ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo] katerekun's short fic :D

    ลำดับตอนที่ #6 : HunHan . Indy Inlove . end .

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 56


    Indy Inlove

    Sehun Luhan

    EXO-K Short fiction by katerekun

     

     

     

    มันก็เป็นแค่ความรักแบบอินดี้ๆ.. ที่เข้าใจยากชะมัด!

     

     

    *

     

     

     

     

     

    | END PART

     

     

     

     

    ผมเพิ่งรู้ว่าการอยู่เฉยๆก็เมื่อยได้เหมือนกัน..นี่ถ้าไม่ได้มาเป็นแบบวาดภาพก็คงจะไม่รู้

     

    ขนาดว่าเพื่อนตัวสูงมันใจดีให้กลับก่อนทั้งที่ยังวาดไม่เสร็จดี แต่ทั้งปากที่ฉีกยิ้มมากว่า 3 ชั่วโมงกับหลังที่ต้องตรงแหน่วตลอดเวลามันก็พร้อมใจกันปวดเมื่อยราวกับไปขนกระสอบข้าวสิบกว่ากระสอบอย่างไรอย่างนั้น

     

    โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ได้ตกอย่างเมื่อวาน เลยไม่ต้องเฉอะแฉะกลับห้อง ผมเดินแกว่งกุญแจห้องอย่างอารมณ์ดีเหมือนเช่นทุกวัน รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เพิ่งจะสองทุ่มกว่าแต่หอพักดันเงียบผิดปกติ หรือเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์นะ..เด็กหออาจจะรวมพลกันไปเมาแถวๆหน้ามอแล้วก็ได้

     

    ทั้งๆที่คิดว่ากำลังจะได้พักผ่อนให้หายเมื่อยแล้วแท้ๆ

     

     

    แต่ไอ้ร่างยาวๆที่นั่งคุดคู้อยู่หน้าประตูห้องผมก็ทำลายความหวังเล็กๆนั้นซะย่อยยับ!

     

     

    มองปราดแรกก็นึกไม่ออกหรอกนะว่าเป็นใคร แต่พอยื่นหน้าไปมองใกล้ๆล่ะชัดเลย

     

     

     

    “โอ เซฮุน?”

    “มาทำไรเนี่ย?” ..แล้ว รู้หมายเลขห้องผมได้ไง?

     

     

    หมอนั่นเงยหน้าขึ้นมาทำตาถมึงทึงใส่ นั่นทำเอาผมแทบผงะหงายท้อง “ทำไมเพิ่งกลับห้อง?”

     

    คิ้วเล็กขมวดหนึบทันทีที่ได้ยินคำถาม ก่อนที่จมูกโด่งรั้นแท่งเล็กจะยู่ย่นเมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆลอยมาจากคนตรงหน้า “กินเหล้ามาเหรอ?”

     

    “เบียร์ต่างหาก”

     

    เอ่อ....เสียชื่อรุ่นพี่อย่างผมชิบ !!

     

    “เออ นั่นแหละ อย่างไหนก็เมาเหมือนกัน”

     

    โอ เซฮุนลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล คนตัวสูงยังคงไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของผม และแน่นอนว่าก็ยังไม่เลิกทำหน้าโหดๆนั่นด้วย “ไขประตูดิ”

     

    “รู้แล้วน่า ไม่ต้องมาสั่ง”

     

     

     

    แกร่ก!

     

     

     

    “เฮ้! จะทำอะไร?” ลูฮานสะดุ้งรีบเอามือยันประตูหมายจะปิดกั้นไม่ให้คนตัวยาวแทรกตัวเข้ามาได้

     

    “ก็จะเข้าไปในห้องพี่ไง”

     

    “จะเข้ามาทำไมเล่า?”

     

    “ทีเมื่อวานพี่ยังเข้าห้องผมได้เลย”

     

    “ก็นั่น....ฝนมันตก”

     

    “ก็วันนี้ฝนไม่ตก”

     

    เหตุผลบ๊องตื้นอะไรเนี่ย !

     

    ยื้อยุดประตูไม้กันอยู่นานสองนาน สุดท้ายแรงที่มีน้อยกว่าของลูฮานก็ทำให้เขาพ่ายแพ้ โอ เซฮุนที่ผลุบเข้ามาในห้องได้ยิ้มแฉ่งซะจนตาแทบปิด..ปกติก็แทบจะไม่ค่อยเปิดอยู่แล้วนะ -*-

     

    “ห้องน่ารักจัง” เอ่ยปากชมขึ้นมาดื้อๆเล่นเอาเจ้าของห้องงงจนทำหน้าไม่ถูก

     

    จ่อก~

     

    เสียงประหลาดๆดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ลูฮานหันมองคนตัวยาวที่ตอนนี้ถือวิสาสะนอนแผ่อยู่บนโซฟากลางห้อง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเช่นเดียวกับคิ้วที่เริ่มผูกกันเป็นโบว์..ถ้าใครรู้จักลูฮานดีล่ะก็ จะรู้ว่ามันคือสัญญาณอันตราย!!

     

    “นี่นาย!!!

    “หิว ทำไรให้กินหน่อย~

     

    แต่บังเอิญว่ากับโอ เซฮุน...ยังไม่รู้จักกันดีเนี่ยน่ะสิ...

     

     

    “ถือว่าเป็นการตอบแทนผม ที่อุตส่าห์ให้พี่นอนกอดตัวอุ่นๆทั้งคืนละกัน”

     

    “นายต่างหากที่เป็นคนมากอด” ลูฮานทำแก้มอูมๆเถียง

     

    “เหมือนกันแหละน่า”

     

    เหมือนกันบ้านปร๊ะแกเสะ !

     

     

    “เหอะน่า ทำให้หน่อยนะ ไม่สงสารคนหิวรึไง” ลูฮานได้แต่ขมวดคิ้วมองรุ่นน้องตรงหน้าที่จู่ๆก็ปรับมาเป็นโหมดขี้อ้อน ไอ้ตาเยิ้มๆปริบๆแล้วก็ปากเบะๆเนี่ย...อารมณ์ไหนของมันวะ???

