางนะเนี่ย ไปเลยไปอาบน้ำสระผม อ่า..เดี๋ยวผมเตรียมชุดให้” ไม่รู้ตัวเลยว่ากลายมาเป็นคนรู้จักห่วงใยคนอื่นตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ไล่คนตัวเล็กให้เข้าห้องน้ำไปซะแล้ว.. ผมนั่งกดมือถือเล่นฟังเสียงอาบน้ำไปเพลินๆ...

     

     

    เชี่ย!! เพลินห่าอะไรล่ะ

     

    ใจผมตอนนี้แม่งแทบจะหลุดออกจากอกอยู่รอมร่อ ถึงแม้ว่าจะพยายามดึงเอาสมาธิให้จดจ่ออยู่กับเกมรถแข่ง แต่ให้ตายไอ้เสียงน้ำไหลที่ดังมาจากห้องน้ำก็ไม่ได้จะเลือนรางหายไปจากโสตประสาทเลยซักนิด กลับกัน..เสียงนั่นโคตรชัด ชัดจนผมแทบจะจินตนาการออกมาเป็นช็อตๆ T T

     

     

     

    แกร่ก!

     

     

    “ไม่อาบบ้างเหรอ เซฮุน?”

    “อ้าวเซฮุน ทำไรอะ?”

     

     

    แทบไม่รู้ตัวว่าเอาหัวมุดผ้าห่มตอนไหน?

     

    “เซฮุน...” โคตรขี้สงสัยเลยผู้ชายคนนี้ จะมาแงะผ้าห่มให้ได้อะไรครับเนี่ย?

     

    ด้วยเพราะไม่อยากมีพิรุธ..ก็เลยยอมๆปล่อยให้พี่ลูฮานดึงผ้าห่มออกจากตัว และเสแสร้งทำเป็นนอนเล่นมือถือสบายใจเฉิบ

     

    “เล่นเกมเหรอ? เกมไรอะ?” อ้าวเป็ด! นอกจากจะขี้สงสัยแล้วยังอยากรู้อยากเห็นด้วย พี่ลูฮานคลานมานอนข้างผมแล้วชะโงกหน้าเข้ามาดู...อื้อหือ รถผมคว่ำแทบจะทันที

     

    “ขอเล่นมั่งดิ นะๆๆๆน้า นายโอเว่อร์แล้วเมื่อกี๊”

     

    “ขี้แย่งว่ะ”

     

    ว่าเค้าไปแบบนั้นแต่ก็ใจง่ายอยู่ดี ยื่นมือถือให้เค้าซะงั้น...เซฮุนขยับให้พื้นที่คนตัวเล็กข้างๆ กลิ่นแชมพูที่ใช้ประจำลอยเตะจมูก มันดูคุ้นจมูกดีนะ แต่ว่าออกจะไม่คุ้นเคย...อาจจะเพราะมันลอยมาพร้อมกับกลิ่นกายหอมๆของพี่ลูฮานด้วยล่ะมั้ง

     

    “เช็ดผมให้หน่อยดิเซฮุน”

     

    “เรื่อง?”

     

    “เฮ้ยยยย..เช็ดให้หน่อยดิ กำลังเล่นเกมติดพันอ้ะ!

     

    “รีบๆโอเว่อร์ไปเลย” ไอ้นิสัยปากหมานี่แก้โคตรยากครับ...ผมพูดออกไปแบบนั้นก็จริง แต่เจตนาของผมไม่ได้ใจร้ายนะ ไอ้อยากเช็ดน่ะก็อยาก แต่มือผมมันแข็งไปหมดแล้วนี่สิ...

     

    “โหยยยยย ตายเลยอ่า นิสัยไม่ดีอะ เช็ดผมให้แค่นี้ก็ไม่ได้” ไม่สนใจครับ คว้าเอามือถือกลับคืนได้ก็กลิ้งหนีไปเล่นคนเดียว แต่ที่เค้าว่าอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนเห็นจะเชื่อได้ครับ เพราะตอนนี้พี่ลูฮานกำลังปีนตัวผมเพื่อย้ายตามมาอีกฝั่ง

     

    เออครับ ปีน..อ่านไม่ผิด -*-

     

    “เฮ้ยยยยย!

