คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไม่แน่ใจ...คือความหวั่นไหว หรือ รักแท้
ในขณะที่ซุนคูยังยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนภายในห้องนอนของตัวเอง เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ผ่านร้อนมาผ่านหนาวมา ด้วยวัยเพียง 30 ปี เขาเรียนรู้อะไรหลายอย่าง รู้จักคนหลายคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่นัตซึมิเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อาจเลิกคิดถึงเธอได้ เขาไม่รู้ว่านัตซึมิอยู่ในฐานะอะไรสำหรับเขา เพื่อนร่วมงานหรือ เพื่อนสนิท หรือจะอะไรก็แล้วแต่ จะสำคัญหรือด้อยค่าสำหรับเขาแค่ไหน เขาไม่อาจบอกได้ แต่ สิ่งเดียวที่รู้ก็คือเขาจะชอบคิดถึงเรื่องเธอเวลาที่อยู่คนเดียวอย่างในตอนนี้ เขาเองก็ไม่อยากยอมรับว่าการไปทานข้าวกับเธอจะทำให้เขารู้สึกประทับใจในตัวเธอมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่มันก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ไปเสียแล้ว
หลังจากการดินเนอร์ในครั้งนั้นก็ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น และสามารถก้าวสู่ระดับของความเป็นเพื่อนอย่างวันนี้ ซุนคูอาสานัตซึมิเป็นโชเฟอร์ขับรถพาเธอไปชอบปิ้งและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เพราะอีกไม่กี่วัน นัตซึมิต้องเดินทากลับญี่ปุ่นแล้ว
"อะนี้...ค่าจ้างของนาย" นัตซึมิยื่นขนมปังและกาแฟร้อนให้ซุนคู เพื่อเป็นการตอบแทนเรื่องที่จะรบกวนเขาในวันนี้
"เช่นกัน..นี่เป็นบริการพิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญ" ซุนคูเองก็เตรียมขนมปังและน้ำผลไม้มาให้นัตซึมิเช่นกัน ทั้งสองต่างก็รับของจากอีกฝ่ายและออกเดินทาง
"เรามาเริ่มด้วยการท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญของ โซลก่อนดีกว่านะ..."ซุนคูแนะนำ
"ได้สิ...ดีเหมือนกัน ชั้นก็อยากรู้จักเมืองที่คุณแม่ของชั้นเคยอยู่มาเมื่อ 30 ปีก่อน " นัตซึมิให้ความสนใจและเห็นด้วยความคิดของซุนคู
"คุณแม่ของคุณเคยอยู่ที่นี่เหรอ" ซุนคูสงสัย
"อ้าวนี้ชั้นยังไม่ได้เล่าให้คุณฟังเหรอ......คุณแม่ชั้นเป็นคนเกาหลีเนียะแหละ ท่านเกิดที่โซล และได้เจอกับคุณพ่อของชั้นซึ่งเป็นคนญี่ปุ่น ท่านก็เลยย้ายไปอยู่ที่ญี่ปุ่นตามคุณพ่อของชั้น " นัตซึมิเล่าเรื่องของตนเองให้ซุนคูฟัง ซึ่งเขาเองฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
"เพิ่งรู้นะเนียะว่าคุณก็เป็นคนเกาหลีเหมือนกัน" ซุนคูดีใจ
"ชั้นไม่ค่อยเล่าให้ใครก็เลยไม่มีใครรู้ เพื่อนสนิทชั้นบางคนยังไม่รู้เลย ไม่รู้ชั้นเผลอเล่าให้คุณฟังไปได้ยังไง" นัตซึมิเพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอพูดอะไรที่ไม่ควรออกไป
"ไม่เห็นไปไรเลย..ผมว่าดีซะอีก" ซูนคู
"ดียังไง"นัตซึมิไม่เข้าใจความหมายของ ซุนคู