     

     

    สุดท้ายท้ายสุดก็ตกหลุมพรางโอ เซฮุนทุกทีไป รามยอนหอมฉุยถูกยกมาเสิร์ฟโดยพ่อครัวตัวเล็กที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายจุดสีฟ้าอ่อน ไม่รอช้าที่จะลิ้มชิมรสมือของคนน่ารัก มือขาวคว้าตะเกียบได้ก็คีบเส้นสีเหลืองอร่ามเข้าปาก ดูดดังซวบ

     

    “โคตรอร่อยอะ”

     

    “ก็แค่รามยอนน่า” ผมว่าก่อนจะพลิกตัวกลับ ตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำแต่ข้อมือดันถูกดึงไว้

     

    “นั่งเป็นเพื่อนก่อนดิ”

     

    “อะไรของนาย ก็กินคนเดียวไปสิ พี่กินแล้ว”

     

    “ใจคอจะทิ้งให้ผมกินคนเดียวจริงๆเหรอ?”

     

    “แล้วกินคนเดียวมันจะตายรึไง”

     

    “ตาย”

     

    ไอ้เด็กเอาแต่ใจ!!

     

     

     

     

    แต่แล้วผมก็ยอมนั่งลงตรงข้ามอยู่ดี -*-

     

     

     

     

    “พี่ใจร้ายมากเลยรู้ปะวันนี้” จู่ๆ เด็กบ้ามันก็เปิดประเด็น แถมประเด็นที่เปิดก็ตั้งใจโจมตีผมเต็มที่ซะด้วย

     

    “ทำรามยอนให้กินขนาดนี้แล้วยังมาว่ากันเนี่ยนะ โอ เซฮุน!

     

    “ก็พี่ให้ผมรอเก้อ บอกแล้วใช่มั้ยว่าเย็นนี้จะมาส่งที่หอ”

     

    “......” ชิบเป๋ง..ลืมสนิท

     

    “อย่าบอกนะว่าพี่ลืม?”

     

    “ขอโทษนะเซฮุน”

     

    “ผมควรจะให้อภัยพี่มั้ยนะ?”

     

    “ควรสิ^^

     

    “แต่ผมคิดว่าไม่” คำตอบนั้นมาพร้อมกับดวงตาลุกวาว ผมผงะจนหลังกระแทกเข้ากับพนักเก้าอี้ดังปึก

     

     

     

    “พี่ต้องชดใช้ด้วยการให้ผมค้างที่นี่คืนนี้”

     

     

     

    O_O!

     

     

     

     

     

     

     

    โอ เซฮุน! หมอนั่นคิดว่าผมใจง่ายรึไง??

     

    ขู่กันมาแบบนั้นแล้วคิดว่าคนอย่างลูฮานจะยอมเหรอ? ก็ต้องมีการต่อสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี(?)ของตัวเองกันหน่อยล่ะครับ..ก็แค่หน่อยนึงอะ.....

     

     

     

    โอเค๊ ผมใจง่ายก็ได้

     

     

     

    และแล้วเตียงนอนนุ่มๆของผมก็โดนขโมยสิทธิ์ไปครึ่งนึงจนได้... อีกครั้งที่หมอนั่นขอผมกอดแป๊บนึง แต่คราวนี้มันแหม่งๆแฮะ...ก็แป๊บนึงของเซฮุนนี่ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าละ -*-

     

     

    กว่าจะแกะตัวยาวๆของเซฮุนออกได้ก็เกือบสิบโมงกว่า ผมวิ่งกระหืดกระหอบเข้าคณะโดยที่มีต้นเหตุการมาสายครั้งนี้วิ่งตามมาด้วย เซฮุนบอกว่าวันนี้เขาไม่มีเรียน..ก็เลยจะขอตามไปช่วยผมทำโปรเจ็ค

     

    เหมือนจะเป็นรุ่นน้องที่มีน้ำใจมาก!

     

     

    แต่ช่วยถามผมซักคำเหอะ ว่าต้องการความช่วยเหลือมั้ย??

     

     

     

    “พี่กับไอ้แบคนี่ท่าจะเพี๊ยน ตัวเล็กๆแต่ดันมาเรียนเอกการปั้นเนี่ยนะ โหย..โคตรหนักอะ” ผมเหลือบหางตามองไอ้เด็กขี้บ่น ก่อนหน้านี้ที่เค้าคิดไปว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นคนเงียบๆแต่หมัดหนักนี่คงคิดผิดสินะ อันความจริงคือทั้งพูดมากแถมกัดก็เจ็บอีกต่างหาก!

     

    “มานี่ เดี๋ยวยกเองก็ได้” เข้าไปแย่งเอารูปปั้นคนครึ่งท่อนที่อยู่ในอ้อมแขนของเซฮุน เห็นว่าบ่นดีนัก ถือเองก็ได้ ชิส์

     

    “ไม่!” เอ๊า..ไอ้เด็กเข้าใจยาก!

     

    ผมเคาะประตูห้องสองสามทีเป็นมารยาท ก่อนจะดันประตูเข้าไป เพื่อนที่นัดกันไว้อยู่ในห้องนั้นพอดี มันส่งยิ้มละลายใจ(สาวๆ)มาให้จนนึกหมันไส้ ..นี่กูเป็นเพื่อนมึงนะ!

     

    “อ้าว? ไหนรูปปั้น?” เพื่อนหน้าหล่อเอ่ยถาม ผมก็เลยเขยิบตัวให้เซฮุนเดินเข้ามา สังเกตเห็นเม็ดเหงื่อประปรายอยู่บนหน้าผากแคบ ท่าทางจะเหนื่อยเอาการ

     

    “ได้เด็กที่ไหนมาช่วยยกของล่ะนั่น?”

