คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : อาการที่แปลกไป
“คุณปราณนต์คะ” หญิงสาวเรียกชื่อเจ้านายหนุ่มพร้อมเดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวโตมายืนข้างๆ พร้อมยื่นเอกสารเจ้าปัญหาที่ทำให้เธอต้องมานั่งทำงานอยู่ตรงนี้
ชายหนุ่มเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารกองโตบนโต๊ะตามเสียงเรียกของหญิงสาวตรงหน้า
“นี่ค่ะ ตัวเลขในเอกสารฉบับนี้กับตรงนี้ไม่ตรงกันค่ะ และนี่อีกค่ะ” หญิงสาวบอกพร้อมชี้ให้เจ้านาย
เจ้านายหนุ่มมองตัวเลขบนเอกสารแบบไม่แสดงออกถึงความแปลกใจ เนื่องจากเขารู้ระแคะระคายมาบ้างแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดที่จะเอาผิดคนที่กระทำกับบริษัทของเขา
“ก๊อกๆ”
“ครับบอส” ผู้ช่วยหนุ่มเคาะประตูโดยไม่รอเสียงตอบรับจากในห้อง เนื่องจากอาวุธทำงานกับเจ้านายหนุ่มมาหลายปี ประมาณมองตาก็รู้ใจกันเลยทีเดียว
“ไปรีสอร์ทที่เขาใหญ่ เชิญผู้จัดการฝ่ายบัญชีมาหาผมด่วนที่สุด”
“ครับบอส” รับคำสั่งเจ้านายเสร็จ ผู้ช่วยหนุ่มก็หันมาส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้อิงค์กาญจน์
“รีบไป มัวรีรออะไรอยู่”
“คร๊าบบอสสสสส” ผู้ช่วยหนุ่มหันมารับคำเจ้านาย ที่แสดงอาการหึงหวงลูกน้องสาวอย่างเห็นได้ชัด
อาวุธรู้ถึงอาการแปลกไปของเจ้านายหนุ่มตั้งแต่ให้พนักงานบัญชีสาวคนนี้มาช่วย ทั้งๆ ที่ในแผนกบัญชีก็มีคนเก่าคนแก่ที่ไว้ใจได้อีกหลายคน แต่เจ้านายเลือกที่จะเฉพาะเจาะจงให้เธอคนนี้มา
อีกทั้งเมื่อเช้ายังโทรให้เขาเอาชุดทำงานใหม่ไปให้ที่ห้องพักของหญิงสาวอีก แถมยังโมโหเขาที่เห็นหญิงสาวยิ้มตอบเขาเป็นการทักทายอย่างเมื่อครู่
“ก๊อกๆ”
“ปราณต์คะ หวานคิดถึงคุณจัง”
“คุณไปทำงานต่อได้” หันไปบอกลูกน้องสาวพร้อมกับปิดเอกสารที่ดูด้วยกันก่อนหน้า
“ลมอะไรหอบมาครับหวาน” ไม่พูดเปล่า พลางหันมองคนร่วมห้องอีกคน แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจกับบทสนทนาอันหวานเยิ้มของเขากับนางแบบสาวเลย
กลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างไรพิกล นี่เขาเป็นอะไรไป หรืออยากให้หญิงสาวแสดงอาการหึงหวงเขากันนะ
“ก็วันนั้นที่ทะเล ปราณต์บอกเสร็จธุระแล้วจะโทรหาหวาน หวานก็ร๊อรอ รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นคุณโทรมา”
พูดพลางอ้อมไปโอบรอบคอจากด้านข้าง เบียดกายให้แนบชิดชายหนุ่มมากเท่าที่จะมากได้ โดยไม่แคร์อีกคนในห้อง
“พอหวานโทรหาคุณก็ติดต่อไม่ได้ค่ะ”
“ผมขอโทษที พอดีธุระกินเวลาไปเยอะมาก ผมเลยไม่ได้โทรหาคุณ”
พูดพลางเหลือบมองอีกโต๊ะในห้อง แต่ก็เหมือนเดิม หญิงสาวก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย
ธุระที่เขาว่า ก็คือหญิงสาวที่ทำเมินเขาอยู่ตอนนี้นั่นเอง ที่ทำให้เขาลืมน้ำหวานนางแบบสาวสุดเซ๊กซี่ไปเสียสนิท
‘คนอื่นเป็นอากาศรึไง ไม่คิดจะสนใจกันบ้างเลยหรอ’ ปราณนต์หงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล
“งั้นวันนี้ผมขอไถ่โทษด้วยการพาคุณไปทานอาหารกลางวันละกัน ยกโทษให้ผมนะครับ”
ชายหนุ่มออดอ้อนเสียงหวาน พลางยื่นหน้าเอาแก้มไปแตะแก้มนางแบบสาวพองาม
“ยกโทษให้ค่ะ คุณน่ารักที่สุดเลยค่ะปราณนต์” ไม่พูดพลางนางแบบสาวก็แสดงคำขอบคุณด้วยการหอมแก้มชายหนุ่ม
“ไปกันเลยไหมครับ”
“ได้เลยค่ะ หวานหิวคุณจะแย่ เฮ้ยไม่ใช่ หิวข้าวจะแย่แล้วค่ะ” นางแบบสาวตั้งใจพูด พร้อมสายตาปานจะกลืนกินชายหนุ่มตรงหน้าไปทั้งตัว
“คุณอิงค์กาญจน์ ไปกับผม เดี๋ยวมีงานที่ต้องไปคุยต่อ”
เจ้านายหนุ่มเดินมาหน้าโต๊ะทำงานของลูกน้องสาวที่มัวแต่ขมักเขม้นตรวจสอบเอกสาร โดยไม่ได้ใส่ใจหนุ่มสาวร่วมห้อง
