คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : เกือบไปได้ดี
หลังจากเพื่อนรักกลับไป อิงค์กาญจน์ปล่อยให้ตัวเองจมจ่อมอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านสักพัก ก็หันไปทำงานบ้าน จับโน่นทำนี่เพื่อไม่ให้ตัวเองมีเวลาว่าง เสร็จจากงานทุกอย่างก็เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว หญิงสาวทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวโปรดอย่างหมดแรง
ก่อนจะจัดแจงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ พร้อมถือกีต้าร์ตัวโปรดมานั่งเล่น
“แค่เธอเข้ามาทักทายยังเก็บไปคิด ยิ่งเธอใกล้ชิดฉันเองก็ยิ่งได้ใจ
เลยแอบไปนอนละเมอ เธอคงไม่ไกล ฝันไว้คงได้รักกัน
ไม่ดูตัวเองว่าควรจะอยู่แค่นี้ ไม่มองความจริงสักทีว่ามีเท่าไหร่
เธออยู่ดีๆของเธอ เรามันเพ้อไป เพิ่งเริ่มเข้าใจตอนนี้
เผลอลืมตัวว่าเราเป็นคนสำคัญ เผลอใจสั่นเมื่อยามเธออยู่กับใคร
ผิดไปแล้ว ที่ได้ทำให้เธอลำบากใจ
เผลอลืมตัวเลยดูเป็นคนไม่ดี ขอโทษทีที่ทำให้เธออับอาย
ต่อไปนี้ไม่ต้องห่วง เพราะฉันจะจากไป แม้รู้แก่ใจว่ารักเธอ”
เพลงเผลอลืมตัว ของ Little Bird
เขาได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรก แต่ทำไมกลับทำให้ใจของเขาหวิวอย่างบอกไม่ถูก
คำบอกเล่าจากเพื่อนรัก หลังจากไปพบกับพยาบาลสาวเพื่อนรักของคนที่ทำให้เขาต้องมานั่งจ้องกล้องวงวรปิดอยู่ในตอนนี้ มันทำให้เขาสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง
ปรารณนต์นั่งตกตะกอนทางความคิดของตัวเองได้ชั่วอึดใจ ก่อนจะคว้ากุญแจรถคู่ใจ จุดหมายปลายทางคือคนที่ทำให้เขาต้องมานั่งรู้สึกสับสนจนไม่เป็นอันทำอะไรอยู่ตอนนี้ ตั้งแต่เช้าสิ่งที่เขาทำได้คือนั่งจ้องมองกล้องวงจรปิดผ่านสมาร์ทโฟน จ้องอยู่อย่างนั้นไม่คิดจะทำอะไร
เขาเคยปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยอมหวั่นไหวในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับใครอีก ความอ่อนแอให้กับความรักเป็นเรื่องที่โคตรจะโง่เขลาในความคิดของเขา แต่ความรู้สึกนึกคิด ณ ขณะนี้มันช่างตรงกันข้าม หัวใจเขาสั่นระริกเมื่อได้ยินคำสารภาพรักจากปากผู้หญิงที่แสนจะธรรมดา น้ำตาของเธอมันส่งผลให้หัวใจด้านชาของเขาอ่อนหวิวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เขาอยากดึงร่างบางมากอดปลอบ มือหนาอยากเป็นคนซับน้ำตาให้ เขาเกลียดสายตาเพศเดียวกันกับเขาที่มองไปยังหญิงสาวยามเธอแต่งตัววาบหวิว
‘เขาหวงของที่เป็นของเขา’
‘ใช่ เขาหวงของ เหมือนเด็กหวงของเล่นของตัวเอง มันไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้น’
มารู้ตัวอีกที ปราณนต์ก็พาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องของหญิงสาว สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกสติ ก่อนจะค่อยๆ พ่นลมหายใจออกอย่างช้าๆ การกระทำของเขาประหนึ่งเพื่อลดอาการประหม่าของสถานการณ์ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น
