ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo] katerekun's short fic :D

    ลำดับตอนที่ #7 : ChanBaek . Dizzy kiss . 1 .

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 56


    Dizzy kiss!

    Chanyeol Baekhyun

    EXO-K short fiction by katerekun

     

     

     

     

    ครึ่งแรก

     

     

     

     

     

    ร่างของเด็กหนุ่มหน้าตาคมคาย คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ตากลมโตเหมือนตาลูกกวางทว่ากลับดูวาววับเจ้าเล่ห์เฉกเช่นสุนัขจิ้งจอก กับส่วนสูงที่เข้าขั้นนายแบบ และกล้ามเนื้อสมส่วนน่ามองกำลังเดินฝ่าวงล้อมเด็กนักเรียนมัธยมนับสิบคนมาทางพวกเขา ผิวเนื้อละเอียดนั้นต้องประกายแสงแดดดูโดดเด่นเกินกว่าคนเดินถนนทั่วไปจนคนมองต้องหยีตาด้วยกลัวว่ารัศมีความเจิดจ้าจะทำร้ายสายตาเอา

     

    ผู้ชายสุดแสนจะเพอร์เฟ็คคนนี้ชื่อ ปาร์ค ชานยอล

     

     

     

    “เชี่ยชาน มึงหายไปไหนมาวะ?” เพื่อนคนที่ตัวล่ำๆ ปากเบินๆ หน้าตาเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลาเอ่ยปากถามร่างสูงก่อน

     

    “วงเราไม่ได้ซ้อมก็เพราะมึง!” แล้วเพื่อนคนที่ตาตี่ๆ ตัวขาวๆอย่างกับเจ้าชีโร่ก็เอ่ยปากด่าซ้ำ

     

    ปาร์ค ชานยอลยืนนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับให้กับคำต่อว่าของเพื่อนๆทั้งสอง ริมฝีปากสีเข้มเม้มเข้าหากัน คิ้วขมวดมุ่นเป็นปม ก่อนจะ...

     

     

     

     

    “ฮืออออออออออออออออออ ไอ้ไค ไอ้ฮุน กูโดนพี่ยูริทิ้งหว่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงง กูเสียใจ กูไม่ดีตรงไหนวะ กู กู ฮืออออออ กูอยากตายยยยย โฮฮฮฮฮฮ!!

     

     

     

     

     

    เอ่อ... บางที คนที่ดีเกินไปก็มักโดนทิ้งบ่อยๆ -*-

     

     

     

     

    “กูนะ ไม่เคยทำตัวงี่เง่าเลยซักครั้ง ก็แค่มีบ้างที่กูน้อยใจเวลาที่พี่เค้าสนใจไอ้โซดามากกว่ากู แต่จะไม่ให้กูน้อยใจได้ไงวะ พวกมึงลองคิดดูดิ ปากนะไม่เคยให้กูแตะต้องเลยซักครั้ง แต่กับไอ้โซดานะหอมมันแล้วหอมมันอีก เคยนึกถึงใจกูบ้างมั้ย กูก็มีหัวใจนะ ทำแบบนี้แม่งไม่ให้เกียรติกูเลยอะ!

     

    โอ เซฮุน และ ไค หรือที่มีชื่อจริงว่า คิม จงอิน, เพื่อนรักของปาร์ค ชานยอลต่างก็มองหน้ากัน

     

    “โซดานั่นมันหมาไม่ใช่เหรอวะ?” จงอินถาม ชานยอลพยักหน้าหงึกๆ

     

    “พวกมึงก็จะหาว่ากูงี่เง่ากันอีกคนใช่มั้ย เหอะ เออสิ ไม่เคยมีแฟนพวกมึงไม่รู้หรอก ว่าความรู้สึกตอนมองแฟนตัวเองหอมแก้มไอ้หมาหน้าตาเสล่อนั่นมันเป็นยังไง อยากถลกลูกกะตามันออกมาชิบหาย ระริกระรี้สั่นหางดิ๊กๆ แบบนี้มันเหมือนหยามกันเว้ย หยามกันชัดๆ!” ละเลงอารมณ์ใส่เพื่อนหน้าเอ๋อทั้งคู่จบก็ยกขวดโค้ก(ที่ไอ้จงอินเป็นคนซื้อมา)ขึ้นซดเสียงดังอั่กๆ

     

    “แล้วไงอีกวะ?” เซฮุนแย่บเพราะเห็นหน้าตามันเหมือนคนอยากเล่าต่อมาก

     

    “แล้วเค้าก็หาว่ากูไม่มีเวลาให้”

     

    “มึงเนี่ยนะไม่มีเวลาให้? แล้วไอ้ที่มึงโดดซ้อมไปเฝ้าพี่เค้านี่มึงไปไหนวะ อย่าบอกนะว่ามึงโกหกพวกกู??” จงอินเริ่มเสียงดังเพราะเรื่องคราวนี้มันไม่สมเหตุสมผลจริงๆ

     

    “กูจะโกหกพวกมึงทำไมวะ กูไปเฝ้าเค้าที่โรงยิมจริงๆ แต่เค้าไม่เห็นกูว่ะ ก็แม่ง แฟนคลับเค้าออกจะเยอะขนาดนั้น จะให้กูโผล่หน้าไปยังไงวะ ขืนทำอย่างนั้นกูได้มีแอนตี้แฟนแน่ๆ”

     

    ลืมบอกไปว่าแฟน(เก่า)ของปาร์ค ชานยอลเป็นดาวมหาลัย มีงานอดิเรกที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นงานหลักเสียมากกว่าคือการเต้นบัลเล่ เกือบทุกเย็นพี่เค้าจะต้องไปซ้อมที่โรงยิมเตรียมแข่งขัน และแน่นอนว่าถ้ามีซ้อมวันไหน วันนั้นเซฮุนกับจงอินจะไม่ได้เห็นหน้าของไอ้ชานยอลในห้องซ้อมดนตรีของพวกเขาแน่ๆ

     

    “นี่มึงเป็นแฟนกับพี่เค้าจริงๆเหรอวะ?”

