คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ทางตัน
ทางตัน
เสียงของนาฬิกาปลุกนานแล้ว
แต่อิงค์กาญจน์ยังนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอน
เป็นเช้าวันจันทร์ที่ขี้เกียจไปทำงาน
ครั้งแรกในรอบหลายปีที่เข้าทำงานที่โรงแรมในเครือวัฒนาไพศาล การต้องเผชิญหน้ากับเจ้านายผู้เย็นชาเป็นสิ่งที่เธอหวั่นใจ
หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นสะบัดศีรษะไปมา เพื่อไล่ความวิตก
‘อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด’ คิดได้แค่นั้นก็จัดการธุระส่วนตัว
หารู้ไม่ว่ามีภัยอันตรายรอเธออยู่ข้างหน้า
“กริ๊งๆ”
“ค่ะ ได้ค่ะพี่แข”
อิงค์กาญจน์รับคำหัวหน้าบัญชีที่ให้เธอไปพบที่ห้องทำงานตามปกติเช่นที่เคยเป็นมา
เพ็ญแขมักเรียกให้หญิงสาวไปรับงานด่วนมาทำแบบนี้เป็นประจำ
แต่ครั้งนี้หาใช่เหมือนครั้งก่อนๆไม่
“ก๊อกๆ”
“เข้ามา” เสียงผู้สูงวัยกว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าผู้มาใหม่เป็นใคร
อิงค์กาญจน์หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครอีกคนที่นั่งไขว่ห้างตรงข้ามกับพี่แขของเธอ
โดยมีเลขาคนสนิทอย่างอาวุธยืนหน้านิ่งอยู่ห่างออกไปทางด้านหลัง
หญิงสาวฝืนยิ้มพร้อมกับยกมือสวัสดีอย่างเสียมิได้ หล่อนไม่คิดจะเจอเขาที่นี่
เวลานี้
“นั่งก่อนสิอิง”
“ค่ะ”
น้ำเสียงอันอบอุ่นของเพ็ญแขดึงสติของหญิงสาวให้กลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า
‘มันต้องมีเรื่องอะไรแน่’ ลางสังหรณ์บอกหล่อนเช่นนั้น
“ที่พี่เรียกอิงมาวันนี้
พี่มีเรื่องจะขอความช่วยเหลืออิงหน่อยจ๊ะ”
หญิงสูงวัยกล่าวด้วยน้ำเสียงขอความช่วยเหลือกึ่งบอกเล่า
“คุณปราณนต์เขาต้องการคนมีความรู้ด้านบัญชีไปช่วยดูข้อมูลบางอย่างที่เป็นความลับมาก
ซึ่งพี่มองไม่เห็นใครจริงๆ เพราะถ้าเรื่องนี้รั่วไหลจะมีผลเสียต่อบริษัท”
ปราณนต์มองหน้าหญิงสาวนิ่ง
อย่างรอคำตอบว่าหล่อนจะตอบรับหรือปฏิเสธ
เดิมทีเขาแค่อยากได้ใครสักคนที่ไว้ใจได้
และมั่นใจว่าเพ็ญแขจะช่วยเขาได้ในเรื่องนี้ ในวันที่เขามาปรึกษาคนเก่าแก่ของบิดา
ก็ได้เสนอหญิงสาวตรงหน้าเขาให้ มีบางอย่างบอกเขาให้ตอบตกลงในทันที
และแจ้งความประสงค์กับเพ็ญแขว่าต้องเป็นหล่อนเท่านั้น
ทั้งที่เจ้าหล่อนพยายามหลีกหนีเขาทุกทาง แต่เขาก็จะดึงหล่อนให้เข้าใกล้เขา
อิงค์กาญจน์เลือกที่จะไม่มองหน้าเขา
แต่รู้สึกถึงกระแสบางอย่างที่ส่งมาถึงหล่อน เขากำลังจดจ้องหล่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เริ่มงานเมื่อไรคะ”
หญิงสาวเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
มันก็แค่เรื่องงาน คงไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะเธอก็คงส่งงานผ่านเลขาของเขาอย่างอาวุธเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“ขอบใจอิงมากนะที่ช่วย เริ่มวันนี้เลยจะ”
เพ็ญแขเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงการขอบคุณจากใจ
นางไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ของเจ้านายที่ระบุว่าต้องเป็นอิงค์กาญจน์เท่านั้น
“อาวุธ ไปเก็บของของคุณอิงค์กาญจน์ไปห้องทำงานฉันด้วย”