     

    “ใครเด็ก?” น้ำเสียงเย็นเยียบของเซฮุนทำให้ผมหันขวับไปมอง หมอนั่นยกแขนขึ้นปาดเหงื่อก่อนจะทำหน้าบูดหน้ามุ่ยหันหนีไปอีกทาง เพื่อนผมเองก็เลิกคิ้วมองผมเหมือนจะถามว่าไอ้เด็กนั่นมันเป็นบ้าอะไร?

     

    “อ่า..นี่เซฮุน รุ่นน้องคณะนี่ล่ะ แต่เอกนิเทศ”

    “ส่วนนี่อู่ฟาน นักศึกษาแลกเปลี่ยนรุ่นเดียวกันแต่คนละเอก เพื่อนสนิทพี่เองแหละ”

     

    ทางที่ดีที่สุดก็เห็นจะเป็นการแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันนี่ล่ะ

     

    “อ่อ ก็แค่เพื่อน”

     

    “ไม่ใช่แค่เพื่อน แต่เป็นเพื่อนสนิท” อู่ฟานแก้ความเข้าใจเซฮุนซะใหม่ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ต่างกัน ท่ามกลางความงุนงงของคนกลางอย่างผม..ถ้ามองไปที่คนทั้งสองคน คุณอาจจะขนลุกซู่ขึ้นมาดื้อๆก็ได้

     

    “อ้อลูฮาน ฉันลงสีภาพวาดเมื่อวานเสร็จแล้วนะ อยากดูมั้ย?” ผมสะดุ้งนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกดีที่อู่ฟานช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น

     

     

    รึเปล่า?

     

     

     

    ไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเองมั้ย? แต่ตอนที่ผมโน้มหน้าลงไปดูภาพวาดสีน้ำที่มีตัวเองเป็นแบบนั้น ผมรู้สึกได้ถึงรังสีบางอย่าง...คล้ายๆจะเป็นรังสีอำมหิตซะด้วย

     

    ผมจึงละสายตาออกจากภาพวาด ทั้งที่อยากจะเอ่ยปากชื่นชมฝีมือการวาดภาพของอู่ฟานแต่ก็กลับพูดไม่ออกตอนที่เงยหน้าขึ้นแล้วเห็นสายตาของเซฮุน

     

    เหมือนลูกแมวที่กำลังน้อยใจ

     

    แต่ก็ยังทำท่าหยิ่งเชิดหน้าใส่

     

     

     

     

    เห็นแล้วอยากจับมาเกาคางชะมัด!!

     

     

     

     

     

     

    อย่างที่ได้บอกไปว่าวันนี้ผมมาทำโปรเจ็ค และการที่ต้องแชร์งานกับเอกจิตรกรรมที่อู่ฟานเรียนอยู่ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย แต่ดูเหมือนเซฮุนจะไม่เข้าใจ ถึงได้ถามเซ้าซี้อยู่นั่นว่าทำไมต้องไปเป็นแบบวาดภาพให้อู่ฟานด้วย

     

    “รายละเอียดมันยาว พูดไปนายก็ไม่เข้าใจหรอก”

     

    “ตั้งใจปิดบังกันชัดๆ”

     

    “กลายเป็นคนขี้น้อยใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”

     

    “ใครขี้น้อยใจ?” เซฮุนขมวดคิ้วใส่ผม

     

    “แมวหน้าดุแถวนี้^^

     

    แมวหน้าดุที่ผมว่าเข้าให้ทำหน้ามุ่ยยิ่งกว่าเดิมซะอีก

     

    “โอ๋ๆ งั้นเดี๋ยวพี่เลี้ยงลูกชิ้นปลาเอามั้ยเหมียวเซฮุน”

     

    ไม่อยากเชื่อแฮะ..แต่วิธีนี้ได้ผลล่ะ!

     

     

     

    หลังจากฝนตกไปเมื่อสองวันก่อนตอนนี้ก็คงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วสินะ.. ซุ้มขายลูกชิ้นปลาเล็กๆอบอวลไปด้วยควันโขมงสีขาวขุ่น และความอุ่นจากไอร้อนพวกนั้นเองที่ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ผมนั่งมองเด็กน้อยขี้งอนข้างๆกินอย่างกับไปตายอดตายอยากมาจากไหน แต่พอนึกเข้าดีๆวันนี้ผมก็ใช้งานเซฮุนหนักเอาการเหมือนกัน ให้ช่วยยกของเดินไปเดินมาแทบจะทั่วคณะ แถมหุ่นบางตัวก็ฝุ่นเกาะเขรอะจนต้องลงมือทำความสะอาดยกใหญ่.. ไม่เหนื่อยก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

     

    “อร่อยล่ะสิ”

     

    แมวหน้าดุเงียบ แต่ผมไม่โกรธเพราะเห็นอยู่ว่ามีลูกชิ้นปลาคาอยู่เต็มปาก

     

    “เหนื่อยปะวันนี้?”

     

    “โคตรๆ”

     

    “ตอบแบบรักษาน้ำใจมั่งได้ปะ?”

     

    “ก็มันเหนื่อยจริงๆหนิ งั่บ” ผมขำน้อยๆตอนที่เซฮุนเอาลูกชิ้นสองไม้ยัดเข้าปากพร้อมกัน

     

    “โชคดีนะที่ได้ทำงานกับอู่ฟาน เพราะหมอนั่นน่ะเก่ง แล้วก็ทำงานเร็ว ไม่งั้นนายคงได้เหนื่อยหลายวันแน่ๆ” หยิบเอาลูกชิ้นปลาเข้าปากบ้าง “อ้อ ลืมอวดว่าหมอนั่นน่ะเป็นเดือนคณะรุ่นพี่ด้วยนะ ทั้งหล่อทั้งเก่ง สาวๆติดเพียบ!