     

    “เชี่ยไค ฮือออออออออออออ อย่าทำร้ายจิตใจกูได้มั้ย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮอ มึงถามแบบนี้มึงฆ่ากูเลยดีกว่าไค เอามีดมาฆ่ากูเล้ยย!!” แล้วชานยอลมันก็ฟูมฟายเอาแขนยาวๆทุบโต๊ะจนขวดโค้กล้ม โชคดีที่เซฮุนมือไวเลยคว้าเอาไว้ได้เสียก่อนที่จะต้องมานั่งชำระค่าเสียหายให้ป้าซุ้มโค้กที่เริ่มมองมาที่กลุ่มพวกเค้าด้วยสายตาแปลกๆ -*-

     

     

    คำอธิบาย: http://www5e.biglobe.ne.jp/~cep/s/line/onpug.gif

     

     

    “นี่กูไม่ได้แดกเหล้าเพราะกูอกหักนะโว้ย! กูแค่อยากเท่ห์พวกมึงเข้าใจป่ะ กูโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ กูก็เลยแดกเหล้าได้ ใช่มั้ยมึง ไอ้ไค ไอ้ฮุน คิคิ!” แหม..ไคฮุน(?)ละอยากจะพูดใส่หูมันเลยจังเลย ว่ามึงเท่ห์มากกกกเชี่ยชาน!

     

    และยิ่งจะเท่ห์สุดๆเมื่อมาอยู่ในสภาพเสื้อผ้านักเรียนหลุดลุ่ยออกมานอกกางเกง หัวยุ่งเหมือนโดนช็อตไฟฟ้า ตาโปนเพราะร้องไห้จนเหมือนมันจะระเบิดออกมาแล้วแตกตู้มกลายเป็นโกโก้ครันซ์(?) ปาร์ค ชานยอลเดินโงนเงนไม่รู้ทิศทางและที่ยังไม่ตกท่อน้ำตายไปก็คงเพราะเพื่อนดีเด่นไคฮุนที่หิ้วปีกกันไว้คนละข้าง

     

    “เดินดีๆซิมึง”

     

    “กูไม่ได้เดินนะเนี่ย กูให้พวกมึงลากกูอยู่ มาว่ากูได้ไงวะ?”

     

    มิน่าล่ะ..หนักชิบ! จงอินคิดพลางส่ายหัวระอาใจพร้อมกันกับเซฮุนที่ก็ส่งสายตาเหนื่อยหน่ายใจไม่แพ้กันมาให้

     

    “งั้นมึงก็ช่วยขยับขามึงเดินหน่อยได้มั้ยยย ไหล่กูจะหลุดแล้วเนี่ย?”

     

    “อ้ะ ก็ได้ นี่ถ้ากูไม่หล่อกูไม่ทำให้นะเนี่ย”

     

    เออออออ มึงหล่อ! หล่อบรมโคตรเชี่ยเลยให้ตายเหอะ พ่อเจ้าประคุณทูนหัว!!

     

    ก่อนที่เส้นความอดทนจะขาดแล้วพลอยทำให้ประชากรคนหล่อในดินแดนเกาหลีใต้ลดลงไป 1 คน พวกเขาทั้งสองก็พาร่างอันหนักอึ้งของปาร์ค ชานยอลขึ้นมาบนรถประจำทางได้พอดี แต่ดูเหมือนอะไรๆก็จะไม่เป็นใจ เมื่อบนพื้นที่อันคับแคบบนรถคันยาวๆนั้นแน่นขนัดไปด้วยผู้โดยสารจนแทบจะเป็นปลากระป๋อง

     

    เซฮุนจับแขนเพื่อนไปคล้องไว้กับห่วง พร้อมกับที่ใช้ตัวเองดันมันเอาไว้อีกแรงกันมันล้มหน้าคะมำ อีกด้านก็เป็นจงอินที่ทำแบบเดียวกัน

     

    “พี่ยูริ~ ฮือออออ!” เสียงเพ้อๆของชานยอลดังแผ่วๆให้เซฮุนต้องหันไปมอง แล้วก็เห็นหน้ากึ่มๆของไอ้เพื่อนรักมันตาปรือๆมองไปที่ที่นั่งผู้โดยสารคนหนึ่ง เด็กหน้าหวานที่นั่งอยู่ตรงหน้าเงยหน้ามองพวกเค้างงๆ ก่อนจะยกมือขึ้นบีบจมูกจนแทบบี้..เดาว่าคงจะเหม็นกลิ่นเหล้าไอ้ชานจนทนไม่ได้

     

    “ข..ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ”

     

    “พี่ยูริ!!!!

     

    “เชี่ยชาน มึงอะเงียบได้แล้ว พี่ยูริบ้าบออะไรของมึง พี่เค้าทิ้งมึงไปแล้วเข้าใจป่าว?” เซฮุนซ้ำเติมมันเข้าให้ ส่งผลให้ปาร์ค ชานยอลปรี๊ดแตก

     

    “เชี่ย มึงเงียบไปเลย พี่ยูริยังรักกูอยู่ ได้ยินมั้ย พี่เค้ายังรักกูอยู่เว้ย..”

     

     

    เอี๊ยด!!!!!

     

    ตุ่บ!!!!