     

    “โอเว่อร์ยัง?” ยังมาทำตาแป๋วใส่อีก ผมล่ะอยากจะเอานิ้วจิ้มซะจริงๆ แต่ก็ทำไม่ลงเลยได้แต่ยอมให้พี่ลูฮานขโมยมือถือไปเล่นเกมอีกตา

     

     

    ผมนอนเอาแขนท้าวแก้มตัวเอง มองคนตัวบางที่กำลังเล่นเกมอย่างเมามัน เพิ่งรู้ว่านิสัยที่แท้จริงของพี่ลูฮานเป็นแบบนี้...เอาแต่ใจ ขี้อ้อน แล้วก็ติดเกมขั้นสาหัส

     

    บอกใครเค้าจะเชื่อว่าอายุมากกว่าผมตั้ง 2 ปี

     

     

     

     

    คำอธิบาย: D:\01_MyPhoto\06_Art\Icon\55-1.gif

     

     

     

    แสงสีส้มยามเช้าส่องลอดรอยแยกของผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาบาง

     

    ลูฮานขยับตัวน้อยๆ พยายามจะลืมตาขึ้นแต่ก็ลืมไม่ไหว...แสงจ้าเกินไป

     

    อีกอย่างหมอนข้างอันนี้ก็นุ๊มนุ่ม...

     

     

    คนตัวบางกระชับท่อนแขนกอดหมอนข้างจนแน่นพลางซุกไซ้ใบหน้าเข้าหาเหมือนลูกแมวขาดความอบอุ่น ทว่าเสียงตุบๆที่ดังใกล้เพียงใบหูทำให้เรียวคิ้วขมวดมุ่น

     

    ลูฮานขยับตัวออกก่อนจะต้องนิ่งงันไปเมื่อพบว่าหมอนข้างที่กกกอดอยู่นั้นแท้จริงแล้วคือโอ เซฮุน...

     

     

    เผลอหลับไปตอนไหนล่ะเนี่ย ?

     

     

    ลูฮานรีบปล่อยมือออก จะผละตัวออกห่างแต่ก็เพิ่งเห็นว่าเซฮุนก็กอดตัวเขาอยู่เหมือนกัน ใบหน้าหวานออกอาการคิดหนัก..เขาควรจะทิ้งตัวลงนอนต่อดีมั้ยนะ?

     

    ไม่ดีอะ... ถ้าขืนทำแบบนั้นมีหวังไปเรียนคาบเช้าไม่ทันแน่ๆ

     

    “เซฮุน...” ก็เลยตัดสินใจเรียกออกไปเบาๆ ฝ่ายนั้นทำเสียงงึมงำในลำคอแต่ไม่ยอมลืมตาตื่น “เซฮุน!

     

    “แป๊บนึง”

     

    “แป๊บอะไรล่ะ เช้าแล้วนะ”

     

    “ขอกอดอีกแป๊บนึง”

     

    “.......”

     

    “นะ”

     

    ท่อนแขนแกร่งกระชับเอาเอวบางเข้าหาตัว เป็นผลให้ลูฮานหล่นตุ่บลงกับที่นอนอีกครั้ง คนที่อายุน้อยกว่าขยับตัวเข้าหา...ตอนนี้ใบหน้าของเซฮุนจึงอยู่ใกล้เพียงลมหายใจกั้น

     

    ใกล้เกินไปแล้ว

     

    ในระหว่างที่ลูฮานกำลังทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น ดวงตารีเรียวของคนขี้เซาก็เปิดขึ้น เซฮุนยิ้มบางๆให้แต่ไม่ยอมถอยห่างออกไป

     

    “พอยัง?” เขาหมายถึงกอดที่เซฮุนขอเมื่อกี๊

     

    “หึ” คำตอบสั้นซะจนลูฮานไปต่อไม่ถูก “ตัวพี่โคตรอุ่น”

     

    ชมเค้าไปแล้ว เซฮุนก็หลับตาลงอีกครั้ง ริมฝีปากยังคงระบายไว้ด้วยรอยยิ้ม...ก่อนจะ

     

     

    “เฮ้ย หรือว่าพี่ไม่สบาย!!

