ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงรักซาตาน

    ลำดับตอนที่ #22 : ทวงคืน

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 65


                    “นนต์คะ” อรเนศเรียกชื่ออดีตคนรักซ้ำ

                    “เอ่อครับ” ปราณนต์ปรับความรู้สึกตัวเองพร้อมกับตอบกลับ

                    “ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ด้าคิดแล้วว่าจะต้องเจอคุณที่นี่ ด้าคิดถึงคุณมากกนะคะ” ไม่พูดเปล่าแต่หญิงสาวผู้มาใหม่โอบไหล่ชายหนุ่มอย่างสนิทสนม

                    ปราณนต์พยายามดึงมือของคนรักเก่าออกอย่างสุภาพ ก่อนเหลือบตามองคนที่นั่งตรงข้าม แต่เธอก็ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมาให้เห็น ทำให้เขาผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าหญิงสาวจะแสดงความรู้สึกอะไรออกมาบ้าง

                    “มันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ที่คุณจะทำแบบนี้ เดี๋ยวสามีคุณมาเห็นเข้าผมจะซวยเอา”

                    “ด้าเลิกกับเค้าไปตั้งสองเดือนแล้วนะคะ คุณไม่ได้ดูข่าวบ้างหรอคะ”

                    “คุณเลยคิดจะกลับมาหาผม”  ปราณนต์สวนกลับ

                    “ด้ายังรักคุณอยู่นะคะนนต์ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั๊ยคะ ด้ารู้ว่าคุณยังรักด้าอยู่ คุณถึงยังไม่มีใคร ” พูดพลางเหลือบไปมองหญิงสาวที่นั่งร่วมโต๊ะ หน้าตาปราศจากเครื่องสำอางค์หรือจะเรียกอีกอย่างว่าหน้าจืดก็คงไม่ผิดนัก

                    เธอไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าจืดตรงหน้าจะเป็นคู่ควงคนใหม่ของปราณนต์ แต่ก็เดาไม่ออกว่าเจ้าหล่อนเป็นอะไรกับเขาถึงมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้

                    อิงค์กาญจน์เพิ่งถึงบางอ้อว่าสาวสวยแต่งตัวดูแพงตรงหน้าคืออดีตคนรักของปราณนต์ เธอได้ยินเรื่องราวของเขาสองคนนี้จากปากพนักงานสาวๆ ในออฟฟิศที่หลงใหลความหล่อความรวยของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนซีรี่ส์เรื่องหนึ่ง

                    ดูพวกเขาเหมาะสมกันทั้งหน้าตาและฐานะทางสังคมจริงดังเขาร่ำลือกัน คิดมาถึงตรงนี้หัวใจดวงน้อยของเธอกลับเจ็บจี๊ดอย่างควบคุมไม่ได้ 

    อิงค์กาญจน์กลืนอาหารลงคออย่างยากลำบาก ตอนนี้ลิ้นของเธอไม่รับรู้รสชาติของอาหารหน้าตาแสนอร่อยตรงหน้าเลย นึกอยากมีประตูข้ามมิติของโดเรม่อนขึ้นมา เธออยากหายตัวไปจากสถานการณ์ตรงหน้ายิ่งนัก ทำไมเธอต้องมานั่งฟังคนรักเก่าเขารำลึกความหลังกันด้วยนะ

                    

                    อรเนศพาเพื่อนชาวต่างชาติของเธอเที่ยวชมความงดงามของโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์  หนึ่งในมรดกโลกอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ มีเจดีย์ทรงลังกาสามองค์ที่ตั้งตระหง่านเรียงรายเป็นแนวอย่างโดดเด่น เป็นโบราณสถานที่สำคัญของไทยที่มีมนต์เสน่ห์สวยงาม วัดไชยวัฒนาราม อีกหนึ่งวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างขึ้นโดยพระเจ้าปราสาททองเพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา สถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นในอยุธยา บางส่วนรับอิทธิพลมาจากศิลปะขอม โดยจำลองมาจากปราสาทนครวัด คือมีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน บริเวณตรงกลางของพื้นที่ และรายล้อมด้วยปรางค์บริวารอีกสี่องค์