     

     

    เหมือนโดนมัดตัวติดสปริงก่อนปล่อยให้ลอยละลิ่วไปในอากาศ ร่างสูงๆของปาร์ค ชานยอลล้มหน้าคว่ำเพราะแรงเบรกกะทันหันของรถเมล์ อันความจริงแล้วแรงอัดขนาดนั้นมันน่าจะทำให้สันจมูกช้ำเพราะโขกเข้ากับอะไรซักอย่างได้ แต่นี่เขากลับไม่รู้สึกอย่างนั้น...กลายเป็นว่าเขาดันรู้สึกชาๆอยู่ตรงหน้าผาก แต่ความอุ่นที่แล่นวาบไปทั้งตัวก็ทำให้ความเจ็บนั้นอันตรธานหายไปอย่างกับมีเวทมนต์

     

    คอเสื้อโดนดึงจากข้างหลังจนร่างลอยขึ้นเล็กน้อย และสิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรกเมื่อมีระยะห่างมาคั่นก็คือใบหน้าขาวใสของใครคนหนึ่ง เขากลอกสายตามองทั่วใบหน้ารูปไข่นั้นและอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นว่าบนหน้าผากเนียนมีรอยจ้ำสีแดงประดับอยู่..ถ้าให้เดา สงสัยบนหน้าผากเขาก็คงมีรอยแบบเดียวกัน

     

    ลูกตากลมสีดำหยุดอยู่ที่ริมฝีปากแดงซึ่งถูกขบไว้ด้วยฟันกระต่าย พลันความร้อนวูบวาบก็แล่นไปทั่วช่องท้อง ชานยอลรู้สึกว่าปากตัวเองก็ชาๆ..หรือว่าเมื่อกี๊......

     

     

     

     

     

    จุ๊บ!

     

     

     

     

     

     

    ไม่รู้ซักนิดว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ รู้อีกทีก็โน้มหน้าลงไปจุ๊บปากแดงนั่นอีกรอบเสียแล้ว...

     

     

     

    “เฮ้ย เชี่ยชาน!

     

     

    “ไอ้โรคจิต!!!!

     

     

     

     

    อ่อกกกก!!

     

     

     

     

    ภาพที่ไคฮุนเห็นคาตาก็คือ เด็กหน้าหวานคนนั้นประเคนฝ่าเท้างามๆเข้าให้เต็มๆอกสามศอกของเชี่ยชานจนมันหงายหลังตึงและแน่นิ่งอยู่กับพื้นรถ

     

     

     

    เฮ้อ.. สมควร

     

     

     

    คำอธิบาย: http://www5e.biglobe.ne.jp/~cep/s/line/onpug.gif

     

     

     

     

     

    ร่างสูงโปร่งของปาร์ค ชานยอลเดินทำหน้าเซโรงังท้าแสงแดดจัดจ้ามาแต่ไกล ก็จะไม่ให้เขาเซ็งได้อย่างไร เพราะเมื่อคืนหนักไปหน่อย(?)ก็เลยเมาค้างมาถึงเช้า หัวงี้หนักอย่างกับหินจนเขาไม่มีแรงยกมันขึ้นจากหมอน สรุปก็คือต้องโดดเรียนคาบเช้าแล้วมาโดนลงโทษให้เคารพธงชาติตอนเที่ยงวันพร้อมกับกระโดดตบอีก 100 ครั้ง...ไม่เป็นลมก็ดีแค่ไหนละ

     

    “คิดว่าตายไปละ”

     

    “ไม่ต้องห่วงเชี่ยไค กูตายแน่ แล้วก็จะเป็นผีมาหักคอมึงคนแรกด้วย” น้ำเสียงช่างเรียบเรื่อย แต่เนื้อความนี่ทำเอาเพื่อนตัวโตถึงกับขนคอลุกซู่

     

    “ฮูยยยย เฮี้ยนตั้งแต่ยังไม่ตายเลยนะมึงเนี่ย”

     

    “อะ สมุดเลกเชอร์ ถ้าอ่านไม่ออกก็รอให้ไอ้ไคมันลอกก่อนแล้วมึงค่อยลอกต่อมันอีกที” เซฮุนโยนสมุดวิชาเรขาคณิตมาให้ชานยอล..เฉียดจมูกโด่งๆของจงอินไปเส้นยาแดงผ่าแปด

     

    “มึงพูดเหมือนกูเคยอ่านลายมือมึงออกเลยนะ เชี่ยชานมึงแหละลอกก่อน กูไม่อยากสายตาสั้นก่อนวัยเพราะต้องมานั่งแกะลายมือไอ้เซฮุนมันว่ะ”

     

    “ทีหลังก็หัดเลกเชอร์เองบ้างนะ” คิม จงอินล่ะอยากตอบว่า ย่ะให้เลยจริงเชียว

     

    “เฮ้ยๆ นั่นเด็กใหม่ห้องเราหนิ” จงอินผู้ที่มีเรดาห์ 18 ทิศชี้ไม้ชี้มือไปยังม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีเด็กนักเรียนผู้ชายคนหนึ่งนั่งดีดกีตาร์เล่นอยู่ “เล่นกีต้าร์เป็นด้วยว่ะ”

     

    ชานยอลหรี่ตามองตาม รู้สึกคุ้นๆหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก

     

    “คนที่มึงจูบเมื่อวานอะเชี่ยชาน” แล้วเซฮุนก็ไขข้อข้องใจราวกับอ่านใจเขาออก “คนเดียวกันกับคนที่ถีบมึงหงายท้องด้วย” เอ่อ..มึงไม่ต้องขยายความก็ได้นะไอ้เซฮู้นนน!!

     

    จุดนี้ถ้าชานยอลแกล้งตายได้ก็คงทำไปแล้ว แต่เพราะสภาพเขาตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากศพเท่าไหร่ เพราะงั้นถึงจะแกล้งหรือไม่แกล้งก็คงไม่แตกต่าง -*- ชานยอลหลบสายตาที่เด็กผู้ชายคนนั้นมองมาแทบจะทันที กำปั้นขนาดอัดคนสลบประทุษร้ายตนเองด้วยการโขกเข้ากับกะโหลกกลวงๆ 3-4 ครั้ง พร้อมกับสบถ

     

    “เชี่ยชานยอล นี่มึงจูบผู้ชายเหรอว้า!

     

    “อย่าโทษตัวเองเลยชาน เป็นกูก็อาจจะพลั้งเผลอได้เหมือนกัน ขนาดไม่เมายังมองว่าเหมือนผู้หญิงขนาดนี้ ถ้าเมาแบบมึงเมื่อคืนด้วย... ไม่ต้องพูดถึง”

     

    “สัดไค ตอกย้ำกูทำไมเนี่ยย??”