น้ำเสียงอันทรงอำนาจ สั่งเลขาหลังจากหญิงสาวตอบตกลง
“เดี๋ยวนะคะ เก็บของอะไรหรอคะพี่แข”
หญิงสาวเลือกที่จะถามหญิงสูงวัยตรงหน้า
โดยไม่หันไปถามคนตัวโตที่สั่งเลขาคนสนิท
“อ้อพี่ลืมบอกอิง
ว่าอิงต้องไปนั่งทำงานในห้องทำงานของคุณปราณต์ เพราะเป็นข้อมูลลับ
ไม่สามารถนำเอกสารออกมาทำข้างนอกได้”
“ตามนั้นนะ ขอบคุณน้าแขมากครับ ผมขอตัวก่อน”
ปราณนต์เอ่ยทิ้งท้ายแค่นั้น ก็หันไปสบตากับเลขาแล้วเดินออกไป
ทิ้งให้อิงกาญจน์อึ้งพูดอะไรไม่ออก จะกลับคำก็ไม่ได้
‘ทำใจยอมรับได้อย่างเดียวอิงเอ๊ย’ อิงค์กาญจน์คิดได้แค่นั้นก็ขอตัวไปเก็บของ
อิงค์กาญจน์เริ่มทำงานตั้งแต่ย้ายของมาโต๊ะทำงานใหม่
แต่ก็ไม่เห็นวี่แววเจ้าของห้อง หล่อนรู้สึกโล่งใจ และทำงานเพลินจนใกล้เที่ยง
หล่อนขนของใช้เฉพาะที่จำเป็นมา
เพราะคิดว่าถ้างานนี้เสร็จสิ้นเธอก็จะได้กลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะเดิม
คิดได้อย่างนั้นอิงค์กาญจน์ก็ตั้งหน้าตั้งตาตรวจสอบเอกสารที่เลขาคนสนิทของคนเจ้าปัญหา
เธอเรียกเขาว่าอย่างนั้น จนท้องเจ้ากรรมร้อง จึงหันมามองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
“ห๊ะ จะบ่ายแล้ว”
อิงค์กาญจน์เก็บเอกสารบนโต๊ะจนหมดใส่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน
โดยไม่ลืมล๊อก คว้ากระเป๋าเงินใบจิ๋วกับโทรศัพท์มือถือเตรียมออกไปหาอะไรทาน
“ขอโทษที่ผมเอาอาหารกลางวันมาให้ช้าครับ”
อาวุธเอ่ยอย่างสำนึกผิด
แล้วชี้ให้แม่บ้านที่ถือถาดอาหารเดินตามหลังเขามา
โดยที่อีกฝ่ายยังงงกับคำกล่าวของชายตรงหน้า
“อะไรหรือคะ”
“บอสให้ผมเอาอาหารกลางวันมาให้คุณอิงครับ
พอดีบอสติดประชุมด่วน ไม่สามารถมาทานกลางวันด้วยได้ครับ”
“ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวดิฉันไปหาทานเองได้ค่ะ”
กว่าที่อิงค์กาญจน์จะตอบกลับอาวุธได้
ก็ผ่านไปหลายวินาที เธอสะดุดกับคำบอกเล่าของเลขาหนุ่มที่บอกว่าบอสของเขาไม่สามารถมาทานอาหารกลางวันกับหล่อนได้
เขามีเหตุผลอะไรถึงบอกเลขาเขาแบบนั้น
“ถ้าคุณอิงไม่ทาน ผมต้องโดนดุแน่ๆ เลยครับ ได้โปรดเห็นใจผมด้วยนะครับ”
เลขาหนุ่มกล่าวอย่างอ้อนวอนพร้อมทำตาละห้อยจนคนถูกอ้อนวอนต้องยอมอย่างจำใจ
“ก็ได้ค่ะ แต่ครั้งนี้แค่ครั้งเดียวนะคะ
ดิฉันก็เป็นแค่พนักงานคนหนึ่งเท่านั้น อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ฝากบอกบอสคุณด้วย”
อิงค์กาญจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“ขอบคุณมากครับ ทานอาหารกลางวันให้อร่อยนะครับ”
เลขาหนุ่มออกจากห้องไปนานแล้ว
แต่หญิงสาวยังคงนั่งมองอาหารที่วางบนโต๊ะโดยไม่แตะต้อง
หล่อนไม่เข้าใจว่าคนสั่งการเขาคิดอะไรกันแน่ ตั้งแต่ให้หล่อนมาทำงานใกล้ๆเขาแล้ว
ยังมาทำดีด้วยอีก
‘หรือเขามีแผนอะไร’
คิดได้แค่นั้น
หญิงสาวก็ก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าจนหมด พร้อมเตรียมยกถาดอาหารจะไปเก็บห้องครัว
แต่แม่บ้านคนเดิมก็เคาะประตู
พร้อมเดินเข้ามาพร้อมแจ้งความประสงค์กับหล่อนแล้วเก็บถาดไป
อิงค์กาญจน์กล่าวได้แค่คำขอบคุณ
แล้วหันกลับมาสนใจงานที่ยังทำค้างต่อ หวังให้งานนี้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
เธอจะได้ออกไปจากห้องนี้เสียที
ความคิดเห็น