ซุนคูเองก็หันมายิ้ม ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาจะบอกเธอได้ยังว่า ที่เขารู้สึกว่าดีก็เพราะเผื่อวันหน้าเธออาจต้องมาอยู่ที่นี่ จะได้รู้สึกเหมือนบ้านตัวเอง เขาเองก็แปลกเหมือนกันว่าคิดอย่างนั้นไปได้ยังไง ทั้งที่มันไม่มีทางเป็นไปไม่ได้เลย
วันนั้นทั้งวัน ซุนคูพานัตซึมิเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ที่สำคัญของ โซล ทั้งวัดวา ห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่าง ๆ จนเวลาในหนึ่งวันที่ใครคิดว่ายาวนาน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ที่สุดทั้งคูก็มาจบตรงที่จุดชมวิวที่สวยงามนอยอดเขาแห่งหนึ่ง
"วันนี้สนุกมาก ขอบคุณมากนะ " นัตซึมิกล่าวขอบคุณ เธอคิดว่าถ้าไม่ได้ ซุนคูเป็นไกด์พาเที่ยวอย่างนี้ ก็คงไม่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้แน่ ๆ นี่ยังไม่รวมถึงการดูแลมากมายที่ซุนคูทำให้เธอเป็นอย่างดี จนเธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงเลย
"เป็นอะไรไป...ดูหน้าตาเศร้า ๆ " ซุนคูถามเมื่อสังเกต นัตซึมิแปลก ๆ ไป
"ไม่รู้สิ.....รู้สึกใจหายเหมือนกันนะ อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับบ้านแล้ว ชั้นคงมาอยู่ที่นี่นานไปมั้งเลย รู้สึกใจหายเมื่อต้องจากไป" นัตซึมิไม่อยากยอมรับตัวเองว่า เธอรู้สึกเหงา ว้าเหว่อย่างบอกไม่ถูกที่ต้องจากที่นี่ไปแต่ก็คิดว่าคงเป็นที่ธรรมดา ที่คนเราจะต้องรู้สึกใจหาย หรือคิดถึงที่ ๆ ตนเองเคยอยู่มานานแบบนี้
"เอาไว้คุณก็มาเที่ยวใหม่ก็ได้นี่......ที่นี่ยินดีต้อนรับคุณเสมอ....และผมจะเป็นคนพาคุณเที่ยวอีกดีไหม" ซูนคูปลอบใจ นัตซึมิ ในตอนนั้นเองที่ซุนคูได้มีโอกาสมองใบหน้าของนัตซึมิได้ชัดเจนที่สุด ตั้งแต่รุ้จักเธอมาเป็นเวลา 2 เดือน
เธอเป็นคนสวย แม้จะไม่ใช่คนที่ใครจะประทับใจเมือแรกเห็น แต่เมือได้รู้จักเธอ ได้ค้นพบความเป็นเธอในที่ในทุกวันที่คบกัน ซุนคูเพิ่งตระหนักได้ชัดเจนว่า เธอเป็นผู้หญิงงดงามหรือเกิน เธอจะรู้ไหม ว่าเขาแอบชื่นชมเธออยู่ในใจเงียบ ๆ ในตอนนี้
"ขอบคุณมากนะสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา " นัตซึมิกล่าวขอบคุณอีกครั้ง เธอเองเมื่อได้มองตาซุนคุ ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและมิตรภาพที่สวยงาม ที่เขามอบให้เธอ แต่ก่อนเธอเป็นคนกลัวผู้ชายทุกคนที่เข้ามาใกล้ชิด เพราะคิดมาตลอดว่า ผู้ชายคนเดียวที่ไว้ใจได้คือ ทัตซึยะคู่หมั้นของเธอที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่มีโอกาสทำความรู้จักกับผู้ชายคนอื่น ๆ เลย ซุนคูเป็นคนแรกที่ทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายไม่ได้เลวร้ายไปทุกคน และคู่หมั้นของเธอไม่ใช่คนเดียวที่ดีที่สุด
"กลับกันดีกว่าผมจะส่งคุณเอง ที่นี่เวลากลางคืนอากาศจะเย็นมาก เดี่ยวคุณจะเป็นหวัดไปเสียก่อน" ซุนคูชวนนัตซึมิกลับที่พัก เพราะเป็นห่วงสุขภาพเธอ ทั้งที่พูดไปอย่างนั้น แต่แท้จริงแล้ว เพราะกลัวใจตัวเองมากกว่า
