ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงรักซาตาน

    ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 64



    เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

    ท่ามกลางฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ยามค่ำคืนของเมืองหลวงที่แสนศิวิไลแบบนี้ รถราพากันจับจองพื้นที่บนท้องถนนและไม่มีวี่แววว่าจะมีคันไหนขยับเขยื้อนเลยสักคันแสงไฟส่องทางกระทบกับสายฝนที่หล่นลงมาชวนมองยิ่งนัก แต่คงไม่ใช่สำหรับอิงค์กาญจน์หญิงสาวที่เพิ่งผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาหมาดๆ ที่เธอจะมาพินิจความสวยงามของบรรยากาศรอบข้างหญิงสาวรูปร่างระหงนัยน์ตาคม คิ้วสวยได้รูปรับกับจมูกโด่งอย่างธรรมชาติปากสวยอิ่มเม้มเข้าหากันเพราะความเจ็บปวดและกลั้นเสียงสะอื้นปานจะขาดใจ เรือนผมยาวตรงดำสนิทและยูนิฟอร์มของสาวออฟฟิศเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนที่แหวกอากาศลงมา พร้อมน้ำตาที่อาบเต็มแก้มเคล้าไปกับเม็ดฝน เดินย่ำเท้าไปตามถนนที่เปียกแฉะโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางหญิงสาวหวังว่าอย่างน้อยน้ำฝนจะช่วยชะล้างความเจ็บปวดให้จางหายไปได้บ้าง

    ความรักที่ไม่สมหวังไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใด ย่อมต้องมีคนที่เจ็บปวดเสมอ

    อิงค์กาญจน์ หรือ น้ำอิง หญิงสาวผู้เชื่อมั่นและศรัทธาในความรักมาตลอด 27 ปี แต่กลับพังทลายลงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

    ค่ำวันนี้ หญิงสาวมีนัดกับฐาปนกรณ์ ชายคนรักที่วางแผนจะแต่งงานกันในอนาคต แต่เพราะเจ้านายชาเย็นของเธอ ให้ผู้ช่วยคนสนิทอย่างอาวุธมาสั่งงานเอาตอนใกล้เวลาเลิกงาน และต้องส่งให้ภายวันนี้ หญิงสาวจำต้องอยู่ทำให้เสร็จ กว่างานด่วนของเจ้านายเย็นชาจะพร้อมส่ง ก็ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง เพราะข้อมูลที่ขอนั้นเป็นข้อมูลด้านการเงินของโรงแรม ซึ่งข้อมูลที่ให้ไปจะต้องถูกต้องและสามารถอ้างอิงที่มาได้ อิงค์กาญจน์เสียเวลาในการหาเอกสารประกอบย้อนหลังและนำมาเปรียบเทียบกับงบการเงินของโรงแรม รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมตามตัวชี้วัด

    ทำงานตั้งแต่เช้าไม่สั่ง ดันมาสั่งตอนจะเลิกงาน

    หญิงสาวแอบนึกค่อนขอดพร้อมทั้งโมโหเจ้านายเย็นชาของเธอไม่ไหว

    “คนอาร๊าย ยิ้มก็ไม่เป็น ทำเป็นอยู่หน้าเดียว เหอะๆ แล้วจะเสร็จกี่โมงละเนี่ย”

    หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียว พลางดูข้อมูลตัวเลขในคอมพิวเตอร์กับเอกสารที่ละตัว โดยไม่ทันสังเกตว่าคนที่เธอบ่นถึงเดินผ่านมาพอดี

    ปราณนต์ชะงักฝีเท้าตั้งแต่ได้ยินพนักงานสาวบ่นอุบอิบ

    “ผมใช้ข้อมูลวันนี้นะ อาวุธคงบอกคุณแล้ว”

    ชายหนุ่มพูดแบบไม่ได้ใส่ใจคนตรงหน้าสักเท่าไหร่ แรกเริ่มเดิมทีชายหนุ่มแค่จะเดินไปชงกาแฟที่ห้องครัวซึ่งต้องเดินผ่านแผนกบัญชี จึงแวะถามความคืบหน้าของข้อมูล

    หญิงสาวเงยหน้าจากเอกสาร พลางยิ้มแก้เก้อ เพราะไม่คิดว่าเจ้านายเย็นชาที่เธอบ่นถึงจะเดินมาหาถึงโต๊ะ

    “ค่ะ ทราบแล้วค่ะ คุณอาวุธบอกว่าบอสจะเอาข้อมูลไปประกอบกับการขอเพิ่มวงเงินกับธนาคารเพื่อขยายโรงแรมแถบตะวันออก”