อิงค์กาญจน์วางกีตาร์ตัวเก่งพิงกับโซฟา ก่อนจะเดินไปเปิดประตูหลังจากได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องพัก
ปราณนต์รีบแทรกตัวเข้ามาในห้องหลังจากประตูถูกเปิด ประหนึ่งกลัวว่าเจ้าของห้องจะไม่อนุญาตให้เข้าไปในนั้น
หลังจากผู้มาเยือนแบบไม่ทันได้ตั้งตัว จัดแจงพาตัวเองไปนั่งปล่อยตัวตามสบายบนโซฟาแทนที่ที่เธอนั่งก่อนหน้า ใบหน้าขรึมดูอิดโรยบ่งบอกถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ เสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงขายาวลำลองไม่อาจทำให้ความสมาร์ทของเขาลดน้อยลงเลยในสายตาอิงค์กาญจน์ กุญแจรถหรูกับสมาร์ทโฟนคู่ใจถูกวางไว้โดยไม่แยแสมันนัก
เจ้าของห้องจำต้องเปลี่ยนมานั่งด้านข้างแทนก่อนเริ่มบทสนทนา เพื่อให้เขาได้พูดธุระให้จบสิ้นโดยเร็วที่สุด จะได้พาตัวเองออกไปให้พ้นจากสถานการณ์อันแสนจะน่าอึดอัดอยู่ในตอนนี้เสียที
“คุณปราณนต์มีธุระอะไรกับดิชั้นเร่งด่วนหรือเปล่าคะ” พูดพรางตาจับจ้องที่มือตัวเอง ที่ตอนนี้บีบเข้าหากันไปมาแก้อาการประหม่า แต่มิวายใช้สรรพนามแทนตัวเองเพื่อเว้นระยะห่าง เธอพูดเพื่อเตือนสติตัวเองไม่ให้เผลอใจไปมากกว่านี้
เงียบ!!
เขาจะตอบหล่อนไปยังไงดีล่ะ ที่เขาถ่อพาสังขารตัวเองที่ยังไม่ได้นอนทั้งคืนมาที่นี่เพราะได้ยินเสียงกีตาร์และเพลงที่เธอร้องเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ใบหน้าอันแสนเศร้าที่ส่งผ่านไปยังหน้าจอมือถือของเขา มันทำให้ใจเขาอยู่ไม่เป็นสุขเอาเสียเลย
“คะ งานมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าที่เขามาหาเธอเพราะความคิดถึง
"ไปธุระกับผม”
“เดี๋ยวนี้”
เขาลุกขึ้นเต็มความสูง หลังจากเห็นหญิงสาวยังคงนั่งนิ่งทำหน้างง
หญิงสาวออกมาพร้อมสะพายกระเป๋าผ้าขนาดกลาง ข้างในบรรจุกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ และของใช้จุกจิกอีกนิดหน่อย หลังจากหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวเพียงครู่เดียว
ยืนจ้องคนสั่งที่ตอนนี้นั่งเอกเขนกพาดแขนบนขอบโซฟาอย่างสบายอารมณ์ ในเมื่อบอกให้ไปเดี๋ยวนี้ เสื้อผ้าก็ไปชุดนี้เลยละกัน เสื้อยืดคอวีตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเลยเข่านิดหน่อย
ปราณนต์เงยหน้ามองหญิงสาวหัวจรดเท้า นึกว่าหายเข้าไปในห้องเจ้าหล่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่กลับออกมาในชุดเดิม มีแค่กระเป๋าผ้าใบเดียวที่เพิ่มขึ้น
เขาเดินนำออกไปก่อน อิงค์กาญจน์แวะหยิบรองเท้าผ้าใบคู่เก่งในตู้เก็บรองเท้าก่อนก้าวยาวๆ ตามคนตัวโตที่สั่งการเมื่อกี้ไปติดๆ
รถสปอร์ตคันหรูวิ่งออกไปตามเส้นทางชานเมืองเรื่อยๆ โดยไม่มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
