คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ทวงคืน
“นนต์คะ” อรเนศเรียกชื่ออดีตคนรักซ้ำ
“เอ่อครับ” ปราณนต์ปรับความรู้สึกตัวเองพร้อมกับตอบกลับ
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ด้าคิดแล้วว่าจะต้องเจอคุณที่นี่ ด้าคิดถึงคุณมากกนะคะ” ไม่พูดเปล่าแต่หญิงสาวผู้มาใหม่โอบไหล่ชายหนุ่มอย่างสนิทสนม
ปราณนต์พยายามดึงมือของคนรักเก่าออกอย่างสุภาพ ก่อนเหลือบตามองคนที่นั่งตรงข้าม แต่เธอก็ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมาให้เห็น ทำให้เขาผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าหญิงสาวจะแสดงความรู้สึกอะไรออกมาบ้าง
“มันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ที่คุณจะทำแบบนี้ เดี๋ยวสามีคุณมาเห็นเข้าผมจะซวยเอา”
“ด้าเลิกกับเค้าไปตั้งสองเดือนแล้วนะคะ คุณไม่ได้ดูข่าวบ้างหรอคะ”
“คุณเลยคิดจะกลับมาหาผม” ปราณนต์สวนกลับ
“ด้ายังรักคุณอยู่นะคะนนต์ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั๊ยคะ ด้ารู้ว่าคุณยังรักด้าอยู่ คุณถึงยังไม่มีใคร ” พูดพลางเหลือบไปมองหญิงสาวที่นั่งร่วมโต๊ะ หน้าตาปราศจากเครื่องสำอางค์หรือจะเรียกอีกอย่างว่าหน้าจืดก็คงไม่ผิดนัก
เธอไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าจืดตรงหน้าจะเป็นคู่ควงคนใหม่ของปราณนต์ แต่ก็เดาไม่ออกว่าเจ้าหล่อนเป็นอะไรกับเขาถึงมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้
อิงค์กาญจน์เพิ่งถึงบางอ้อว่าสาวสวยแต่งตัวดูแพงตรงหน้าคืออดีตคนรักของปราณนต์ เธอได้ยินเรื่องราวของเขาสองคนนี้จากปากพนักงานสาวๆ ในออฟฟิศที่หลงใหลความหล่อความรวยของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนซีรี่ส์เรื่องหนึ่ง
ดูพวกเขาเหมาะสมกันทั้งหน้าตาและฐานะทางสังคมจริงดังเขาร่ำลือกัน คิดมาถึงตรงนี้หัวใจดวงน้อยของเธอกลับเจ็บจี๊ดอย่างควบคุมไม่ได้
อิงค์กาญจน์กลืนอาหารลงคออย่างยากลำบาก ตอนนี้ลิ้นของเธอไม่รับรู้รสชาติของอาหารหน้าตาแสนอร่อยตรงหน้าเลย นึกอยากมีประตูข้ามมิติของโดเรม่อนขึ้นมา เธออยากหายตัวไปจากสถานการณ์ตรงหน้ายิ่งนัก ทำไมเธอต้องมานั่งฟังคนรักเก่าเขารำลึกความหลังกันด้วยนะ
อรเนศพาเพื่อนชาวต่างชาติของเธอเที่ยวชมความงดงามของโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์ หนึ่งในมรดกโลกอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ มีเจดีย์ทรงลังกาสามองค์ที่ตั้งตระหง่านเรียงรายเป็นแนวอย่างโดดเด่น เป็นโบราณสถานที่สำคัญของไทยที่มีมนต์เสน่ห์สวยงาม วัดไชยวัฒนาราม อีกหนึ่งวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างขึ้นโดยพระเจ้าปราสาททองเพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา สถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นในอยุธยา บางส่วนรับอิทธิพลมาจากศิลปะขอม โดยจำลองมาจากปราสาทนครวัด คือมีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน บริเวณตรงกลางของพื้นที่ และรายล้อมด้วยปรางค์บริวารอีกสี่องค์