    หญิงสาวพูดเสียงเรียบ พร้อมทั้งก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่สนใจบอส คนที่เธอสนทนาด้วยก่อนหน้า

    พอเห็นว่าพนักงานสาวก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ปราณนต์จึงเดินออกไปเงียบๆ

    โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาแบตเตอร์รี่หมดไปตอนไหน อิงค์กาญจน์ที่มัววุ่นกับงานหาได้ใส่ใจไม่ พอส่งงานให้เจ้านายเสร็จก็รีบร้อนออกมา เหลือบดูนาฬิกาบนข้อมือเล็กที่คนรักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดที่ผ่านมาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เวลาปาเข้าไปจะสามทุ่มละ เผื่อขับรถไปถึงร้านก็คงจะปิดพอดี ฝนก็ทำท่าจะตกซะด้วยสิ คิดว่าป่านนี้ฐาปนกรณ์คงกลับที่พักไปแล้วลังเลอยู่สักพัก

    “เอาวะ ไปง้อหน่อย ผิดนัดบ่อยละ”

    คอนโดหรูกลางใจกรุง ที่สะดวกในการเดินทางไปทำงานมากกว่าบ้านเดี่ยวชานเมือง ที่คนรักของเธอให้เหตุผลว่าประหยัดเวลาในการเดินทาง ใกล้รถไฟฟ้าBTS และรถไฟฟ้ามหานคร แต่รถติดตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือในยามค่ำคืนที่แบบนี้ ยิ่งเป็นวันที่ฝนตกแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งทวีคูณไปอีก กว่าที่หญิงสาวจะพารถญี่ปุ่นคู่ใจฝ่าการจราจรที่แสนจะแออัดมาถึง ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง

    เตรียมจะกดกริ่งหน้าห้องพัก พลางนึกขึ้นได้ว่ามีมาสเตอร์คีย์ที่ฐาปนกรณ์ให้ไว้นานแล้ว แต่หญิงสาวไม่ได้มาห้องพักของชายคนรักบ่อยนัก ซึ่งคิดว่ามันไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้แต่งงานกันทั้งที่ฐาปนกรณ์คะยั้นคะยอจะพามาอยู่หลายครั้งแล้วคิดพลางหยิบมาสเตอร์คีย์

    หญิงสาวนึกเอะใจเมื่อเจอรองเท้าส้นสูงประมาณสามนิ้วสีแดงสดฉบับสาวเปรี้ยวหลังจากเปิดประตูเข้าไปแล้ว  รู้สึกคลับคล้ายคลับคราว่าเคยเห็นรองเท้าคู่นี้ที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออก เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากห้องนอนของชายคนรัก สัญชาติญาณของหญิงสาวบอกอะไรบางอย่าง คิดได้ดังนั้น อิงค์กาญจน์จึงละสายตาจากรองเท้าคู่สวย ค่อยๆ เดินไปตามเสียง

    หญิงสาวเห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะ พร่องไปนิดเดียว รวมถึงไวน์ชั้นดีกับแก้วสองใบ

    เอ๊ะ! กรณ์อยู่กับใครนะ

    สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้อิงค์กาญจน์ชาวาบไปทั้งถึงขั้วหัวใจ แล้วน้ำตาที่ไม่รู้มาจากไหนก็ค่อยๆไหลลงมาอาบแก้ม ก่อนจะสะอื้นปานจะขาดใจ

    กว่าคนทั้งคู่จะรู้ตัวว่ามีบุคคลที่สามมายืนอยู่ตรงนั้น อิงค์กาญจน์ก็เรียกสติกลับมาได้

    “กรณ์”

    “อร”

    อิงค์กาญจน์เรียกชื่อคนรักกับเพื่อนรักเสียงสั่นเครือ

    นึกย้อนถึงวันเวลาที่คบหากันมาเฉกเช่นคนรัก ฐาปนกรณ์ให้เกียรติเธอตลอดเวลาที่คบหากันมาเกือบ 4 ปี ถึงแม้บางครั้งจะมีความต้องการตามประสาผู้ชายบ้าง หากแต่หญิงสาวก็ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า อยากให้วันแต่งงานเป็นวันที่มีความหมายและน่าจดจำสำหรับเราสองคน ชายหนุ่มคนรักก็จะไม่เรียกร้องอีก เขาเสมอต้นเสมอปลายไม่นอกลู่นอกทาง ไม่มีทีท่าว่าจะมีผู้หญิงคนไหนเข้ามาพัวพัน เที่ยวพบปะสังสรรค์กับเพื่อนบ้างตามประสาผู้ชาย หญิงสาวก็ไม่เคยว่า ให้อิสระกับเขาเพราะคิดว่าคนเราต่างก็มีโลกส่วนตัวของตัวเอง

    “น้ำอิง!!

