คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : บังเอิญ
ณดาหงุดหงิดกับความเจ้ากี้เจ้าการของหมอจอมจุ้น บอกว่าไม่เมาก็ไม่ยอมเชื่อ แถมยังกระโดดขึ้นรถมากับเธอ เหตุผลมากมายถูกขุดมาใช้ ณดายอมจำนนไม่ใช่เพราะเหตุผลต่างๆ ของภวินทร์ แต่เพราะตัดรำคาญมากกว่า
“หมอวินจะบอกได้หรือยังคะ ว่าเพื่อนของชั้นไปกับเพื่อนของคุณหมอได้อย่างไร” ปากเอ่ยถามแต่สายตายังจับจ้องบนถนน
“คุณไม่สังเกตบ้างหรือว่าเพื่อนของคุณกับเพื่อนของผมมันมีอะไรแปลกๆ มาสักพักละ ตั้งแต่ที่ทั้งคู่ถูกคนร้ายไล่ยิงที่เขาใหญ่”
ณดานิ่งคิดตามสิ่งที่หมอจอมจุ้นบอก มันก็จริงอย่างที่เขาบอก ดูเพื่อนของเธอแสดงอาการห่วงใยเจ้านายมากกว่าความเป็นเจ้านายกับลูกน้องปกติทั่วไป รวมถึงสายตาที่เผลอทอดมองกัน แต่ยังมีอะไรอีกที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับอาการเปลี่ยนไปของเพื่อนสาว
“เป็นไงคุณ เงียบไปเลย”
“เพลย์บอยอย่างเพื่อนคุณหมอก็เห็นเพื่อนของชั้นเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นแหละ”
“มันก็ไม่แน่นะคุณ” ภวินทร์ยิ้มกริ่มพลางนึกถึงอาการของเพื่อนรักตอนอยู่ในผับ
“ว่าแต่หนุ่มหน้าหวานสองคนนั้น คนไหนแฟนคุณหรอ ถ้าจะให้ผมเดานะ ผมว่าทั้งสองคนไม่ใช่เสปคคุณหรอก”
“ทำไม” สวนทันควัน
“สุภาพเรียบร้อยแบบนั้นเถียงคุณไม่ทันหรอก พูดครับๆ อย่างเดียว ชีวิตขาดสีสันแย่เลย”
“คุณหมอไม่คิดบ้างหรอว่าผู้ชายแบบนั้นแหละที่ชั้นชอบ ไอ้ที่พูดจนลิงหลับ แถมยังพูดมะนาวไม่มีน้ำอย่างหมอวินน่ะไม่ใช่สเปคชั้น” ณดากล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ
หมอหนุ่มเหมือนโดนท้าชกมวย พูดซะขนาดนี้ เขาจะทำให้หญิงสาวมาสยบกับคนแบบเขาให้ได้
จนกระทั่งรถมาจอดหน้าคอนโดของพยาบาลสาว เขาเพิ่งรู้ว่าเจ้าหล่อนพักที่เดียวกันกับเขา แต่ทำไมไม่เคยเจอกันสักที อาจจะเพราะเวลาทำงานคนละเวลา ส่วนใหญ่เขาจะนอนห้องพักของแพทย์ที่โรงพยาบาลมากกว่าจะลากสังขารกลับมานอนที่คอนโด ถึงแม้ว่าคอนโดนี้จะไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก
“เชิญคุณหมอกลับไปได้แล้วค่ะ ชั้นถึงที่พักโดยสวัสดิภาพแล้ว”
“ครับ ไว้พบกัน”
ภวินทร์เดินเข้าไปในคอนโดโดยไม่สนใจเจ้าของเสียงที่เรียกตามหลังมา
“นี่หมอวิน กลับไปได้แล้ว จะเข้าไปทำไม”
ภวินทร์อมยิ้มแต่ทำไม่สนใจกับเสียงที่บอกอารมณ์ไม่พอใจของหญิงสาว ก่อนลิฟท์จะปิดณดาก็วิ่งตามมาทันพอดี
“หมอวินไม่ต้องไปส่งชั้นแล้ว แต่เอ๊ะหมอวินเข้าผ่านเข้ามาได้ยังไง”
ณดาเอ๊ะใจว่าหมอหนุ่มผ่านเข้ามาได้ยังไง เพราะคนที่ผ่านเข้ามาได้ต้องมีคีย์การ์ด ทันเท่าความคิดภวินทร์โชว์คีย์การ์ดในมือให้หญิงสาวดู
“ผมพักที่นี่ แต่ไม่ยักกะเจอคุณ คุณพักชั้นไหน”
“ชั้นที่คุณหมอกดนั่นแหละ”
ณดาพูดพลางชำเลืองมองเลข 15 ที่ปรากฎเป็นสีแดงเพียงเลขเดียวในแผงกด
“บังเอิญไปอีก หรือนี่อาจจะเป็นพรหมลิขิต” หมอหนุ่มพูดพลางทำตาหวานเยิ้ม
“เจ้ากรรมนายเวรล่ะไม่ว่า” พูดพร้อมกับรีบก้าวทันทีหลังจากประตูจากลิฟท์เปิด
“คุณไม่คิดบ้างหรอว่าอะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ทำงานที่เดียวกัน แถมยังพักที่เดียวกันอีก” หมอหนุ่มยังไม่ละความพยายาม
จนกระทั่งหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูห้องพัก โดยไม่ได้หันไปสนใจอีกคนที่เดินตามมา ก่อนปิดประตูห้องพักก็เห็นเขาเสียบคีย์การ์ดหน้าห้องตรงข้าม ถึงกับถอนหายใจ
“เราคงต้องเป็นแฟนกัน” หมอหนุ่มฮำเพลงก่อนจะโบกมือให้หญิงสาวฝั่งตรงข้าม ที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับ
อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นนะ เธอก็พักอยู่คอนโดนี้ตั้งแต่ได้งานที่โรงพยาบาลนี้ได้เกือบปี นี่ก็ปาเข้าปีที่สามแล้ว แต่ไม่เคยเจอหมอภวินทร์แม้แต่ครั้งเดียว หรือเขาเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ แต่ก็นั่นแหละจนแล้วจนรอดเธอก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของเพื่อนบ้านห้องตรงข้ามเลยสักครั้ง