จนกระทั้งมาจอดสนิทในลานจอดรถของร้านอาหารริมแม่น้ำ
ชายหนุ่มเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยกับสถานที่ อิงค์กาญจน์เดินตามเจ้านายอย่างเสียไม่ได้
แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธอลืมความรู้สึกก่อนหน้าไปเสียสนิท เสมือนได้ย้อนกลับไปสมัยอยุธยา บรรยากาศภายในร้านเป็นสไตล์ไทยโบราณ การตกแต่งร้านแบบร่วมสมัย มีมุมสวยๆ อย่างเรือนไทย ศาลาไทย
พนักงานร้านเดินนำชายหนุ่มให้ไปนั่งโต๊ะริมแม่น้ำ แต่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว แขกส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่หลงใหลในความเป็นไทย
หญิงสาวเลือกนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา จนป่านนี้ยังไม่มีใครเอ่ยคำใดๆ
อิงค์กาญจน์เลือกที่จะสนใจบรรยากาศรอบข้างมากกว่าคนตัวโตหน้าเฉยตรงหน้า เรือของชาวบ้านที่แล่นไปมาทำให้เกิดคลื่นซัดเข้าฝั่ง หญิงสาวปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติที่หาดูได้ยากในเมืองหลวง เป็นเวลาบ่ายแก่แต่มุมที่นั่งไม่มีแดด ลมที่พัดเข้ามายิ่งทำให้เกิดความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
หญิงสาวปล่อยให้เขาสั่งอาหารโดยที่เธอไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ จนกระทั่งอาหารมาเสิร์ฟ หญิงสาวหันไปสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่าคนที่นั่งตรงข้าม
อาหารไทยโบราณ อีกทั้งยังใช้ถ้วยงานเบญจรงค์ จัดจานได้สวยงามเข้ากับบรรยากาศของร้านยิ่งนักในความคิดของหญิงสาว
ท้องหญิงสาวร้องออกมาแบบไม่รู้ตัว
‘ร้องเสียดังเลย น่าอายชะมัด’
‘ใช่สิเธอลืมเสียสนิทว่าวันนี้ทั้งวันเธอไม่มีมีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากน้ำเปล่า’
ปราณนต์หลุดขำออกมา เขาตั้งใจพาหญิงสาวมาทานอาหารตั้งแต่แรก ด้วยรู้ว่าหญิงสาวยังไม่ได้ทานข้าวสักมื้อเดียว
“ลองทานสิคุณ ร้านนี้เค้าอร่อยทุกอย่างเลย ทุกอย่างที่ผมชอบนะ”
หญิงสาวหันไปสนใจอาหารต่อด้วยเพราะความหิว และเพราะไม่อยากเสวนากับเขามากเกินไป
ปราณนต์ทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย เป็นจริงตามที่เขาบอกไป ทุกอย่างที่เขาชอบ ไม่ว่าจะเป็นห่อหมกทะเล น้ำพริกปลาย่าง ผัดเรือโป๊ะไข่เค็ม ทอดมันปลากราย บล็อกโคลี่ผัดกุ้ง เมนูพวกนี้เขาจะสั่งทุกครั้งที่มาร้านนี้
เมื่อก่อนเขามาเกือบทุกวันหยุดกับดาด้าอดีตคนเคยรัก แต่หลังจากเลิกรากันไปเขาก็ไม่เคยได้ย่างกรายมาอีกเลย จนวันนี้ที่เขาอยากพาหญิงสาวตรงหน้ามาในโลกของเขาบ้าง
“อ้าวนนต์”
ชายหนุ่มหยุดความคิดของตัวเองหันไปตามเสียงเรียกที่แสนคุ้น
“ดาด้า” เขาเรียกชื่ออดีตคนรักเสียงเบาหวิว เขาไม่ได้เจออีกและไม่ได้สนใจข่าวคราวของเธอเลยตั้งแต่เลิกรากันไป
แฟนเก่ากลับมาแล้ว เอาไงดีคุณปราณนต์
ความคิดเห็น