"อุ๊ย" นัตซึมิกระเป่าเงินหล่นในขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้น ด้วยความรีบร้อนเธอจึงก้มลงหยิบอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันสังเกตว่าซุนคูเองก็ก้มลงเพื่อจะหยิบของให้เธอเช่นกัน ทำให้ศีรษะทั้งสองฝ่ายชนกันอย่างจัง
"โอ๊ยเจ็บนะ...นี่คุณทำอะไรของคุณ" นัตซึมิบ่นในขณะเอามือจับศีรษะบริเวณที่เกิดการปะทะกัน
"ไหนผมดูให้..ผมก็เจ็บเหมือนกันนะ" ซุนคูพูดขึ้นมาและพลางใช้มือลูบบริเวณหน้าผากของนัตซึมิ
ช่วงเวลาเล็ก ๆ เท่านั้นที่ทั้งสองได้อยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุดเท่าที่เคยมา มากจนได้ยินเสียหัวใจของอีกฝ่ายได้สัมผัสถึงลมหายใจของกันและกัน ในตอนนั้นเองหัวใจได้ทำหน้าที่ของมัน เพื่อเปิดเผยความรู้สึกลึก ๆ ที่แม้เจ้าตัวยังไม่รู้แสดงออกมาให้อีกฝ่ายได้สัมผัสกันและกัน อาจด้วยบรรยากาศหรือความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจบอกได้ ทำให้ทั้งสองคนจุมพิตกันเบา ๆ
"คุณ...."นัตซึมิเป็นฝ่ายที่รู้สึกตัวก่อน ด้วยความตกใจเธอจึงเผลอตบหน้าซุนคูไป
"ผมขอโทษ...แต่ผม" ซุนคูพยายามจะอธิบาย แต่แล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน
"ชั้นตามหาคุณซะทั่ว ไม่นึกว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่กับผู้หญิงคนอื่น " หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นแม้น้ำเสียงจะไม่ได้แสดงถึงความโกรธเคือง แต่มันก็ซ่อนความไม่พอใจไว้ไม่มิด
"บุนอา....คุณมาทำอะไรที่นี่" ซุนคูตกใจมาก ที่อยู่ๆ คู่หมั้นของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
"สวัสดีค่ะ..ชั้นคูบุนอา เป็นคู่หมั้นของ มุนซุนคู ถ้าคู่หมั้นชั้นทำอะไรไม่ดี ต้องขอโทษด้วยนะคะ เขาก็เป็นอย่างนี้เสมอละค่ะ มีแต่ชั้นคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะให้เกียรติเสมอ....."บุนอาไม่ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อ เธอเปิดศึกทันที จนทำให้นัตซึมิตอบอะไรไม่ถูก
"บุนอา ..."ซุนคูเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับนัตซึมิ คือทำอะไรม่ถูกเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสติพอที่จะหันไปอธิบายกับนัตซึมิ
"นัตซึมิ..มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ........."ก่อนที่จะพูดอะไรต่อ ซุนคูก็โดนนัตซึมิตบหน้าอีกครั้ง และเป็นครั้งที่แรงกว่าครั้งแรกแน่นอน
"ชั้นเกลียดคุณที่สุด ........." นัตซึมิวิ่งหนีไป ซุนคูพยายามจะตามไป แต่บุนอาเข้ามากอดเขาไว้ก่อน แม้ว่าอยากจะตามเธอไปแค่ไหน แต่ บุนอาก็เป็นคู่หมั้นของเขา ถ้าหากเขาทำอะไรไม่ดีกับเธอ เชื่อได้ว่าเขาจะต้องเดือดร้อนภายหลังแน่นอน
"คิดถึงคุณจังเลย......."บุนอาพูดอย่างมีความสุข ขณะที่โอบกอดซุนคูจากด้านหลัง