     

    “มึงนี่มองกูในแง่ลบตลอดเลยนะ กูให้กำลังใจมึงนะโว้ยยย!!

     

    “มึงจะบอกให้กูทำใจสินะ”

     

    “เปล่า กูจะบอกให้มึงไปขอโทษเค้าซะ เป็นกูถ้าถูกผู้ชายด้วยกันจูบก็คงไม่น่ายินดีเท่าไหร่ว่ะ”

     

    “เชี่ยย....” ท้ายเสียงเลือนหายไปในลำคอ ใบหน้าที่(เคย)หล่อเหลาปานจะกลืนกินแหง่กลงมองไอ้จงอินอีกครั้งเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ “เอาจริงเหรอวะ?”

     

    “ลูกผู้ชาย กล้าทำก็ต้องกล้ารับ” แต่กลายเป็นเซฮุนที่ตอบ..ซะงั้น

     

     

     

     

    เขารู้สึกได้เลยว่าท่อนขามันหนักกว่าทุกวัน ยิ่งระยะห่างถูกทอนให้สั้นลง ความแจ่มชัดของใบหน้าอีกคนก็ยิ่งชัดเจนในสายตา ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นก้มหน้ามองคอร์ดกีต้าร์ที่ตัวเองจับอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ ชานยอลเลยมีเวลาได้แอบลอบสังเกตใบหน้าของอีกฝ่ายจากด้านข้าง แก้มงี้ใสอย่างกับแก้ว แถมมีเลือดฝาดบางๆแบบคนสุขภาพดี ริมฝีปากก็สีส้มสวยแถมยังชอบกัดปากเสียด้วย..

     

    วูบบบบ...

     

    จู่ๆก็ร้อนไปทั้งช่วงท้อง ชานยอลเบ๊หน้าเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะนึกชื่นชมผู้ชายด้วยกันได้ถึงขนาดนี้ เขาปัดมือเข้ากับกางเกงนักเรียนแล้วกลืนน้ำลายลงคอดังอึ่ก

     

    “เอ่อ...” แต่พออ้าปากจะเอ่ยทัก อีกฝ่ายกลับลุกขึ้นทำท่าจะเดินหนี เล่นเอาชานยอลถึงกับทำตัวไม่ถูก “ด..เดี๋ยวสิ นายน่ะ!

     

    คนตัวเล็กหยุดเดินแล้วหันหน้ากลับมา ชานยอลเลยได้เห็นว่าลูกตาสีดำสนิทคู่นั้นดูรั้นไม่เบา

     

    “คือ คือว่า.. เรื่องเมื่อวาน..”

     

    “นายน่ะ...” อีกคนแทรกขึ้นมา ทำให้ชานยอลต้องหยุดคำพูดตัวเองแล้วเหลือบตาขึ้นมองคนตรงข้าม “ชอบฉันล่ะสิ”

     

    “ห..ห้ะ!!!!

     

    “ก็เมื่อวานนายจูบฉัน แล้ววันนี้ก็คงจะมาสารภาพรักใช่มั้ยล่ะ เฮอะ แต่บอกไว้เลย ว่าอย่างนาย..ไม่ใช่สเป็คฉันซักนิด เสียใจด้วยนะ” พูดจบก็ทำท่าจะเดินหนีอีกครั้ง แต่ชานยอลเร็วพอที่จะคว้าข้อมือบางเอาไว้ได้

     

    “นี่.. หลงตัวเองไปรึเปล่า? อย่างฉันเนี่ยนะจะชอบนาย นมก็ไม่มี สะโพกก็ไม่ผาย ใส่กระโปรงสั้นๆก็ไม่ได้ โด่เอ๊ย ถ้าไม่เมาก็อย่าหวังว่าจะได้สัมผัสริมฝีปากน่าจูบของฉันเลย”

     

    “จะบอกว่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงก็เลยจูบ?”

     

    “ก็...ประมาณนั้น” ชานยอลลอยหน้าลอยตาเกาท้ายทอยตอบ แต่พอโดนอีกคนจ้องเอามากๆก็เลยหันมาจ้องกลับ “ทำไม? ผิดหวังล่ะสิที่ฉันไม่ได้สนใจนาย”

     

    “ฮึ่ย... ไอ้ตูดหมึกเอ๊ย!

     

    “เฮ้ย!!

     

    “อะไร??”

     

    “นั่นมัน....!” ชานยอลชี้หน้าอีกฝ่ายหมายจะหาเรื่อง แต่พอเพ่งสายตาพินิจพิจารณาอีกฝ่ายดีๆแล้วก็ถึงกับต้องเบิกตาโพลง “นาย!!....พยอน แบคฮยอน?!!

     

    “ว่าไงตูดหมึก จำฉันได้แล้วเหรอ?”

     

     

     

    คำอธิบาย: http://www5e.biglobe.ne.jp/~cep/s/line/onpug.gif

     

     

     

     

    “พยอน แบคฮยอน.....พยอน แบคฮยอน? พยอน แบค ฮยอน...” ใบหน้าก่อกวนของผู้ชายหน้าหวานลอยเวียนไปวนมาอยู่ในหัวเขาตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หายไปไหน ไม่ใช่ว่าเพ้อจนมองอะไรก็เห็นเป็นหน้าเธอหรอกนะ เขาก็แค่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ต่างหาก

     

    พยอน แบคฮยอน คู่กัดตอนเรียนประถมด้วยกัน..

     

     

    แม่ง ทำไมโตมาแล้วน่ารักงี้วะ!!!

     

     

    “เชี่ยชานโว้ยยยย!!!!!!