    อรอุมาเปล่งเสียงออกมาอย่างตกใจ ในขณะที่ฐาปนกรณ์ทำอะไรไม่ถูกได้แต่หน้าซีด

    “พวกเธอทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง อรเธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่มั๊ย ฮือๆ”

    อิงค์กาญจน์พูดพลางสะอื้น นึกไม่ถึงว่าคนรักกับเพื่อนรักจะทำร้ายเธอได้ขนาดนี้ หญิงสาวพยายามรวบรวมความกล้าที่มีอย่างน้อยนิดเพื่อให้ได้รู้ความจริงกำมือแน่นก่อนจะถามออกไปด้วยเสียงสั่นเครือ

    “นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอทำร้ายชั้นใช่มั๊ย”

    “เธอรู้ความจริงก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องปิดบังกันอีกต่อไป ชั้นกับกรณ์เราเป็นของกันและกันมานานแล้ว แต่กรณ์เขาขอไว้ไม่ให้บอกเธอ เพราะกลัวเธอจะเสียใจ และทำใจยอมรับไม่ได้”

    อรอุมาพูดออกไปโดยไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด อิงค์กาญจน์หันไปมองชายคนรักด้วยสายตาเจ็ดปวด และหันกลับมามองอรอุมาคนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนรักอีกครั้ง

    “ทำไมไม่บอกชั้นตรงๆ”

    พูดได้แค่นั้น หญิงสาวก็เดินหันหลังให้สองคนที่เธอเคยรักโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองอีกเจ็บปวดเกินกว่าจะทนยืนหายใจร่วมกับคนทั้งสองได้

    “น้ำอิง”

    ฐาปนกรณ์กระโดดลงจากเตียงที่เพิ่งผ่านสมรภูมิรบมาหมาดๆหลังจากหายจากอาการตกใจเนื่องจากไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าอิงค์กาญจน์จะมาหาเขาในเวลานี้ เพราะทุกครั้งหากหญิงสาวผิดนัดก็จะโทรศัพท์มาขอโทษขอโพย แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมาหาชายหนุ่มยามวิกาลแบบนี้

    “น้ำอิงฟังผมก่อน คือผม”

    หญิงสาวผู้มาใหม่หันหน้ามามองชายหนุ่มคนรักอีกครั้ง

    “ผมขอโทษสำหรับที่ผ่านมา ผมไม่ขอแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ผมไม่ดีเอง ผมนอกใจคุณ”

    “ดูแลเพื่อนอิงดีๆนะคะ”

    หลังจากกลั้นความเจ็ดปวดที่แสนสาหัส อิงค์กาญจน์มองหน้าผู้ชายที่เธอรักและหวังจะฝากชีวิทั้งชีวิตให้เขาดูแลผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อล้น ก่อนจะหันหลังเดินออกไป ด้วยไม่อยากทนอยู่ให้รู้สึกเจ็บปวดไม่มากกว่านี้

    ความเจ็บปวดที่เธอเพิ่งได้รับมา ทำให้เธอไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นของน้ำฝนที่เทกระหน่ำลงมา หลังจากที่เดินออกมาจากห้องพักของคนที่เคยรัก หญิงสาวก็เดินตากฝนไปเรื่อย โดยหวังว่าน้ำฝนจะช่วยชะล้างความเจ็บปวดและคราบน้ำตาของเธอได้

    หญิงสาวเพิ่งเข้าใจฐาปณกรณ์ที่เธอปฎิเสธเรื่องบนเตียงกับเขา เพราะอยากให้วันแต่งงานเป็นวันที่น่าจดจำสำหรับเธอกับเขา แต่กลับทำให้ชายหนุ่มหันไปหาวิธีระบายด้วยวิธีการพาหญิงอื่นมาค้างอ้างแรมในห้องที่ชายหนุ่มเคยบอกเธอว่าจะทำเป็นเรือนหอในวันที่เธอและเขาแต่งงานกัน มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนรักของเธอ

     



    ฝากติดตามนิยายด้วยนะคะ เพิ่งหัดแต่งเป็นเรื่องแรก มีอะไรติชมกันได้นะคะ ยินดีน้อมรับคำติชมค่ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×