คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ดวงสมพงษ์
ดวงสมพงษ์
“ร้านนี้น่าจะอร่อยนะ ดูคนเยอะดี บรรยากาศดีด้วย”
หลังจากเดินเล่นตามชายหาดมาเรื่อยๆ สองสาวสวยก็ได้เจอร้านที่น่านั่งอย่างใจตรงกัน
จบคำพูดของณดา
สองสาวก็จูงมือกันเข้าไปในร้าน
โดยมีสายตาของหนุ่มๆมองกันอย่างนึกเสียดายในความสวยของทั้งคู่
“เฮ้ย! นั่นพยาบาลที่โรงพยาบาลชั้นนี่หว่า
ไม่นึกว่าพอถอดชุดฟอร์มพยาบาลออกจะสวยเซ็กซ์ขนาดนี้ อีกคนที่มาด้วยก็น่ารักว่ะ
แต่นัยย์ตาเศร้าไปหน่อย”
ภวินท์พูดพลางมองสองสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
พลอยทำให้ปราณนต์ที่นั่งหันหลังให้ทางเข้าร้านหันไปมองอีกคน
แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อกวาดตาไปเห็นหนึ่งในสองสาวคือคนที่ทำให้จิตใจเขาว้าวุ่นเพราะใบหน้าหวานคอยวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงของเขามาหลายวัน
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีอะไรที่สะดุดตาเขาเลยตั้งแต่เข้ามาทำงานในโรงแรม
หน้าตาเรียบเฉยไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ แต่วันนี้ใบหน้าเนียนถูกแต้มด้วยแป้งอย่างบางเบา
ริมฝีปากอิ่มได้รูปถูกเคลือบด้วยลิปกรอสสีชมพูอ่อน เสื้อผ้าที่หล่อนสวมใส่ก็ธรรมดา
แต่ยิ่งทำให้อ่อนกว่าวัยไปหลายปีทีเดียว
นัยย์ตาคู่สวยแลดูเศร้าผิดแผกไปจากเมื่อวาน เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างให้เขาลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปยังโต๊ะที่เป็นเป้าหมาย
ก่อนที่จะปราณนต์จะเดินไปถึงโต๊ะที่สองสาวนั่งทานอาหารอยู่
น้ำหวานนางแบบสาวก็เดินมาเกาะแขนชายหนุ่มไว้ แล้วยื่นหน้าที่โบ๊ะเครื่องสำอางค์ราคาแพงไปจุ๊บที่แก้มชายหนุ่ม
พลอยทำให้เป็นจุดสนใจของทั้งพนักงานและลูกค้า
“ปราณต์มาทะเลทำไมไม่ชวนหวานบ้างละค่ะ
หวานน้อยใจนะเนี่ย ถ้าหวานไม่ได้มาถ่ายแบบก็คงไม่ได้เจอรินทร์ที่นี่ใช่มั๊ยคะ”
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเรียกขานชายหนุ่มอย่างสนิทสนมอย่างคนมีจริต
พูดพลางใช้ร่างกายที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเป็นแบบให้นิตยสารชื่อดังกับตากล้องมืออาชีพ
แชะภาพเป็นปก เบียดชายหนุ่มที่ยืนนิ่งไม่กระดิก
“พอดีผมมาธุระนะครับ
ไม่ได้มาเที่ยวซะทีเดียว”
ชายหนุ่มตอบพลางมองผ่านร่างนางแบบสาวไปยังโต๊ะเป้าหมายก่อนหน้า
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อิงค์กาญจน์หันมาพอดี ทั้งคู่สบตากัน
ก่อนที่หญิงสาวจะเป็นฝ่ายหลบสายตาเจ้านายชาเย็นของเธอก่อน แค่เธอเห็นหน้าเขา
ภาพวันนั้นก็หวลกลับมาให้เธอนึกถึง ทั้งที่เธออยากลบมันไปให้หมด
“งั้นวันนี้ปราณต์พาหวานเที่ยวหน่อยนะคะ
หวานเสร็จงานแล้วจะโทรหาอีกทีนะคะ”
นางแบบสาวพูดจาออดอ้อนออเซาะ
พร้อมทั้งกอดชายหนุ่มโดยไม่สนใจสายตาคนในร้านที่มองมายังคนทั้งคู่
“ถ้าผมเสร็จธุระแล้วจะโทรหานะ”
“จริงๆนะคะ
หวานจะรอนะ จุ๊บ”
น้ำหวานเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มสากของชายหนุ่มคู่ควงก่อนที่จะเดินกลับไปยังโต๊ะทีมงาน
ด้านอิงค์กาญจน์ก้มหน้าก้มตาทานอาหารบนโต๊ะอย่างไม่รู้รสชาติ
รีบๆทานจะได้รีบๆไป
ณดาเข้าใจว่าเพื่อนรักยังคงเศร้าจากเรื่องคนเราเก่า
แต่ก็ยังดีที่เพื่อนยังทานอาหารได้ปกติ เลยทานไปโดยไม่มีบทสนทนาใดๆ
ด้านสองสาวพอทานอาหารอิ่มสมใจ
ก็พากันเลยเดินเล่นริมชายหาดไปเรื่อยๆ
“ชั้นเข้าไปเอนหลังที่ห้องก่อนนะ
แกจะกลับพร้อมกันเลยรึเปล่า” ณดาเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาสักพัก
“ตามสบายเลยแก
ชั้นขอเดินเล่นอีกสักพักนะ เดี๋ยวตามไป”
“โอเคจ้า
อย่าไปไกลนักละแก เดี๋ยวจะมืดละ”
“จ้า”
อิงค์กาญจน์รับคำเพื่อนรัก
ก่อนจะเดินทอดน่องต่อไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย
ก่อนนะหย่อนตัวลงชายหาดนั่งมองพระอาทิตย์กำลังจะตกดินด้วยใจเลื่อนลอย
“ซู่.......”