แม้แต่ที่โรงพยาบาล ด้วยจำนวนของบุคลากรที่มากมาย รวมทั้งทำงานคนละแผนกก็ยิ่งยากที่จะได้ประสานงานกัน จะได้รู้จักมักคุ้นกับฝ่ายอื่นๆ ก็ต่อเมื่อโรงพยาบาลมีกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาสี หรือไป OD ต่างจังหวัด (OD ย่อมาจากคำว่า Organization Development แปลว่า การพัฒนาองค์กร) จะทำให้บุคลากรได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน รวมถึงได้รู้จักกันมากขึ้นด้วย
หนุ่มฮอตของโรงพยาบาล หนึ่งในนั้นก็มีรายชื่อหมอภวินทร์ติดโผด้วย เนื่องจากหน้าตาอันเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ในรั้วโรงพยาบาล รวมถึงฐานะทางบ้านที่ไม่เป็นสองรองใคร ในฐานะทายาทคนโตของภวัฒน์กรุ๊ป ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของเมืองไทย ซึ่งแน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในโรงแรมเครือวัฒนาไพศาลทั้งหมดมาจากภวัฒน์กรุ๊ป เนื่องจากทั้งสองครอบครัวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้ว
ภวินทร์รักในอาชีพแพทย์ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เขามีความใฝ่ฝันอยากเป็นหมอชนบทช่วยเหลือผู้คนยากไร้ที่ห่างไกล เขาจึงมุ่งมั่นจนสอบติดคณะแพทยศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนคณะบริหารควบคู่ไปด้วย ด้วยเงื่อนไขที่ตั้งไว้ภวุฒน์ผู้เป็นบิดาว่าถ้ายอมให้เขาเรียนแพทย์ เขาจะต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งไปเรียนบริหารธุรกิจ เพื่อมาช่วยงานที่ภวัฒน์กรุ๊ปด้วย ภวินทร์จึงต้องทำอาชีพแพทย์ที่ตัวเองรัก รวมถึงเป็นผู้บริหารภวัฒน์กรุ๊ปควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเขาก็ทำได้ดีทั้งสองอย่าง
อิงค์กาญจน์ตื่นมาในตอนเช้า หวังลึกๆ ว่าจะยังคงเห็นคนที่เข้าไปก่อกวนในหัวใจเธอตลอดทั้งคืน แต่แล้วก็ว่างเปล่า ใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก
‘เขากลับไปแล้ว ไม่บอกลาเธอซักคำ’ คิดได้แค่นั้นน้ำตาเจ้ากรรมดันไหลมาโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวหลังมือปาดน้ำตาหลังจากได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ไหนเล่าให้เพื่อนฟังซิ นายปราณนต์ทำอะไรแกหรือเปล่า” หลังจากเดินพันประตูเข้ามาในห้อง ณดาเอ่ยซักเพื่อนรักอย่างไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว
“เปล่า ไม่ได้ทำอะไร”
“ไม่ได้ทำอะไรแล้วแกร้องไห้ทำไม”
“ฮือ ฮือ” อิงค์กาญจน์ปล่อยโฮออกมาจนสุดจะกลั้น
“ใจเย็นๆ ร้องออกมา” ณดากอดปลอบเพื่อนรักอย่างห่วงใย
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรัก ปกติเพื่อนของเธอไม่ใช่คนอ่อนไหวขนาดนี้ แค่เอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นก็สามารถทำให้แสดงอาการอ่อนแอได้มากขนาดนี้ หรือจะเป็นอย่างที่หมอภวินทร์บอกเมื่อคืน ระหว่างสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ หรือมีอะไรที่เธอยังไม่รู้
“มีอะไรอยากระบายให้เพื่อนฟังมั๊ย” หลังจากเสียงสะอื้นหยุดลง ณดาจับไหล่ทั้งสองของเพื่อนรักมาเผชิญหน้า
อิงค์กาญจน์หลุบตาลง หายใจเข้าเต็มปอดก่อนตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น รวมถึงเหตุการณ์หลังจากนั้นให้เพื่อนรักฟัง
“แกรักเค้าใช่มั๊ย”
หลังจากนิ่งฟังเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนตั้งแต่ต้นจนจบ เธอวิเคราะห์ได้ว่าเพื่อนรักของเธอรักผู้ชายคนนั้นเข้าเต็มเปา
อิงค์กาญจน์ทำได้แค่พยักหน้าหงึกๆ พลางร้องไห้สะอื้น
“ชั้นต้องทำยังไง ชั้นจะทำยังไงดี คนอย่างเค้าไม่มีวันหันมามองคนอย่างชั้นหรอก ฮือๆ”
“ใจเย็นๆ จากเหตุการณ์ที่แกเล่าเมื่อคืน ชั้นสันนิฐานว่าเค้าต้องคิดอะไรกับแกบ้างแหละ ไม่งั้นคงไม่แสดงอาการหึงหวงขนาดนั้นหรอก” ณดาเกาคางอย่างใช้ความคิด
“ชั้นรู้ละ ว่าจะหาคำตอบจากเรื่องนี้ได้ยังไง”
ความคิดเห็น