     

    “แฟนคลับเยอะกว่าชานยอลอีกนะ อ้าวเฮ้ย!!” ลูกชิ้นปลาห้าไม้ที่อยู่ตรงหน้าถูกฉกไปอย่างรวดเร็ว เซฮุนจับมันยัดเข้าปากพร้อมกันก่อนจะปัดก้นหนีไปซะดื้อๆ

     

    “เซฮุน!!! เซฮุน!! เป็นบ้าอะไรของเค้าเนี่ย?” ผมจัดการกับลูกชิ้นไม้สุดท้ายเสร็จแล้วก็ทำท่าจะวิ่งตาม หากแต่..

     

    “พ่อหนุ่ม ยังไม่จ่ายเงินป้าเลยนะจ้ะ”

     

     

     

     

     

     

    หนึ่งอาทิตย์กับการหายตัวไปของโอ เซฮุน

     

    มันก็เหมือนจะเป็นหนึ่งอาทิตย์ธรรมดาทั่วไป แต่จะว่าไปมันก็ไม่เชิง...

     

     

     

    “ทำไมทำหน้าหงอยๆงั้นอะพี่ลูฮาน?” หลานรหัสหน้าตาคล้ายลูกหมาชะโงกหน้ามาซะชิด ทำเอาคนที่ตกอยู่ในภวังค์เหม่ออย่างผมสะดุ้งจนแทบหงายหลัง “เฮ้ยพี่ระวังๆ”

     

    “อ่า..ไม่ได้เป็นไรหนิ”

     

    “ไม่จริงอะ” ถึงจะได้ยินที่ผมบอกว่าไม่ได้เป็นไร แต่ฝ่ายนั้นก็ยังทำหน้าไม่เชื่ออยู่ดี ลูกตาซุกซนนั่นเอาแต่จ้องหน้าผมอย่างกับจะสแกนเอาข้อมูลบางอย่างออกมาได้ยังไงยังงั้น

     

    “พี่เจอเชี่ยเซฮุนมันบ้างปะ ช่วงนี้มันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้อะ”

     

    ผมส่ายหน้า

     

    “เหลือเชื่อ!

     

    “เหลือเชื่ออะไร?”

     

    “เหลือเชื่อที่พี่ไม่รู้ไง เห็นช่วงนี้ตัวติดกันอย่างกะปาท่องโก๋”

     

    ผมได้แต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็เบี่ยงเบนความสนใจของแบคฮยอนโดยการเอาดินสอเคาะกับหน้าหนังสือที่พูดค้างไว้เมื่อครู่ หมาน้อยของผมทำท่าหงุดหงิดที่จู่ๆก็โดนลากเข้าบทเรียน แต่เด็กน้อยก็ยอมตั้งใจฟังที่ผมอธิบายต่ออยู่ดี

     

     

     

     

    “วันนี้เด็กหน้าโหดไม่มาช่วยเหรอ?”

     

    “ประชดกันปะเนี่ย?” อู่ฟานหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่เพื่อนสนิทดันรู้ไต๋ คนตัวสูงลุกขึ้นเก็บอุปกรณ์วาดเขียนของตัวเอง และด้วยความเคยชินมือใหญ่นั่นก็คว้าเอาเป้ของลูฮานติดมือไปด้วย

     

    “เฮ้ย เดี๋ยวถือเอง”

     

    “ให้ฉันถือให้เหอะ วันนี้นายเหนื่อยมาทั้งวัน”

     

    “เหนื่อยอะไร แค่นั่งเฉยๆให้นายวาดเอง”

     

    “นั่นแหละโคตรเหนื่อยเลย”

     

    ก็จริงแฮะ... คิดได้อย่างนั้น ลูฮานก็ยิ้มแป้นและเดินกึ่งกระโดดนำหน้าไปก่อน

     

    “เฮ้ย วันนี้อยากก๊งโซจูว่ะ ฉันเลี้ยงเอาปะ?”

     

    “ขี้เมานะเรา”

     

    “โหยยยย ไม่ได้กินมาตั้งนานแล้ววววว~” ฮ่าๆๆๆ ผมโกหกแหละ  เพราะอย่างที่รู้ว่าผมเพิ่งไปซ่ามาเมื่อตอนวันเกิด ^O^

     

    พลั่ก!

     

    และด้วยความที่ลั่นล้าจนเกินเหตุทำให้วิ่งซะจนไม่ดูตาม้าตาเรือ ตัวบางๆแทบล้มลงกับพื้นตอนที่กระแทกเข้ากับอีกคนที่เดินสวนมาอย่างจัง โชคดีที่คนๆนั้นดึงแขนเขาไว้ พร้อมๆกับที่อู่ฟานเองก็รับตัวเขาไว้จากข้างหลังได้ทัน...

     

    “เซฮุน!!

     

    ตาสวยเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ร่างโปร่งรีบผละออกจากอู่ฟานและเข้าไปดึงชายเสื้อเซฮุนไว้ “หายตัวไปไหนมาเนี่ย?”

     

    “ก็ไม่ได้หายไปไหนหนิ พี่นั่นแหละที่ไม่สนใจผม”

     

    “เห? น้อยใจอะไรเนี่ย?”

     

    เซฮุนไม่ตอบแต่เบนสายตาไปยังอู่ฟาน เขาเหลือบมองเป้ในมือใหญ่นั้นก่อนจะเอื้อมมือไปกระชากมันมาเป็นของตน “ผมไปส่ง” ว่าแล้วก็คว้าเอาข้อมือเล็กติดมือมาด้วย หากแต่ลูฮานรั้งตัวเอาไว้

     

    “เซฮุน อย่ามาทำตัวไม่มีมารยาทนะ เห็นมั้ยว่าพี่อยู่กับเพื่อน”

     

    คนหน้าดุทำตาขวางมองเพื่อนตัวสูงของเขา ลูฮานเลยแกะมือออกมาและกลับไปกระโดดกอดคออู่ฟาน “วันนี้เราจะไปก๊งโซจูกัน ถ้าไม่สนใจก็เชิญกลับหอไปเลยไป”

     

    “ผมจะไปด้วย!