ก่อนจะพาเพื่อนกรุ๊ปเดิมมารับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีบรรยากาศตามฉบับที่พวกเขาร้องขอ ซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับที่เธอกับปราณนต์มาด้วยกันบ่อยครั้ง ตลอดระยะเวลาที่เธอกับเขาคบหาดูใจกันในฐานะคนรัก เธอรู้เขาชอบร้านนี้มาก ความบังเอิญหรือพรหมลิขิตทำให้เธอมาเจอเขาที่นี่
เธอเลิกรากับสามีไปได้ระยะหนึ่งเพราะความที่ไม่ลงรอยกัน ใหม่ๆ อรรณพก็ตามใจเธอจนทำให้เธอเผลอใจไปกับเขา รวมถึงครอบครัวของอรรณพก็เป็นผู้ดีเก่า พ่อเป็นถึงนายพล ฐานะทางบ้านแม้จะไม่เทียบเท่ากับปราณนต์ แต่ก็ไม่น้อยหน้ากันเลย ไม่ว่าทั้งพ่อและแม่ของเธอจะเตือนแล้วว่าให้คิดใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน แต่ความรักมันบังตา อีกทั้งเธอกับปราณนต์อยู่ห่างกันคนละประเทศ ทำให้เธอเผลอไผลไปจนถึงขั้นบอกเลิกคนที่รักเธอสุดหัวใจอย่างปราณนต์ แล้วหันมาแต่งงานกับอรรณพแทน
แต่แล้วคนที่เธอเลือกก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอหวัง อะไรที่เคยยอมกลับไม่ยอม อะไรที่เคยทำให้กลับไม่ทำ ยิ่งทำให้เธอนึกเสียดายผู้ชายดีๆ อย่างปราณนต์ขึ้นมา เธอรู้ว่าตั้งแต่เขาเลิกรากับเธอไป เขาก็ไม่ได้บใครจริงจังเลยแม้แต่คนเดียว มีก็แค่คู่ควง
เขายังรอเธออยู่จึงไม่คิดจริงจังกับใคร เธอยังมีความหวัง เธอจะเอาผู้ชายแสนดีคนนี้กลับคืนมาเป็นของเธอให้ได้
“เราทานอิ่มกันพอดี กลับกันเถอะคุณ” ประโยคหลังเขาหันไปบอกอีกคน
คำว่า “เรา” ของเขาทำหัวใจของอิงค์กาญจน์เต้นแรง
ลึกๆ แล้วเธอก็อยากใช้คำว่าเรากับเขา แต่ความเป็นจริงที่เป็นอยู่มันช่างห่างไกลเหลือเกิน เธอกับเขาคงเป็นได้แค่เจ้านายกับลูกน้อง เป็นได้แค่นั้นจริงๆ
“ผมขอตัวก่อนนะ” พูดจบก็ลุกเต็มความสูงแล้วเดินไปจับข้อมือหญิงสาวที่นั่งทำหน้างงให้เดินตามเขาไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
อิงค์กาญจน์ขืนตัวก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าผ้าแล้วเดินตามแรงฉุดของคนตัวโตไป
หญิงสาวอีกคนที่ถูกปล่อยทิ้งไว้มองตามหลังของสองชายหญิงไปอย่างหมายมาด
‘ด้าจะเอาคุณกลับมาเป็นของด้าให้ได้’
ระหว่างรอเคลียร์ค่าอาหารกับแคชเชียร์ของร้าน หลังจากไม่เห็นอดีตคนรักจับจ้องแล้ว เขาก็ปล่อยข้อมือหญิงสาวให้เป็นอิสระอย่างนึกเสียดาย
อิงค์กาญจน์เลือกที่นั่งเงียบตลอดทางตั้งแต่รถหรูวิ่งออกมาจากอยุธยา คนรักของเขากลับมาแล้ว หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเสมองออกนอกหน้าต่างของรถ
เขาจะไม่มีวันได้รู้ถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา เรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่มีวันเป็นไปได้
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์
“ว่าไงดา” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าก่อนปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“อยู่ห้องมั๊ย เดี๋ยวเข้าไปหา”