"ผมก็คิดถึงคุณ" ซุนคุเซ็งสุด ๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาพาบุนอาไปส่งบ้านและพยายามลืมเรื่อง นัตซึมิไป เขาคิดว่าบางทีอาจเป็นเพียงความหวั่นไหวไปเท่านั้น และเธอคงไม่คิดอะไรกับเขา ในเมื่อเธอก็มีคูหมั่นอยู่แล้ว ที่สำคัญเขาก็มีบุนอา แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอแต่เขาก็ตกใจหมั้นกับเธอไปแล้ว ตามคำสั่งของคุณพ่อ เขาจึงต้องให้เกียรติเธอให้มาก และอาจต้องมากกว่านัตซึมิ ผู้หญิงที่เขาเพิ่งรู้จักคนนั้น
"คุณพ่อของชั้นจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับชั้นกลับมา และที่เรียนจบปริญญาโทจากฝรั่งเศสในวันเสาร์นี้ ชั้นคิดถึงคุณมาก ก็เลยอาสามาแจ้งข่าวเอง ไม่นึกเลยว่าจะมาขัดจังหวะ" บุนอาพูดเรียบ ๆ เธอเป็นคนเก็บความรู้สึก ไม่ค่อยแสดงออกเลยดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนเรียบร้อย แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก หัวรั้นสุด ๆ ซุนคูรู้ถึงเรื่องนี้ดีเขาจึงไม่เคยไว้ใจในการกระทำต่าง ๆ ของบุนอา เขาไม่คิดว่าเธอจะยอมจบแค่นี้
"ไม่เห็นบอกผมว่าจะกลับมา" ซุนคู
"ชั้นอยากเซอร์ไพร์คุณ ไม่คิดว่าจะเป็นชั้นเองที่เซอร์ไพร์ เธอเป็นใครคะ " บุนอา
"ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง...คุณเลิกพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่านะ
คุณจะแคร์ทำไม ยังไงคุณก็เป็นคู่หมั้นผมไม่ใช่เหรอ ใครจะมาเทียบคุณได้ " ซุนคูพูดประชด เพราะเริ่มรำคาญ กับคำถามซ้ำซากของบุนอา ที่ไม่ยอมเลิกพูดถึงนัตซึมิ ทั้งที่เขาพยายามจะลืม
"ความจริงชั้นก็ไม่ได้แคร์อะไรนะ แต่แปลกใจมากกว่า ชั้นไม่เคยเห็นคุณจูบใครกลางถนนแบบนี้ ปกติคุณเป็นคนสุขุมและก็วางตัวดีเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น แม้กับชั้นคุณก็ยังไม่เคยทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณรักเธอมาก เธอก็คงให้ท่าคุณจนคุณห้ามใจไม่อยู่สินะ แต่ชั้นก็ไม่ถือหรอก เพราะชั้นรู้ฐานะตัวเองดี ว่าแต่คุณเถอะรู้ฐานะตัวเองหรือเปล่า" บุนอาก้าวลงจากรถ ทิ้งไว้แต่คำพูดแต่ละคำที่ทำให้ซุนคำต้องคิดหนัก
"อะไรนะครับ...คุณนัตซึมิเดินทางกลับญี่ปุ่นแล้ว" ซุนคูตกใจมากที่นัตซึมิกลับไปโดยไม่ล่ำลา
"ครับ ทางเราเห็นว่า เธอหมดหน้าที่แล้ว งานที่เหลือๆ ก็มีไม่กี่อย่าง อีกอย่างเห็นเธอบอกว่ามีธุระที่ต้องกลับไปจัดการ ทางเราก็เลยอนุญาต ไม่ทราบว่าคุณ ซุนคู มีธุระอะไรกับเธอหรือเปล่าครับ " ผู้จัดการจากบริษัท เอชิดะ ที่นัตซึมิทำงานอยู่ได้เข้าประชุมในเช้าวันนั้นโดยไม่มี นัตซึมิมาด้วยทำให้ ซุนคูแปลกใจอย่างมาก
"งั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ
..เอ่อแล้วขอความกรุณาอย่าบอกเรื่องที่ผมเป็นประธานบริษัท LD กรุ๊ป กับนัตซึมินะครับ ความจริงที่ผมเสนอตัวเป็นล่ามให้กับบริษัทของคุณในตอนแรกก็เพราะผมอย่างจะเรียนรู้งานในระดับปฏิบิติงานเท่านั้น ถือว่าผมขอร้อง แล้วยังไงเรื่องธุรกิจของเราคงจะไปได้ด้วยดี ลาก่อนครับ" ซุนคูรีบออกจาบริษัททันที
ความคิดเห็น