     

     

     

     

     

     

     

     

    กลิ่นเนื้อย่างหอมฉุยชวนน้ำลายสอเสียจนอดใจไม่ไหว สามหนุ่มสามมุม(?)จึงตั้งหน้าตั้งตากันคีบเข้าปากจนลืมคุยกันไปชั่วขณะหนึ่ง กระทั่งเนื้อย่างอัดกันเต็มพุงจนกินต่อไม่ไหวนั่นแหละ เสียงบทสนทนาถึงได้เริ่มต้นขึ้น

     

    “วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!” ลูฮานวางขวดสีเขียวมรกตลงกลางโต๊ะดังปึก ตาใสๆส่อประกายวิบวับเจ้าเล่ห์อย่างที่หาดูได้ยากนั้นหันไปมองไอ้เด็กตัวกวนที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ตรงข้าม “โดยเฉพาะนาย โอ เซฮุน!

     

    “โหดกับเด็กมันไปป่ะ?”

     

    “ใครเด็ก?” อีกครั้งที่เซฮุนถามคำๆนี้ ไม่รอคำตอบเพราะไม่ได้ต้องการ..เขาก็คว้าขวดโซจูไปเปิดก่อนจะเทลงแก้วใบเล็กและกรอกเข้าปากเป็นคนแรก

     

    “เจ๋งดีนี่” อู่ฟานว่า “ลูฮาน วันนี้เราน่าจะรับน้องกันหน่อยนะ”

     

    “เป็นความคิดที่ดีแฮะ” คนตัวเล็กยิ้มร่าเห็นด้วยซะจนเซฮุนหงุดหงิด

     

     

     

    กติกาการรับน้องครั้งนี้ไม่ยากซักนิด ก็แค่ต้องตอบคำถามที่รุ่นพี่ถาม ถ้าตอบไม่ได้ก็ยกซดหมดแก้ว แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าไอ้คำถามเนี่ย มันไม่ธรรมดาทั้งนั้น หึหึ..

     

    จำได้ว่าตอนอยู่ปีหนึ่ง... ผมไม่กล้าตอบซักคำถาม

     

     

    ผลก็คือ เมาแอ๋จนแทบคลานกลับหอยังไงล่ะ !!

     

     

     

    “จูบแรกตอนไหน?” ผมเริ่มถาม นี่แค่เริ่มต้นนะ

     

    เซฮุนหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนไปกลอกตาเหมือนคนกำลังใช้ความคิด

     

    “อย่าบอกนะว่าไม่เคย”

     

    “ป.สอง”

     

    “เฮ้ย!! เด็กไปปะ?”

     

    “คนมันเจ๋ง”

     

    “โด่...” ไม่เชื่อมันหรอก... แต่ก็แอบคิดนะว่าไอ้เด็กนี่ไวไฟไปป่ะ ตอนผมอยู่ป.สองนะ ยังเป็นคนจับยางให้พวกเพื่อนผู้หญิงอยู่เลย =_=

     

    ผมจำต้องยกแก้วขึ้นกระดก ลืมบอกไปว่าถ้าน้องมันกล้าตอบ รุ่นพี่ก็ต้องเป็นคนกินแทน...

     

    “เคยแอบส่องใต้กระโปรงสาวมะ?” คำถามนี้อู่ฟานสรรสร้าง ถือว่าไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ แต่ผมก็อยากจะรู้คำตอบนะ

     

    “ไม่เคย”

     

    “อ่อนว่ะ”

     

    “เคยแต่วิ่งเปิดกระโปรง”

     

    “เฮ้ย!!!!” เป็นผมเองที่อ้าปากหวอ ไอ้เด็กนี่โคตรแรง!!

     

    และก็เป็นอู่ฟานที่ต้องรับหน้าที่จัดการโซจูแก้วนี้

     

     

     

     

    “ช่วยตัวเองครั้งแรกเมื่อไหร่” ไม่รู้ว่าไอ้อู่ฟานมันไปแค้นมาจากไหน แต่คำถามนี้โคตรแรง จำได้ว่าตอนปีหนึ่งผมไม่กล้าตอบ และคำถามนี้ก็เป็นคำถามน็อคดาวน์ผมด้วย

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

    “มอหนึ่ง”

     

     

    O_O!!!

     

     

    “ฮ...ฮ่าๆๆๆๆ” อู่ฟานหัวเราะขึ้นมาครับ เล่นเอาผมงง “แล้วไปเจออะไร ทำไมถึงได้อยากขึ้นมา” โอยเชี่ย..มีถามเจาะประเด็นเบื้องลึกด้วยนะ ขนาดผมเป็นผู้ชายยังเขินเลยนะเนี่ย!

     

     

    ไม่รู้ทำไม แต่จู่ๆผมก็เริ่มไม่กล้าสบตาไอ้เด็กนั่นขึ้นมาดื้อๆ

     

     

    อึก!

     

     

    กลายเป็นว่าหมอนั่นตัดสินใจยกโซจูขึ้นดื่ม

     

    อู่ฟานกดยิ้มมุมปาก แต่ผมทำเป็นหัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆๆ ไม่แน่จริงนี่หว่า”

     

    “ไม่หนุกเลยว่ะ เล่นกับเด็กอย่างนายเนี่ย” อู่ฟานพูดเสียงเรียบซะจนผมชะงักหัวเราะต่อไม่ออก ได้แต่หันมองเพื่อนตัวสูงและเด็กตัวยาวสลับกันไปมาตาปริบๆ

     

    “คำถามสุดท้าย ถ้านายตอบไม่ได้ ต้องยกทั้งขวด”

     

    “เฮ้ย ไม่ดีมั้ง” ยื่นมือออกไปหวังจะคว้าเอาขวดเหล้าออกมา แต่ทว่าอู่ฟานมันเร็วกว่าคว้าไปได้ซะก่อน

     

     

    อ่า...บรรยากาศมันมาคุแปลกๆแฮะ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หนึ่งอาทิตย์ก่อน

     

    ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยรูปปั้นคนหลากหลายอิริยาบถ เซฮุนนั่งคอตั้งจ้องเขม็งไปที่ผู้ชายตัวสูงหน้าหล่อคมอีกคนที่กำลังตั้งสมาธิอยู่กับการวาดภาพ ..ใช่ว่าเขาอยากจะอยู่ตามลำพังกับหมอนี่ แต่พี่ลูฮานที่โดนอาจารย์เรียกตัวไปกะทันหันทำให้เขาปฏิเสธสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี่ไม่ได้ต่างหาก

     

    “จ้องอย่างกับจะฆ่ากันงั้นล่ะ” อู่ฟานพูดแทรกความเงียบขึ้นมา ทว่าเซฮุนไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด

     

    “นายเป็นเพื่อนกับพี่ลูฮานจริงเหรอ?”