“คะ”
“ผมบอกให้คุณไปกับผม ผมมีงานด่วนที่จะต้องคุยกับคุณ”
“ผมขอพาลูกน้องไปด้วย หวานคงไม่ว่านะครับ งานด่วนจริงๆ นะครับ” ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนนางแบบสาวอย่างที่ไม่คิดจะทำมาก่อน
เขาไม่มีอารมณ์จะไปต่อกับนางแบบสาว ซึ่งผิดวิสัยของเขา เลยหาตัวช่วย แต่ตัวช่วยเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย
“งานด่วน เร็วหน่อยสิ อย่าให้คุณน้ำหวานรอนาน”
“ค่ะ” อิงค์กาญจน์รับคำอย่างเสียไม่ได้ พลางเปิดลิ้นชักหยิบกระเป๋าสะพายกับโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ลืมเก็บเอกสารบนโต๊ะพร้อมล๊อคกุญแจเรียบร้อย เดินตามเจ้านายหนุ่มกับนางแบบสาวที่ตัวแทบจะติดกัน
‘จะเอาเราไปเป็นก้างทำไมกัน’ หญิงสาวนึกค่อนขอดในใจ
หารู้ไม่ว่าคนตัวโตไม่อยากไปต่อกับนางแบบ อีกทั้งไม่อยากปล่อยให้หญิงสาวทำงานคนเดียว เดี๋ยวจะพาลไม่กินข้าวกลางวันอีก ผู้ช่วยของเขาก็ไม่อยู่ให้ดูแลเจ้าหล่อนเสียด้วย
“ผมให้หวานเลือกร้านเลยครับ แต่ผมรบกวนหวานขับรถไปด้วยเลยนะ เพราะผมต้องไปธุระเรื่องงานต่อ”
“นะครับ ไว้ผมชดเชยให้คราวหน้า นะครับ” นางแบบสาวที่เตรียมจะแสดงอาการงอน พอโดนชายหนุ่มที่หมายมาดแสดงอาการออดอ้อน ก็พาลให้ร่างกายอ่อนระทวย ยอมตั้งแต่เห็นหน้าขรึมๆ ทำสายตาเว้าวอน
อิงค์กาญจน์เสมองไปทางอื่น ดีที่ลิฟท์เป็นลิฟท์แก้ว ทัศนียภาพข้างนอกจึงน่ามองกว่าสิ่งรอบตัวในลิฟท์ เมื่อไหร่จะถึงชั้นล่างซักที หญิงสาวเบื่อที่มาทนฟังเขาฉอเลาะกับคู่ขาของเขาทำไมกัน
“เดี๋ยวเจอกันที่ร้านนะครับ”
“ค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะปราณนต์” นางแบบสาวปล่อยมือชายหนุ่มอย่างเสียดาย
“ขึ้นรถสิคุณ มัวรีรออะไรล่ะ” เขาชักหงุดหงิดกับหน้าตาเฉยๆ ของหญิงสาว ที่ไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอะไรอยู่ มันทำให้เขาอ่านไม่ออกว่าเจ้าหล่อนกำลังคิดอะไร
“ค่ะ” รับคำสั่งพร้อมเปิดประตูรถหรูขึ้นไปนั่ง โดยไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัย
ตลอดทางอิงค์กาญจน์ไม่ปริปากพูดอะไรเลย จนทำให้ปราณนต์รู้สึกหงุดหงิดในความเฉยของหญิงสาว
“ปราณนต์ ทางนี้ค่ะ” นางแบบสาวโบกไม้โบกมือเมื่อเห็นชายหนุ่ม
“เดี๋ยวดิฉันขอตัวนั่งอีกโต๊ะนะคะ” อิงค์กาญจ์ออกตัวก่อน เนื่องจากเหลือบเห็นสายตาของนางแบบสาวที่แผ่รังสีมายังเธอตั้งแต่ทางเข้าร้านอาหารแล้ว
“ไม่ต้อง มานั่งด้วยกันนี่แหละ”
“แต่ ดิฉันว่าไม่เหมาะมังคะ”
“ไม่มีคำว่าแต่ ผมสั่ง นั่งลง” เจ้านายหนุ่มหันไปสั่งเสียงดุใส่ลูกน้องสาว
“ตืด ตืด”
“ผมขอรับสายสักครู่นะครับ” พูดพลางลุกจากโต๊ะไป
นางแบบสาวแสดงท่าทางบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่มีคนอื่นนั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วย แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรออกมา ปราณนต์ก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“น้ำหวานผมต้องขอโทษด้วย”
“เรื่องอะไรคะปราณต์” หญิงสาวยังงงงวยกับคำบอกกล่าวของชายหนุ่มตรงหน้า
“พอดีผมมีธุระด่วนจริงๆ ที่ต้องไปจัดการตอนนี้เลย ผมขอตัวก่อนนะครับ ไปคุณอิง”
พอบอกเหตุผลกับนางแบบสาวแล้วก็หันมาบอกลูกน้องสาว
ท่าทางรีบร้อนของเจ้านายทำให้อิงค์กาญจน์ต้องลุกตามโดยไม่ถามถึงสาเหตุใดๆ
น้ำหวานอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ แต่เนื่องจากเป็นที่สาธารณะ ได้แต่อดกลั้นไว้
“รับอะไรดีคะ” พนักงานเสิร์ฟถามอย่างนอบน้อม
“ไม่กงไม่กินมันละ” พูดพร้อมเดินออกจากร้านไป
ความคิดเห็น