     

    “เฮ้ย! อะไร?” คนที่เหม่อถึงกับสะดุ้งตอนที่มีเสียงห้าวมาตะโกนดังลั่นกรอกใบหู ชานยอลยัดนิ้วชี้เข้าไปเขี่ยเศษขี้หูที่หลุดออกมาเพราะเสียงสะเทือนโลกา(?)นั่น ก่อนจะส่งสายตาฆาตโทษไปให้ไอ้ไคเจ้าของมลพิษทางเสียงที่ยืนหัวโด่

     

    “ให้ไปขอโทษเค้า นี่มึงอย่าบอกนะว่า พอยิ่งได้เห็นตอนไม่เมาแล้วก็ยิ่งหลงในความน่ารักน่ะ?”

     

    “ใช้ขี้เลื่อยในสมองคิดเหรอเชี่ยไค?” ใครจะไปหลงความน่ารักของไอ้บ้านั่นกัน เฮอะ!

     

    “เวลาเขินก็ด่ากูงี้ตลอดอะ นี่..ต่อไปนี้มึงควรจะขอบคุณกูนะเว้ย”

     

    “ขอบคุณเพื่อ?”

     

    “ก็กูไปขอร้องให้พยอน แบคฮยอนของมึงมาเป็นมือโซโล่กีตาร์ให้วงเราน่ะสิ ;’)

     

    “.........” สมองช้าๆของปาร์ค ชานยอลคิดประมวลประโยคนั้นของคิม จงอิน “ว่าไงนะ?”

     

    “แหม ดีใจจนอึ้งล่ะสิ”

     

    “มึงบอกว่าพยอน แบคฮยอนจะมาเป็นสมาชิกวงเราใช่มั้ย?”

     

    “อือ”

     

    “หมายความว่า ต่อไปนี้วงเราจะมีสมาชิกชื่อพยอน แบคฮยอน?”

     

    “เยส”

     

    “พยอน แบคฮยอน?”

     

    “เออออออ! จะย้ำทำเหี้ยไรเนี่ย!

     

    “พยอน แบคฮยอน!!!?”

     

     

     

    “เรียกฉันทำไม คิดถึงเหรอ?”

     

     

    “คิดถึงบ้านเตี่ยน่ะเซ่!!

     

     

    อุ๊บส์! ก่อนจะต้องมาอุดปากเป็นพัลวันตอนที่เห็นคนตัวเล็กยืนจังก้าอยู่หน้าประตู ปาร์ค ชานยอลหรี่ตามองพยอน แบคฮยอนที่เปลี่ยนอิริยาบถมาเป็นกอดอกฉับทันที

     

     

    “ไม่คิดถึงก็ไม่คิดถึงสิ ทำไมต้องลามปามถึงเตี่ยด้วย ตูดหมึกเอ๊ย!!

     

     

    “พยอน แบคฮยอน!!!!

     

    “ทำไม?”

     

     

     

    คือ....

     

    ปาร์ค ชานยอลคนนี้ไหว้ล่ะครับพยอน แบคฮยอน คุณเลิกเรียกว่าผมว่าตูดหมึกได้มั้ย?? T-T

     

     

     

     

    “ตูดหมึก..”

     

    “แล้วมึงจะเรียกกูด้วยอีกคนทำไมเนี่ย เชี่ยไค!!

     

    “อ๊าว มึงชื่อตูดหมึกหรอ? ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” สัดไค กูขอให้แมลงวันบินเข้าปากมึง!!!!

     

     

     

     

     

    คำอธิบาย: http://www5e.biglobe.ne.jp/~cep/s/line/onpug.gif

     

     

     

     

     

     ~

     

    แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าปากของเขานี่แหละที่กำลังอ้าค้างด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง

     

    พยอน แบคฮยอน ผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานเอวบางร่างน้อยอย่างกับผู้หญิง แต่ฝีมือการโซโล่กีต้าร์เข้าขั้นบรมโคตรเทพ เพลงที่กำลังสะท้านก้องอยู่ในห้องซ้อมเล็กๆห้องนี้คือเพลง Canon in D แต่คอร์ดที่คนตัวเล็กนี่เล่นดูเหมือนว่าจะถูกดัดแปลงนิดหน่อย แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ

     

     

    เก่งเป็นบ้า..

     

     

    “แฮ่ก... เป็นไง ใช้ได้มั้ย พอดีว่าไม่ได้ซ้อมนานน่ะ” แบคฮยอนยิ้มแหยๆไปให้เซฮุนกับจงอิน แต่พอหันมาทางเขาล่ะเปลี่ยนเป็นเบะปากเชียว..

     

    “เก่งโคตร แบคฮยอน นายเล่นได้ไงเนี่ย??” เซฮุนปรบมือรัว ตานี่ถูกแก้มดันจนเหลือขีดเดียว ส่วนคนโดนชมก็ยิ้มเขินไปตามประสา ชานยอลกะจะเบนหน้าหนีภาพที่ไคฮุนสองเพื่อนรักอวยเด็กใหม่นั่นเสียออกนอกหน้าเพราะหมันไส้ แต่จู่ๆเขาก็หันหน้าไปทางอื่นไม่ได้

     

    ก็ไอ้รอยยิ้มนั่นมัน...

     

    สวย

     

    คนบ้าอะไร ยิ้มสวยชะมัด

     

     

     

     

    โอ้ะ! o_O!

     

     

     

     

    เชี่ยมาก มีสิทธิ์อะไรมาปั่นป่วนหัวใจกันวะ พยอน แบคฮยอน!!!

     

     

     

     

     

     

    คำอธิบาย: http://www5e.biglobe.ne.jp/~cep/s/line/onpug.gif

     

     

     

     

     

    “เฮ้ย ไปฉลองกัน วันนี้วงเรามีสมาชิกเพิ่ม ต้องรับน้องซะหน่อย!

     

    ชานยอลที่กำลังตวัดกีต้าร์ขึ้นหลังชะงักแล้วหันมองเจ้าของไอเดีย “ทำไมต้องฉลอง เพิ่งเข้าวงมาวันเดียว ยังไม่รู้เลยว่าจะมาทำให้วงล่มรึป่าว?”

     

    “ไอ้ชานยอล มึงพูดงั้นได้ไงวะ แบคฮยอนเล่นเก่งออกขนาดนี้จะทำให้วงเราล่มได้ไง?”