     

     

     

     

     

     

    “ไม่เอา ผมไม่ให้พี่ไปเรียน!!

     

    “ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่หวัดเอง”

     

    “ใครว่าแค่หวัด นั่นน่ะ..มีไข้ด้วยต่างหาก”

     

    “ก็แค่นิดหน่อย”

     

    “อย่าดื้อได้ป่ะ?”

     

    “เป็นน้องน่ะหัดพูดจาดีๆหน่อยได้มั้ย?”

     

    “ตัวเองน่ะทำตัวเด็กยังมาว่าคนอื่น”

     

    “โอ เซฮุน!

     

    “ไม่รู้แหละ ผมไม่ให้พี่ไป!!

     

     

     

    เอาแต่ใจเป็นบ้า!!

     

     

     

    ลูฮานเองก็ดื้ออย่าบอกใคร ต่อให้เซฮุนห้ามแค่ไหน ยื้อแค่ไหนก็ไม่มีทางชนะซะหรอก ร่างโปร่งคว้าเอารองเท้าได้ก็วิ่งปรู๊ดออกมาจากห้องพักของเซฮุนทันที ได้ยินแต่เสียงโหวกเหวกตามหลังหากแต่วิ่งตามมาไม่ได้ ก็เพราะหมอนั่นมัวแต่ห้ามเขาจนไม่ได้จัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง สภาพหัวฟูๆกับเสื้อนอนย้วยๆแบบนั้นคงไม่กล้าโผล่หน้าไปไหนแน่ๆ

     

     

    Rrrrrrrr!!

     

     

    เขากดตัดสายเนื่องจากยังไม่เลิกคลาส และแน่นอนว่าพอชั่วโมงเรียนจบบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ขึ้น missed call กว่า 20 สาย...โอ เซฮุน

     

     

    หากแต่ลูฮานก็ไม่ได้คิดที่จะโทรกลับ นั่นก็เพราะเขามีเรียนต่อคาบต่อไป ร่างโปร่งรีบสาวเท้าไปตามทางเดินมุ่งหน้าไปยังตึกเรียนรวมของคณะจนไม่ได้สนใจคนรอบข้าง

     

    พรึ่บ!

     

    “เฮ้ย!

     

    “จะหลบหน้าผมปะเนี่ย?”

     

    “พี่จะไปหลบหน้านายทำไมเล่า? ถอยไปเลย คนกำลังรีบ” ลูฮานเบี่ยงตัวออก แต่เซฮุนก็ขยับตาม ทำอยู่แบบนั้นหลายๆครั้งเข้าจนลูฮานต้องจิ๊ปากอย่างคนอารมณ์เสีย

     

    “อะ อย่าลืมกินก่อนเข้าเรียนด้วย คนอะไรไม่ดูแลตัวเองซะบ้าง ผอมกะหร่องแถมไม่สบายก็ง่าย” ถุงพลาสติกบรรจุซาลาเปาสองก้อนกับนมสดอีกหนึ่งกล่องถูกยื่นมาให้พร้อมกับคำบ่นยาวยืด ลูฮานมู่ปากจนจู๋และไม่ยอมรับของเสียที เซฮุนก็เลยต้องยัดใส่ให้ในมือ

     

    “มีเรียนต่อจนถึงเย็นใช่ปะ ไปรออยู่หน้าเอกผมนะ เดี๋ยวไปส่งที่หอ”

     

    “ห้ามปฏิเสธ!

     

     

    มัดมือชกเขาเสร็จก็เดินลับหายไปอย่างกับนินจา

     

     

     

    จะรีบไปไหนของเค้า...หันมามองรอยยิ้มของลูฮานก่อนได้ปะเนี่ย ??

     

     

     

     

    คำอธิบาย: D:\01_MyPhoto\06_Art\Icon\55-1.gif

     

     

     

    ตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่โมงครึ่งเข้าไปแล้ว ผมจำได้ว่าตารางเรียนของพี่ลูฮานมีถึงสี่โมงเท่านั้น แต่ทำไมป่านนี้ยังไม่มาก็ไม่รู้

     

    บอกตามตรงเลยว่าวันนี้ผมก็แปลกใจกับการกระทำของตัวเองเหมือนกัน ตั้งแต่ตอนที่ตื่นมาเจอพี่ลูฮานนอนอยู่ข้างๆแล้วหน้าด้านไปขอกอดเค้า ไหนจะยังไปบังคับไม่ให้เค้ามาเรียนด้วยเหตุผลเพียงว่าไม่สบาย แถมตอนนี้ก็ยังมานั่งรอส่งเค้ากลับหอ...