     

    “ตามจริงก็อยากเป็นมากกว่านั้น”

     

    คนอายุน้อยกว่ากัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงตอนที่ได้ยินคำตอบตรงๆจากอีกฝ่าย

     

    อู่ฟานละมือจากผืนผ้าใบและหันมาจ้องตาเขากลับ แววตาที่แน่วแน่ไม่ไหวติง

     

    “นายเองก็ดูออกไม่ยากนะ”

     

    “......”

     

    “แต่เหมือนจะสมหวังยากซักหน่อย”

     

    คำพูดที่จงใจจะหักหน้ากัน... ทำไมเซฮุนจะฟังไม่ออก

     

    “ลองกันซักตั้งมั้ยล่ะ?”

     

    “เอาสิ เด็กน้อย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อู่ฟานกดยิ้มมุมปาก

     

     

     

    “นาย...ชอบลูฮานใช่มั้ย?”

     

     

     

     

     

     

     

     

    ซาลาเปากับวาฟเฟิ่ล..

     

    ผมควรเลือกอะไรดี??

     

     

     

    มือบางหยิบเอาขนมทั้งสองชนิดขึ้นมา มองซาลาเปาอวบนุ่มสีขาวน่าทานจากเซฮุน สลับกับวาฟเฟิ่ลกลิ่นหอมยั่วน้ำลายสีเหลืองทองจากอู่ฟานก่อนจะสลัดหัวไปมา

     

    เล่นอะไรกันอยู่เนี่ย?

     

     

     

     

    “ลูฮาน เฮ้ย ไอ้ลูฮาน!!” เสียงเรียกจากเพื่อนร่วมเซคเดียวกันร้องเรียกอย่างตื่นเต้นเสียจนเขาตกอกตกใจ

     

    “อะไร มีอะไรเหรอ?” ได้แต่มองเพื่อนที่หอบจนตัวโยนด้วยสีหน้างงๆ

     

    “อู่ฟาน...”

     

    “หือ?”

     

    “อู่ฟานกับเด็กปีสอง.. คนที่ตามติดนายช่วงหลังๆเนี้ย..”

     

    “อ้อ เซฮุน... ทำไมเหรอ?”

     

    “แย่แล้วเว้ย!!

     

    “อะไรแย่?”

     

    “สองคนนั่น ฟอร์มทีมสตรีทบาส แฮ่ก.. ท้าแข่งกันวันนี้”

     

    “เฮ้ย แล้วทำไมสองคนนั่นต้องท้ากันด้วยล่ะ?”

     

    “นายไง”

     

    “หือ???”

     

    “เพราะนายนั่นแหละ”

     

     

     

    สมองผมยังประติดประต่อเรื่องราวไม่ได้ดีเท่าไรนัก แต่แรงฉุดกระชากจากเพื่อนทำให้ต้องวิ่งตามอย่างเสียไม่ได้ ทำไมสองคนนั้นต้องท้าแข่งกัน? ทำไมถึงเกี่ยวกับเขา? แล้วไอ้การแข่งบาสนี่มันน่าตกใจตรงไหนกัน? โอ๊ย...สับสนไปหมดแล้วนะ

     

     

    “พี่ลูฮาน” เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้ต้องหันมองหา ไม่นานก็เจอไอ้หมาน้อยหลานรหัสของผม “นั่นพี่คริส เดือนปีสี่ใช่ปะพี่ เออ เพื่อนสนิทพี่ด้วย?”

     

    “ใช่ ทำไมเหรอ อะไรเนี่ย แล้วทำไมคนถึงเยอะขนาดนี้ล่ะ”

     

    “สองคนนั้นน่ะเปิดศึกแย่งพี่”

     

    “ห้ะ??”

     

    “สองคนนั้นน่ะประกาศตอนก่อนเริ่มการแข่งขัน ว่าใครชนะจะได้พี่ไป”

     

    “ห๊า???”

     

    “ผมคิดแล้วเชียวว่าเชี่ยเซฮุนมันชอบพี่” แบคฮยอนยังคงเล่าต่อโดยไม่ได้สังเกตสีหน้าเอ๋อเหรอของเขาเลยซักนิด สมองของลูฮานเคว้งไปช่วงหนึ่ง “แต่ก็ไม่แน่อะพี่ ไอ้บ้านั่นมันอินดี้ บางทีมันอาจจะแค่รับท้าไปงั้นๆเพราะกลัวเสียฟอร์ม”

     

     

     

     

    “นาย...ชอบลูฮานใช่มั้ย?”

     

     

     

    อาจจะเป็นอย่างที่แบคฮยอนว่าก็ได้มั้ง...

     

     

    เด็กอินดี้แบบนั้น...เอาแน่เอานอนไม่ได้ซักอย่าง

     

     

     

     

     

    ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ผมก็ยังแอบเชียร์ทีมของเซฮุนอยู่ดี....

     

     

     

     

     

     

    แม้ว่าสุดท้าย เซฮุนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ตาม

     

     

     

     

     

    ร่างสูงโปร่งของเซฮุนเดินออกไปจากสนามอย่างหงุดหงิด เขาอยากจะวิ่งตามแต่ก็เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะแหวกผู้คนมากมายขนาดนี้ออกไปได้ “เซฮุน เซฮุนอา!

