คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หนี
หนี
อิงค์กาญจน์ลืมตาตื่นพร้อมกับอ้อมกอดแสนอบอุ่นจากคนข้างๆ
เมื่อคืนเธอฝันว่ากอดชายในฝัน แต่ไม่เห็นหน้า ฝันทะลึ่งอะไรตั้งมากมาย
พอคิดมาถึงตรงนี้ อิงค์กาญจน์ก็หน้าแดง โดยไม่รู้ว่าคนที่กอดก่ายเธออยู่ก็รู้สึกตัวตื่นก่อนเธอเสียอีก
แต่แกล้งหลับตา
อิงค์กาญจน์รู้สึกปวดหัว
แถมยังเจ็บแปลบตรงจุดสงวนเมื่อขยับตัว
ถึงกับอึ้งว่าเรื่องเมื่อคืนที่เธอคิดว่าเป็นความฝัน เห็นจะไม่ใช่เสียแล้ว แล้วเธอมานอนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน
มิหนำซ้ำคนที่นอนข้างๆก็เป็นเจ้านายชาเย็นของเธอ
คิดวกไปเวียนมาก็ยังไม่รู้ที่มาอยู่ดี
หญิงสาวค่อยๆยกแขนกำยำที่โอบเธออยู่
เพราะกลัวเขาจะตื่นมาแล้วเธอจะทำหน้ายังไง แล้วพาตัวเองออกจากอ้อมกอดแสนอบอุ่นนั้นอย่างเสียดายอยู่ลึกๆ
ก่อนที่เท้าเธอจะก้าวลงจากเตียง
ปราณนต์ก็คว้าล่างเล็กมากอดไว้
“บอส”
อิงค์กาญจน์สะดุ้งโหยง
ไม่คิดว่าคนที่นอนอยู่จะตื่น
ปราณนต์ตื่นนานแล้ว
แต่ยังอยากจะกอดร่างเล็กอยู่อย่างนี้นานๆ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าถ้าหญิงสาวตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกเขาปล้ำ หญิงสาวจะทำอย่างไร
“จะไปไหน”
ปราณนต์เอ่ยแบบไม่ต้องการคำตอบจากคนในอ้อมกอดสักเท่าไหร่
“เอ่อ
เอ่อ”
“ถึงกับติดอ่าง
ถามว่าจะไปไหน มานอนด้วยกันก่อน”
ไม่พูดเปล่า
จมูกโด่งก็ซุกไปซอกคอหญิงสาวจากด้านหลัง อิงค์กาญจน์ถึงกับขนลุกซู่
ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ เรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องจริงหรือนี่
หญิงสาวจะทำอย่างไรต่อไปดี เขาคงเห็นหญิงสาวเป็นของเล่นของเขาเท่านั้นเอง
คิดมาถึงตรงนี้
ใจของเธอก็เจ็บแปลบ แต่เธอจะไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเป็นอันขาด
“ขอตัวไปแต่งตัวค่ะ
จะกลับคอนโดค่ะ” หญิงสาวพูดโดยไม่กล้าหันไปมองหน้าคนตัวโต
ด้วยกลัวเขาจะเห็นน้ำตาที่คลอเต็มเบ้าตา แล้วจะหาว่าเธอเรียกร้องความสงสาร
พอปิดประตูห้องน้ำได้
น้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่รู้มาจากไหนตั้งมากมาย เรื่องเมื่อคืนที่ถูกคนรักกับเพื่อนรักหักหลังว่าเจ็บปวดแล้ว
เรื่องวันนี้ที่เธอโดนลักหลับมันหนักหนายิ่งกว่าเสียอีก
เธอจะทำอย่างไรต่อไปนับจากนี้
นานจนคิดว่าทำใจได้ที่จะเผชิญหน้ากับคนที่พรากพรหมจรรย์เธอไปแล้ว
“ผมนึกว่าคุณจะไปนอนต่อในห้องน้ำเสียอีก”
“เสื้อผ้าดิฉันอยู่ไหนคะ” ไม่ตอบคำถามเขาแต่กลับถามหาเสื้อผ้าของตัวเอง
หลังจากมองหารอบๆห้องแล้วไม่พบ อยากพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“เมื่อคืนผมให้แม่บ้านเอาไปซักให้
สักพักคงจะเอามาส่ง”
“คุณไม่ต้องรีบขนาดนั้น
เรามาคุยกันก่อนก็ได้” ปราณนต์ตบที่นอนเบาๆเพื่อให้หญิงสาวมานั่งคุยกันบนเตียง
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันค่ะ”
หญิงสาวพูดพลางเงยหน้าให้น้ำตาที่คลอไหลคืนที่เดิม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้อง
น่าจะเป็นแม่บ้านที่เอาชุดเธอไปซัก
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเมื่อรับชุดจากแม่บ้านประจำคอนโด
พอจัดการตัวเองเสร็จ
อิงค์กาญจน์ก็รีบออกจากคอนโดโดยไม่สนใจเจ้าของห้อง
อิงค์กาญจน์เหนื่อยล้าเกินกว่าจะมีแก่จิตแก่ใจทำอะไรต่อหลังจากกลับมาถึงคอนโด
ดีที่วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
ไม่งั้นเธอคงลำบากใจที่จะไปทำงานแล้วต้องไปพบหน้าคนที่ทำให้เธอต้องเหนื่อยล้าแบบนี้
