ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงรักซาตาน

    ลำดับตอนที่ #8 : ทางตัน

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 64


    ทางตัน

                   

    เสียงของนาฬิกาปลุกนานแล้ว แต่อิงค์กาญจน์ยังนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอน

    เป็นเช้าวันจันทร์ที่ขี้เกียจไปทำงาน ครั้งแรกในรอบหลายปีที่เข้าทำงานที่โรงแรมในเครือวัฒนาไพศาล การต้องเผชิญหน้ากับเจ้านายผู้เย็นชาเป็นสิ่งที่เธอหวั่นใจ

    หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นสะบัดศีรษะไปมา เพื่อไล่ความวิตก

    อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดคิดได้แค่นั้นก็จัดการธุระส่วนตัว หารู้ไม่ว่ามีภัยอันตรายรอเธออยู่ข้างหน้า

     

    “กริ๊งๆ”

    “ค่ะ ได้ค่ะพี่แข”

     อิงค์กาญจน์รับคำหัวหน้าบัญชีที่ให้เธอไปพบที่ห้องทำงานตามปกติเช่นที่เคยเป็นมา เพ็ญแขมักเรียกให้หญิงสาวไปรับงานด่วนมาทำแบบนี้เป็นประจำ แต่ครั้งนี้หาใช่เหมือนครั้งก่อนๆไม่

    “ก๊อกๆ”

    “เข้ามา” เสียงผู้สูงวัยกว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าผู้มาใหม่เป็นใคร

    อิงค์กาญจน์หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครอีกคนที่นั่งไขว่ห้างตรงข้ามกับพี่แขของเธอ โดยมีเลขาคนสนิทอย่างอาวุธยืนหน้านิ่งอยู่ห่างออกไปทางด้านหลัง

    หญิงสาวฝืนยิ้มพร้อมกับยกมือสวัสดีอย่างเสียมิได้ หล่อนไม่คิดจะเจอเขาที่นี่ เวลานี้

    “นั่งก่อนสิอิง”

                    “ค่ะ”

                    น้ำเสียงอันอบอุ่นของเพ็ญแขดึงสติของหญิงสาวให้กลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า

    มันต้องมีเรื่องอะไรแน่ลางสังหรณ์บอกหล่อนเช่นนั้น

    “ที่พี่เรียกอิงมาวันนี้ พี่มีเรื่องจะขอความช่วยเหลืออิงหน่อยจ๊ะ”

    หญิงสูงวัยกล่าวด้วยน้ำเสียงขอความช่วยเหลือกึ่งบอกเล่า

    “คุณปราณนต์เขาต้องการคนมีความรู้ด้านบัญชีไปช่วยดูข้อมูลบางอย่างที่เป็นความลับมาก ซึ่งพี่มองไม่เห็นใครจริงๆ เพราะถ้าเรื่องนี้รั่วไหลจะมีผลเสียต่อบริษัท”

    ปราณนต์มองหน้าหญิงสาวนิ่ง อย่างรอคำตอบว่าหล่อนจะตอบรับหรือปฏิเสธ

    เดิมทีเขาแค่อยากได้ใครสักคนที่ไว้ใจได้ และมั่นใจว่าเพ็ญแขจะช่วยเขาได้ในเรื่องนี้ ในวันที่เขามาปรึกษาคนเก่าแก่ของบิดา ก็ได้เสนอหญิงสาวตรงหน้าเขาให้ มีบางอย่างบอกเขาให้ตอบตกลงในทันที และแจ้งความประสงค์กับเพ็ญแขว่าต้องเป็นหล่อนเท่านั้น ทั้งที่เจ้าหล่อนพยายามหลีกหนีเขาทุกทาง แต่เขาก็จะดึงหล่อนให้เข้าใกล้เขา

    อิงค์กาญจน์เลือกที่จะไม่มองหน้าเขา แต่รู้สึกถึงกระแสบางอย่างที่ส่งมาถึงหล่อน เขากำลังจดจ้องหล่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย

    “เริ่มงานเมื่อไรคะ”

    หญิงสาวเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มันก็แค่เรื่องงาน คงไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเธอก็คงส่งงานผ่านเลขาของเขาอย่างอาวุธเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

    “ขอบใจอิงมากนะที่ช่วย เริ่มวันนี้เลยจะ”

    เพ็ญแขเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงการขอบคุณจากใจ นางไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ของเจ้านายที่ระบุว่าต้องเป็นอิงค์กาญจน์เท่านั้น

    “อาวุธ ไปเก็บของของคุณอิงค์กาญจน์ไปห้องทำงานฉันด้วย”

    น้ำเสียงอันทรงอำนาจ สั่งเลขาหลังจากหญิงสาวตอบตกลง

    “เดี๋ยวนะคะ เก็บของอะไรหรอคะพี่แข”