     

    ลูฮานวิ่งไปที่ชมรมบาสของคณะ แต่กลับมีเพียงอู่ฟานที่ยังอยู่ภายในนั้น ร่างเล็กตรงเข้าไปหาเพื่อนสนิทก่อนจะปล่อยหมัดออกไปเต็มแรง

     

    “ทำบ้าอะไรของนาย?”

     

    อู่ฟานยิ้มบาง เขายิ้มทั้งที่ไม่น่ามีเหตุผลให้ยิ้มได้ด้วยซ้ำ “ขอโทษนะลูฮาน”

     

    ดวงตาคู่สวยของลูฮานปริ่มไปด้วยน้ำตา แต่มือบางก็เร็วพอจะปัดปาดมันออกก่อนที่จะไหลอาบแก้มได้ทัน “เราเป็นเพื่อนกันนะ”

     

    “แต่ต่อไปนี้คงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะ”

     

    “ทำไม?”

     

    “ก็คิดกับนายเกินเพื่อนไปแล้ว”

     

    ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของร่างเล็ก มีเพียงสายตาที่จ้องมองเขากลับมาอย่างผิดหวัง เงียบกันได้เพียงครู่..ลูฮานก็หมุนตัวกลับ

     

    “ลูฮาน”

     

    “......”

     

    “อย่าไปโกรธเด็กนั่นอีกคนด้วยล่ะ” เด็กนั่น....เซฮุนน่ะเหรอ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

     

    ผมเริ่มรู้สึกรำคาญเสียงโอเปอเรเตอร์คนนี้ขึ้นมาก็วันนี้แหละ!!

     

     

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่ทำให้ผมอารมณ์เสียได้มากที่สุด ณ ตอนนี้คือโอ เซฮุนเจ้าของหมายเลขที่ติดต่อไม่ได้นั่น!

     

    หายตัวไปไหนของเค้าเนี่ย ???

     

     

    สมเพชตัวเองชิบเป๋ง แต่ตอนนี้ผมกำลังมานั่งกอดเข่าอยู่หน้าห้องของเซฮุน เหมือนกับตอนที่เค้าเคยไปนั่งคุดคู้อยู่หน้าห้องผมไม่มีผิดเพี้ยน

     

     

     

    เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้...

     

     

     

     

    “เฮ้ย!!” สะดุ้งจนหัวกระแทกประตูดังปั่ก.. ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง จู่ๆลืมตาขึ้นมาก็เจอคนมานั่งจ้องหน้าซะใกล้ขนาดนี้

     

    “มาทำไม?” เซฮุนถามทั้งยังไม่เอาหน้าออกไปห่างๆ

     

    “มาหานายอะแหละ”

     

    “เพื่อนพี่ปล่อยพี่มาได้ไง?”

     

    “พี่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่ใครจะล่ามโซ่ไว้ได้ซักหน่อย”

     

    “สัตว์เลี้ยงน่ารักแบบนี้ไม่มีใครเค้ากล้าล่ามโซ่หรอก” เซฮุนว่า ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาให้ตรงหน้าด้วย ลูฮานมองฝ่ามือหนานั้นก่อนจะวางมือลงไป

     

    “ไขประตูดิ”

     

    เซฮุนเหล่ตามอง แต่ลูฮานทำลอยหน้าลอยตาใส่ซะงั้น “อยากเข้าห้องผมอะดิ?”

     

    “ก็ทีนายยังเข้าห้องพี่ได้เลย”

     

    “ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย” คนตัวสูงลอบยิ้มก่อนจะผลักประตูเข้าไป ไม่ลืมที่จะหันกลับมาคว้าข้อมือคนตัวเล็กให้เดินตามไปด้วย

     

    “ห้องผมไม่มีอะไรกินเลยนะ พี่พอจะมีของกินติดมามั่งป่าว?”

     

    “ถามหาแต่ของกินตลอดเลยนะนาย” ลูฮานถอดเป้ออกจากตัว และแทบจะทันทีที่เซฮุนคว้ามันไปค้น “ไม่มีหรอกน่า”

     

    “พี่ไม่ได้กินซาลาเปาของผมเหรอ?”

     

    “หือ??”

     

    เขาหันไปก็เห็นเซฮุนโชว์ซาลาเปาก้อนอวบขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าบูด “แต่พี่กินวาฟเฟิ่ลของหมอนั่นใช่มั้ย?”

     

    “คนเค้ามีชื่อนะ อู่ฟานไม่ใช่หมอนั่น”

     

    “ถ้าสนใจกันมากแล้วมาหาผมทำไม เสียความรู้สึกว่ะ” สบถอย่างคนไม่สบอารมณ์ เซฮุนปัดเป้ออกจากตัวก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมโปงแล้วคู้ตัวเหมือนเด็กขี้งอน

     

    “งอนเหรอ?”

     

    เงียบ...

     

    “ไอ้แมวหน้าดุขี้งอนเอ๊ย!

     

    เงียบอีก...

     

     

     

    “ของอะไรที่ได้มาจากคนพิเศษ มันมักจะสำคัญที่สุดจริงมั้ย? และเพราะว่ามันสำคัญนี่แหละ...ก็เลยอยากจะเก็บเอาไว้ให้นานที่สุด...”

     

     

     

    “ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินซะหน่อย~

     

     

     

     

     

     

    “เฮ้!!” โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว โปงผ้าห่มผืนใหญ่ก็ลอยมาตะครุบตัวเขาไว้ทั้งตัว พร้อมๆกับที่ร่างหนักๆของเซฮุนจะแผ่ทับลงมาจนหงายท้องไปกับเตียงนุ่ม “หนักนะ!

     

    “พี่พูดจริงเหรอ? ผมเป็นคนสำคัญของพี่จริงๆน่ะเหรอ?”