     

    โอ เซฮุน ผู้ชายที่ง้อใครไม่เป็นคนนั้นหายหัวไปไหนแล้วเนี่ย??

     

     

    กับพี่ลูฮาน จำได้ว่าครั้งแรกที่เจอตัวจริงผมก็อึ้งๆอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่เคยได้ยินเสียงทางโทรศัพท์มาก่อนนี่จะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าพี่เค้าเป็นผู้ชาย หน้างี้หวานยังกับผู้หญิง ดีไม่ดีผมว่าหวานกว่าด้วยซ้ำนะ.. ระหว่างผมกับเค้าก็ไม่มีอะไรมากมาย ก็เป็นลุงรหัสของเพื่อนสนิทอะครับ คุยกันบ้างบางครั้ง หลังๆก็เหมือนจะสนิทกันขึ้นมานิดหน่อยเพราะไอ้แบคฮยอนมันเรียนยากขึ้น พี่เค้าก็เลยได้แวะมาติวมาสอนมันบ้าง ไอ้ผมเองที่ไม่มีที่สิงสถิตที่ไหนได้แต่เกาะติดไอ้แบคมันไปวันๆ...ก็เลยเหมือนได้กลายมาเป็นหลานรหัสของพี่เค้าไปอีกคน

     

    ว่าไปก็เรียบเรียงไม่ได้หรอกนะ ว่าความสัมพันธ์มันมากกว่าแค่ คนรู้จักตั้งแต่ตอนไหน?

     

     

    โอ๊ย แต่ผมว่าตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้วนะ ห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว..โทรหาก็ไม่รับสาย คงไม่ได้หนีกลับไปก่อนคนเดียวแล้วนะ!!

     

     

    ผมเดินตามหาเองก็แล้ว ถามเอาจากรุ่นพี่เอกการปั้นก็แล้ว แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้เลยซักคน ตอนนี้ผมหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆแล้ว คิดไว้ว่าถ้าเลยเวลาหกโมงเย็นไปแล้วยังหาตัวไม่เจอล่ะก็ จะบุกไปที่ห้องเลยคอยดู

     

    เฮ้ย!

     

    ผมชะงักฝีเท้าเมื่อเดินผ่านห้องๆหนึ่งของเอกจิตรกรรม ความจริงคือไม่ได้คิดว่าจะเจอคนที่ตามหาที่นี่ ก็แค่ผ่านมาเพราะอยากจะหาให้มันทั่วๆก็แค่นั้น....

     

     

    ไม่เชื่อว่าจะเจอจริงๆ

     

     

    ภายในห้องนั้นไม่ได้มีพี่ลูฮานเพียงคนเดียว หากแต่มีผู้ชายหน้าตาคมคายนั่งอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก ตรงหน้ามีขาตั้งวาดภาพ ในมือจับดินสอไม้อยู่...ดูก็รู้ว่าคงกำลังวาดภาพ

     

     

    ที่มีนายแบบเป็นพี่ลูฮาน....

     

     

     

    ความรู้สึกแบบเดียวกันกับที่เคยรู้สึกตอนที่เห็นพี่ลูฮานกับไอ้ชานยอลเต้นด้วยกันกลับมาทักทายผมอีกครั้ง

     

     

     

    หึงเหรอ?

     

     

     

    ก็ถ้าพี่ลูฮานเป็นของผมแล้ว ผมก็มีสิทธิ์จะหึงได้ใช่รึเปล่า?

     

     

     

     

     

     

    TBC


    KatereKun | ขอโทษที่มาลงช้าค่ะ .. ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยลืมสนิทเลยว่ายังไม่ได้ลงพาร์ทฮุนฮาน ไม่โกรธกันเนาะ? ถ้าชอบใจก็เม้นนะคะ ^^พาร์ทจบจะมาต่อเร็วๆนี้ค่า ..

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×