“ชั้นออกมาทำธุระข้างนอก กำลังจะกลับ อีกประมาณเกือบชั่วโมงจะถึง” บอกเพื่อนพลางมองนาฬิกาข้อมือ
มีมือดีคว้ามือถือเครื่องจิ๋วในมือหญิงสาวไปก่อนที่ปลายสายจะเอ่ยอะไร
“ตอนนี้เรายังทำธุระกันไม่เสร็จ ไว้เจอกันวันหลัง” ก่อนจะกดวางสายแล้วยื่นเครื่องมือสื่อสารคืนให้หญิงสาว
ณดางงเป็นไก่ตาแตกเมื่อมีเสียงผู้ชายแทรกเข้ามาในสายก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดลง
“อะไรของคุณอีก” หญิงสาวแหวใส่เขาอย่างลืมสถานะการเป็นลูกจ้างของตัวเอง
“ธุระของผมกับคุณยังไม่เสร็จ ผมไม่อนุญาตให้คุณกลับ”
หญิงสาวสูดอากาศเข้าเต็มปอด ก่อนจะเอ่ยถามด้วยถ้อยคำเป็นทางการ
“คุณปราณนต์มีธุระอะไรจะคุยกับดิชั้นก็รีบพูดมาได้เลยค่ะ ดิชั้นมีธุระที่ต้องไปทำต่อ และอีกอย่างวันนี้เป็นวันหยุดของดิชั้น ที่จริงคุณควรจะคุยในวันจันทร์นะคะ”
เรือนไมค์รถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามอารมณ์ของผู้ขับขี่ อิงค์กาญจน์หุบปากแทบไม่ทัน หญิงสาวหลับตาปี๋ มือสองข้างจับสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น ไม่กล้ามองถนนหนทางใดๆ
ชายหนุ่มหงุดหงิดที่เธอขัดใจเขา หรือเพราะน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความห่างเหินของผู้ร่วมโดยสารมากันแน่ ช่วงนี้หญิงสาวมีอิทธิพลกับอารมณ์ของเขาอย่างเห็นได้ชัด อ่อนไหวง่ายรวมถึงขึ้นๆ ลงๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
จนรถสปอร์ตจอดสนิทหน้าคอนโดหรู ซึ่งอิงค์กาญจน์จำได้ว่าเป็นคอนโดของเขา
เธอเลือกที่จะนั่งนิ่งไม่ยอมลงจากรถ นั่นทำให้อารมณ์เขาหงุดหงิดใจ เขาปลดสายเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองก่อนจะปลดเข็มขัดให้คนข้างๆ
ใบหน้าคมแกล้งเฉียดใกล้แก้มนวลของเธออย่างตั้งใจ หญิงสาวเขยิบหนีแต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้หลบไม่พ้น หากคนภายนอกรถมองเข้ามาประหนึ่งว่าชายหนุ่มหญิงสาวกำลังโอบกันอยู่
หลังจากปลดเข็มขัดนิรภัยให้คนข้างๆ เสร็จเขาออกคำสั่งด้วยเสียงอันทรงพลัง
“ตามผมมา”
หญิงสาวสะดุ้งโหยง น้ำเสียงอันน่าเกรงขามของเขา เธอควรทำอย่างไรดี ควรหนีไปตั้งหลักก่อน หรือควรทำตามที่เขาสั่งดี
‘อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด’ หญิงสาวกอดกระเป๋าผ้าแน่นก่อนเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว ก่อนจะออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
ปราณนต์เดาทางหญิงสาวออก ขายาวของเขาวิ่งตามไม่กี่ก้าวก็สามารถคว้าเอวคอดได้อย่างรวดเร็ว
“คิดจะหนีผมหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกน้ำอิง”
ปราณนต์ยิ้มหน้าเหี้ยมจนทำให้คนในอ้อมกอดกลัวจนตัวสั่น ชายหนุ่มปล่อยร่างบางอย่างนึกเสียดาย ก่อนจะเปลี่ยนมาจับข้อมือเล็กแทน แล้วดึงให้เดินตามเขาไปโดยไม่ลืมกดล๊อครถ
เขาเดินตรงไปยังลิฟท์ส่วนตัวขึ้นไปจนถึงหน้าประตูห้องพัก จนเข้ามาในห้องพักจึงยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสองของห้องพัก
ฝากติดตามด้วยนะคะ
ความคิดเห็น