หลับไปนานเท่าไรไม่รู้
พอตื่นมาอีกทีรอบตัวเธอก็มืดไปหมด ท้องเจ้ากรรมก็ร้องอัตโนมัติ
ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องนอกจากนมที่เธอดื่มก่อนกินยาลดไข้ก่อนล้มตัวลงนอน
“ก๊อกๆ”
“นอนกินบ้านกินเมืองหรอคุณ
กรุงเทพแหว่งไปครึ่งเมืองละ แล้วมือถือทำไมไม่เปิด” ปราณนต์บ่นพลางเดินเข้าในห้องพักหลังจากเจ้าของเปิดประตู
โดยที่ยังไม่ทันที่เจ้าของห้องจะเอ่ยอนุญาต
พร้อมวางอาหารและผลไม้ที่แวะซื้อมาให้หญิงสาว
“……”
“ผมพูดด้วยทำไมไม่พูด
แล้วเมื่อเช้าหนีออกมาก่อนทำไม ยังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลย”
ปราณนต์นึกโมโหหญิงสาวที่หนีออกมาโดยไม่บอกเขาสักคำ
ไข้ก็ยังไม่สร่างดี เขาต้องหาเหตุผลให้เจ้าอาวุธมากมาย
ผู้ช่วยช่างสงสัยของเขาถามซอกแซกจนเขาเกือบเอาตัวไม่รอด กว่าจะได้เบอร์โทรศัพท์กับที่อยู่ของพนักงานสาวในโรงแรมตัวเอง
“ไม่มีอะไรต้องตกลงกันค่ะ”
หลังจากปล่อยให้เจ้านายชาเย็นพูดอยู่คนเดียวมานานสองนาน
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่พูดค่ะ
มันเป็นแค่อุบัติเหตุ
ดิฉันเข้าใจค่ะว่าบอสสามารถนอนกับผู้หญิงที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องมีความรัก
ลืมมันซะเถอะค่ะดิฉันขอร้อง และกรุณากลับไปได้แล้ว เชิญค่ะ”
“คุณต้องการเท่าไหร่”
“……..”
“เรียกมาได้เลยนะ
คนอย่างปราณนต์ไม่เคยนอนกับใครฟรีๆ”
อิงค์กาญจน์มองหน้าชายหนุ่มผ่านม่านน้ำตาที่คลอเต็มเบ้า
ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากผู้ชายที่สาวๆต่างพากันหลงใหล เธอรวบรวมแรงที่มีทั้งหมดเอ่ยกับเขา
“ออกไปจากห้องชั้น
ชั้นบอกให้ออกไป๊….”
“คุณ”
ก่อนที่ร่างบางจะร่วงถึงพื้น ปราณนต์ก็วิ่งไปรับไว้ได้ทัน
อาจเพราะเครียดและไม่มีสารอาหารเข้าสู่ร่างกายตั้งแต่เช้า
ทำให้อิงค์กาญจน์เป็นลม
ปราณนต์พาร่างไร้สติของหญิงสาวไปวางที่โซฟา
ก่อนจะจัดแจงหาผ้ากับน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ นานกว่าหญิงสาวจะรู้สึกตัว
“ตื่นมาก็เก่งเลยนะ”
บอสหนุ่มเอ่ยแซวหลังจากเห็นหญิงสาวลืมตาขึ้นมาเห็นเขานั่งอยู่
ก็ทำท่าขยับหนี
“บอสกลับไปเถอะค่ะ
เราไม่มีอะไรจะต้องตกลงกัน”
“ผมกลับแน่
แต่คุณต้องทานข้าวทานยาก่อน”
“เดี๋ยวดิฉันจัดการเองค่ะ
เชิญบอสกลับไปเถอะค่ะ”
“ไม่
จนกว่าผมจะได้เห็นว่าคุณทานข้าวและยาลดไข้แล้วเท่านั้น นี่คือคำสั่ง”
หญิงสาวเหนื่อยล้าเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา
หลังจากสั่งให้หญิงสาวนั่งรอที่โต๊ะอาหาร
ปราณนต์ก็หันมาจัดการกับอาหารและผลไม้ที่ซื้อมา
อิงกาญจน์ทานได้ไม่กี่คำก็ขอตัวไปทานยาลดไข้
“อ่ะ
ทานยานี้ด้วย มีวิธีทานอยู่ในซอง” ร่างบางรับกล่องยาจากมือชายหนุ่มแบบงงๆ
ก่อนที่รู้ถึงวัตถุประสงค์ของชายหนุ่มเมื่อเห็นสรรพคุณของยา
น้ำตาเจ้ากรรมพาลจะไหล
รันทดในชะตาชีวิตตัวเอง
หนุ่มเพลบอยอย่างเขา
ไม่รู้จักแม้กระทั่งความรัก และไม่เคยคิดจะหยุดอยู่ที่ใคร คงกลัวจะมาพลาดทำให้เธอท้อง
เลยต้องสรรหายาคุมชนิดฉุกเฉินมาให้เธอ
“คุณพักผ่อนซะ
ผมกลับล่ะ แล้วเราค่อยคุยกัน”
พูดแบบไม่รอคำตอบ
คนต้นเหตุกลับไปนานแล้ว แต่อิงค์กาญจน์ยังจมจ่อมอยู่กับตัวเอง ครุ่นคิดถึงอนาคตตัวเองว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี อยากหนีไปให้ไกลเขา แต่งานดีเงินดีก็หายากเต็มที แต่ถ้ายังทำงานต่อไปก็ต้องเผชิญหน้ากับเขาอีก แล้วเธอจะทำตัวยังไงถูก
ฝากติชมกันด้วยนะคะ จะพยายามอับเดตให้อ่านกันเรื่อยๆค่ะ
มือใหม่หันเขียน
ความคิดเห็น