     

    “เล่นเก่งแล้วไง ถ้าเข้ากับคนอื่นๆในวงไม่ได้ก็เท่านั้น” เขาเหลือบตาไปมองคนตัวเล็กก่อนที่จะต้องรีบหันไปทางอื่นเพราะไอ้ตาวาวๆนั่นดันจ้องเขากลับซะนี่

     

    “ขวางโลกว่ะมึงนี่ ไม่สนแหละ กูจะไปฉลอง เซฮุนมึงโอเคปะ?” เซฮุนยกมือทำเครื่องหมายโอเค “ไอ้เซฮุนโอ เพราะงั้นมึงก็ต้องไป ห้ามขัด!

     

    “เกี่ยวไรวะ~

     

    “หรือไง ป๊อดหรอ คออ่อนสินะ อย่างวันนั้นยังเมาแอ๋เลย...” เสียงจากบุคคลที่สามทำให้ชานยอลตวัดหน้าไปแยกเขี้ยวใส่

     

    “ใครป๊อด?”

     

    “คนที่ไม่กล้าไปไง” แบคฮยอนเชิดหน้าตอบ

     

    “เชี่ยไค กูไป วันนี้ใครคลานกลับบ้านก่อนเป็นหมาเว้ย!!

     

    “ฮึ ชักอยากลูบหัวน้องหมาแล้วสิ~” แล้วแบคฮยอนก็ตวัดกีต้าร์พาดหลังเดินนำออกไปก่อน จงอินเหล่ตามองเพื่อนสนิทล้อๆ

     

    “คนน่ารักทำไมแรงงี้ว้า!

     

    “หาเรื่องใส่ตัวแล้วล่ะเชี่ยชาน” เซฮุนก็ไม่แพ้กัน เดินมาตบบ่าและทอดสายตาห่วงหาอาทรเสียจนเขาเสียวสันหลัง

     

    ไม่ได้เสียวว่าจะพลาดท่าให้พยอน แบคฮยอนนะ แต่เสียวเพราะตามึงนี่หยาดเยิ้มเกินไปแระ สาดดด..

     

     

     

     

    ร้านเหล้าร้านประจำของพวกเขายังคงแน่นขนัดเหมือนเดิมแม้ว่าวันนี้จะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ แต่มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ความอยากเมามันดันทำการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ แถมพวกนักเรียนนักศึกษามันก็ขอตังค์พ่อแม่กันง่ายเสียจนไม่รู้จักคำว่าเสียดาย เพราะงั้นก็คงเป็นบุญของเจ้าของกิจการที่รับรายได้ไปเต็มๆ!

     

    แล้วนี่เขาจะมาพล่ามทำไม(วะ)? ในเมื่อตัวเองก็หน้ามึนขอตังค์พ่อแม่มาแดกเหล้าเหมือนกัน -*-

     

    บรรยากาศในวงเหล้าไม่มีอะไรแปลกใหม่ นอกจากชนแล้วก็หมดแก้ว ตอนนี้เข็มนาฬิกาก็เดินไปจนเกือบจะจูบกับเลขสิบสองแล้ว ดีกรีในตัวพวกเขารวมๆกันตอนนี้ก็คงทะลุร้อย จริงๆระดับมันน่าจะสูงกว่านี้ถ้าไม่มีพยอน แบคฮยอนมาคอยดึง mean ให้ต่ำลง หรือพูดอีกนัยนึงว่า

     

    พยอน แบคฮยอนแม่งคอแข็งมาก!

     

     

     

    หลังจากที่ไคฮุนตะโกนเรียกบริกรเพื่อสั่งมิกเซอร์เพิ่ม แบคฮยอนก็ขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำ เขามองตามทั้งยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีมือไอ้จงอินที่ตบไหล่ดังอั่กตามด้วยคำแซวที่ฟังแล้วต้องทำหน้าไม่ถูกทุกที

     

    “มองตามตาเยิ้มเลยนะมึง แหม ทำเป็นไม่ชอบเค้า แต่ที่จริงก็สนใจเค้าอยู่ล่ะว้า”

     

    “เชี่ย ใครสนใจ?”

     

    “หมาหัวยุ่งๆ ปากแข็งๆที่นั่งหัวโด่อยู่นี่ไง ;)

     

    “สัด เลิกพูดมั่วๆเลย กูไม่ได้ชอบไอ้หน้าหวานนั่นเว้ย ต่อให้โลกนี้ไม่เหลือผู้หญิงให้กูเอาซักคน กูก็ไม่เอามันหรอก” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นคนที่พูดถึงกำลังถูกชายแปลกหน้ายุ่มย่ามอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเพ่งมอง ก่อนจะผุดลุกออกจากโต๊ะตรงแหน่วไปยังจุดเกิดเหตุท่ามกลางรอยยิ้มมุมปากของคิม จงอิน

     

    “เชี่ยชานแม่ง ซึนว่ะ”

     

     

     

     

     

    “ปล่อย!” แบคฮยอนบอกเสียงแข็งและพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของชายแปลกหน้า

     

    “เฮ้ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย ไปดื่มกับพวกพี่ที่โต๊ะดีกว่า ท่าทางจะคอแข็งไม่เบา แบบเนี้ย พี่ชอบ”

     

    “ก็บอกว่าไม่ไป พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง?”