เสียงคลื่นทะเลซัดเข้าฝั่ง
พร้อมลมเย็น อิงค์กาญจน์นั่งนิ่งหลับตาอยู่ริมชายหาด ทะเลยามเย็นช่างสงบ
ซึ่งตรงข้ามกับจิตใจของเธอในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
พลางนึกถึงภาพคนรักกับเพื่อนรักแล้วน้ำตาเจ้ากรรมพาลจะไหล
อิงกาญจน์เงยหน้าขึ้นเพื่อให้น้ำตาไหลกลับเข้าไปในที่ของมัน
หญิงสาวตั้งใจจะไม่ร้องไห้ให้กับผู้ชายเลวๆพรรณนั้นอีก
ก็แค่เสียดายความสัมพันธ์ฉันเพื่อนอันยาวนานที่มีกันมา ระหว่างเธอกับอรอุมา มันไม่น่าจบลงเพราะผู้ชายเลวๆเพียงคนเดียว
อีกเรื่องที่อยู่ในห้วงความคิดของเธอคือผู้ชายคนนั้น
ในร้านอาหารเมื่อเย็นที่ผ่านมา สายตาเจ้านายของเธอ นางแบบที่ออเซาะเขา
นี่เธอหวั่นไหวกับชายที่นอนกับเธอเพียงข้ามคืนหรือนี่
ทำไมตอนคนรักเก่าของเธออย่างฐาปนกรณ์กับเพื่อนรักอย่างอรอุมานอนกอดกัน
เธอยังไม่รู้สึกปวดแปลบที่หัวใจขนาดนี้เลย
หญิงสาวนั่งเหม่อมองทะเลอันเวิ้งว้าง
ไม่มีที่สิ้นสุด นานเท่าไรไม่รู้ที่อิงค์กาญจน์นั่งอยู่ตรงนั้น
มารู้ตัวอีกทีรอบตัวหญิงสาวก็มืด อาจเพราะคืนนี้เป็นคืนเดือนดับ
หรือเพราะชายหาดตรงนั้นห่างไกลผู้คน
“มาทำอะไรคนเดียวมีดๆจ๊ะน้องสาว
ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนมั๊ยจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
อิงค์กาญจน์ไม่ไว้ใจคนตรงหน้าเลยสักนิด แต่พยายามทำใจดีสู้เสือตอบไป
“โห
พูดเพราะซะด้วย”
ร่างสูงของผู้มาใหม่หน้าตาบ่งบอกถึงความไม่ประสงค์ดี กล่าวชมอิงค์กาญจน์
ในขณะที่หญิงสาวพยายามเดินหลบเพื่อให้พ้นมือที่ยื่นมาเพื่อจะเกาะกุมตัวหญิงสาวไว้
อิงค์กาญจน์หันหลังเตรียมวิ่ง
แต่ก็ช้ากว่าชายแปลกหน้าที่คว้าตัวเธอไว้ได้ หญิงสาวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ความกลัวเข้ามาเกาะกุมใจ
“กรี๊ด!!
ช่วยด้วย”
อิงค์กาญจน์พยายามสะบัดตัวออก
พยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระจากชายแปลกหน้าผู้ประสงค์ร้าย
ปากก็พร่ำตะโกนให้คนช่วย
เธอคิดในใจว่าเวลานี้ใครจะมาได้ยินเสียงร้องของเธอบ้างนะ
เรื่องที่คนรักกับเพื่อนรักหักหลังเธอว่าเลวร้ายแล้ว
แต่เหตุการณ์ตรงหน้ามันเลวร้ายยิ่งกว่าเป็นร้อยพันเท่า เธอจะทำยังไงดี
ภาวนาในใจขอให้มีใครผ่านมาได้ยินเสียงเธอทีเถอะ เพี๊ยง!
“โอ๊ย
ใครวะ”
อิงค์กาญจน์มองตามร่างของชายแปลกหน้าที่ร่างล้มลงกองกับพื้น
“บอส” อิงค์กาญจน์เปล่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ
ไม่คาดฝันว่าคนที่เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอจะเป็นเจ้านายชาเย็นของเธอ
ปราณนต์เตะซ้ำเข้าไปที่ท้องของคนที่มันกล้าทำร้ายผู้หญิง
ก่อนจะหันมาดึงแขนหญิงสาวให้วิ่งตามเขาไป
นี่ถ้าเขาไม่บังเอิญเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยมาทางนี้
หญิงสาวคงโดนปู้ยี้ปู้ยำไปแล้ว คิดแล้วปราณนต์รู้สึกโล่งใจยังไงชอบกล
ความคิดเห็น