     

    “ล้อเล่น!

     

    “เฮ้ย!!!

     

    “ล้อเล่นน่า”

     

    “เฮ้ย ตกลงยังไง?”

     

    “ทำความเข้าใจเองได้ป่ะล่ะ เขินนะเว้ย!

     

    เซฮุนยิ้มซะจนตาปิด...เห็นกวนๆแบบนี้เด็กนี่ก็มีมุมน่ารักกับเค้าเหมือนกันนี่เนอะ?

     

    “ตัวเองอะแหละ...”

     

    “ผมทำไม?”

     

    “ชอบพี่รึเปล่า...คำถามง่ายๆแต่ดันตอบไม่ได้ซะงั้น”

     

    “โหยย ก็ไม่อยากพูดต่อหน้าหมอนั่นนี่!

     

    “อู่ฟานไม่ใช่หมอนั่น”

     

    “ช่างเหอะน่า!!

     

    “เด็กไม่ดี”

     

    “เด็กไม่ดีแล้วชอบปะ?”

     

    “ไม่บอก :P

     

    “ไม่บอกปล้ำนะ”

     

    “เฮ้ย!!!!

     

    “ล้อเล่น”

     

    เถียงกันไปเถียงกันมาซะจนลืมสนิทว่ากำลังอยู่ในท่วงท่าแบบไหน พอรู้ตัวอีกทีแก้มใสๆก็แดงเรื่อ แม้จะอยู่ใต้โปงผ้าห่ม แต่สีแดงสดอย่างกับมะเขือเทศสุกนั้นกลับยังชัดเจนในสายตา...เซฮุนเลื่อนมือข้างหนึ่งไปจับประสานกับมือนุ่มนิ่มไว้ ส่วนอีกข้างก็เลื่อนไปลูบใบหูของคนน่ารักเบาๆและจับสายตาไว้เพียงใบหน้าสวยของพี่ลูฮาน

     

    “โคตรน่ารักเลยอะ”

     

    ชมแบบนี้จะให้ต่อยังไงเนี่ย?

     

    “หล่อได้ปะล่ะ?” แต่ลูฮานซะอย่าง ไม่จนมุมอยู่แล้วล่ะน่า..

     

    “หล่อน่ะผม พี่น่ะน่ารัก แล้วคนน่ารักก็ต้องคู่กับคนหล่อด้วยรู้ปะ?”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆ หลงตัวเองชะมัด”

     

    “พี่ลูฮาน” น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเป็นจริงจังให้ความรู้สึกชวนจั๊กจี้ชะมัด แต่ถึงอย่างนั้นลูฮานก็ยอมเงียบฟังอีกคน

     

     

     

    “เป็นแฟนกัน?”

     

     

     

     

    “ของ่ายไปปะ?”

     

    “เฮ้ย เขินหน่อยดิ โรแมนติกมั่งไม่เป็นเหรอ?” บทไอ้เด็กอินดี้มันอยากจะโรแมนติกขึ้นมา..ตามไม่ทันเลยแฮะ

     

    “อืม....”

     

    “อะไรนะ?”

     

    “ก็อืมไง”

     

    “อืมอะไรล่ะ?”

     

    “เซฮุนกับลูฮานเป็นแฟนกัน ชัดปะ?”

     

     

     

     

     

     

    “พูดอีกที...”

     

    “ไม่เอาแล่ว!

     

    “นะ พูดอีก...” เด็กตัวยาวส่งสายตาออดอ้อนมาให้เสียจนปฏิเสธไม่ลง ลูฮานหลบสายตา แต่ก็ยอมพูดมันออกไปเบาๆ

     

    “เซฮุนกับลูฮานเป็นแฟน.. อื้มม ม ม..”

     

     

    ก่อนที่ประโยคหวานๆจะถูกตัดบทด้วยจูบหวานๆที่ทำให้สติหลุดลอย

     

    จูบของเซฮุนบางเบาแต่กลับทำให้ใจหวามไหว ไม่ว่าจะเป็นการขบเม้มเพียงเล็กน้อยจากกลีบปากอุ่นนั้นที่ทำให้ใจเขากระตุกไปเสียทุกที หรือจะเป็นเรียวลิ้นที่รุกล้ำ..กวาดต้อนเสียจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ทุกอย่างที่ลูฮานกำลังสัมผัส มันช่างอบอุ่นจนไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าเจ้าของอ้อมกอดนี้จะเป็นโอ เซฮุน..เด็กบ้าที่แสนจะอินดี้

     

     

    เซฮุนจ้วงจูบซ้ำๆจนเขาเกือบหายใจไม่ทัน ครั้นเมื่อใบหน้าสวยแหงนเงยขึ้นกอบอากาศหายใจ ริมฝีปากร้อนก็ยังคงตามไปกดย้ำตามซอกคอและลาดไหล่...พี่ลูฮานหอม..ทั้งหอมทั้งหวานไปทั้งตัว

     

     

     

    ไม่อยากสนใจแล้วว่าเรื่องคืนนั้นระหว่างเค้าทั้งสองเป็นแบบไหน

     

    ไม่อยากจะรู้ซักนิดว่าที่คิดไปเองมันเป็นจริงรึเปล่า??

     

     

     

    ก็แค่วันนี้...

     

     

     

    แค่วันนี้ที่เขามีพี่ลูฮานอยู่ในอ้อมกอด

     

     

     

     

    แค่วันนี้ที่ทุกสัมผัสจะถูกจดจำไว้ภายในความทรงจำของเซฮุนกับลูฮาน

     

     

    ความทรงจำที่ไม่มีวันจะลบเลือน

     

     

     

     

    *

     

     

     

     

     

     

    แล้วคุณล่ะ...อยากลองมีความรักแบบอินดี้ๆมั่งมั้ยครับ?



    KatereKun | เอาตอนจบมาลงให้แล้วค่ะ ^^ หวังว่าจะยิ้มตอนที่อ่านถึงบรรทัดนี้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×