     

    “ฮั่นแน่ ปากคอเราะร้ายซะด้วย นี่!! บอกให้ไปก็ไปเด่ะ ไม่ต้องทำมาเก็กหรอกน่า รู้อยู่หรอกว่าที่มาเนี่ยก็เพื่ออ่อยผู้ชายอยู่แล้ว” ชายคนนั้นรั้งมือเขาแน่นขึ้นพร้อมกับออกแรงลากให้เดินตาม

     

    “ใครจะอ่อยใคร” เสียงใหญ่ดังขึ้นจากข้างหลัง พร้อมๆกับที่แบคฮยอนรู้สึกถึงแรงโอบจากไหล่ที่ดึงให้เขาหลุดจากพันธนาการของชายแปลกหน้า เขาหันหน้ามองแล้วก็เห็นปาร์ค ชานยอลที่เพียงหรุบตามองเขาแว่บนึงก่อนจะตวัดกลับไปทำตาดุใส่คนที่เมาแล้วเกรียน

     

    “มึงยุ่งอะไรด้วยเนี่ยห้ะไอ้โย่ง! อัชชช์!!” ในจังหวะที่ชายหน้าตาหาเรื่องคนนั้นจะคว้ามือแบคฮยอนอีกหน ชานยอลก็คว้าข้อมือนั่นแล้วออกแรงบิดเต็มแรงจนมันร้องโอดโอย

     

    “ยังอยากจะยุ่งกับแฟนคนอื่นอีกมั้ย หืม??”

     

    “อ๊าชชช์ เจ็บๆ ปล่อยๆ ปล่อยกู อั๊ชช!

     

    ชานยอลยอมปล่อยตามที่อีกฝ่ายขอร้อง เขาชี้หน้ามันไว้คล้ายจะบอกเป็นนัยว่าอย่ามาแหยม ก่อนจะคว้ามือแบคฮยอนเดินออกมา

     

    “น...นี่ ปล่อย เดินเองได้”

     

    ร่างสูงหันมองคนตัวเล็กกว่าที่เงยหน้าจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง อะไรวะ? อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยยังจะมาทำหน้าบูดเป็นตูดใส่อีก เขาสลัดมือนั้นออกอย่างจงใจให้อีกฝ่ายโมโหแล้วก็หาเรื่องบ้าง

     

    “คนเค้าอุตส่าห์ช่วย ขอบคุณซักคำน่ะมีมั้ย?”

     

    “ไม่ได้ขอให้ช่วยหนิ” แบคฮยอนทำแก้มอูมตอบคำถาม ก่อนจะเบือนหน้าหนีตอนที่โดนชานยอลจ้อง

     

    “อ้อ นั่นน่ะสินะ ไอ้เราก็ลืมไป ว่านายอาจจะชอบให้พวกนั้นลวนลามเอาก็ได้”

     

    “นี่นาย!

     

    “โทษทีนะ ที่วันนี้ทำให้พลาดเหยื่อน่ะ”

     

    “ปาร์ค ชานยอล!” ก็ได้แต่ตะโกนเรียกชื่อเค้าอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ เพราะเจ้าของชื่อน่ะเดินลอยหน้ากลับเข้าไปในร้านเรียบร้อยแล้ว

     

     

     

     

    คำอธิบาย: http://www5e.biglobe.ne.jp/~cep/s/line/onpug.gif

     

     

     

     

    “พวกมึงกลับกันได้แน่นะเว้ย?” เขาถามเมื่อเห็นว่าจงอินมันยืนไม่อยู่ละ เซฮุนที่ดูเหมือนจะมีสติมากกว่าแต่ก็คงไม่มากไปกว่าเขาเสียเท่าไหร่พยักหน้าหงึกๆ แล้วก็ยื่นมือออกไปโบกแท็กซี่ “เชี่ยฮุน ดูแลมันดีๆล่ะ มึงก็ด้วย ไหวใช่มั้ย?”

     

    “ถ้ามึงไหว กูก็ไหวแหละ ;)” เซฮุนที่เกือบเดินตกฟุตบาทถ้าไม่มีแบคฮยอนดึงแขนเอาไว้หัวเราะแหะๆตบท้าย “แบคฮยอน ดูแลชานยอลมันด้วยนะ เห็นมันนิ่งแบบนั้นก็อย่าไว้ใจ”

     

    “พูดมาก รถมาละ รีบขึ้นไปเลยไป” ชานยอลปัดมือไล่พวกมัน ตัวเองก็เดินเข้าไปกะจะช่วยยัดไอ้จงอินขึ้นรถด้วยอีกแรง แต่เพราะความที่ตัวเองก็มึนไม่ใช่น้อยทำให้เขาเสียหลักจนหน้าเกือบคว่ำเสียเอง

     

    “นี่นาย เมาก็อย่าฝืน เดี๋ยวฉันช่วยเอง” แบคฮยอนดันตัวชานยอลออกเพื่อจัดแจงเพื่อนใหม่อีกสองคนให้เรียบร้อย ไม่นานแท็กซี่ก็แล่นออกไป แบคฮยอนจึงหันกลับมามองอีกหนึ่งชีวิตที่เขาต้องรับผิดชอบ แล้วก็มีอันต้องสะดุ้งเมื่อพอพลิกตัวกลับมาปุ๊บ จมูกก็เกือบทิ่มเข้ากับแผงอกของคนตัวสูง

     

    “ใครว่าฉันเมา?” ชานยอลถามอย่างเอาเรื่อง ตาโตๆนั่นจ้องเขม็งมาที่แบคฮยอนอย่างเอาจริง

     

    “ตัวเหม็นเหล้าหึ่งขนาดนี้จะบอกว่าไม่เมาได้ไง?” แบคฮยอนเบ๊หน้าหนี ชานยอลได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว ก่อนโน้มหน้าลงไปดมแก้มคนตัวเล็กดังฟอด

     

    “เฮ้ย!!

     

    “ตัวนายก็เหม็นเหมือนกันแหละ”  แบคฮยอนตาค้างมองร่างสูงด้วยความอึ้ง แต่ปาร์ค ชานยอลแม่งทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ก่อคดีอุกอาดเกือบทำให้หัวใจชาวบ้านวายซะอย่างนั้น หมอนั่นยังคงมองเขาตาแป๋ว ปากก็บ่นว่า ตัวเองก็เมานั่นแหละ ว่าแต่คนอื่น...

     

     

    พอดีกับที่แบคฮยอนดันเหลือบไปเห็นชายคนที่ลวนลามเขาเดินมาพร้อมกับกลุ่มคนอีกเกือบสิบคน ตากลมจ้องเขม็งก่อนจะรีบดึงเสื้อชานยอลให้มองตาม

     

    “ไอ้บ้านั่นหนิ มันพาพวกมาด้วยใช่รึเปล่า?”