    หญิงสาวเลือกที่จะถามหญิงสูงวัยตรงหน้า โดยไม่หันไปถามคนตัวโตที่สั่งเลขาคนสนิท

    “อ้อพี่ลืมบอกอิง ว่าอิงต้องไปนั่งทำงานในห้องทำงานของคุณปราณต์ เพราะเป็นข้อมูลลับ ไม่สามารถนำเอกสารออกมาทำข้างนอกได้”

    “ตามนั้นนะ ขอบคุณน้าแขมากครับ ผมขอตัวก่อน”

    ปราณนต์เอ่ยทิ้งท้ายแค่นั้น ก็หันไปสบตากับเลขาแล้วเดินออกไป ทิ้งให้อิงกาญจน์อึ้งพูดอะไรไม่ออก จะกลับคำก็ไม่ได้

    ทำใจยอมรับได้อย่างเดียวอิงเอ๊ยอิงค์กาญจน์คิดได้แค่นั้นก็ขอตัวไปเก็บของ

     

    อิงค์กาญจน์เริ่มทำงานตั้งแต่ย้ายของมาโต๊ะทำงานใหม่ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววเจ้าของห้อง หล่อนรู้สึกโล่งใจ และทำงานเพลินจนใกล้เที่ยง หล่อนขนของใช้เฉพาะที่จำเป็นมา เพราะคิดว่าถ้างานนี้เสร็จสิ้นเธอก็จะได้กลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะเดิม

    คิดได้อย่างนั้นอิงค์กาญจน์ก็ตั้งหน้าตั้งตาตรวจสอบเอกสารที่เลขาคนสนิทของคนเจ้าปัญหา เธอเรียกเขาว่าอย่างนั้น จนท้องเจ้ากรรมร้อง จึงหันมามองนาฬิกาข้อมือตัวเอง

    “ห๊ะ จะบ่ายแล้ว”

    อิงค์กาญจน์เก็บเอกสารบนโต๊ะจนหมดใส่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน โดยไม่ลืมล๊อก คว้ากระเป๋าเงินใบจิ๋วกับโทรศัพท์มือถือเตรียมออกไปหาอะไรทาน

    “ขอโทษที่ผมเอาอาหารกลางวันมาให้ช้าครับ”

    อาวุธเอ่ยอย่างสำนึกผิด แล้วชี้ให้แม่บ้านที่ถือถาดอาหารเดินตามหลังเขามา โดยที่อีกฝ่ายยังงงกับคำกล่าวของชายตรงหน้า

    “อะไรหรือคะ”

    “บอสให้ผมเอาอาหารกลางวันมาให้คุณอิงครับ พอดีบอสติดประชุมด่วน ไม่สามารถมาทานกลางวันด้วยได้ครับ”

    “ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวดิฉันไปหาทานเองได้ค่ะ”

    กว่าที่อิงค์กาญจน์จะตอบกลับอาวุธได้ ก็ผ่านไปหลายวินาที เธอสะดุดกับคำบอกเล่าของเลขาหนุ่มที่บอกว่าบอสของเขาไม่สามารถมาทานอาหารกลางวันกับหล่อนได้ เขามีเหตุผลอะไรถึงบอกเลขาเขาแบบนั้น

    “ถ้าคุณอิงไม่ทาน ผมต้องโดนดุแน่ๆ เลยครับ ได้โปรดเห็นใจผมด้วยนะครับ”

    เลขาหนุ่มกล่าวอย่างอ้อนวอนพร้อมทำตาละห้อยจนคนถูกอ้อนวอนต้องยอมอย่างจำใจ

    “ก็ได้ค่ะ แต่ครั้งนี้แค่ครั้งเดียวนะคะ ดิฉันก็เป็นแค่พนักงานคนหนึ่งเท่านั้น อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ฝากบอกบอสคุณด้วย”

    อิงค์กาญจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ

    “ขอบคุณมากครับ ทานอาหารกลางวันให้อร่อยนะครับ”

    เลขาหนุ่มออกจากห้องไปนานแล้ว แต่หญิงสาวยังคงนั่งมองอาหารที่วางบนโต๊ะโดยไม่แตะต้อง หล่อนไม่เข้าใจว่าคนสั่งการเขาคิดอะไรกันแน่ ตั้งแต่ให้หล่อนมาทำงานใกล้ๆเขาแล้ว ยังมาทำดีด้วยอีก

    หรือเขามีแผนอะไร

    คิดได้แค่นั้น หญิงสาวก็ก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าจนหมด พร้อมเตรียมยกถาดอาหารจะไปเก็บห้องครัว แต่แม่บ้านคนเดิมก็เคาะประตู พร้อมเดินเข้ามาพร้อมแจ้งความประสงค์กับหล่อนแล้วเก็บถาดไป

    อิงค์กาญจน์กล่าวได้แค่คำขอบคุณ แล้วหันกลับมาสนใจงานที่ยังทำค้างต่อ หวังให้งานนี้สำเร็จโดยเร็วที่สุด เธอจะได้ออกไปจากห้องนี้เสียที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×