                    ก่อนจะพาเพื่อนกรุ๊ปเดิมมารับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีบรรยากาศตามฉบับที่พวกเขาร้องขอ ซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับที่เธอกับปราณนต์มาด้วยกันบ่อยครั้ง ตลอดระยะเวลาที่เธอกับเขาคบหาดูใจกันในฐานะคนรัก เธอรู้เขาชอบร้านนี้มาก ความบังเอิญหรือพรหมลิขิตทำให้เธอมาเจอเขาที่นี่ 

                    เธอเลิกรากับสามีไปได้ระยะหนึ่งเพราะความที่ไม่ลงรอยกัน ใหม่ๆ อรรณพก็ตามใจเธอจนทำให้เธอเผลอใจไปกับเขา รวมถึงครอบครัวของอรรณพก็เป็นผู้ดีเก่า พ่อเป็นถึงนายพล ฐานะทางบ้านแม้จะไม่เทียบเท่ากับปราณนต์ แต่ก็ไม่น้อยหน้ากันเลย ไม่ว่าทั้งพ่อและแม่ของเธอจะเตือนแล้วว่าให้คิดใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน แต่ความรักมันบังตา อีกทั้งเธอกับปราณนต์อยู่ห่างกันคนละประเทศ  ทำให้เธอเผลอไผลไปจนถึงขั้นบอกเลิกคนที่รักเธอสุดหัวใจอย่างปราณนต์ แล้วหันมาแต่งงานกับอรรณพแทน 

                    แต่แล้วคนที่เธอเลือกก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอหวัง อะไรที่เคยยอมกลับไม่ยอม อะไรที่เคยทำให้กลับไม่ทำ ยิ่งทำให้เธอนึกเสียดายผู้ชายดีๆ อย่างปราณนต์ขึ้นมา เธอรู้ว่าตั้งแต่เขาเลิกรากับเธอไป เขาก็ไม่ได้บใครจริงจังเลยแม้แต่คนเดียว มีก็แค่คู่ควง

                  เขายังรอเธออยู่จึงไม่คิดจริงจังกับใคร เธอยังมีความหวัง เธอจะเอาผู้ชายแสนดีคนนี้กลับคืนมาเป็นของเธอให้ได้

                  “เราทานอิ่มกันพอดี กลับกันเถอะคุณ” ประโยคหลังเขาหันไปบอกอีกคน

                  คำว่า “เรา” ของเขาทำหัวใจของอิงค์กาญจน์เต้นแรง

                  ลึกๆ แล้วเธอก็อยากใช้คำว่าเรากับเขา แต่ความเป็นจริงที่เป็นอยู่มันช่างห่างไกลเหลือเกิน เธอกับเขาคงเป็นได้แค่เจ้านายกับลูกน้อง เป็นได้แค่นั้นจริงๆ 

                  “ผมขอตัวก่อนนะ” พูดจบก็ลุกเต็มความสูงแล้วเดินไปจับข้อมือหญิงสาวที่นั่งทำหน้างงให้เดินตามเขาไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

                  อิงค์กาญจน์ขืนตัวก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าผ้าแล้วเดินตามแรงฉุดของคนตัวโตไป

                 หญิงสาวอีกคนที่ถูกปล่อยทิ้งไว้มองตามหลังของสองชายหญิงไปอย่างหมายมาด 

                  ‘ด้าจะเอาคุณกลับมาเป็นของด้าให้ได้’

                 ระหว่างรอเคลียร์ค่าอาหารกับแคชเชียร์ของร้าน หลังจากไม่เห็นอดีตคนรักจับจ้องแล้ว เขาก็ปล่อยข้อมือหญิงสาวให้เป็นอิสระอย่างนึกเสียดาย

                  อิงค์กาญจน์เลือกที่นั่งเงียบตลอดทางตั้งแต่รถหรูวิ่งออกมาจากอยุธยา คนรักของเขากลับมาแล้ว หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเสมองออกนอกหน้าต่างของรถ 

                  เขาจะไม่มีวันได้รู้ถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา เรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่มีวันเป็นไปได้

                 เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์

                  “ว่าไงดา” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าก่อนปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ   

                  “อยู่ห้องมั๊ย เดี๋ยวเข้าไปหา”

                  “ชั้นออกมาทำธุระข้างนอก กำลังจะกลับ อีกประมาณเกือบชั่วโมงจะถึง” บอกเพื่อนพลางมองนาฬิกาข้อมือ