     

    “งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ?”

     

    “เอาไงอะ มันต้องตามมาแก้แค้นนายแน่เลย”

     

    “หนีดิ แม่งมาเยอะขนาดนั้นสู้ไม่ไหวหรอกนะ” จบที่พูด มือหนาก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางพร้อมกับออกแรงฉุดจนตัวแบคฮยอนแทบลอย

     

    “หนีไปไหนอะ”

     

    “ทางนี้” ทางที่ชานยอลนำไปคล้ายกับจะเป็นโรงรถเก่าที่ตอนนี้ถูกใช้เป็นพื้นที่เก็บพวกลังเปล่าของเหล้าและโซดา ลังที่ซ้อนทับกันจนสูงท่วมหัวดูจะเป็นเกราะกำบังที่ดีเยี่ยม ชานยอลดันตัวแบคฮยอนให้ชิดติดมุมด้านใน ส่วนตัวเองก็เป็นเหมือนโล่ที่เข้าไปประกบด้านหน้าเอาไว้ ชานยอลส่องลอดผ่านช่องว่างของลังเพื่อสังเกตการณ์พวกมันที่เดินว่อนหาพวกเขาให้ทั่ว ผ่านไปหลายนาทีจนแน่ใจว่าพวกนั้นคงจะไม่ย้อนกลับมาทางนี้แน่ๆแล้วจึงถอนหายใจออกมา

     

    “ไปกันหมดแล้วหรอ?”

     

    “อืม...” เสียงตอบรับคำถามนั้นเลือนหายไปในลำคอทันทีที่เขาละสายตาจากพวกนั้นแล้วก้มหน้าลงหมายตอบคำถามคนตัวเล็ก ปาร์ค ชานยอลเผลอสะดุดลมหายใจเมื่อพบว่าแผงอกทั้งแผงของเขามีพยอน แบคฮยอนซุกอยู่ ฝ่ายนั้นก็ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน มือเล็กเลยพยายามดันตัวเขาออก

     

    แต่เขาทำใจผละออกจากความนุ่มนิ่มนั่นไม่ได้ ให้ตายเหอะ...

     

    ทันทีที่มือเล็กออกแรงดันอกเขาออก ชานยอลก็เลือกที่จะคว้ามือนั้นไว้แล้วโน้มหน้าเข้าหาเพื่อบดจูบลงบนริมฝีปากสีส้มสวยอย่างไม่มีเหตุผล และทั้งที่แบคฮยอนควรจะสะดุ้งหรือตกใจ กลับกลายเป็นความนิ่งงันที่เขารู้สึก และนั่นก็ยิ่งเปิดทางให้คนตัวสูงยิ่งเบียดริมฝีปากเข้าหามากขึ้นไปอีก ยิ่งดูดดึงและขบเม้มตามแต่ที่ตัวเองนึกคิด อยากจูบตรงไหนก็จูบ อยากจูบลึกซึ้งแค่ไหนก็ทำ

     

    ชานยอลแตะลิ้นเลียรอบกลีบปากนั้นเบาๆและแบคฮยอนก็ยอมเผยอมันออกเพื่อรับเอาความอุ่นชื้นจากเรียวลิ้นเขาอย่างเต็มใจ ตอนนี้..เสียงเดียวที่เขาได้ยินก็คือเสียงริมฝีปากที่ดูดดึงกันด้วยน้ำหนักที่หนักเบาแตกต่างกันออกไป

     

     

    จูบอย่างกับคนไม่มีสติจะนึกคิดอยากทำอย่างอื่น กระทั่งผละออกมาเห็นตากลมมองสบตากันอยู่ ระฆังในหัวถึงได้ดังก้องจนมึนงงไปหมด

     

     

     

    กูจูบแบคฮยอน....อีกแล้ว?

    คราวนี้แม่ง deep kiss ด้วย!!??

     

     

     

    โอยเชี่ย ปาร์ค ชานยอลมึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย!!!!!

     

     

     

     

    ทั้งที่สมองชุลมุนวุ่นวายไปหมด แต่สิ่งที่ร่างกายแสดงออกมามีเพียงการก้าวเท้าถอยหลังหนึ่งก้าว และมองพยอน แบคฮยอนที่ยืนตัวตรงมองเขาตาแป๋ว

     

    “เหอะๆ...” เขาหัวเราะ

     

    “ฮะๆๆ....” แล้วก็หัวเราะ

     

    “สงสัยจะเมาแล้วว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เมา..เมาแน่ๆเลย เอิ๊กกก....” จบด้วยแถ

     

    เอาวะ เมาแล้วจูบ.. คราวที่แล้วก็เมาแล้วถึงได้ทำเรื่องแบบนั้นลงไปไง คราวนี้ก็เหมือนกันนั่นแหละ

     

    แค่เมาเว้ย เมา!!

     

    ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย!!!

     

     

     

     

    แบคฮยอนมองตามร่างสูงของเพื่อนเก่าสมัยประถม..หรือเพื่อนใหม่ในชั้นเรียนมัธยมฯตอนนี้ที่เดินเป๋ๆออกไป จนพอระยะห่างมีมากพอแล้ว ปาร์ค ชานยอลก็วิ่งปรู๊ดแล้วกระโดดขึ้นรถเมล์ไปอย่างรวดเร็ว

     

    “เมาหรอ?”

     

     

     

    เขาก็เมาว่ะ....

     

     

     

    แต่ว่า เมาจูบ นะ

     

     

     

     

     

    TBC



    กาเท่เร่คุง : แอบเอาอีกเรื่องมาลงค่ะ เช่นเดียวกัน เขียนจบไว้ตั้งกะแต่ปีที่แล้ว เรื่องนี้มีสามตอนจบค่ะ เอาใจช่วย 'นายตูดหมึก' กันด้วยนะ :D

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×