                  มีมือดีคว้ามือถือเครื่องจิ๋วในมือหญิงสาวไปก่อนที่ปลายสายจะเอ่ยอะไร

                  “ตอนนี้เรายังทำธุระกันไม่เสร็จ ไว้เจอกันวันหลัง” ก่อนจะกดวางสายแล้วยื่นเครื่องมือสื่อสารคืนให้หญิงสาว

                  ณดางงเป็นไก่ตาแตกเมื่อมีเสียงผู้ชายแทรกเข้ามาในสายก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดลง

                  “อะไรของคุณอีก” หญิงสาวแหวใส่เขาอย่างลืมสถานะการเป็นลูกจ้างของตัวเอง

                  “ธุระของผมกับคุณยังไม่เสร็จ ผมไม่อนุญาตให้คุณกลับ” 

                    หญิงสาวสูดอากาศเข้าเต็มปอด ก่อนจะเอ่ยถามด้วยถ้อยคำเป็นทางการ

                    “คุณปราณนต์มีธุระอะไรจะคุยกับดิชั้นก็รีบพูดมาได้เลยค่ะ ดิชั้นมีธุระที่ต้องไปทำต่อ และอีกอย่างวันนี้เป็นวันหยุดของดิชั้น ที่จริงคุณควรจะคุยในวันจันทร์นะคะ”

                    เรือนไมค์รถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามอารมณ์ของผู้ขับขี่ อิงค์กาญจน์หุบปากแทบไม่ทัน หญิงสาวหลับตาปี๋ มือสองข้างจับสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น ไม่กล้ามองถนนหนทางใดๆ

                    ชายหนุ่มหงุดหงิดที่เธอขัดใจเขา หรือเพราะน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความห่างเหินของผู้ร่วมโดยสารมากันแน่ ช่วงนี้หญิงสาวมีอิทธิพลกับอารมณ์ของเขาอย่างเห็นได้ชัด อ่อนไหวง่ายรวมถึงขึ้นๆ ลงๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

                    จนรถสปอร์ตจอดสนิทหน้าคอนโดหรู ซึ่งอิงค์กาญจน์จำได้ว่าเป็นคอนโดของเขา

                    เธอเลือกที่จะนั่งนิ่งไม่ยอมลงจากรถ นั่นทำให้อารมณ์เขาหงุดหงิดใจ  เขาปลดสายเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองก่อนจะปลดเข็มขัดให้คนข้างๆ

                    ใบหน้าคมแกล้งเฉียดใกล้แก้มนวลของเธออย่างตั้งใจ หญิงสาวเขยิบหนีแต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้หลบไม่พ้น หากคนภายนอกรถมองเข้ามาประหนึ่งว่าชายหนุ่มหญิงสาวกำลังโอบกันอยู่

    หลังจากปลดเข็มขัดนิรภัยให้คนข้างๆ เสร็จเขาออกคำสั่งด้วยเสียงอันทรงพลัง

                    “ตามผมมา”

                    หญิงสาวสะดุ้งโหยง น้ำเสียงอันน่าเกรงขามของเขา เธอควรทำอย่างไรดี ควรหนีไปตั้งหลักก่อน หรือควรทำตามที่เขาสั่งดี

                    ‘อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด’ หญิงสาวกอดกระเป๋าผ้าแน่นก่อนเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว ก่อนจะออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

                    ปราณนต์เดาทางหญิงสาวออก ขายาวของเขาวิ่งตามไม่กี่ก้าวก็สามารถคว้าเอวคอดได้อย่างรวดเร็ว

                    “คิดจะหนีผมหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกน้ำอิง”

                    ปราณนต์ยิ้มหน้าเหี้ยมจนทำให้คนในอ้อมกอดกลัวจนตัวสั่น ชายหนุ่มปล่อยร่างบางอย่างนึกเสียดาย ก่อนจะเปลี่ยนมาจับข้อมือเล็กแทน แล้วดึงให้เดินตามเขาไปโดยไม่ลืมกดล๊อครถ 

    เขาเดินตรงไปยังลิฟท์ส่วนตัวขึ้นไปจนถึงหน้าประตูห้องพัก จนเข้ามาในห้องพักจึงยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสองของห้องพัก

     

     

    ฝากติดตามด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×